#ที่สุดของแจ้# ทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติกับการลงทุน

กระทู้สนทนา
เป็นกระทู้แรกที่เขียนตอนตีสามกว่าๆ ไม่ใช่ว่าแก่แล้วนอนไม่หลับนะ ผมเป็นคนแก่ที่นอนตื่นสายครัช
พอดีเมื่อวาน Shut down  ไปตอน 1 ทุ่ม ตื่นมาอีกที่ก็นอนไม่หลับเพราะนอนไปครบโควต้า 8 ชั่วโมง

   ตื่นมาดูดาว +669 จุด บ้าไปแล้ว...ที่เชตจะลง (ยืมคำพูดของพี่โด้เขานะครับ) ตัดเข้ามาของหัวข้อเลย

   พี่แจ้มานั่งคิดว่าทำไม??? นักลงทุนจึงไม่รวยหรือไม่สำเร็จกันทุกคน

     มีคำกล่าว.....ไม่รู้ว่าใครได้กล่าวไว้
  
   >>>การลงทุน มีคนขาดทุน 80 % อีก 10%เสมอตัว  10%รอดตัว (พอมีกำไร 9 % รวย 1%)<<<


   เลยมานั่งคิดว่าทำไม?????? จะเอากฎแห่งกรรมมาจับมันก็ลี้ลับไป  มันเป็นส่วนหนึ่งของวิชามโนศาสตร์ 111
   พี่แจ้ก็จับแพะ-ชนแกะตามที่ถนัด ก็เลยเอาวิขาชีววิทยาสมัยเรียนมัธยมมาอธิบาย
  
   นั่นคือ ทฤษฎีวิวัฒนาการและทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติ  ของชาร์ล  ดาร์วิน
   ไอดอลของผมสมัยเรียน เอามาอธิบายปรากฎการณ์ข้างบนนี้


  

  เขาออกเรือไปสำรวจหมู่เกาะกาลาปากอส เป็นระยะเวลา 5 ปี (ถ้าไม่ชอบคงไม่ไปนานเกิน)
และก่อนที่จะเรียนชีววิทยาเขาเรียนวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอดินเบอระ แต่ไม่ชอบ
(อันนี้คล้ายๆ หมอเมืองไทย ที่จบแล้วหันมาเอาดีทางหุ้น วิศวะก็เยอะ555)

ทฤษฎีวิวัฒนาการ (จากวิกิพีเดีย)

1. สิ่งมีชีวิตจะเปลี่ยนแปลงที่ไปข้างหน้าไม่ย้อนกลับ มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงจากแบบ ง่าย ๆ
เป็นซับซ้อนจากแบบโบราณเป็นแบบก้าวหน้าและจากแบบทั่วไปเป็นแบบจำเพาะเจาะจงเช่น
การลดจำนวนของกระดูกก้นกบหรือการเชื่อมของกลีบดอกไม้ หรือการวิวัฒนาการของลิงสู่คน

2. ลักษณะทางพันธุกรรมที่ไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมจะถูกกำจัด หรือสูญหายไป

3.หากอวัยวะใดที่มีการใช้งานมากในการดำรงชีวิตจะมีขนาดใหญ่
ส่วนอวัยวะใดที่ไม่ใช้จะค่อยๆลดขนาดและอ่อนแอลง และเสื่อมไปในที่สุด
แนวคิดดังกล่าวนี้ เรียกว่า กฎการใช้และไม่ใช ้ (Law of use and disuse)
เช่น ยีราฟคอยาวจะกินต้นไม้ได้ดี  ยีราฟคอสั้นก็จะค่อยๆหายไป
งูไม่ค่อยได้ใช้ขาขามันก็ค่อยๆหายไป  นกใช้ปีกและตีนในการดำรงชีพ มันก็จะวิวัฒนาการ 2 สิ่งให้ดีขึ้น
คนก็เช่นกันอะไรที่ใช้บ่อยๆ มันอาจจะยาว(หรือสั้น ) ก็ได้......... สายตานะ (ผมรู้ว่าหลายคนคิดเป็นอย่างอื่น)

สรุป  สิ่งมีชีวิตต้องวิวัฒนาการเข้ากับสิ่งแวดล้อม  ถ้าอยู่เฉยๆจะสูญพันธุ์ เช่น ไดโนเสาร์
       ธุรกิจก็เช่นกัน เคสคลาสสิคที่มีคนเอามาพูดบ่อยๆ ก็ Kodak  Nokia
      
  
      เครียด....แวะเที่ยวก่อนดีกว่า  ที่กิ่วฝิ่น  วิวพาโนรามาหลักล้าน ส่วนหนึ่งของอุทยานแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง

  
  ขอบคุณภาพ คุณ Anne N

นักลงทุนในตลาดหุ้นก็ต้องมีวิวัฒนาการเช่นกัน ก่อนที่จะถูกทฤษฎีคัดเลือกโดยธรรมชาติเล่นงาน

>>>>หลักการคือ การเอาตัวรอดและปรับตัวเข้ากับตลาด<<<<

เราต้องปรับตัวและมีวืวัฒนาการในการลงทุน  พี่แจ้ขอเสนอแนววิวัฒนาการ 7 ข้อ สำหรับนักลงทุน ให้เอาไปใช้ดังนี้

1.ปฎิบัติตามสุภาษิตไทย

รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา  รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี >>>รู้สิ่งใดไม่สู้...รู้ใจเจ้า  รู้จักคัดลอส...เป็นยอดดี >>>รู้อะไรไม่สู้รู้งี้

รู้หลบเป็นปีก  รู้หลีกเป็นหาง >>>รู้พื้นถันเป็นปีก  รู้เทคนิคเป็นหาง>>>รู้อะไรไม่สู้รู้งี้

2. อย่าเอาปลาไปปีนต้นไม้  เอาลิงไปว่ายน้ำ  

     จงเล่นกีฬาที่ถนัดและ อย่าลงแข่งทุกสนาม เพราะทุกสนามมีเจ้าคุม ค่อยๆดู สังเกตช่องโหว่ของเจ้า
   ต้องมันใจว่าจะชนะหรือเสมอตัว    ในตลาดหุ้นไม่มีของฟรีแน่นอน...แต่ไม่ใช่ไม่มีโอกาส..โอกาสมีเสมอ

3.ทำสิ่งที่ตัวเองถนัดและทำได้ดี  ทำดีแล้วก็อย่าเปลี่ยนวิธีการ เช่น

   บางคนเก่งด้านเก็บแบ็งพันตัดหน้ารถสิบล้อบนทางด่วน.....ก็ทำไป
   บางคนก่งเรื่องหุ้นไม่เต็มบาท.......ก็ทำไป  
   บางคนเก่งเรื่องหุ้นเทินอะลาว......ก็ทำไป(ผมเรียก..หุ้นปลาร้า..เหม็นแต่แซบ)
   บางคนเก่งแบบ ViVi ควิก สามนาทีรับทรัพย์......ก็ทำไป
   บางคนเก่งแบบทนรวย.....ก็ทำไป
   แต่บางคนเก่งแช่ง....ก็ซื้อบ้าง...อย่าแช่งอย่างเดียวนะครับ การแช่งได้สุนทรียะทางอารมณ์แต่ไม่ได้เงิน

4.ใช้หลักอิทธิบาท 4  หมายถึง ฐานหรือหนทางสู่ความสำเร็จ  ที่ท่านศาสดาตรัสรู้มา 2500 กว่าปีมาแล้วอันนี้สุดยอด

  >>>ฉันทะ (ความพอใจ) คือ ความต้องการที่จะทำ ใฝ่ใจรักจะทำสิ่งนั้นอยู่เสมอ และปรารถนาจะทำให้ ได้ผลดียิ่งๆขึ้นไป
         เราต้องชอบในการศึกษาหุ้น เรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้หุ้นก็ว่าได้  ไม่จำเป็นต้องจบMBA ก็เรียนรู้ได้ แค่ใช้เวลามากขึ้น

>>> วิริยะ(ความเพียร) คือ ขยันหมั่นประกอบสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน เอาธุระไม่ท้อถอย
         เราต้องศึกษาเอง มโนเอง อย่าถามคนอื่นบ่อยๆ เพราะคนถูกถามก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกคนล้วนเดาอนาคต
         หุ้นต้องใช้เวลาศึกษาเรียนรู้ ไม่สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งเหมือนแอปที่มีขายในราคา 0.99 $

>>> จิตตะ(ความคิด) คือ ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ และทำสิ่งนั้นด้วยความคิด เอาจิตฝักใฝ่ ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไป
         เราต้องเอาใจจดจ่อ  อันนี้ไม่ใช่เฝ้าหน้าจอจนไม่ลุกไปเข้าห้องน้ำจนกระเพาะ ปสว อักเสบ  แค่ตามงบการเงิน
         ดูกราฟ ดูว่าเขาทำอะไร และจะทำอะไร  มีทำอะไรแผลงๆไหม

        (ยกเว้นนักลงทุนสาย ViVi ต้องมีจิตตะสูงเป็นพิเศษ ต้องเฝ้าหน้าจอ  พอๆกับไปเฝ้านักร้อง หรือ นักศึกษา)

>>> วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือ ทดลอง) คือ หมั่นใช้ปัญญา พิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล
         และตรวจสอบข้อยิ่งหย่อนในสิ่งที่ทำนั้น มีการวางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุง
         ตรงนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์   Mind set   อาชีพ อายุ ประสบการณ์  ระบบการคิดและการได้คิดบ่อยๆ
         ต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่เชื่อใครง่ายๆ
                        ตามหลัก กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้
         ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี
         ก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ลองไปหาดูอันนี้สุดยอดพี่แจ้ยึดเป็นแนวทางเลย เหมือน บัญญัติ 10 ประการ ของท่านประธานเม่า

5. ต้องมี EQ (ความฉลาดทางอารมณ์) สำหรับตลาดหุ้น EQ มันจะช่วยมากกว่าIQ  คนที่จบด้านการเงินใช่ว่าจะรวยจากหุ้นทุกคน
    เพราะ EQ จะทำให้เกิดจินตนาการ  มโนแจ่ม  ผมสังเกตตลาดหุ้นคนสำเร็จมาจากหลายอาชีพ จุดสำคัญคือ
     เขามีวิวัฒนาการและมีการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอด  คนที่มี EQ สูงสังเกตอย่างไร
  
>> คนที่ปากหวานพูดเพราะ พูดสิ่งจรรโลงใจ (อาจจะปากหวานก้นเปรี้ยว) แต่อย่างไรก็ตามคนชอบเสพความหวาน
      จะไม่มีคำว่า..ตูม..หรือ...อีกา...หลุดจากปากเขา ถึงแม้ว่าเขารู้ก็ตาม
>> คนที่มีอารมณ์ขัน พูดหักมุม  เอาเรื่องจริงมาล้อเล่น เอาเรื่องเล่นไปอำคนอื่น  
>> คิดแบบแตกต่าง มีมุมคิด มีแนวคิดที่เพิ่มจากแนวคิดทั่วๆไป
>> เป็นคนช่างสังเกต มีความสามารถในการโยงเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน
>> เป็นคนไม่ยึดติด อาจออกแนวโลเล พร้อมเปลี่ยนถ้าสิ่งใหม่ดีกว่า
>> เป็นคนแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง อาจออกแนวกะล่อน ศรีธนชัย
  
6.ต้องเดาใจคนเก่ง เรียกง่ายๆมี จิตวิทยาสูง
   ว่าคนที่ติดต่อสัมพันธ์ต้องการอะไร จะตอบสนองแบบ บวก หรือ ลบอย่างไร
   เพราะตลาดหุ้นต้องเดาใจเจ้ามือ ว่า เจ้ามือทำแบบนี้ต้องการอะไร จะทำอะไรต่อไป  เมื่อไหร  จะหาทางหนีทีไล่อย่างไร
  >>> ทดสอบง่ายๆ ถ้าเพื่อนบอกว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดี หรือ เมียบอกว่า ที่รักตัวเองช่างรู้ใจเขาจังเลย >>>คุณมีสิ่งนี้

7. ต้องมีการบันทึกการลงทุน เพราะเรามักจะลืมเหตุการโดยเฉพาะความเจ็บปวดจาการลงทุน
    อาจจะบันทึกใน Excel ลงสมุด บันทีกลงใน Note ของโทรศัพท์  ทำ mind map
     เขียนCase study ไว้กันลืม หรือเขียนใส่กระดาษโพสต์อิท แปะข้างฝา  อันนี้จะช่วยได้มาก

  สรุป  ทุกคนเป็น Number one ตั้งแต่เกิด  ดั้งนั้น เรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่ายที่ไม่เกินจะเรียนรู้ครับ

        
         ( อาจจะมีแชมป์ครองเหรียญร่วมกันก็ได้ แต่น้อยมาก)

    





    ### ขอพลังดีชั่วรู้หมด และมีวิวัฒนาการ  สถิตย์อยู่กับท่าน ###
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่