ขายดาวน์รถไม่เปลี่ยนสัญญาไป แล้วถูกตำรวจยึด
แต่ไฟแนนซ์จะมายึดรถคืน

ตั้งแต่ต้น พอดีมีรุ่นพี่ที่รู้จักกับเต้นท์รถมือสองส่งรูปรถและรายละเอียดมาให้ดู ไอเราก็ถูกใจจึงอยากมีรถขับสักคัน
แต่ตอนนั้นผมพึ่งได้งานใหม่แค่เดือนเดียว จึงปรึกษากับรุ่นพี่ เขาก็โทรไปถามกับเจ้าของเต้นท์มาให้ ทางเต้นท์ก็แนะนำว่า ให้เอาคนในครอบครัวเป็นผู้ซื้อและคนค้ำก็ได้ ผมจึงไปดูรถและตัดสินใจให้พี่สาวเป็นผู้ซื้อให้และให้แม่เป็นคนค้ำ
ก็ออกรถมาส่งได้ 13 งวด แล้วเกิดมีปัญหาเรื่องภาระหนี้สิน จึงตัดสินใจตัดภาระ 1 อย่างคือการขายดาวน์รถไม่เปลี่ยนสัญญาให้กับรุ่นพี่แถวบ้านอีกคน แต่ที่บ้านเขาไม่มีพื้นที่จอดรถ (บ้านอยู่ตรงกลางทางสามแยกจึงจอดรถหน้าบ้านไม่ได้) เลยไปจอดหน้าบ้านพี่ที่เป็นญาติกัน บ้านอยู่ติดกัน
แล้วเจ้าของบ้านที่รถไปจอดหน้าบ้านก็ถูกตำรวจจับ และทางตำรวจก็ถามว่ารถใคร คนที่ซื้อไปก็เข้าไปคุยและทางตำรวจได้ขอตรวจสอบและยึดรถไปที่ สตช. เพื่อตรวจสอบอีกที
แต่รถไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่ถูกจับ คนที่ซื้อต่อไปจึงไปทำเรื่องขอรถคืนแล้วกับมาผ่อนต่อ ผ่านมาครึ่งปีได้มีจดหมายทางบริษัทไฟแนนซ์ส่งมาที่บ้านเจ้าของรถ ซึ่งชื่อเจ้าของยังเป็นพี่สาวผมอยู่ หัวจดหมายเขียนว่า *บอกเลิกสัญญา* เนื้อหาในจดหมายประมาณว่า รถที่เช่าซื้อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดและอายัด ซึ่งกระทำผิดในข้อสัญญาของทางบริษัท ซึ่งเป็นผลให้สัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลงทันที โดยบริษัทจะขอตามรถคืน
อยากให้ผู้รูข้อกฏหมายช่วยหน่อยครับ
1.ถ้าถูกยึดคืน พี่สาวกับแม่ผมจะเสียเครดิทมั้ย ?
2.ถ้ายึดไปแล้ว เงินที่ส่งไปทั้งหมดจะได้คืนมั้ย ?