update ขอยกมาไว้ด้านบนนะครับ

จขกท.ยังสามารถใช้สิทธิ์ผ่อนผันการเกณฑ์ทหารได้ต่อไปอีกจนกว่าจะหายจากโรค ซึ่งผ่อนผันได้จนอายุ 26 ปี หรือถ้าหายก่อนก็สามารถสละสิทธิ์ผ่อนผันและสมัครเป็นทหารหรือจับฉลากใบดำใบแดงได้ต่อไปครับ

———————————————————————

สวัสดีครับ
จขกท.เป็นโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลครับ

คร่าวๆ นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ในขณะที่ยังศึกษาอยู่ในรับปริญญาตรีนั้น จขกท.ได้ใช้สิทธิ์นักศึกษารักษา ทานยา และบำบัดมาโดยตลอด 1 ปี โดย อ.จิตแพทย์แนะนำและเล็งเห็นว่าควรพักการเรียนเพื่อรักษาตัวอย่างเร่งด่วน จึงทำหนังสือขอทำยื่นเรื่องดรอปเรียนพิเศษให้ ร่วมกับ อ.หัวหน้าประจำภาควิชาสาขา จึงได้พักการเรียนเพื่อรักษาตัว และจบลงที่ยื่นใบลาออกจากมหาวิทยาลัย

หลังจากนั้นไม่นาน จขกท.ขาดการรักษาไปช่วงหนึ่ง และได้กลับมารักษาตัวที่ รพ.เดิมอีกครั้ง รวมระยะเวลาการเป็นโรคทั้งสองได้ 2 ปี 3 เดือน ครับ คาดว่าสักวันจะหายดีได้

จขกท.ยื่นผ่อนผันเกณฑ์ทหารผ่านทางมหาวิทยาลัยมา 3 ครั้งแล้ว แต่ครั้งที่ 4 ที่จะถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้ามีแพลนว่าจะไปสมัครเป็นดู เผื่อว่าจะช่วยให้ได้หลุดพ้นหรือลืมเรื่องเก่าๆ และชีวิตที่จำเจไปได้บ้าง

หลังจากปรึกษากับจิพแพทย์ครั้งล่าสุด แพทย์ไม่เห็นด้วยที่ จขกท.คิดเช่นนั้นด้วยอาการทางกายและทางใจของ  จขกท.อาจรับไม่ไหว อีกทั้งผลข้างเคียงของยาบางตัวที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

ซึ่ง จขกท.ได้โทรไปปรึกษาที่กองสัสดีแล้ว ทางกองสัสดีแจ้งว่าต้องเอาใบรับรองแพทย์ไปในวันตรวจ แล้วแจ้งแพทย์ แต่อย่างไรก็ไม่ทันแล้ว เพราะหมดเวลายื่นเรื่องแล้ว และแจ้ง จขกท.ว่าโรคซึมเศร้าเป็นหนึ่งในโรคที่ไม่สามารถรับราชการทหารได้

หาก จขกท.ไม่ยื่นใบรับรองแพทย์แล้วเข้ารับการคัดเลือกก็จะผ่านเกณฑ์ทุกเกณฑ์ครับ

จขกท.อยากได้คำแนะนำ/แนวจากผู้ป่วยทุกท่านหรือ คนใกล้ชิดที่เคยได้เป็นทหารในช่วงที่มีรักษาอาการโรคซึมเศร้าอยู่ด้วย ว่าเป็นไปได้ไหมครับ แล้วผ่านไปได้จริงไหมครับ

จขกท.รักษาอยู่ที่ รพ.ของมหาวิทยาลัยครับ ไม่ได้รักษาในเครือของโรงพยาบาลทหารสังกัดกองทัพบกทั้ง 20 แห่ง เลยครับ

———————————————————————
edit: จัดหน้ากระดาษใหม่ครับ