เว้ง จิตต์แจ้งจัดฉาย จอมสลัดแดง ทับเที่ยงภาพยนตร์ ชัยเจริญพากษ์

ตอนย้อนรอยเปิดตํานานโรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์
ฉลองครบ 100 ปี เมืองทับเที่ยงตรัง (บทความตีพิมพ์ลงในนสพ.มติตรัง ) นําเสนอโดยเวปพีเพิลซีน

จอมสลัดแดง ฉายต้อนรับงานฉลองรัฐที่ตรัง คนแน่นจนไม่มีที่ยืน

ข่าวนสพ.มติตรังและ เวปพีเพิลซีนนํา บันทึกประวัติศาสตร์ โรงหนังที่ผูกพันกับวิถีชีวิตชาวตรังมานาน เป็นโรงแรก เปิดก่อนสงครามโลกครั้งที่2 มีโรงเดียวที่ครองใจชาวตรัง รักและผูกพันมาดูทั้งครอบครัว ทั้งพ่อแม่ เล็กเด็กแดง ยกมาดูกันหมดในยุคนั้น เปรียบเหมือนบ้านที่ให้ความอบอุ่น ผ่อนคลายสนุกสนาน เบิกบานมีความสุข

ตำนานนักสู้ผู้บุกเบิกโรงหนังหนังโรงแรกของชาวตรัง เล่าให้ฟังว่า แม้ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่2 ไม่มีหนังใหม่มาฉายประมาณ3ปี ทางโรงหนังทับเที่ยง นำหนังเก่าในสต๊อคมาฉายซ้ำ ก็ยังมีคนมาดูมาก เป็นหนังตลก อ้วนผอม นายอ้วนชื่อโอลิเวอร์ ฮาร์ดี ส่วนนายผอมชื่อ สแตน โลเรล คู่นี้ชาวตรังชอบมาก เป็นหนังขาวดำ ฉายเป็นตอนสั้นๆและ มีหนังชาลี แชมปลิ้น สนุกมาก โรงหนังเป็นที่พึ่งทางใจทำให้มีความสุข คือโรงหนังทับเที่ยง แต่ทุกอย่างมีเกิดก็ต้องมีดับ เป็นสัจธรรมไปตามกาลเวลา โรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ ดำเนินธุรกิจนานถึง

22 ปี และต้องปิดไปแต่ประวัติศาสตร์ตอนฉายหนังเรื่อง “จอมสลัดแดง วันสุดท้าย รอบสุดท้าย”ของโรงหนังก่อนปิด ได้สร้างปรากฏการณ์ ที่ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเมืองตรัง ในรอบ100 ปี

ผมได้ดูหนังจอมสลัดแดงกอบปี่ฟิล์มใหม่เมื่อปี 2523 ที่โรงหนังศรีย่านที่ กรุงเทพฯ นำแสดงโดย เบิร์ตแลน คาสเตอร์ดาราดังอเมริกัน แสดงเก่งมากคนนี้มีฝีมือการแสดง อดีตเป็นนายแบบ และนักกายกรรม ห้อยโหนตีลังกาเก่ง จึงถูกทาบทามจาก

บริษัทวอร์นเนอร์ให้เป็นพระเอกจอมสลัดแดง ต้องโหนบันไดเรือสลัด รับบทเป็นกัปตันเวลโล่ ในหนัง เขามีส่วนสูง184 เซนติเมตร น้ำหนัก 78กิโลกรัม รูปร่างสวย แข็งแรง มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะเวลายิ้ม ยิ้มสวยมากเห็นแล้วสาวๆติดใจ มีฉายาว่า The Grin (ยิ้มสวย) เคยได้รางวัล Academy Award แสดงหนังดังทุกเรื่อง เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ.1913 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ.1994 อายุ 80ปี

ผม นายวิวัย จิตต์แจ้ง ได้เขียนเรื่องนี้ร่วมกับมติตรัง เป็นศ.ศ.2016 ซึ่งหนังจอมสลัดแดงมีอายุครบ60 ปี มาแล้ว ได้หาซื้อDVD มาดูก่อนเขียน ไม่น่าเชื่อว่าตัวแทนไม่ได้สั่งเรื่องนี้มาจำหน่าย ผมค้นหาชื่อหนังจอมสลัดแดงเป็นภาษาอังกฤษ ก็ไม่มีข้อมูล ติดต่อไปที่ คุณชลิดา เอื้อบำรุงจิต รองผู้อำนวยหอภาพยนตร์แห่งชาติ ผมเรียนว่า จะเขียนเรื่องจอมสลัดแดง เรื่องนี้ฉายที่โรงทับเที่ยงภาพยนตร์เป็นเรื่องสุดท้าย มีคุณชัยเจริญมาพากษ์ และโรงหนังก็ปิดตอนนั้นเลย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนานแล้ว คุณชลิดาท่านรู้จักคุณชัยเจริญ รู้เรื่องหนังจอมสลัดแดง เห็นดีด้วยที่ผมจะเขียนบันทึกเรื่องนี้ไว้ เพราะตรงกับวัตถุประสงค์ของหอภาพยนตร์ ท่านแนะนำให้ผมหาข้อมูลหนังจอมสลัดแดง หลายวิธีจนสำเร็จ ผมได้ภาพข้อมูลจอมสลัดแดงมาครบชุด แบบจัดเต็มจาก

บริษัทวอร์เนอร์ เป็นภาพต้นฉบับ แถมได้ใบปิดหนังเขียนว่า “จอมสลัดแดง”ใบปิดสิครับ สนั่นเมืองตรังมาแล้ว เมื่อ 60 ปีที่แล้ว คุณพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ได้ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์หนังเรื่องนี้ โดยนำใบปิดนี้ที่มีรูปพระเอกโหนเชือกไปติดทั่วทั้งเมืองตรังทุกจุด และวงเล็บว่า ชัยเจริญพากษ์โดยเฉพาะร้านกาแฟ ติดทุกร้าน เลยดังระเบิดทั้งจังหวัดตรัง มีภาพสวยๆในหนังอีกหลายภาพ และที่ผู้อ่านกำลังชมภาพอยู่นี้เป็นภาพจากหนังจอมสลัดแดงทุกภาพ ส่วนภาพ คือคุณเว้ง จิตต์แจ้ง เจ้าของและ ผู้บริหารโรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ มีผู้ช่วย ผู้จัดการโรงหนังคือ (โกจุง ฟองโฮย) ท่านทั้งสองมีความรู้ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ กว้างไกล มีชื่อเสียงช่วยสร้างสรรค์ บุกเบิกให้เมืองตรังเจริญ เป็นที่รักและนับถือของชาวตรังในยุคนั้น เขาเรียก โกเว้ง โกจุง

เขียนมาถึงตอนนี้สนุกแล้ว ผมกับทีมงานมติตรัง ตามหาคุณชัยเจริญ เพราะท่านเป็นคนสำคัญ อยู่ในเหตุการณ์วันปิดทับเที่ยงภาพยนตร์ เมื่อ 60ปีที่แล้ว ตั้งใจจะสัมภาษณ์คุณชัยเจริญแต่ไม่พบท่าน โชคดีช่วยผมอีก ผู้เขียนได้พบคุณวิบูลณ์พงศ์ อรุณมาตย์ ท่านมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมนักพากษ์ภาพยนตร์แห่งประเทศไทย สนิทกับคุณชัยเจริญ คุณวิบูลณ์พงศ์ช่วยผม รีบติดต่อประสานไปยังทีมพากษ์พันธมิตร คือพี่โต๊ะ (คุณปริภัณฑ์ วัชรานนท์) หัวหน้าทีมพันธมิตร

จึงทราบว่าคุณชัยเจริญ ไปอยู่กรุงเทพฯ ท่านอายุได้93 ปีแล้ว สุขภาพแข็งแรงค้นคว้าหา ข้อเขียนของคุณชัยเจริญ ซึ่งบันทึกการพากษ์หนังเรื่องจอมสลัดแดงไว้ในหนังสือชื่อเรื่อง “คุยเฟื่องเรื่องนักพากษ์” ผมขออนุญาตท่านนำส่วนหนึ่งของข้อเขียนมาให้แฟนคลับ ได้ติดตามผลงานของท่าน ผมหัวใจเต้นตุ้บๆหลัง

จากได้อ่าน ดีใจมากนึกไม่ถึงว่าคุณชัยเจริญ จะเขียนหนังเรื่องจอมสลัดแดงก่อนผมคิดหลายปี คุณชัยเจริญมีผลงานเป็นเจ้าของรางวัล ธนาธิป เขียนหนังสือและบทละครดังเช่น เรื่อง “ เรือนรัก เรือนทาส” “หญิงเหล็ก ณ ถลาง” และเรื่อง “ทหารเสือ กรมหลวงชุมพร” ท่านเคยพากษ์หนังเกินกว่า200เรื่อง


เราย้อนรอยประวัติศาสตร์เมื่อ 60ปีก่อนกันเลย ที่หน้าโรงหนังมีโปสเตอร์เขียนไว้ว่า “วันนี้ฉายวันสุดท้าย จอมสลัดแดง ปิดโรง” แฟนหนังพอรู้ว่าเป็นรอบสุดท้าย เมื่อไฟลามทุ่ง ปากต่อปาก เฮโลมาดูหนังเป็นร้อย เป็นพัน ชาวตรังผูกพันกับโรงหนังนี้มากรู้สึกเสียดาย ฉะนั้นต้องดูให้ได้ มีแนวโน้มอาจรับมือแฟนหนังไม่ไหวเพราะคนมาดูหนังรอบนั้นมากจริงๆ คุณพ่อผู้เขียนได้ประชุมแก้

ปัญหาเป็นการด่วนกับอาจรุง เตรียมพร้อมเพื่อต้อนรับนักดูหนังรอบสุดท้ายโรงหนังทับเที่ยง บุคคลสำคัญที่อยู่ในวันนั้นคือ คุณอนันต์ สหวิศิษฐ์ อดีตท่านเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนควนปริง และอีกท่านคือคุณไพรัฐ ปิยะรัฐ(โกซิว)เจ้าของร้านเพ็ญพรรณ อยู่ในเหตุการณ์และได้ดูหนังจอมสลัดแดง ทั้งสองท่านเล่าว่า มีความวุ่นวายเกิดขึ้นหน้าโรงหนังตั้งแต่ตอนเย็น ประชาชนมายืนเต็มหน้าห้องขายตั๋ว และทยอยซื้อตั๋วไว้ตั้งแต่ตอนเย็น เหตุการณ์ตอนนั้น มีคุณจินตนา วัฒนกำพลกิจ เจ้จิน บอกว่า ห้องตั๋วขายไม่ทัน ได้ไปช่วยแม่ยิ่ง จิตต์แจ้ง ด้วยเรื่องจอมสลัดแดง จำได้ดี และมีอีกสองท่านเป็นนักดูหนังชื่อคุณเยื้อง เที่ยงธรรม(โกยาว) กับคุณเสริมศักดิ์ รัตนสิมานนท์ (โกต่วน) ตอนนั้นท่านยังเป็นเด็กไปดูจอมสลัดแดงวันสุดท้ายด้วย บอกกับผู้เขียนว่า คุณชัยเจริญพากษ์เรื่องนี้ และดังจากหนังเรื่องนี้ ยังจำบทพากษ์ของพระเอกและคู่หูเจ้าใบ้ในหนังได้ดี หนังสนุกที่สุด ชัยเจริญพากษ์มันสุดๆ

• อาจารย์อนันต์ สหวิศิษฐ์ ตอนท่านเป็นเด็กอยู่ที่โรงหนังทับเที่ยงทุกวัน จนโตเป็นวัยรุ่น เป็นลูกลุงเขียวหัวหน้าห้องฉายหนัง อาจารย์อนันต์ช่วยพ่อฉายหนังตั้งแต่เด็กๆแล้ว ตอนฉายจอมสลัดแดงท่านอยู่ที่ห้องฉายหนัง อาจารย์มองลงมาข้างล่างเห็นคนมาอยู่หน้าโรงหนังเต็มไปหมด นั่งรถยนต์มาก็มี รอบสุดท้ายจึงยิ่งใหญ่เกินความคาดหมายก่อนหนังฉาย2 ชั่วโมง คนยืนเต็มหน้าโรงหนังหมดแล้ว

เก้าอี้เสริมโกจุ๊ง ไปยืมจากที่อื่นจำนวนมาก จนเต็มแน่นโรงล้นไปติดประตูทางออก เห็นลุงแป๊ะเสียง คนเก่าแก่โรงหนังทับเที่ยง เป็นคนจัดเก้าอี้เสริม มีหลายคนมาช่วย ส่วนคุณไพรัฐ บอกว่า เห็นรถโรงหนังไปเวียนในเมืองตรังหลายรอบ มีลุงปูและลุงเต็น (โกปู โกเต็น) เป็นคนขับรถไปเวียน บรรยากาศวันนั้นน่าตื่นเต้นมาก พอดีมีงานปีใหม่งานฉลองรัฐ ด้วยแถวหน้าโรงหนังเลยคึกคักเป็นพิเศษ ของกินขายดี เสียงเพลงมาร์ช หน้าโรงหนังดังขึ้นเหมือนปลุกใจ ทุกๆคนอยากดูหนังจอมสลัดแดง ยินดีมาซื้อตั๋ว ยืนก็เอา เวลา19.30 นาฬิกา ประตูโรงหนังเปิด คนแห่เข้าไปด้วย

ความเร็ว เพื่อจับจองเก้าอี้นั่ง แบบตัวใครตัวมัน ไม่ต้องนั่งตามเบอร์ นั่งไว้ก่อน และไม่รังเกียจกัน แป๊บเดียวเก้าอี้เสริมเต็มหมดแล้วเหลือแต่ตั๋วยืน อีก15นาทีต่อมาโรงหนังปิดไฟมืด สไลค์โฆษณาฉายก่อน ติดตามด้วยภาพยนตร์ขาว ดำ ของสำนักข่าวสารอเมริกัน พร้อมหนังตัวอย่างชาลี แชมปลิ้น เสียงปรบมือก่อนเบาๆ คนดูชาวใต้เตรียมพร้อมแล้ว เชียร์เต็มที่ มันแน่หนังเรื่องนี้

ลุงเขียว สหวิศิษฐ์คนฉายหนัง โชว์ฝีมือพร้อมให้สัญญาณกับชัยเจริญ โอ เค สตาท์ได้ เครี่องฉาย35มม .ซีนีมาสโคป ภาพใหญ่จอกว้างเต็มจอ (บริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์เสนอ จอมสลัดแดง) เห็นภาพเรือโบราณอยู่กลางทะเลใหญ่ สีภาพยนตร์เป็นสีเทคนิคสวยมาก เห็นน้ำทะเลเขียวเข็ม กับท้องฟ้าสีคราม เห็นใบเรือเป็นผ้าขาวสะบัดด้วยแรงลม เห็นรูปธงสีแดงมีหัวกะโหลก บอกสัญลักษณ์ว่าเป็นเรือ จอมสลัดแดง เห็นพระเอกกำลังโหนเชือกจากเสากระโดงเรือ และตีลังกาด้วยลีลาที่สวยงาม ที่ไม่เคยเห็นจากภาพยนตร์เรื่องไหนมาก่อน พร้อมสลัดคู่สมุน เจ้าเตี้ย เป็นใบ้ กระโดนตามห้อยเชือก แถมออกลีลาตลกให้เฮด้วย

ตอนนี้ถูกใจแฟนหนังทั้งโรง เสียงปรบมือดังพร้อมเป่าปาก ปิ๊ด ปิ๊ด “มันหรอยจิ๊ง จิ่ง”ยิ่งตอนจอมสลัดแดง บุกโจมตีเรือทหาร ฟันดาบกันสนุก พระเอกโหนเชือกได้น่าดูมากฉากนี้ ถีบทหารตกน้ำกันเป็นแถว เรียกเสียงหัวเราะลั่น

บรรยากาศตอนนั้นทั้งสนุกทั้งตลก คนดูกระทืบเท้า เป่าปาก เฮโลลั่น พร้อมหัวเราะชอบใจ สไตล์ชาวตรังแท้ๆบอกว่า “หรอย หรอย หรอย” นักพากษ์ลองฟังเสียงนะครับ เสียงใครเอ่ย เสียงนุ่มๆทุ้มๆพูดชัดๆว่า “วันนี้ผมพากษ์ จอมสลัดแดงที่ทับเที่ยงภาพยนตร์ ให้ชาวตรังมีความสุข เจริญชัย เรียบเรียงบท กำหนดให้ชัยเจริญพากษ์ “แค่นั้นแหละครับโรงหนังทับเที่ยงแทบแตก เสียงเฮ โห่

กระทืบเท้าดังไปหมดเป่าปากปีดๆด้วย นั่นแหละเสียงเชียร์แฟนหนัง พวกซื้อตั๋วยืนบางคนยืนไม่ติดแล้ว กระโดดตามเสียงเฮ สนุกอะไรอย่างนั้น บรรยากาศตอนนั้นเวลา20.30 นาฬิกา ประตูโรงหนังด้านข้างปิดไม่ได้แล้ว คนดูล้นออกมา มีเด็กๆวิ่งเข้าไปดูหนังฟรีเต็มไปหมดแล้ว ไม่เก็บตั๋วแล้ว โอ้โฮ มันหรอยจริงๆ เล่าประวัติศาสตร์เมืองตรัง

อาจารย์อนันต์ บอกว่าเหมือนนาทีทอง เหมือนกับอินดอร์ สเตเดี่ยม สนามกีฬา เวลามีแข่งขันเสียงเชียร์ดังมากทั้งโห่ ทั้งเฮ บรรยากาศโรงหนังทับเที่ยงดังเหมือนสนามกีฬาไม่มีผิด เอาล่ะครับถึงเวลาสำคัญที่สุดแล้ว ตอนนี้จะให้พบกับชัยเจริญ นักพากษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ดังที่สุดในภาคใต้ จะมาเล่าหนังจอมสลัดแดงให้ฟัง คุณชัยเจริญเขียนเล่าดังนี้ครับ "ส้มหล่น ครับส้มหล่น ส้มหล่นใส่ผม"

คือว่าบริษัทไทยใต้หาดใหญ่ สมัยนั้นตั้งบริษัทใหม่ๆ ประเดิมจัดจำหน่ายหนังเรื่องแรกคือจอมสลัดแดง หาดใหญ่ไทยใต้เป็นของ เสี่ยฟัด มีคุณสกล เป็นผู้จัดการหาดใหญ่ภาพยนตร์ บริษัทเกิดมีปัญหา คือนักพากษ์ดังเกิดถอนตัวขึ้นมา ยังหานักพากษ์มาพากษ์จอมสลัดแดงไม่ได้ เวลาจำกัดเหลืออีก 2 วันก็ถึงวันฉายแล้ว บทพากษ์ก็ยังไม่เสร็จ แต่ทางโรงคิงส์หาดใหญ่ และโรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ตรังเข้าโปรแกรมรอไว้แล้วต้องฉายให้ได้

ตอนแรกผมชัยเจริญ นึกว่าหนังคงยังงั้นๆไม่งั้นเขาคงไม่เรียกผมไปพากษ์ แต่ถ้าหนังดีก็ต้องผ่านมือนักพากษ์มือหนึ่งไปก่อน แต่ที่ไหนได้ หนังจอมสลัดแดงสนุกเป็นบ้า นำแสดงโดยเบิร์ตแลน คาสเตอร์ พร้อมเจ้าใบ้ นิค คาราวัต ผมตะครุบผางเลย รีบรับทำบทกับคุณประสพ ทั้งวันทั้งคืนแทบไม่ได้พัก และซ้อมเป็นการใหญ่หลายรอบ หนังมันจริงๆ ขึ้นไตเติ้ลก็ฮาละ โดยเฉพาะที่โรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ตรัง (ของคุณเว้ง จิตต์แจ้ง คนแน่นมากๆ)

พอเริ่มฉายพระเอกห้อยโหนขึ้นบนเสากระโดงเรือ หันหน้ามาแสยะยิ้มกับคนดู ผมชัยเจริญพากษ์ใส่เข้าไป สวัสดีครับผมเบิร์ตแลน คาสเตอร์ จอมสลัดแดง เดี๋ยวคอยดูผมจะบู๊ให้สะใจคนดูคอยดูนะ  พูดให้ตรงปากว่า บู๊ยิ้มเลย เหมือนกับนายเบิร์ตพูดภาษาไทย ชัดเป๊ะๆ หนังก็สนุก


เฮกันตรึม ฮากันโรงแทบแตก อ่านต่อในความเห็นที่ หนึ่งครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่