**** รีวิวร้อนๆ ออกมาจากโรงก็พิมพ์เลย NO SPOILER *****
READY PLAYER ONE 10/10
"ตลอด 140นาที มีความสุขมากๆ น้ำตาแห่งความสุขมันออกมาไม่รู้ตัวจริงๆครับ รู้สึกได้ว่าเวทย์มนต์มีอยู่จริง"
เริ่มจากผมได้มีโอกาสไปดูรอบสื่อมวลชนที่Emquartier เมื่อ28 มีนา
ที่ผ่านมา ซึ่งคือผมตั้งหน้าตั้งตารอมาตั้งแต่trailerแรกออกมาปีที่แล้วแล้วล่ะ แต่จากที่ได้ดูหนังเต็มมาแล้ว ผมว่าTrailerมันเป็นแค่น้ำที่จะเอามาผสมทำนำ้จิ้มเท่านั้น (เวอร์ไปมั้ยอ่ะ 5555)
ออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่นักรีวิวหนังจ๋า และไม่ได้อ่านนิยายมาก่อนแต่ได้ฟังจากคนอ่านนิยายมาก่อนบ้างแล้ว แต่ผมเป็นแค่คนรักการดูหนังและรักpop culture 70s-90s คนนึงที่อยากเวิ่นกับเรื่องนี้มากๆ ครั้งนี้จึงเป็นการรีวิวหนังที่ค่อนข้าง'รีวิวเออร์วอนนาบี'สุดๆ เพราะว่าเป็นการรีวิวจริงจังครั้งแรก 55555
เนื้อเรื่องย่อ(แบบย่อมาก)
คือ ในยุคอนาคตที่โลกจริงเหลือพื้นที่น้อยและไม่ค่อยน่าอยู่ ผู้คนก็เลยหลบไปอยู่ในโลกของเกมส์เสมือนจริง(oasis)ที่สร้างโดยนักสร้างเกมอัจฉริยะคนนึง วันนึงพี่แกดันตายไปโยที่ทิ้งeaster egg เอาไว้ให้คนตามหา โดยผู้เล่นจะต้องเล่นเกม3ด่านที่ไม่รู้ว่ามันคือด่านไหน เพื่อหากุญแจ3ดอกที่จะไขไปสู่easter egg ได้ คนที่ได้easter eggไป จะได้สิทธิ์ควบคุมoasis และเงิน เรื่องราวหลังจากนี้ไปดูกันเอาเองนะครับ อาจจะพูดไม่รู้เรื่องต้องขออภัยครับ เป็นคนพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเป็นพื้นเพอยู่แล้ว
ความรู้สึกส่วนตัว + รีวิว
เกริ่นก่อนว่าผมเป็นคนนึงที่ถึงจะเกิดไม่ทันยุค70s-80s แต่ผมค่อนข้างกล้าพูดว่าผมค่อยๆโตมากับมันจริงๆ ผมเชื่อว่ามีหลายๆคนโตมากับเกมส์เก่าๆ เครื่องเกมส์ยุคนั้นของคุณพ่อ ตู้เกมส์ตามร้าน การ์ตูนหรืออนิเมะและหนังจากทางทีวี-ม้วนวิดีโอ เพลงจากแคสเสตเทปและแผ่นเสียง และอื่นๆ รวมถึงความรักในelements ต่างๆของยุคนั้นๆที่ฮิตหรือป๊อปซึ่งเรียกว่า "pop culture"เรื่อยมาเหมือนกับผม ผมว่ามันมีเสน่ห์มากๆ ถ้าใครรู้จักผมดีจะรู้ว่ารสนิยมผมจะค่อนข้างหนักๆไปที่อะไรแบบนี้ หรือเอาสั้นๆแบบที่ชาวบ้านเข้าใจ ผมเป็น"เนิร์ด"ครับ 555
นั่นทำให้ผมตื่นเต้นมากๆและอินมากๆที่จะได้เห็นตัวละครที่ผมรู้จัก เกมส์ที่ผมเคยเล่น เพลงที่ผมเคยฟัง หนังที่ผมเคยดู มาอยู่รวมกันในหนังเรื่องเดียว แต่คือไม่ต้องมารวมกัน ด้วยพลอตเรื่องแบบนี้ผมก็จะไปดูให้ได้อยู่ดี
ในหนังเรื่องนี้คุณจะได้เจอสิ่งที่ผมว่าไปข้างต้น ตัวละคร-สถานที่ สิ่งของ
คำพูด ท่าทาง บุคลิค หรือ elements อื่นๆ จากหนัง เกมส์การ์ตูน อนิเมะ แม้กระทั่งศิลปินก็มาด้วย
การปรากฏตัวก็แล้วแต่ว่ามาเป็น cameo , easter egg ,เป็นตัวละครตัวประกอบไปจนถึงที่มีบทไปเลยหรือมีการกล่าวถึงให้เห็นชัดเจนเยอะมากจริงๆครับ ผมนับได้เยอะอยู่สำหรับรอบแรกแต่ขอไม่บอกนะครับ อยากให้ไปดูด้วยตาตัวเองจริงๆ เดี๋ยวจะว่าสปอย แต่คือส่วนนึงก็คือมันบรรยายหมดไม่ได้จริงๆ ทั้งเรื่องนี่สบถแล้วก็ชี้จอทั้งเรื่องเลย "เห้ยๆๆ" "นั่นมัน---นี่" "โคตรเทพๆๆๆ" *พลางสะกิดพี่ที่ไปด้วย* 55555
ตัวหนังบอกเล่าถึงพระเอกที่หลงรักใน70s-80s pop cultureและเคารพผู้สร้างแต่ละคนที่ทำให้สิ่งเหล่านั้นป๊อปจนเข้ามารวมเป็นpop cultureขึ้นมาได้ มากจริงๆ ตัวเอกเราคือชอบที่จะเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงไม่ใช่แค่เพียงเพราะเพราะว่ามันไม่มีที่ไป แต่เพราะเค้ารักมันมากจริงๆ ถึงแม้ว่าปลายทางของจุดจบจะมีเงินมหาศาลรออยู่ แต่เค้าก็ไม่ได้นึกถึงมันเป็นอย่างแรกเค้าแค่อยากจะตั้งใจเล่นเกมที่เค้ารักเพื่อที่จะให้ความสำคัญกับผู้ที่สร้างสิ่งต่างๆที่เค้ารักขึ้นมา ทำให้มันเป็นเค้าทุกวันนี้ เรื่องก็มีดราม่าเข้ามาบ้างนิดนึง เรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อนสื่อได้ดีมากๆ บทตัวละครดีมากๆครับตัวประกอบก็ด้วยนะ เส้นเรื่องพลิกแพลงได้ไหลลื่น มีหักมุมเล็กๆตั้งแต่กลางๆเรื่องไปจนถึงท้ายเรื่อง จุดพีคที่ผมชอบที่สุดคือตัวละครที่มาเฉลยว่าที่จริงเค้าเป็นใครคือเราไม่รู้เลยว่าเค้าจะเป็นใครแล้วพอรู้มันแบบ เห้ยยยโคตรเทพ คาดไม่ถึงเลยครับ
พอก่อนละกันเนอะ บ่นไม่หมดหรอกแต่รู้สึกมันจะยาวแล้ว 5555
สรุปคือ ซีน,โมชั่นแคปเจอร์,เนื้อเรื่อง,เส้นเรื่องดีมากๆ
ตัวละคร-หรืออย่างอื่นจากที่อื่นเข้ามารวมกันเยอะกว่าที่คิดมากๆ
เพลงดีมาก รู้จักเกือบทุกเพลง ทั้งของ michael jackson , van halen , earth wind & fire , bee gees และอื่นๆ
*อวดนิดๆ คือผมมีแผ่นเสียงvinylด้วย 555*
อินเพลงนี้มากๆ รู้สึกมันเข้ากับหนังสุดๆ Van halen -Jump
https://www.youtube.com/watch?v=bq-potK_7Ts
องค์ประกอบพวกนี้แหละ+ภูมิหลังรสนิยมของผมทำให้อินมากๆจริงๆ easter eggs ต่างๆทำให้หวนนึกถึงสิ่งที่เรามีความสุขกับมันได้ทั้งเรื่อง
คือมันทั้งซึ้ง แก่นเรื่องกินใจแล้วก็สนุกมากจริงๆ ตลอด 140นาทีที่นั่งดูผมมีความสุขมากๆ น้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาไม่รู้ตัวจริงๆครับ รู้สึกได้ว่าเวทย์มนต์มีอยู่จริง จะไปดูอีกแน่ๆ
ถ้าใครคิดว่าหนังเรื่องนี้ไม่น่าดูเพราะมันเป็นหนังเกม หรือคิดว่าตัวเองไม่ได้เล่นเกม ไม่ได้ดูหนัง-การ์ตูน ไม่ได้ฟังเพลงยุค 70s-80s-90s หรือไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับpop cultureยุคนั้นเลย แล้วคิดว่าตัวเองจะดูหนังเรื่องนี้ไม่สนุก
คุณคิดผิดครับ
สิ่งที่ว่าไปมันเป็นแค่เครื่องปรุงของลุงสปีลเบิร์กเท่านั้น
10/10 ครับ ไม่ต้องสงสัยเลย มันดีกว่าที่ผมคิดเอาไว้มากจริงๆ
ใครมีความคิดเห็นยังไงมาคอมเม้นกันนะครับ
[SR] รีวิว READY PLAYER ONE IMAXรอบสื่อร้อนๆ ออกมาจากโรงก็พิมพ์เลย *NO SPOILER*
READY PLAYER ONE 10/10
"ตลอด 140นาที มีความสุขมากๆ น้ำตาแห่งความสุขมันออกมาไม่รู้ตัวจริงๆครับ รู้สึกได้ว่าเวทย์มนต์มีอยู่จริง"
เริ่มจากผมได้มีโอกาสไปดูรอบสื่อมวลชนที่Emquartier เมื่อ28 มีนา
ที่ผ่านมา ซึ่งคือผมตั้งหน้าตั้งตารอมาตั้งแต่trailerแรกออกมาปีที่แล้วแล้วล่ะ แต่จากที่ได้ดูหนังเต็มมาแล้ว ผมว่าTrailerมันเป็นแค่น้ำที่จะเอามาผสมทำนำ้จิ้มเท่านั้น (เวอร์ไปมั้ยอ่ะ 5555)
ออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่นักรีวิวหนังจ๋า และไม่ได้อ่านนิยายมาก่อนแต่ได้ฟังจากคนอ่านนิยายมาก่อนบ้างแล้ว แต่ผมเป็นแค่คนรักการดูหนังและรักpop culture 70s-90s คนนึงที่อยากเวิ่นกับเรื่องนี้มากๆ ครั้งนี้จึงเป็นการรีวิวหนังที่ค่อนข้าง'รีวิวเออร์วอนนาบี'สุดๆ เพราะว่าเป็นการรีวิวจริงจังครั้งแรก 55555
เนื้อเรื่องย่อ(แบบย่อมาก)
คือ ในยุคอนาคตที่โลกจริงเหลือพื้นที่น้อยและไม่ค่อยน่าอยู่ ผู้คนก็เลยหลบไปอยู่ในโลกของเกมส์เสมือนจริง(oasis)ที่สร้างโดยนักสร้างเกมอัจฉริยะคนนึง วันนึงพี่แกดันตายไปโยที่ทิ้งeaster egg เอาไว้ให้คนตามหา โดยผู้เล่นจะต้องเล่นเกม3ด่านที่ไม่รู้ว่ามันคือด่านไหน เพื่อหากุญแจ3ดอกที่จะไขไปสู่easter egg ได้ คนที่ได้easter eggไป จะได้สิทธิ์ควบคุมoasis และเงิน เรื่องราวหลังจากนี้ไปดูกันเอาเองนะครับ อาจจะพูดไม่รู้เรื่องต้องขออภัยครับ เป็นคนพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเป็นพื้นเพอยู่แล้ว
ความรู้สึกส่วนตัว + รีวิว
เกริ่นก่อนว่าผมเป็นคนนึงที่ถึงจะเกิดไม่ทันยุค70s-80s แต่ผมค่อนข้างกล้าพูดว่าผมค่อยๆโตมากับมันจริงๆ ผมเชื่อว่ามีหลายๆคนโตมากับเกมส์เก่าๆ เครื่องเกมส์ยุคนั้นของคุณพ่อ ตู้เกมส์ตามร้าน การ์ตูนหรืออนิเมะและหนังจากทางทีวี-ม้วนวิดีโอ เพลงจากแคสเสตเทปและแผ่นเสียง และอื่นๆ รวมถึงความรักในelements ต่างๆของยุคนั้นๆที่ฮิตหรือป๊อปซึ่งเรียกว่า "pop culture"เรื่อยมาเหมือนกับผม ผมว่ามันมีเสน่ห์มากๆ ถ้าใครรู้จักผมดีจะรู้ว่ารสนิยมผมจะค่อนข้างหนักๆไปที่อะไรแบบนี้ หรือเอาสั้นๆแบบที่ชาวบ้านเข้าใจ ผมเป็น"เนิร์ด"ครับ 555
นั่นทำให้ผมตื่นเต้นมากๆและอินมากๆที่จะได้เห็นตัวละครที่ผมรู้จัก เกมส์ที่ผมเคยเล่น เพลงที่ผมเคยฟัง หนังที่ผมเคยดู มาอยู่รวมกันในหนังเรื่องเดียว แต่คือไม่ต้องมารวมกัน ด้วยพลอตเรื่องแบบนี้ผมก็จะไปดูให้ได้อยู่ดี
ในหนังเรื่องนี้คุณจะได้เจอสิ่งที่ผมว่าไปข้างต้น ตัวละคร-สถานที่ สิ่งของ
คำพูด ท่าทาง บุคลิค หรือ elements อื่นๆ จากหนัง เกมส์การ์ตูน อนิเมะ แม้กระทั่งศิลปินก็มาด้วย
การปรากฏตัวก็แล้วแต่ว่ามาเป็น cameo , easter egg ,เป็นตัวละครตัวประกอบไปจนถึงที่มีบทไปเลยหรือมีการกล่าวถึงให้เห็นชัดเจนเยอะมากจริงๆครับ ผมนับได้เยอะอยู่สำหรับรอบแรกแต่ขอไม่บอกนะครับ อยากให้ไปดูด้วยตาตัวเองจริงๆ เดี๋ยวจะว่าสปอย แต่คือส่วนนึงก็คือมันบรรยายหมดไม่ได้จริงๆ ทั้งเรื่องนี่สบถแล้วก็ชี้จอทั้งเรื่องเลย "เห้ยๆๆ" "นั่นมัน---นี่" "โคตรเทพๆๆๆ" *พลางสะกิดพี่ที่ไปด้วย* 55555
ตัวหนังบอกเล่าถึงพระเอกที่หลงรักใน70s-80s pop cultureและเคารพผู้สร้างแต่ละคนที่ทำให้สิ่งเหล่านั้นป๊อปจนเข้ามารวมเป็นpop cultureขึ้นมาได้ มากจริงๆ ตัวเอกเราคือชอบที่จะเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงไม่ใช่แค่เพียงเพราะเพราะว่ามันไม่มีที่ไป แต่เพราะเค้ารักมันมากจริงๆ ถึงแม้ว่าปลายทางของจุดจบจะมีเงินมหาศาลรออยู่ แต่เค้าก็ไม่ได้นึกถึงมันเป็นอย่างแรกเค้าแค่อยากจะตั้งใจเล่นเกมที่เค้ารักเพื่อที่จะให้ความสำคัญกับผู้ที่สร้างสิ่งต่างๆที่เค้ารักขึ้นมา ทำให้มันเป็นเค้าทุกวันนี้ เรื่องก็มีดราม่าเข้ามาบ้างนิดนึง เรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อนสื่อได้ดีมากๆ บทตัวละครดีมากๆครับตัวประกอบก็ด้วยนะ เส้นเรื่องพลิกแพลงได้ไหลลื่น มีหักมุมเล็กๆตั้งแต่กลางๆเรื่องไปจนถึงท้ายเรื่อง จุดพีคที่ผมชอบที่สุดคือตัวละครที่มาเฉลยว่าที่จริงเค้าเป็นใครคือเราไม่รู้เลยว่าเค้าจะเป็นใครแล้วพอรู้มันแบบ เห้ยยยโคตรเทพ คาดไม่ถึงเลยครับ
พอก่อนละกันเนอะ บ่นไม่หมดหรอกแต่รู้สึกมันจะยาวแล้ว 5555
สรุปคือ ซีน,โมชั่นแคปเจอร์,เนื้อเรื่อง,เส้นเรื่องดีมากๆ
ตัวละคร-หรืออย่างอื่นจากที่อื่นเข้ามารวมกันเยอะกว่าที่คิดมากๆ
เพลงดีมาก รู้จักเกือบทุกเพลง ทั้งของ michael jackson , van halen , earth wind & fire , bee gees และอื่นๆ
*อวดนิดๆ คือผมมีแผ่นเสียงvinylด้วย 555*
อินเพลงนี้มากๆ รู้สึกมันเข้ากับหนังสุดๆ Van halen -Jump https://www.youtube.com/watch?v=bq-potK_7Ts
องค์ประกอบพวกนี้แหละ+ภูมิหลังรสนิยมของผมทำให้อินมากๆจริงๆ easter eggs ต่างๆทำให้หวนนึกถึงสิ่งที่เรามีความสุขกับมันได้ทั้งเรื่อง
คือมันทั้งซึ้ง แก่นเรื่องกินใจแล้วก็สนุกมากจริงๆ ตลอด 140นาทีที่นั่งดูผมมีความสุขมากๆ น้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาไม่รู้ตัวจริงๆครับ รู้สึกได้ว่าเวทย์มนต์มีอยู่จริง จะไปดูอีกแน่ๆ
ถ้าใครคิดว่าหนังเรื่องนี้ไม่น่าดูเพราะมันเป็นหนังเกม หรือคิดว่าตัวเองไม่ได้เล่นเกม ไม่ได้ดูหนัง-การ์ตูน ไม่ได้ฟังเพลงยุค 70s-80s-90s หรือไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับpop cultureยุคนั้นเลย แล้วคิดว่าตัวเองจะดูหนังเรื่องนี้ไม่สนุก
คุณคิดผิดครับ
สิ่งที่ว่าไปมันเป็นแค่เครื่องปรุงของลุงสปีลเบิร์กเท่านั้น
10/10 ครับ ไม่ต้องสงสัยเลย มันดีกว่าที่ผมคิดเอาไว้มากจริงๆ
ใครมีความคิดเห็นยังไงมาคอมเม้นกันนะครับ