เร่เข้ามา เร่เข้ามา พบกับช่วงของดีบอกต่อโดยเฮียหน้ามนคนเดิมกันอีกแล้ว สำหรับกระทู้นี้ของดีบอกต่อที่เฮียภูมิใจนำเสนอ นั่นก็คือ การก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มตัว นั่นเองงงงงง
อ้ะ หลายคนอาจจะบอกว่าเฮียจะตกใจทำไม หนูใช้บัตรแตะซื้อของจนบัตรจะยุ่ยหมดแล้วเนี่ย ยังไม่นับรวมถึงสแกนจ่ายผ่านแอปฯ อีก ช้าก่อน! ถ้าเฮียบอกว่า หนูสามารถ แตะ รูด สแกน แบบนี้กับการจ่ายค่าใบขับขี่ ค่าทำพาสปอร์ต และอื่นๆ กับหน่วยงานภาครัฐที่มีการรับ-จ่ายเงิน โดยไม่ต้องพกเงินสดได้แล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ National e-Payment ที่มุ่งสร้างประเทศไทยให้เป็นสังคมไร้เงินสด
อะ เริ่มว้าวกันแล้วใช่มะ งั้นตามเฮียมาดูรายละเอียดกันว่าจะต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง
สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิคส์กับหน่วยงานรัฐฯ ครอบคลุมตั้งแต่การชำระค่าภาษีต่างๆ การชำระค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่ ชำระภาษีรถยนต์/รถจักรยานยนต์ ชำระค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดิน การทำพาสปอร์ต หรือหน่วยงานราชการทุกแห่งทั่วประเทศที่มีการรับเงิน-จ่ายเงิน ณ หน่วยงาน
สำหรับรูปแบบการจ่ายเงินแทนการใช้เงินสด สามารถใช้ได้ดังนี้
- บัตรเดบิตของทุกธนาคารที่ออกในประเทศไทย ชำระได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
- บัตร ATM ของธนาคารกรุงไทย ชำระได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
- บัตรเดรดิตที่มีสัญลักษณ์ VISA/ MASTER ของทุกธนาคาร ชำระได้ โดยมีค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารเรียกเก็บ
- สแกน QR CODE บน Mobile Application ของทุกธนาคาร ชำระได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
สำหรับผู้ไม่มีบัญชีธนาคาร KTB ก็สามารถจ่ายเงินแบบอิเล็กทรอนิคส์ได้เช่นกัน โดยใช้
1. บัตรเติมเงิน ที่เรียกว่า Cash Card หรือ e-Money Card
ติดต่อซื้อได้ที่ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป หรือที่ธนาคารกรุงไทยจะมี Cash Card ที่ชื่อว่า บัตรกรุงไทย”พร้อมจ่าย” ที่ออกมาให้บริการเพื่อชำระเงินที่หน่วยงานราชการโดยเฉพาะ สามารถซื้อได้ทุกสาขา ตั้งแต่ 1- 200,000 บาท โดยไม่มีค่าธรรมนียม
2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับใครที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแวะไปเติมเงินเข้าบัตรที่ธนาคารกรุงไทยก็พกมาชำระเงินกับหน่วยงานราชการได้ด้วยเช่นกัน เพราะในบัตรถูกสร้างให้มีกระเป๋าเงิน 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นกระเป๋าเงินสวัสดิการแห่งรัฐที่ภาครัฐเติมเงินให้เพื่อใช้จ่ายตามสิทธิ์ทุกเดือน กับอีกส่วนเป็นกระเป๋าหนึ่งที่สร้างไว้เพื่อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถเติมเงินส่วนตัวเข้าไปเก็บไว้ใช้จ่ายเหมือนบัตรเดบิตทั่วๆ ไป
อ่านจบเริ่มอยากลองกันแล้วใช่มั้ยล่ะ เฮียก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากพุ่งตัวไปทดสอบความสะดวกเหมือนกัน แต่เอ...คิดๆ ไปแล้วอย่างนี้ก็หาเรื่องแฮ้ปเงินภรรเมียไม่ได้แล้วนะสิ ว้า
เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังเตรียมตัวจะไปทำพาสปอร์ต ใบขับขี่ หรือชำระภาษีอาการต่างๆ กับหน่วยงานรัฐลองใช้กันดูสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
บอกต่อของดีเรียบร้อย ก็ได้เวลาที่เฮียต้องขอตัวลา พบกับของดีบอกต่อกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดี
[Advertorial]
เงินสดไม่ต้องพก! หน่วยราชการทั่วประเทศ รับชำระผ่านบัตร QR CODE แล้ว
อ้ะ หลายคนอาจจะบอกว่าเฮียจะตกใจทำไม หนูใช้บัตรแตะซื้อของจนบัตรจะยุ่ยหมดแล้วเนี่ย ยังไม่นับรวมถึงสแกนจ่ายผ่านแอปฯ อีก ช้าก่อน! ถ้าเฮียบอกว่า หนูสามารถ แตะ รูด สแกน แบบนี้กับการจ่ายค่าใบขับขี่ ค่าทำพาสปอร์ต และอื่นๆ กับหน่วยงานภาครัฐที่มีการรับ-จ่ายเงิน โดยไม่ต้องพกเงินสดได้แล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ National e-Payment ที่มุ่งสร้างประเทศไทยให้เป็นสังคมไร้เงินสด
อะ เริ่มว้าวกันแล้วใช่มะ งั้นตามเฮียมาดูรายละเอียดกันว่าจะต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง
สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิคส์กับหน่วยงานรัฐฯ ครอบคลุมตั้งแต่การชำระค่าภาษีต่างๆ การชำระค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่ ชำระภาษีรถยนต์/รถจักรยานยนต์ ชำระค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดิน การทำพาสปอร์ต หรือหน่วยงานราชการทุกแห่งทั่วประเทศที่มีการรับเงิน-จ่ายเงิน ณ หน่วยงาน
สำหรับรูปแบบการจ่ายเงินแทนการใช้เงินสด สามารถใช้ได้ดังนี้
- บัตรเดบิตของทุกธนาคารที่ออกในประเทศไทย ชำระได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
- บัตร ATM ของธนาคารกรุงไทย ชำระได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
- บัตรเดรดิตที่มีสัญลักษณ์ VISA/ MASTER ของทุกธนาคาร ชำระได้ โดยมีค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารเรียกเก็บ
- สแกน QR CODE บน Mobile Application ของทุกธนาคาร ชำระได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
สำหรับผู้ไม่มีบัญชีธนาคาร KTB ก็สามารถจ่ายเงินแบบอิเล็กทรอนิคส์ได้เช่นกัน โดยใช้
1. บัตรเติมเงิน ที่เรียกว่า Cash Card หรือ e-Money Card
ติดต่อซื้อได้ที่ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป หรือที่ธนาคารกรุงไทยจะมี Cash Card ที่ชื่อว่า บัตรกรุงไทย”พร้อมจ่าย” ที่ออกมาให้บริการเพื่อชำระเงินที่หน่วยงานราชการโดยเฉพาะ สามารถซื้อได้ทุกสาขา ตั้งแต่ 1- 200,000 บาท โดยไม่มีค่าธรรมนียม
2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับใครที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแวะไปเติมเงินเข้าบัตรที่ธนาคารกรุงไทยก็พกมาชำระเงินกับหน่วยงานราชการได้ด้วยเช่นกัน เพราะในบัตรถูกสร้างให้มีกระเป๋าเงิน 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นกระเป๋าเงินสวัสดิการแห่งรัฐที่ภาครัฐเติมเงินให้เพื่อใช้จ่ายตามสิทธิ์ทุกเดือน กับอีกส่วนเป็นกระเป๋าหนึ่งที่สร้างไว้เพื่อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถเติมเงินส่วนตัวเข้าไปเก็บไว้ใช้จ่ายเหมือนบัตรเดบิตทั่วๆ ไป
อ่านจบเริ่มอยากลองกันแล้วใช่มั้ยล่ะ เฮียก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากพุ่งตัวไปทดสอบความสะดวกเหมือนกัน แต่เอ...คิดๆ ไปแล้วอย่างนี้ก็หาเรื่องแฮ้ปเงินภรรเมียไม่ได้แล้วนะสิ ว้า
เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังเตรียมตัวจะไปทำพาสปอร์ต ใบขับขี่ หรือชำระภาษีอาการต่างๆ กับหน่วยงานรัฐลองใช้กันดูสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
บอกต่อของดีเรียบร้อย ก็ได้เวลาที่เฮียต้องขอตัวลา พบกับของดีบอกต่อกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดี
[Advertorial]