Pacific Rim UPRISING
ถ้าหากภาคแรกคือหนังที่เรา หลงรัก และสร้างเสน่ห์ หนังภาค 2 คือการลบทุกสิ่งทุกอย่างที่ภาคแรกทำไว้เกือบทั้งหมด เสน่ห์ของหุ่นหายไป เหลือไว้เพียงแค่ฉาคแอ๊คชั่นที่พัฒนาขึ้น แต่ทางทีมงานอาจลืมไปแล้วว่าสิ่งที่ทำให้หนังมีคนชอบเยอะ ไม่ใช่ฉากแอ๊คชั่น หากแต่เป็นตัวหุ่น และตัวละครต่างหาก
ผกก. Guillermo Del Toro ในภาคแรกนั้น ยอมรับว่าชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างมาก ยิ่งการรับชม Mazinger Infinity มาก่อน ทำให้รู้เลยว่าเอกลักษณ์ของหุ่น Gipsy นั้นท่าต่อสู้เกือบจะเอามาจากมาชินก้าทั้งนั้น นอกจากนี้ฉากต่อสู้ก็ดูยิ่งใหญ่ ไคจูก็ดูน่ากลัว เนื้อเรื่องไม่สุกเอาเผากิน มีการปูมาเกือบ 20 ปีในหนัง ทั้งหมดผสมผสานรวมกับฉากแอ๊คชั่น บวกกับการปลุกเร้าอารมณ์แล้ว ทำให้ Pacific Rim ภาคแรกนั้นถูกจริตเหล่าคนที่โตมากับหนังหุ่นยนต์ หรือการ์ตูนหุ่นยนต์สู้สัตว์ประหลาดได้อย่างดี และไม่แปลกใจที่รายได้หลักของหนังจะมาจากเอเชีย ไม่ใช่อเมริกา
แต่ภาค 2 ทีมงานน่าจะเล็งเห็นการตีตลาดในอเมริกาให้มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงทั้งหุ่นยนต์ให้ดูผอมเพรียวขึ้น ปราดเปรียวขึ้น และมาสู้กันในตอนกลางวันมากขึ้น เพื่อเอาใจทั้งคนอเมริกาที่ชอบหุ่นยนต์ตีกันแบบใน Transformers และกำไรจากภาคแรกอย่างประเทศจีน อย่าแปลกใจที่อยู่ๆในหนังจะมีคนจีน อาตี๋ อาหมวยเดินกันให้ควัก ผิดกับบทของ Mako ในภาคแรกที่ไม่ได้อยู่ๆก็จะมาขับหุ่นได้ แต่แรงผลักดัน การเรียนรู้ทำให้นางได้มาขับหุ่น Jaeger ผิดกับในภาคนี้ที่ทั้งวันแทบจะไม่ได้ฝึกอะไร ก็สามารถขับหุ่นได้ ยิ่งการเชื่อมต่อ Drift ที่ยาก
ในภาคแรก มาภาคนี้มันดูง่ายดายเกินไป ง่ายเกินจนรับไม่ได้ ยิ่งฉากสู้นี่บอกได้เลยว่า Transformers จ๋ามากๆ ถ้าเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Transformers ก็คงไม่มีใครสงสัยแน่นอน
ตัวละครจากภาคเก่า ถูกใช้แบบเสียๆหายๆมาก ยิ่งมาโกะนี่ เสียดายที่สุด บทน่าจะใช้ได้มากกว่านี้ แต่ดันมาตัดบทแบบห้วนที่สุด สองตัวหลักจากภาคแรกอย่าง Dr.Newt และ Dr.Herman จากภาคแรกที่มีบทเด่นนิดหน่อย มาภาคนี้กลายเป็นตัวประกอบโดยสมบูรณ์ ยิ่งบทของ Newt ยิ่งน่าโมโหที่เขียนบทออกมาได้บัดซบมากที่สุดเลยทีเดียว
ตัวละครเก่าว่าหาย ตัวละครใหม่ Jake และ Nate สองตัวหลักผู้ขับหุ่น Gipsy Avenger ยิ่งถูกกลืนหาย คนแรกทำตัวน่ารำคาญ ไม่มีออร่า หรือรัศมีความเก่งมาเลย ยังสงสัยว่าได้ขับหุ่นได้ยังไงถ้าไม่ใช่นามสกุลพ่อ มีความวอนนาบีสูงมากๆ ที่จะเป็นผู้นำ แต่ไม่มีรัศมี หน้าตาดูเท่าไหร่ก็ผิดกับพ่อที่โคตรจะจริงจังเลย อีกคนอย่าง Nate ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตัวประกอบยิ่งกว่าสอง DR. ข้างบนเสียอีก เสียดายหน้าหล่อๆของแก คงยากและอีกนานกว่าจะก้าวให้ถึงขั้นพ่ออย่าง Clint Eastwood
งานภาพที่สวยๆ และดูเท่ห์จากภาคแรก มาภาคนี้
หายไปหมดเลย จากภาคแรกที่ภาพมืดๆปกปิด CG มันดันส่งให้หุ่นดูขลัง มีเสน่ห์ และเท่ห์สุดๆ แม้จะเคลื่อนไหวช้า แต่นั่นแหละคือหุ่นยนต์ของจริง ภาคนี้มันไม่ใช่หุ่นยนต์ มันคือคนที่ตัวใหญ่ในร่างหุ่นยนต์แค่นั้น ไม่มีเอกลักษณ์เสียเลย ภาคที่แล้ว Striker Eureka แม้จะเป็นพระรอง แต่เท่ห์สุดๆและมีเอกลักษณ์มากๆ แต่ภาคนี้ถามจริงว่ามีใครจำชื่อหุ่นได้หมดบ้าง จืดจางโคตรๆ ยิ่งให้เด็กไม่รู้หัวนอนปลายทีน มาขับ ยิ่งดูจืดจางลงไปใหญ่
แต่อย่างว่า มักจะมีคนพูดเสมอ "หนังดูเอามันส์ ก็อย่าไปคิดอะไรมาก" กรณีเดียวกับ Die Hard 5 ถ้าดูเอาสนุกก็ยังพอได้ แต่การปะหัวชื่อ Die Hard คนดูย่อมหวังมากกว่านั้น เช่นเดียวกันกับ Pacific Rim UPRISING ถ้าไม่มีหัวเรื่องว่า Pacific Rim ก็ยังพอว่า นี่คือหนังหุ่นยนต์สู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ได้สนุก CG ทำเนียนและต่อเนื่องมากขึ้น แต่คงลืมไปว่าสิ่งที่ทำให้คนรักจากภาคแรกมันหายไปหมดแล้ว บางทีสิ่งที่จะทำให้หนังได้ไปต่ออาจจะเป็นรายได้ แต่สิ่งที่จะทำให้คนรักหนังจริงๆ คือความประทับใจที่มีต่อหนัง ซึ่ง UPRISING ไม่มีเลยจริงๆ
Pacific Rim Uprising ไร้ซึ่งมนต์เสน่ห์เลยจริงๆ
ถ้าหากภาคแรกคือหนังที่เรา หลงรัก และสร้างเสน่ห์ หนังภาค 2 คือการลบทุกสิ่งทุกอย่างที่ภาคแรกทำไว้เกือบทั้งหมด เสน่ห์ของหุ่นหายไป เหลือไว้เพียงแค่ฉาคแอ๊คชั่นที่พัฒนาขึ้น แต่ทางทีมงานอาจลืมไปแล้วว่าสิ่งที่ทำให้หนังมีคนชอบเยอะ ไม่ใช่ฉากแอ๊คชั่น หากแต่เป็นตัวหุ่น และตัวละครต่างหาก
ผกก. Guillermo Del Toro ในภาคแรกนั้น ยอมรับว่าชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างมาก ยิ่งการรับชม Mazinger Infinity มาก่อน ทำให้รู้เลยว่าเอกลักษณ์ของหุ่น Gipsy นั้นท่าต่อสู้เกือบจะเอามาจากมาชินก้าทั้งนั้น นอกจากนี้ฉากต่อสู้ก็ดูยิ่งใหญ่ ไคจูก็ดูน่ากลัว เนื้อเรื่องไม่สุกเอาเผากิน มีการปูมาเกือบ 20 ปีในหนัง ทั้งหมดผสมผสานรวมกับฉากแอ๊คชั่น บวกกับการปลุกเร้าอารมณ์แล้ว ทำให้ Pacific Rim ภาคแรกนั้นถูกจริตเหล่าคนที่โตมากับหนังหุ่นยนต์ หรือการ์ตูนหุ่นยนต์สู้สัตว์ประหลาดได้อย่างดี และไม่แปลกใจที่รายได้หลักของหนังจะมาจากเอเชีย ไม่ใช่อเมริกา
แต่ภาค 2 ทีมงานน่าจะเล็งเห็นการตีตลาดในอเมริกาให้มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงทั้งหุ่นยนต์ให้ดูผอมเพรียวขึ้น ปราดเปรียวขึ้น และมาสู้กันในตอนกลางวันมากขึ้น เพื่อเอาใจทั้งคนอเมริกาที่ชอบหุ่นยนต์ตีกันแบบใน Transformers และกำไรจากภาคแรกอย่างประเทศจีน อย่าแปลกใจที่อยู่ๆในหนังจะมีคนจีน อาตี๋ อาหมวยเดินกันให้ควัก ผิดกับบทของ Mako ในภาคแรกที่ไม่ได้อยู่ๆก็จะมาขับหุ่นได้ แต่แรงผลักดัน การเรียนรู้ทำให้นางได้มาขับหุ่น Jaeger ผิดกับในภาคนี้ที่ทั้งวันแทบจะไม่ได้ฝึกอะไร ก็สามารถขับหุ่นได้ ยิ่งการเชื่อมต่อ Drift ที่ยากในภาคแรก มาภาคนี้มันดูง่ายดายเกินไป ง่ายเกินจนรับไม่ได้ ยิ่งฉากสู้นี่บอกได้เลยว่า Transformers จ๋ามากๆ ถ้าเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Transformers ก็คงไม่มีใครสงสัยแน่นอน
ตัวละครจากภาคเก่า ถูกใช้แบบเสียๆหายๆมาก ยิ่งมาโกะนี่ เสียดายที่สุด บทน่าจะใช้ได้มากกว่านี้ แต่ดันมาตัดบทแบบห้วนที่สุด สองตัวหลักจากภาคแรกอย่าง Dr.Newt และ Dr.Herman จากภาคแรกที่มีบทเด่นนิดหน่อย มาภาคนี้กลายเป็นตัวประกอบโดยสมบูรณ์ ยิ่งบทของ Newt ยิ่งน่าโมโหที่เขียนบทออกมาได้บัดซบมากที่สุดเลยทีเดียว
ตัวละครเก่าว่าหาย ตัวละครใหม่ Jake และ Nate สองตัวหลักผู้ขับหุ่น Gipsy Avenger ยิ่งถูกกลืนหาย คนแรกทำตัวน่ารำคาญ ไม่มีออร่า หรือรัศมีความเก่งมาเลย ยังสงสัยว่าได้ขับหุ่นได้ยังไงถ้าไม่ใช่นามสกุลพ่อ มีความวอนนาบีสูงมากๆ ที่จะเป็นผู้นำ แต่ไม่มีรัศมี หน้าตาดูเท่าไหร่ก็ผิดกับพ่อที่โคตรจะจริงจังเลย อีกคนอย่าง Nate ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตัวประกอบยิ่งกว่าสอง DR. ข้างบนเสียอีก เสียดายหน้าหล่อๆของแก คงยากและอีกนานกว่าจะก้าวให้ถึงขั้นพ่ออย่าง Clint Eastwood
งานภาพที่สวยๆ และดูเท่ห์จากภาคแรก มาภาคนี้หายไปหมดเลย จากภาคแรกที่ภาพมืดๆปกปิด CG มันดันส่งให้หุ่นดูขลัง มีเสน่ห์ และเท่ห์สุดๆ แม้จะเคลื่อนไหวช้า แต่นั่นแหละคือหุ่นยนต์ของจริง ภาคนี้มันไม่ใช่หุ่นยนต์ มันคือคนที่ตัวใหญ่ในร่างหุ่นยนต์แค่นั้น ไม่มีเอกลักษณ์เสียเลย ภาคที่แล้ว Striker Eureka แม้จะเป็นพระรอง แต่เท่ห์สุดๆและมีเอกลักษณ์มากๆ แต่ภาคนี้ถามจริงว่ามีใครจำชื่อหุ่นได้หมดบ้าง จืดจางโคตรๆ ยิ่งให้เด็กไม่รู้หัวนอนปลายทีน มาขับ ยิ่งดูจืดจางลงไปใหญ่
แต่อย่างว่า มักจะมีคนพูดเสมอ "หนังดูเอามันส์ ก็อย่าไปคิดอะไรมาก" กรณีเดียวกับ Die Hard 5 ถ้าดูเอาสนุกก็ยังพอได้ แต่การปะหัวชื่อ Die Hard คนดูย่อมหวังมากกว่านั้น เช่นเดียวกันกับ Pacific Rim UPRISING ถ้าไม่มีหัวเรื่องว่า Pacific Rim ก็ยังพอว่า นี่คือหนังหุ่นยนต์สู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ได้สนุก CG ทำเนียนและต่อเนื่องมากขึ้น แต่คงลืมไปว่าสิ่งที่ทำให้คนรักจากภาคแรกมันหายไปหมดแล้ว บางทีสิ่งที่จะทำให้หนังได้ไปต่ออาจจะเป็นรายได้ แต่สิ่งที่จะทำให้คนรักหนังจริงๆ คือความประทับใจที่มีต่อหนัง ซึ่ง UPRISING ไม่มีเลยจริงๆ