เปิดใจ “ใหม่ ภวัต” ผกก.บุพเพสันนิวาส กับเบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้ เจ้าตัวเสียงสั่น เผยเหตุผลที่อยากก้มกราบ “แดง ศัลยา”

เครดิตจาก https://mgronline.com/entertainment/detail/9610000028126

เปิดหมดเปลือก “ผกก.ใหม่ ภวัต” ผู้อยู่เบื้องหลังฉากฟินๆ ในบุพเพสันนิวาส กับฉากประทับใจที่สุดในเรื่อง เผยซีนที่ “โป๊ป” เครียดขั้นสุด ถึงขั้นขอต่อรองเพราะทำไม่ได้ ยก “เบลล่า” คือนางเอกที่จองตัวอยากร่วมงานด้วยอีก “โมสต์” ที่รับบท “ไอ้จ้อย” น้อยเนื้อต่ำใจที่บทด้อยได้เล่นเป็นบ่าว ไม่คิดว่าตนเองจะดัง จนอยากออกจากวงการ - ลั่นยอมรับผิดทำงานชุ่ยปล่อยให้มีฉากหลุด พร้อมเฉลยทำไมบทผิดพลาด อยู่ๆ ไม่มีฉากหมูกระทะที่ทุกคนรอคอย เจ้าตัวเสียงสั่นอยากก้มกราบ “แดง ศัลยา” แง้มตอนจบมีการแก้ไขบท ก่อนเผยเบื้องหลังการทำงานที่ไม่มีใครรู้มาก่อน

ฟีเวอร์กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว สำหรับละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่แม้จะเพิ่งออกอากาศไปเพียงไม่กี่ตอน แต่กลับสร้างปรากฏการณ์อะเมซิ่งขึ้นหลายอย่างในวงการละครไทย โดยเฉพาะเรตติ้งที่สูงถล่มทลาย คนติด “ออเจ้า” ทั่วบ้านทั่วเมือง ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าทำละครสนุก ทีวีไม่ตายแน่นอน ยังไงคนก็อยากดูสด ตอนนี้บุพเพสันนิวาสไม่ได้ดังแค่ในไทย แต่ยัง world wide ไปเอเชีย มีซับไตเติลจีน เกาหลี รัสเซีย และมีข่าวว่าจีนสนใจที่จะซื้อเรื่องนี้ไปฉายโกยเงินเข้าไทย จึงไม่แปลกที่เรื่องนี้จะถูกยกให้เป็นโมเดลละครไทยที่ผู้ผลิตละครในบ้านเราต้องหันมามอง

แน่นอนว่าปัจจัยที่ทำให้ “บุพเพสันนิวาส” ดังเปรี้ยงทะลุจอ นอกจากบทสนุก พระเอก-นางเอกเล่นดีตีบทแตก นักแสดงในเรื่องมีส่วนสำคัญแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังที่ต้องให้เครดิตเลยก็คือ “ผู้กำกับการแสดง” ของเรื่อง “ใหม่ ภวัต พนังคศิริ” เพราะหากไม่ใช่มือผู้กำกับคนนี้ละครก็อาจจะไม่ฟินและอินมากขนาดนี้ โดยเจ้าตัวได้ให้นิยามบทบาทของตัวเองว่าเป็นเหมือนคนปรุงอาหารให้ละครเรื่องนี้กลมกล่อม ยกเรื่องนี้คือผลงานมาสเตอร์พีซ พร้อมเปิดใจถึงการถ่ายทำที่ยาวนาน 1 ปี 8 เดือน กว่าจะมาเป็นบุพเพสันนิวาส กับหลายเรื่องราวที่ไม่มีใครรู้มาก่อน บอกได้คำเดียวว่าหินสุดๆ เบื้องหลังกับเบื้องหน้าสนุกเข้มข้นพอๆ กันเลยนะออเจ้า

ย้อนรอยจุดเริ่มต้น กดดันตั้งแต่ยังไม่เริ่มกำกับ

“ตัดสินใจรับงานนี้ตั้งแต่เห็นชื่อเรื่องแล้วครับ พี่หน่อง (อรุโณชา) บอกว่าเป็นละครพีเรียด เรื่องบุพเพสันนิวาส ผมก็รับเลย ทั้งที่ยังไม่เห็นบทด้วยซ้ำ (ยิ้ม) เหตุผลเพราะ 1. ผมชอบละครพีเรียด 2. คิดว่ามันต้องมีอะไรแน่เลย ด้วยชื่อบุพเพสันนิวาสมันมีความละเมียดอะไรบางอย่าง ผมรู้สึกอยากทำละครพีเรียดละเมียดๆ สวยๆ บ้าง เพราะเรื่องก่อนกำกับเรื่องบางระจัน ก็จะดูดิบๆ หน่อย ก็เลยไปเอาหนังสือของคุณรอมแพงมาอ่านแล้วชอบมาก อ่านรวดเดียวจบโดยที่ไม่วาง มันสนุกมาก แล้วเป็นละครที่ไม่มีตัวนางร้ายแบบละครทั่วไป มันเหมือนโรดมูฟวี นางเอกท่องเที่ยว นั่นคือเสน่ห์อย่างหนึ่ง การที่นางเอกท่องเที่ยวในกรุงศรีอยุธยา การใส่รายละเอียดของพี่อุ้ย (จันทร์ยวีร์ สมปรีดา หรือนามปากกา รอมแพง ผู้เขียนบทประพันธ์) มันเลยดูน่าสนใจ สนุกไปกับเกศสุรางค์ หรือการะเกด”

“พอเริ่มทำ ป้าแดง ศัลยา ก็เขียนบทโทรทัศน์ และต้องใช้ระยะเวลาในการเขียนบทพอสมควร ต้องยอมรับว่าฝีมือระดับอาจารย์ บทก็เลยสนุกเข้าไปอีก พอมาถึงหน้าที่เรา นวนิยายก็สนุก บทก็สนุก ความกดดันโยนมาที่เราแล้ว (หัวเราะ) เราต้องทำให้สนุก ถ้าตีความว่าเราเป็นคนดู เราเป็นผู้กำกับต้องทำให้ละครสนุก (ได้ถามพี่หน่องมั้ยว่าทำไมเลือกเรา?) เพราะเราแสดงออกบ่อยๆ ว่าชอบพีเรียด พี่หน่องก็จะรู้ว่าผมชอบและถนัดพีเรียด ทำแล้วมีความสุข มันเป็นทางของเรา ละครปัจจุบันก็ทำนะครับ มันขึ้นอยู่กับเนื้องานมากกว่า”

“ความชอบแนวพีเรียดอยู่แล้วทำให้กำกับเรื่องนี้ง่ายขึ้น เรารู้ว่าเราจะฟินตรงไหน (หัวเราะ) เรารู้ว่าอะไรจะทำให้ฟินได้บ้าง แสง เสียง แสงเทียนวิบวับๆ ความละมุน กับละครพีเรียด ความสโลว์ไลฟ์ของอดีตที่มีความสวย งดงามวิจิตร เราก็จะดึงตรงนั้นแหละเข้ามาใช้ในละครพีเรียดที่ทำ”

“ตอนที่อ่านนวนิยายเรื่องนี้ ผมก็วาดภาพในหัวไว้อย่างที่ทุกคนที่อ่านนวนิยายวาด และรู้สึกอยากเห็นอย่างที่ทุกคนที่อยากเห็น เพราะฉะนั้นเราก็จะมีภาพฝันของเราว่าซีนนี้ต้องอย่างนี้ๆ แต่พอมานั่งคิดในฐานะคนทำคงทำขนาดนั้นไม่ได้หรอก บ้าเหรอ (หัวเราะ) ยอมรับว่าเราไม่มั่นใจว่าจะทำได้อย่างที่วาดภาพไว้มั้ย เพราะใครจะไปเห็นเมืองอยุธยาทั้งเมือง คือขนาดนั้นฮอลลีวูดหรือเปล่า (หัวเราะ) เพราะเรารู้ศักยภาพของเราประมาณหนึ่ง ทั้งซีจีต่างๆ ด้วย-เวลาที่จำกัดด้วย มันมีข้อจำกัดหลายอย่างก็เลยได้อย่างที่เห็น เราพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้วครับ หลังๆ จะมีเวลาหน่อยมันก็จะดูสวยขึ้น สมจริงขึ้น ละเอียดขึ้น”

“โป๊ป-เบลล่า” คือใช่เลย นี่แหละ “การะเกด-พี่หมื่น” เปิดอกคุยกับเบลล่าตรงๆ อันไหนเล่นล้นไม่เอา เผยมีซีนที่โป๊ปเดินเข้ามาขอต่อรองเพราะทำไม่ได้

“รู้สึกว่าใช่เลย กับโป๊ปใช่เลย เขามีมาดบางอย่าง ต้องยอมรับว่าโป๊ปเล่นละเอียด โดยเฉพาะสายตา ผมเคยร่วมงานกับโป๊ปมาแล้วในเรื่องบ่วง ส่วนเบลล่าเพิ่งเคยทำงานด้วยกันครั้งแรก เราก็มาตีความกัน คุยกัน แล้วก็มาแยกตัวละครกันว่าอันนี้เกศสุรางค์นะ อันนี้การะเกดนะ อันนี้เกศสุรางค์ที่อยู่ในร่างของการะเกดนะ ซับซ้อนมีรายละเอียดย่อยเข้าไปอีก เบลล่าเล่นออกมาได้ชัดเจน ก็รู้สึกว่าเบลล่าเก่งมาก ตั้งใจ มีลูกละเอียดเยอะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นพอคนละเอียดกับคนละเอียดมาเจอกัน เราก็เลยมีสายตาวิบวับให้รับรีแอ็กต์ได้มากมายอย่างที่ทุกคนเห็น (หัวเราะ) ถ่ายรับหน้าโป๊ปใช้ได้หมด เพราะตาเขาบอกหมดว่าสื่ออะไร ต้องการอะไร โดยเฉพาะเลิฟซีนทั้งหลายแหล่ ถือว่าผมมีวัตถุดิบที่ดี นวนิยายดี บทประพันธ์ดี พระ-นางดี ผมในฐานะผู้กำกับมีหน้าที่จับทุกอย่างใส่รวมกัน ปรุงรสให้กลมกล่อม”

“เราก็รู้สึกว่าสองคนนี้โอเคเลย ผมมีความรู้สึกว่าเบลล่าสวย แล้วอยากถ่ายเขา ถ้าเราเห็นนักแสดงคนไหนแล้วเรารู้สึกอยากถ่ายเขา แสดงว่าเขามีเสน่ห์กับเรา พอได้ร่วมงานแล้วเบลล่าได้ดั่งใจมากครับ เพราะเบลล่าตั้งใจในทุกๆ ฉาก เราจะคุยกับเบลตลอดว่าอันไหนเรียกว่าล้น อันไหนต้องคุม เล่นเยอะไปไม่เอา ขนาดคุมกันอยู่นะก็จะมีคนถามว่านางเอกล้นไปหรือเปล่า แต่ผมอยากให้ตีความกลับกันดีๆ ทุกคนน่าจะเข่าใจว่านักโบราณคดี (นางเอกเรียนโบราณคดี) เรียนโบราณคดีมา เห็นแต่ในหนังสือ พอไปเจอของจริงมันจะไม่ตื่นตาตื่นใจเหรอ จริงๆ ไม่ล้นนะครับ เพราะมันเป็นความรู้สึกของเขาครับ แล้วเราก็บอกเบลล่าให้ทำเป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่หนูจะทำได้ ผมจะมีหน้าที่คุมให้ เราจะแชร์กันตลอดว่าอันนี้พอแค่นี้ๆ โป๊ปกับเบลล่าทำการบ้านดีมาก (ลากเสียง)”

“ในส่วนของโป๊ปเขาทำการบ้านเรื่องของภาษา นอกจากที่เขาจะต้องตีความอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะมากมายแล้ว บทเขาต้องเป๊ะ โป๊ปเคยเดินเข้ามาถามว่า เราต้องเป๊ะขนาดนี้เลยเหรอพี่ใหม่ เราสลับคำบ้างได้มั้ย แต่ผมก็บอกเขาไปว่าไม่ดีหรอก พี่รู้ว่ามันยากแต่ให้โป๊ปลองพูดมาก่อน เพราะผมมีความรู้สึกว่าป้าแดง ศัลยา ตั้งใจเขียนบทมาให้เป็นภาษาแบบนี้ อาจจะไม่ใช่ภาษาปกติที่เราพูดกันทุกวันแต่ลองพูดออกมาก่อน จนสุดท้ายน้องไปทำการบ้านมา จนถ่ายทำในฉาก ผมก็เรียกให้เขามาดูในมอนิเตอร์ว่ามันเจ๋งขนาดไหน เวลาที่นักแสดงพูดโต้ตอบกันโดยใช้ภาษายากๆ ของป้าแดงเนี่ย ซีนที่เขาต่อว่านางเอก (ซีนแรปด่านางเอก) ซีนนี้ก็เหมือนกันโป๊ปมาต่อรองขอพูดทีละท่อนได้มั้ย (หัวเราะ) ผมก็บอกเขาว่าให้พูดรวดเดียวให้จบเลย ถ้าโป๊ปพูดอันนี้ได้โป๊ปเจ๋งมาก ดูภาษาสิ ใครจะพูดได้ แต่ถ้าโป๊ปพูดได้มันจะเจ๋งสำหรับโป๊ปเลยนะ เราก็พูดกับเขา ซึ่งเขาก็ไปท่องไปทำการบ้านมา พอถ่ายออกมาคนก็พูดถึงเยอะ (ยิ้ม)”

“โป๊ปเป็นคนตั้งใจทำงาน จนบางทีตั้งใจมากไป (หัวเราะ) จนต้องบอกว่าโป๊ปตัดความกังวลออกไปบ้างก็ได้ แต่เราก็พูดอ้อมๆ กับน้อง ก็ไม่รู้ว่าน้องเข้าใจหรือไม่นะ (หัวเราะ) ก็บอกเขาว่าพี่จะดูแลให้จนถึงที่สุด เรื่องที่เขากังวลมากที่สุดคือเรื่องภาษา เขากังวลมาเป็นอันดับหนึ่งเลย เพราะเขารู้สึกว่ามันยาก แล้วก็เรื่องแอ็กติ้ง เขาเล่นพีเรียดเรื่องแรกเขาไม่ถนัด เขาก็จะเครียด มีบางครั้งที่เขาเดินตรงมาที่มอนิเตอร์เลย ผมก็จะบอกเขาว่าสบายใจได้ มันโอเคแล้ว ทำให้เขาผ่อนคลายขึ้น (เวลานักแสดงกดดัน มีวิธีทำให้เขาคลายความกดดันได้อย่างไร?) ผมจะคุยกับเขาในระดับนึงก่อน แต่ไม่ไปเพิ่มแรงกดดันให้เขาว่ามันต้องอย่างโน้นอย่างนี้ หรือไปพูดเอาใจเขาว่ามันดีแล้วๆ จะเรียกให้เขามาดูมอนิเตอร์เพื่อดูการแสดงของตัวเองเลย และถามเขาว่ารู้สึกอะไรมั้ย”

สุดยอดซีนประทับใจที่สุดในเรื่อง คนดูเตรียมผ้าเช็ดตัวไว้ซับน้ำตาได้เลย

“เกือบจะทุกซีนของเบลล่า ผมชอบหมดเลย เกือบจะทุกซีนของโป๊ป ผมก็ชอบหมดเลยเหมือนกัน ซีนเข้าพระเข้านางชอบหมด ทั้งๆ ที่บางซีนเขาเล่นกันไปแล้วกังวล เขากังวลทั้งสองคนว่าเล่นไปแล้วจะดีมั้ย จะโอเคมั้ย ผมก็จะคอยบอกว่าไม่ต้องกังวล ปล่อยไปเต็มที่แล้วเดี๋ยวพี่ใหม่จะดูให้ หลังๆ ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น ค่อยๆ ไหลรื่นขึ้น”

“ซีนของเบลล่าที่ผมประทับมากที่สุด คือ สองซีนที่การะเกดจะตาย กับซีนที่เกศสุรางค์รู้ตัวว่าตัวเองตายแล้ว เพราะมันบีบหัวใจเหลือเกิน ซีนที่เขาจะตายมันบีบหัวใจมากเพราะเขาสำนึกผิดแล้วนะ แต่วินาทีนี้มันช่วยอะไรไม่ได้ คนเราจะมาสำนึกบาปเอาวินาทีที่จะตาย จะมาไหว้พระเอาตอนจะตายมันไม่ได้แล้วครับ ตอนถ่ายเราก็พูดให้น้องเข้าใจว่าทำไมตอนจะตายแล้วทำไมต้องมองหาพระ ทำไมต้องให้พระช่วย ตอนทำผิดไม่คิดเหรอการะเกด นี่คือสิ่งที่เราพูดให้น้องเห็นภาพว่าจะต้องเล่นยังไง”

“กับซีนที่เขารู้ตัวว่าเขาตายแล้ว มันเจ็บปวดเหลือเกิน ตอนนี้เราจะเห็นเบลสนุกสนานไปกับโลกอดีตทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองตาย พอมีวันหนึ่งที่วิญญาณเขาหลุดออกไปจากร่าง ชีปะขาวก็พาเขาให้ไปเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งซีนนี้ยังไม่ถึง ยังไม่ออกอากาศ มันเป็นซีนที่อยากให้ดูครับ (ยิ้ม) น้องเต็มที่มาก และไม่ใช่แค่น้องเบลนะ โป๊ปก็ใจจะขาด ปั้นจั่นก็ใจจะขาด ทั้งสามคนในซีนนี้ผมชอบหมดเลย รวมถึงคุณยายบรรเจิดศรี (ยายนางเอก) และพี่เจี๊ยบ ปวีณา (แม่นางเอก) ทั้งสองคนออกน้อยฉากก็จริง แต่มาแบบน้อยแต่มากจริงๆ แล้วซีนนั้นเป็นซีนเจ็บปวดหัวใจ เชื่อว่าต้องเตรียดผ้าเช็ดตัวไว้ซับน้ำตากันเลยครับ (ยิ้ม)”

ฟินกันทุกตอน โดยเฉพาะสายตาและน้ำเสียงของพี่หมื่นโป๊ป ที่ทำเอาสาวๆ ระทวยทั้งพระนคร กับฉากล่าสุดที่หมื่นโป๊ปพานางเอกไปดูละครนอกวัง แล้วกระซิบข้างหูนางเอกจนจะอมหูนางเอกอยู่แล้ว ซึ่งกลายเป็นฉากที่คนพูดถึงมากที่สุดอีกฉากหนึ่ง

“โป๊ปเล่นตามบทครับ (หัวเราะ) ป้าแดงค่อนข้างละเอียดกับเรื่องนี้มาก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงหน้าที่ผู้กำกับก็จะเป็นเรื่องของจังหวะกับเติมอารมณ์เข้าไปบางอย่าง ความรู้สึกบางอย่างที่มันฟรุ้งฟริ้งเวลาหน้าชนกัน มีการจัดแสงพิเศษ ทุกคนจะเห็นว่าเวลาเข้าใกล้กันหรือหน้าชนกันมันจะมีแสงอะไรก็ไม่รู้เรืองขึ้นมา อีโรติกมากๆ (หัวเราะ) เพื่อบิวด์นิดหนึ่ง แต่จริงๆ มันเป็นซิมโบลิก (symbolic) บางอย่างว่าสองคนนี้เจอกันด้วยปาฏิหาริย์นะ ไม่ได้เจอกันธรรมดา อยู่คนละภาพชาติแต่มาเจอกัน มันเป็นเรื่องบุพเพสันนิวาส เป็นเรื่องของพรหมลิขิต เพราะฉะนั้นมันต้องมีอะไรพิเศษ ส่วนเรื่องสายตาของโป๊ปจะบอกว่าของเขามีอยู่แล้ว โป๊ปเขาเล่นละเอียด เขาเข้าใจบท เขาตีบทแตกถึงได้เล่นออกมาได้ขนาดนี้ กล้องเวลาถ่ายรับหน้าโป๊ปมันใช้ได้หมดเลย เราเป็นผู้กำกับเรารู้สึกได้เลย บางซีนไม่ต้องมีไดอะล็อก แต่ตาโป๊ปพูดแทน อาการโป๊ปพูดแทน น้ำเสียงโป๊ป มันสื่อได้หมด ผมเป็นแค่คนคุมจังหวะมากกว่าว่าเอาประมาณนี้ๆ”

ยอมรับว่าเป็นความโชคดีของผู้กำกับที่ได้พระเอกเป็นโป๊ป นางเอกเป็นเบลล่า

“ถูกต้องครับ บุพเพสันนิวาสจริงๆ ครับ (เพราะก่อนหน้านี้พระ-นางไม่ใช่สองคนนี้?) ใช่ครับ ผมถือว่าเราได้วัตถุดิบดีหมดเลย ตัวละครอื่นๆ ก็ดีหมด บางคนไม่ได้มีอะไรมากเราก็พยายามทำให้มีอะไรขึ้นมา ผมเป็นคนที่เวลากำกับแล้วจะชอบใส่ใจรายละเอียดตัวอื่นด้วย เพื่อเสริมให้กับตัวเมนอย่างแม่ปริก (แอ๊ว อำภา ภูษิต) ได้ดั่งใจเลยครับ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่