MasterChef Thailand คงเป็นรายการที่สนุกที่สุด ณ เวลานี้!!!
.
วันเสาร์ดู The Face วันอาทิตย์ดู MasterChef แล้วก็อดที่จะเอามาเทียบกันไม่ได้ ความน่าเบื่อของ The Face คงหนีไม่พ้นการไทอินขายของแบบโจ่งแจ้งไร้รสนิยมที่สุด ผมเชื่อว่าไม่ต้องบ่นมาก คนที่ดูแทบทุกคนคงจะรู้สึก ส่วนตัวผมดู The Face ย้อนหลังแบบดูผ่านๆ ช่วงไหนเข้าโฆษณาหนักๆ ผมก็เลื่อนเลย ไม่ก็เดินไปเยี่ยว แม้แต่ช่วงมาสเตอร์คลาสบางทียังเลื่อนๆไปด้วยความเบื่อหน่าย ผมว่าไม่มีใครที่ไหนทนดูรายการที่ไหนจะมีโฆษณาระหว่างเบรคแล้วยังต้องมาทนช่วงประกาศโฆษณาก่อนเข้ารายการ ประกาศโฆษณาตอนตัดเบรค แล้วยังต้องมาเจอการไทอินแบบไม่มีรสนิยมในรายการอีก มันน่าเบื่อมากกก นี่ถ้าไปดูใน Line ยังต้องเจอโฆษณาของแอพที่ใส่มาก่อนตัดเข้าตอนอีก แต่ในขณะที่ MasterChef นี่เค้าก็มีสปอนเซอร์นะ เยอะด้วย อย่างตอนล่าสุดรอบกล่องปริศนา สปอนเซอร์หลักคงเป็นนมข้นหวานตรามะลิ เค้าแทบจะตัดเข้าไปที่ภาพหลอดนมข้นหวานแว้บเดียว แล้วใช้เชฟเข้ามาคอมเมนต์อาหารด้วยการชมว่า นมข้นหวานช่วยให้ขนมรสชาติดี กล่มกล่อม หรือผู้เข้าแข่งขันบอกว่านมข้นหวานทำเป็นคาราเมล คือในขณะที่ The Face พยายามเอาใจสปอนเซอร์ด้วยการมาเต็มทั้งแคมเปญ ทั้งขายของ ทั้งเอาอาซ้ออาม่าเจ้าของสินค้ามาเป็นกรรมการ ทั้งให้พิธีกรพูดยี่ห้อ ทั้งให้ผู้เข้าแข่งขันแข่งกันพูดสโลแกน แต่ MasterChef แทบจะไม่เอ่ยชื่อยี่ห้ออะไรเลย ผมว่าทีมงาน MasterChef หวงแหนความเป็นตัวตนและกลัวคนดูจะไม่สนุกกับรายการมากกว่าของ The Face.
.
ในส่วนของดราม่า MasterChef นี่ช่วงหลังๆดราม่าลดลงแล้ว การแข่งขันเริ่มเข้มข้น ทั้งเชฟและผู้เข้าแข่งขันเองเริ่มโฟกัสไปที่วัตถุดิบ ฝีมือกันมากกว่าดราม่า แต่สิ่งที่ยังต้องตำหนิก็คือ แอร์ไทม์ของผู้เข้าแข่งขันไม่เท่ากันเลย แต่วีคนี้ดีขึ้นตรงที่มีแอนนี่มากขึ้น แต่เธอก็ตกรอบ คือรายการนี้ใครที่แอร์ไทม์น้อยน่าจะตกรอบ คนที่ตกรอบที่ผ่านมา 8 คนแทบจะพูดได้ว่ามีตัวตนน้อยที่สุดในรายการเลยก็ว่าได้ ส่วน The Face ผมคิดว่าผู้เข้าแข่งขันบางคนมีตัวตนน้อยกว่าเมนเทอร์เสียอีก แต่ยังไงก็ตามทั้งเมนเทอร์และผู้เข้าแข่งขันกลับมีตัวตนน้อยกว่าสปอนเซอร์ด้วยซ้ำ นี่ยังไม่นับดราม่าที่จับยัดให้คนดูทุกวีค ราวกับคนดูโง่นี่ก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อสุดๆ
.
เชฟ กับ เมนเทอร์ของทั้งสองรายการต่างกันชัดเจนมาก มาสเตอร์เชฟนี่เชฟเน้นพูดภาษาไทยชัดเจน ควบกล้ำ ร ล และเน้นคำแบบสอน ในขณะที่ The Face เมนเทอร์เน้นดราม่าแย่งซีนและแข่งกันพูดไทยคำอังกฤษทำ เข้าใจว่าคงอยากทำรายการไปโกอินเตอร์มั้ง ภาพลักษณ์ของ The Face เหมือนทันสมัย เหมือนดูเฟียส ดูเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด แต่ในแง่การทำรายการกลับเฟลอย่างรุนแรง ส่วน MasterChef นี่เอาจริงๆมันน่าจะดูเชย แต่รายการกลับสนุกมาก ผมดูทุกวีค นี่เราพูดในแง่บริยทของรายการที่ซื้อมาจากเมืองนอกนะครับ
.
สำหรับ MasterChef วีคนี้ มาตรฐานก็ยังถือว่าสอบผ่านฉลุย ดูสนุกเหมือนเดิม แต่ขอติงเรื่องแอร์ไทม์และความเสมอภาคในการให้เวลาของผู้เข้าแข่งขัน วีคนี้สิ่งที่ไม่น่าให้อภัยเลยคือทำไมเราไม่ได้เห็นเชฟชิมอาหารของกะปอมเลย อันนี้ไม่โอเค ส่วนผลก็รับได้นะ จากที่เชฟคอมเมนต์ ตัวชูโรงของรายการอย่างเมี่ยงและยูริยังอยู่รวมถึงเบลล่า ส่วนหมอตั้มคงไม่ต้องพูดอะไรเยอะ วีคนี้นางทำให้เชฟชมได้เป็นวีคแรก ก็ไม่แน่ใจว่ารายการเก็บตัวจี๊ดๆพวกนี้ไว้โชว์ของช่วงวีคท้ายๆรึเปล่า แบบเอาให้คนดูอ้าปากค้างว่าจริงๆอีพวกนี้เก่งมากกกอะไรแบบนั้นไหม แต่ภาพรวม ยังไงมันก็เป็นรายการที่สนุกที่สุด งานตัดต่อดีมาก ดนตรี ซาวนด์ก็ดี เชฟป้อมคือตัวชูโรงของรายการ ต้องชมคนที่ไปเอามาทำจริงๆแหละว่านี่แหละคือการประสบความสำเร็จของรายการที่แท้จริง!!! การดุด่าการเตือนของเชฟป้อมนี่ดูไม่เฟคราย แกไม่เคยเป็นดาราไม่เคยได้ตุ๊กตาทอง แต่แกเตือนจริงๆเราสัมผัสได้ และคิดว่ามันไม่ใช่การแสดงเลย
เพจอวยไส้แตก
.
วันเสาร์ดู The Face วันอาทิตย์ดู MasterChef แล้วก็อดที่จะเอามาเทียบกันไม่ได้ ความน่าเบื่อของ The Face คงหนีไม่พ้นการไทอินขายของแบบโจ่งแจ้งไร้รสนิยมที่สุด ผมเชื่อว่าไม่ต้องบ่นมาก คนที่ดูแทบทุกคนคงจะรู้สึก ส่วนตัวผมดู The Face ย้อนหลังแบบดูผ่านๆ ช่วงไหนเข้าโฆษณาหนักๆ ผมก็เลื่อนเลย ไม่ก็เดินไปเยี่ยว แม้แต่ช่วงมาสเตอร์คลาสบางทียังเลื่อนๆไปด้วยความเบื่อหน่าย ผมว่าไม่มีใครที่ไหนทนดูรายการที่ไหนจะมีโฆษณาระหว่างเบรคแล้วยังต้องมาทนช่วงประกาศโฆษณาก่อนเข้ารายการ ประกาศโฆษณาตอนตัดเบรค แล้วยังต้องมาเจอการไทอินแบบไม่มีรสนิยมในรายการอีก มันน่าเบื่อมากกก นี่ถ้าไปดูใน Line ยังต้องเจอโฆษณาของแอพที่ใส่มาก่อนตัดเข้าตอนอีก แต่ในขณะที่ MasterChef นี่เค้าก็มีสปอนเซอร์นะ เยอะด้วย อย่างตอนล่าสุดรอบกล่องปริศนา สปอนเซอร์หลักคงเป็นนมข้นหวานตรามะลิ เค้าแทบจะตัดเข้าไปที่ภาพหลอดนมข้นหวานแว้บเดียว แล้วใช้เชฟเข้ามาคอมเมนต์อาหารด้วยการชมว่า นมข้นหวานช่วยให้ขนมรสชาติดี กล่มกล่อม หรือผู้เข้าแข่งขันบอกว่านมข้นหวานทำเป็นคาราเมล คือในขณะที่ The Face พยายามเอาใจสปอนเซอร์ด้วยการมาเต็มทั้งแคมเปญ ทั้งขายของ ทั้งเอาอาซ้ออาม่าเจ้าของสินค้ามาเป็นกรรมการ ทั้งให้พิธีกรพูดยี่ห้อ ทั้งให้ผู้เข้าแข่งขันแข่งกันพูดสโลแกน แต่ MasterChef แทบจะไม่เอ่ยชื่อยี่ห้ออะไรเลย ผมว่าทีมงาน MasterChef หวงแหนความเป็นตัวตนและกลัวคนดูจะไม่สนุกกับรายการมากกว่าของ The Face.
.
ในส่วนของดราม่า MasterChef นี่ช่วงหลังๆดราม่าลดลงแล้ว การแข่งขันเริ่มเข้มข้น ทั้งเชฟและผู้เข้าแข่งขันเองเริ่มโฟกัสไปที่วัตถุดิบ ฝีมือกันมากกว่าดราม่า แต่สิ่งที่ยังต้องตำหนิก็คือ แอร์ไทม์ของผู้เข้าแข่งขันไม่เท่ากันเลย แต่วีคนี้ดีขึ้นตรงที่มีแอนนี่มากขึ้น แต่เธอก็ตกรอบ คือรายการนี้ใครที่แอร์ไทม์น้อยน่าจะตกรอบ คนที่ตกรอบที่ผ่านมา 8 คนแทบจะพูดได้ว่ามีตัวตนน้อยที่สุดในรายการเลยก็ว่าได้ ส่วน The Face ผมคิดว่าผู้เข้าแข่งขันบางคนมีตัวตนน้อยกว่าเมนเทอร์เสียอีก แต่ยังไงก็ตามทั้งเมนเทอร์และผู้เข้าแข่งขันกลับมีตัวตนน้อยกว่าสปอนเซอร์ด้วยซ้ำ นี่ยังไม่นับดราม่าที่จับยัดให้คนดูทุกวีค ราวกับคนดูโง่นี่ก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อสุดๆ
.
เชฟ กับ เมนเทอร์ของทั้งสองรายการต่างกันชัดเจนมาก มาสเตอร์เชฟนี่เชฟเน้นพูดภาษาไทยชัดเจน ควบกล้ำ ร ล และเน้นคำแบบสอน ในขณะที่ The Face เมนเทอร์เน้นดราม่าแย่งซีนและแข่งกันพูดไทยคำอังกฤษทำ เข้าใจว่าคงอยากทำรายการไปโกอินเตอร์มั้ง ภาพลักษณ์ของ The Face เหมือนทันสมัย เหมือนดูเฟียส ดูเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด แต่ในแง่การทำรายการกลับเฟลอย่างรุนแรง ส่วน MasterChef นี่เอาจริงๆมันน่าจะดูเชย แต่รายการกลับสนุกมาก ผมดูทุกวีค นี่เราพูดในแง่บริยทของรายการที่ซื้อมาจากเมืองนอกนะครับ
.
สำหรับ MasterChef วีคนี้ มาตรฐานก็ยังถือว่าสอบผ่านฉลุย ดูสนุกเหมือนเดิม แต่ขอติงเรื่องแอร์ไทม์และความเสมอภาคในการให้เวลาของผู้เข้าแข่งขัน วีคนี้สิ่งที่ไม่น่าให้อภัยเลยคือทำไมเราไม่ได้เห็นเชฟชิมอาหารของกะปอมเลย อันนี้ไม่โอเค ส่วนผลก็รับได้นะ จากที่เชฟคอมเมนต์ ตัวชูโรงของรายการอย่างเมี่ยงและยูริยังอยู่รวมถึงเบลล่า ส่วนหมอตั้มคงไม่ต้องพูดอะไรเยอะ วีคนี้นางทำให้เชฟชมได้เป็นวีคแรก ก็ไม่แน่ใจว่ารายการเก็บตัวจี๊ดๆพวกนี้ไว้โชว์ของช่วงวีคท้ายๆรึเปล่า แบบเอาให้คนดูอ้าปากค้างว่าจริงๆอีพวกนี้เก่งมากกกอะไรแบบนั้นไหม แต่ภาพรวม ยังไงมันก็เป็นรายการที่สนุกที่สุด งานตัดต่อดีมาก ดนตรี ซาวนด์ก็ดี เชฟป้อมคือตัวชูโรงของรายการ ต้องชมคนที่ไปเอามาทำจริงๆแหละว่านี่แหละคือการประสบความสำเร็จของรายการที่แท้จริง!!! การดุด่าการเตือนของเชฟป้อมนี่ดูไม่เฟคราย แกไม่เคยเป็นดาราไม่เคยได้ตุ๊กตาทอง แต่แกเตือนจริงๆเราสัมผัสได้ และคิดว่ามันไม่ใช่การแสดงเลย