==== เบื้องหลังชีวิตค้าแข้ง และเหตุผลในคำอำลาของ แพร์ แมร์เทซัคเกอร์ Part 2 ====

แพร์บาดเจ็บหนักครั้งแรกในปี 2005 จากการถูกเตะเข้าที่เอ็นร้อยหวายในเกมทีมชาติ แต่การหยุดเวลาเพื่อทำการรักษาไม่มีอยู่ในทางเลือก ตอนนั้นฮันโนเวอร์ 96 กำลังจะตกชั้น ตัวเขาเองก็พยายามเพื่อที่จะติดทีมชาติให้ได้ เขาเล่นทั้งๆ อย่างนั้นเป็นปี จนกระดูกเริ่มผิดรูป “มันปวดแทบตาย แต่งานนี้ คุณต้องเตรียมใจสังเวยร่างกายอยู่แล้ว...

...ตราบใดที่ยังไม่ตาย คุณก็จะแข็งแกร่งขึ้น”


Part 1: https://ppantip.com/topic/37475677



เป็นจริงในพริบตา

ความพยายามของแมร์เทซัคเกอร์ได้รับการตอบแทนเป็นอย่างดี คลินส์มันน์เสนอชื่อเขาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเยอรมนี "ความคิดเรื่องการเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติในฟุตบอลโลก กลายเป็นเรื่องจริงในพริบตา"

แมร์เทซัคเกอร์เลื่อนจานอาหารไปด้านข้าง หยิบสมุดโน้ตสีแดงออกมา พลิกหน้ากระดาษเพื่อกวาดสายตามองสิ่งเขาเตรียมมาสำหรับการให้สัมภาษณ์กับ Der Spiegel "แน่นอนว่าผมผิดหวังเหมือนกันที่เราพ่ายอิตาลีตกรอบในรอบสี่ทีมสุดท้าย แต่มากกว่านั้นคือความโล่งใจ" เขาเล่า "ผมยังจำได้ราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทั้งหมดที่ผมคิดในตอนนั้นคือจบแล้ว มันจบแล้ว ในที่สุดมันก็จบลงแล้ว"

เขาเล่าว่า ตอนนั้นเขาอาจจะไม่สามารถเล่นนัดต่อไปได้ และมันไม่ใช่เพราะส้นเท้า "ผมถูกครอบงำด้วยความกดดัน" เขากล่าว "ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลา อาจนำมาซึ่งการเสียประตู" เขาเงียบไปชั่วขณะ "ระหว่างเกมอื่นๆ ก็มีความกลัวแบบนี้เหมือนกัน คุณจะคอยมองแต่สกอร์บอร์ดและนั่งนับเวลา แต่บนเวทีฟุตบอลโลก มันโหดร้าย" แมร์เทซัคเกอร์ตกอยูในห้วงความคิด มีผ้าเช็ดปากอยู่ในมือ เขาม้วนมันเข้าหากัน ครั้นแล้วก็คลี่ออกอีกครั้ง "แต่ผมจะพูดออกไปได้ยังไง จะบอกได้ยังไงว่าดีใจที่เราตกรอบ"

ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมในเยอรมนี และนักเตะอาชีพอาจเรียกว่าเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่งก็ว่าได้ ถึงพวกเราจะหมดแรงแล้ว แต่ก็มักจะถูกบอกว่า พวกเขามีสิทธ์นะแพร์ เขาได้ยินประโยคนี้บ่อยมากจนนับครั้งไม่ถ้วน และมักจะมาในช่วงเวลาที่เขาไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งนั้น และต้องการหลีกหนีไปจากผู้คน

บ่อยครั้งที่เขามองเห็นนักข่าวไม่ต่างจากฝูงแร้ง ตอนที่เบรเมนแพ้ มันต้องมีทีมถ่ายภาพสามชุดโผล่มาในเวลาซ้อมวันอาทิตย์ แต่ถ้าชนะละก็ พวกนี้จะไม่โผล่หน้ามาเลย มีแต่แฟนๆ เท่านั้นที่มา หลายครอบครัวที่ขับรถสองสามชั่วโมงเพื่อพาเด็กๆ มาดูพวกเราซ้อม

หลังจากเกมพบกับอัลจีเรียในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2014 เขาถูกผู้รายงานข่าวทีวีถามว่า ทำไมระหว่างเกมนี้ทีมถึงดูเอื่อยเฉื่อย และเต็มไปด้วยช่องโหว่ แมร์เทซัคเกอร์ ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย สวนกลับไปว่า “พวกคุณต้องการอะไรอีก ในเมื่อเราก็พยายามต่อสู้กันถึงที่สุดแล้ว ผมจะใช้เวลาพักสามวันในห้องน้ำแข็ง*” ในเกมนั้นเยอรมนีชนะ 2:1 *ice therapy ที่นักกีฬามักทำกันหลังออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อลดโอกาสในการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ

คำสัมภาษณ์ของแมร์เทซัคเกอร์ได้รับการตอนรับเป็นอย่างดี เขาเป็นนักเตะเยอรมนีที่ได้รับความนิยมสูง มีแฟนติดตามกว่าสามล้านคนบนเฟซบุ๊ค ผู้คนมากมายชอบเขา เขาไม่ได้สัก ไม่สวมต่างหู และไม่เคยมีภาพสุดเหวี่ยงกับนางแบบบนเรือยอชต์ในชายทะเลนีซหรืออิบิซ่า บางที นั่นอาจเป็นเสน่ห์ในแบบของเขา

จักรบด

เขาวกมาที่สมุดโน้ตอีกครั้ง หลังฟุตบอลโลกปี 2006 เขาต้องเข่ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาส้นเท้า

เขาเลือกคลินิกกายภาพบำบัดในเมืองโดเนาชเตาฟ์ ซึ่งตั้งอยู่ชายป่าบาวาเรีย “ผมอยากอยู่ห่างๆ จากเรื่องงาน สโมสร และสเตเดี้ยมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” เขาหยุดคิดอีกครั้ง เลือกใช้ถ้อยคำอย่างระมัดระวัง “ทุกคนมักคิดว่ามันเป็นเรื่องเศร้าที่คุณต้องพลาดการลงสนามเพราะบาดเจ็บ แต่ไม่ใช่เลย เพราะนั่นเป็นโอกาสเดียวที่คุณสามารถพัก เป็นทางเดียวที่จะพาคุณหนีออกจากเครื่องบดได้”

เครื่องบดที่ว่า หมายถึงการพบปะบรรดาสปอนเซอร์ การซ้อม และเกมการแข่ง สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า การประเมินผลในแต่ละวัน วิ่งไปกี่รอบ? เร็วแค่ไหน? ทำความสูงในการกระโดดได้เท่าไหร่? และไม่ว่าในเกมสิบนัดล่าสุดคุณจะทำผลงานได้ดีขนาดไหน คนก็จะให้ความสำคัญกับเกมปัจจุบันเท่านั้น

ฟุตบอลเป็นความสัมพันธ์ที่เกี่ยวโยงกันทั้งรักและชัง “ความรู้สึกเวลาแฟนๆ สรรเสริญคุณ มันยากจะบรรยาย แต่เมื่อไหร่ที่พวกเขาโห่ใส่ ตัวผมก็เหมือนจมอยู่ในความอัปยศ"

ในช่วงเวลาที่เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อย่างน้อยปีละครั้งที่ร่างกายของเขาต้องมีอาการประท้วง ในฤดูกาล 2007/08 เขากลับมาลงสนามได้ราวสามสัปดาห์ และเล่นในเกมยุโรป “จนมาวันนึงตอนซ้อมรอบแรก ตอนเริ่มก็ยังรู้สึกปกติดี กระทั่งสักพักถึงรู้สึกก็อกแก๊กที่หัวเข่า ผมล้มลง ขยับเข่าไม่ได้ ปรากฎว่าหมอนรองกระดูกเข่าฉีกขาด แบบนั้นแหละ อีกแล้วไง” แล้วเขาก็เดาะลิ้น

เขาใช้เวลานานทีเดียวเพื่อหาคำตอบ ว่าทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น “มันง่ายนิดเดียว ร่างกายของผมหมดแล้วไง มันหมดแล้ว ร่างกายของผมไม่พร้อมสำหรับการออกกำลังหนักๆ อีกแล้ว"

เขาเล่นที่คั่นหนังสือที่เหน็บอยู่บนหน้าสมุดโน้ต “ตอนที่ร่างกายผมไปต่อไม่ไหวแล้ว ผมก็จะเจ็บ มันเป็นแบบนี้เสมอ ผมเชื่อด้วยซ้ำว่าอาการบาดเจ็บเรื้อรังมันเป็นผลเกี่ยวเนื่องทางจิตใจ เพราะร่างกายให้จิตใจสงบลง แต่ไม่มีใครยืนยันได้ในเรื่องนี้"

ไม่มีสติ

เขาต้องหยุดพักเจ็ดสัปดาห์จากอาการหมอนรองกระดูกเข่าฉีกขาด เป็นอีกครั้งที่เขามาพักฟื้นในโดเนาชเตาฟ์ และที่นี่เองที่เขาได้พบกับภรรยา อุลริเค่อ ชตางเง่อะ แมร์เทซัคเกอร์เล่าว่าเขาได้รับประโยชน์มหาศาลจากความสัมพันธ์นี้ เธอเป็นอดีตนักแฮนด์บอลทีมชาติเยอรมนี รู้จักแรงกดดัน ความคาดหวัง และการนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน แพร์ยังบอกว่าวันไหนที่มีเกมลงเล่นตอนเย็น เขาแทบไม่เคยหลับได้ก่อนตีห้าเลย "แล้วคุณก็ต้องไปซ้อมวันถัดไปแบบแทบไม่มีสติ"

จนถึงทุกวันนี้ ภรรยาของเขาก็สามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องพูด เหมือนกับในปี 2012 ตอนที่เขานอนป่วยอยู่บนเตียงสามวัน เป็นอีกครั้งที่เขารับภาระหนักเกินไป และเขาแค่ต้องรอเวลาให้ความรู้สึกเหล่านั้นหายไป ความรู้สึกแบบไหนน่ะหรือ "ความเหนื่อยล้าไงล่ะ ความเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุด"

หลังจากที่เขาย้ายทีมจากฮันโนเวอร์มาอยู่เบรเมนในปี 2006 ที่นั่นถือเป็นครั้งแรกที่มีมีนักจิตวิทยาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาถูกแนะนำเอาไว้ประมาณว่า ถ้ามีอะไรก็สามารถคุยกับเขาได้นะ ทุกเวลาที่คุณต้องการ

เขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากข้อเสนอดังกล่าว “เวลาเขามาคุยกับเรา พวกเราก็จะทำเหมือนกับว่า ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก ผมสบายดี อยู่ให้ไกลจากผมนะ ฉันไม่อยากคุยกับคุณ” แมร์เทซัคเกอร์ลากเส้นบนผ้าเช็ดปากด้วยมีด เขายักไหล่ “คุณไม่อยากให้คนอื่นในทีมคิดว่าคุณมีปัญหา จนไม่เหมาะกับกีฬาที่มีการแข่งขันสูงหรอก"

ในสนามจะมีเพียงหนึ่งทีมก็จริง แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกคนต่างก็เป็นนักสู้โดยลำพัง บางคนอาจจะอ่อนไหวมากน้อยต่างกัน “คุณเล่นมุขตลกในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า อาจจะสนิทกับคนสักสองสามคน แต่มันก็เท่านั้น ไม่มีใครลดเกราะป้องกันตัวเองแล้วเอ่ยความรู้สึกที่แท้จริงออกมา” แต่ในวันแข่งจริง ทุกคนต่างก็วิ่งหาห้องน้ำ

แพร์ไม่เคยเปิดโอกาสให้ตัวเองคุยกับนักจิตวิทยาเลย กระทั่งย้ายมาอยู่อาร์เซนอล เขาถูกแนะนำในฐานะเพอร์ฟอร์แมนซ์โค้ช ที่จะมาช่วยให้หน้าที่กองหลังตัวกลางของเขาชัดเจนขึ้น นั่นช่วย “เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง” ให้แก่เขา

เขายังเล่าว่า นักจิตวิทยาไม่เคยถามเลย ว่าเครียดเรื่องอะไรหรือรู้สึกอย่างไหร่ในตอนนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่