สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
การเข้าศูนย์เช็คระยะของรถยนต์ จะมี 2 แบบ ครับ คือ ระยะเวลา และ ระยทาง
เรื่องนี้ ผมอธิบายบ่อยมาก ๆ เพราะบางคนมักจะไม่ดูเวลา แต่ดูแค่ระยะทางอย่างเดียว ซึ่งมันไม่ได้ครับ เพราะลักษณะการใช้งานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยที่ทางบริษัท เช่น HONDA จะกำหนดให้ เข้าเช็คระยะ 6 เดือน / 10,000 กม อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมาถึงก่อน
อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมาถึงก่อน ย้ำอีกที
กรณีที่ 1.รถวิ่งน้อยมาก ๆ
สมมติ เดือนนึงขับไปแค่ 500 กม ถามว่า กี่เดือนจะครบ 10,000 กม คำตอบคือ 20 เดือน หรือเกือบ 2 ปี ซึ่งมันไม่ใช่ครับ ดังนั้น กรณีนี้ คุณต้องเข้าศูนย์ที่ระยะเวลา คือ 6 เดือนครับ โดยที่ไม่ต้องไปสนระยะทางครับ ว่า 6 เดือน มันวิ่งไปแค่ 3,000 กม เท่านั้นเอง
กรณีที่ 2 รถวิ่งเยอะมาก ๆ แต่อันนี้ ไม่ค่อยมีปัญหา
สมมติ เดือนนึงวิ่งไป 5,000 กม เดือนที่ 2 ก็ 10,000 กม ก็เข้าศูนย์ตามระยะทางที่ 10,000 กม ได้ โดยที่ไม่ต้องไปสนใจกับ ระยะเวลาที่มันยังไม่ถึง 6 เดือน โดย กรณีนี้ มักไม่ค่อยมีปัญหา สำหรับรถวิ่งเยอะ
บางคนมักจะสงสัยว่า ทำไมหละ รถวิ่งน้อย ก็ยืดระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ออกไปไม่ได้เหรอ บางคนบอกว่า ปีนึง วิ่ง 5,000 กม งั้น 2 ปี ก็เปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งเดียวก็พอ
ขออธิบายแบบนี้ครับ
ถามว่า รถใช้งานหนัก คือ อะไร
- รถใช้งานในขณะที่อุณหภูมิยังไม่เหมาะสม เช่น ขับออกจากบ้าน แล้วขับอยู่ในหมู่บ้าน เช่น ถอยรถออกจากบ้าน ดับเครื่องมาปิดประตูบ้าน แล้ว สตาร์ทใหม่ ขับไปอีก 2 ซอย ดับเครื่อง แวะซื้อกับข้าว สตาร์ทใหม่ ขับไปอีก 2 ซอย เจอพระ ดับเครื่อง ใส่บาตร สตาร์ทใหม่ ขับไปอีก 300 เมตร ดับเครื่อง แวะเอาผ้าส่งร้านรีดผ้า สตาร์ทใหม่ ขับไปอีก 100 เมตร ดับเครื่อง แวะตัดผม อะไรแบบนี้ เครื่องยนต์เรียกได้ว่า สึกหรอสุด ๆ แต่ไมล์ไม่ขึ้นเลย
- รถใช้งานในเมือง ที่รถติดทุกวัน ๆ สมมติว่า ออกจากบ้าน 5:30 ถึงที่ทำงาน 8:00 ระยะทางวิ่งไป 25 กม แต่เครื่องยนต์ทำงานไป 2:30 ชั่วโมง และขากลับ เอาเท่าเดิมละกัน อีก 30 กม เจอรถติดอีก เครื่องยนต์ + เกียร์ ทำงานไปอีก 2:30 ชั่วโมง
สรุป วันนึง วิ่งไป 55 กม แต่เครื่องยนต์และเกียร์ ทำงานหมุนเวียนในระบบไป 5 ชั่วโมง สมมติเดือนนึง ทำงาน 22 วัน ก็แค่ 1,210 กม แค่นั้นเอง แต่เครื่องยนต์ + เกียร์ ทำงานไป 110 ชั่วโมง
ถ้าเทียบกับรถวิ่งต่างจังหวัด ที่ความเร็ว 110 กม/ชม วิ่งไป 110 ชั่วโมงเหมือนกัน แต่ ระยะทางเขาวิ่งไปแล้ว 12,100 กม ซึ่ง เขาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไปแล้วรอบนึง ก่อนหน้าจะครบ 110 ชั่วโมงด้วยซ้ำ
แต่รถคันแรก ที่วิ่งในเมือง ใช้ระยะเวลาที่เครื่องยนต์ทำงานเท่ากันกับคันที่ 2 แต่กลับบอกว่า รอครบ 10,000 กม ค่อยเปลี่ยนก็แล้วกัน
นี่เหละครับ สาเหตุที่ ทำไมทางศูนย์รถยนต์ เขาถึงกำหนด ระยะเวลาด้วย เพราะเขาไม่รู้หรอกครับว่า ลักษณะการใช้งานของคุณ เป็นอย่างไร
จริงอยู่ว่า รถคุณอาจจะวิ่งแค่ 42,000 กม แต่ ทางบริษัทเขาไม่รู้หรอกครับว่า คุณอาจจะใช้งานในกรุงเทพ เจอรถติดทุกวัน วันละ 2 - 3 ชั่วโมง น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์มันก็ต้องหมุนเวียนในระบบของมัน เพียงแต่ระยะทางมันไม่ขึ้น ก็้เท่านั้นเอง
สมมติว่า คุณใช้งานในเมือง วันละ 2 ชั่วโมง ขับทุกวัน เท่ากับเครื่องยนต์+เกียร์ทำงานไป 60 ชม/เดือน ซึ่ง 12 เดือน ก็เท่ากับ 720 และ 3 ปี ก็เท่ากับ 2,160 ชั่วโมง
การที่เครื่องยนต์ทำงานไปแล้ว 2,160 ชั่วโมง ถ้าเทียบกับรถอีกคันที่ใช้งานต่างจังหวัด ที่ความเร็ว 110 กม/ชม เขาวิ่งไป 237,600 กม แล้วนะครับ
ยิ่งบางคันเนี่ย เจอรถติด ๆ ในกรุงเทพ เอะอะเข้า P เอะอะเข้า P คือ รถติดเนี่ย เข้า P ตลอด พอขยับหน่อย 3 เมตร เปลี่ยนมา D พอหยุดเข้า P อีกละ ผมขับตามยังรำคาญไฟถอยเลย เดี๋ยวติด ๆ โอ้ย ไม่อยากจะคิด ใครซื้อรถต่อคันนั้นไปนี่ ทำใจเลย
กรณีของคุณเนี่ย ผมว่า ลองหาร้านซ่อม CVT ดูครับ เพราะระบบเกียร์ CVT สมัยนี้ มีช่างที่รับซ่อม CVT เริ่มเยอะขึ้นครับ อย่างผมเห็นคนใช้ JAZZ โฉมแรก ก็มีเอาไปโอเวอร์ฮอลกัน ราคาเมื่อหลายปีก่อนอยู่ที่ประมาณไม่ถึง 30,000 บาท ปัจจุบัน ก็ไม่น่าจะถึง 20,000 บาทแล้ว ลองดูนะครับ ดีกว่า เสียเป็นแสน
หมายเหตุ การคำนวณ ระยะการทำงานเครื่องยนต์ + เกียร์ ในขณะรถติด กับการเทียบกับรถที่วิ่งต่างจังหวัด เป็นตัวเลขที่ผม สมมติขึ้น เพื่อความง่ายในการเข้าใจ มันอาจจะไม่ถูกต้อง 100 % แต่เพื่อให้เห็นภาพว่า ถึงแม้ขณะรถติดนั้น เครื่องยนต์และระบบเกียร์ทุกอย่าง มันก็มีน้ำมันที่หล่อลื่นหมุนเวียนในระบบ ไม่ใช่ว่า รถวิ่งในเมือง แต่ไมล์ไม่ขึ้นเลย ก็ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ก็ได้
เรื่องนี้ ผมอธิบายบ่อยมาก ๆ เพราะบางคนมักจะไม่ดูเวลา แต่ดูแค่ระยะทางอย่างเดียว ซึ่งมันไม่ได้ครับ เพราะลักษณะการใช้งานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยที่ทางบริษัท เช่น HONDA จะกำหนดให้ เข้าเช็คระยะ 6 เดือน / 10,000 กม อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมาถึงก่อน
อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมาถึงก่อน ย้ำอีกที
กรณีที่ 1.รถวิ่งน้อยมาก ๆ
สมมติ เดือนนึงขับไปแค่ 500 กม ถามว่า กี่เดือนจะครบ 10,000 กม คำตอบคือ 20 เดือน หรือเกือบ 2 ปี ซึ่งมันไม่ใช่ครับ ดังนั้น กรณีนี้ คุณต้องเข้าศูนย์ที่ระยะเวลา คือ 6 เดือนครับ โดยที่ไม่ต้องไปสนระยะทางครับ ว่า 6 เดือน มันวิ่งไปแค่ 3,000 กม เท่านั้นเอง
กรณีที่ 2 รถวิ่งเยอะมาก ๆ แต่อันนี้ ไม่ค่อยมีปัญหา
สมมติ เดือนนึงวิ่งไป 5,000 กม เดือนที่ 2 ก็ 10,000 กม ก็เข้าศูนย์ตามระยะทางที่ 10,000 กม ได้ โดยที่ไม่ต้องไปสนใจกับ ระยะเวลาที่มันยังไม่ถึง 6 เดือน โดย กรณีนี้ มักไม่ค่อยมีปัญหา สำหรับรถวิ่งเยอะ
บางคนมักจะสงสัยว่า ทำไมหละ รถวิ่งน้อย ก็ยืดระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ออกไปไม่ได้เหรอ บางคนบอกว่า ปีนึง วิ่ง 5,000 กม งั้น 2 ปี ก็เปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งเดียวก็พอ
ขออธิบายแบบนี้ครับ
ถามว่า รถใช้งานหนัก คือ อะไร
- รถใช้งานในขณะที่อุณหภูมิยังไม่เหมาะสม เช่น ขับออกจากบ้าน แล้วขับอยู่ในหมู่บ้าน เช่น ถอยรถออกจากบ้าน ดับเครื่องมาปิดประตูบ้าน แล้ว สตาร์ทใหม่ ขับไปอีก 2 ซอย ดับเครื่อง แวะซื้อกับข้าว สตาร์ทใหม่ ขับไปอีก 2 ซอย เจอพระ ดับเครื่อง ใส่บาตร สตาร์ทใหม่ ขับไปอีก 300 เมตร ดับเครื่อง แวะเอาผ้าส่งร้านรีดผ้า สตาร์ทใหม่ ขับไปอีก 100 เมตร ดับเครื่อง แวะตัดผม อะไรแบบนี้ เครื่องยนต์เรียกได้ว่า สึกหรอสุด ๆ แต่ไมล์ไม่ขึ้นเลย
- รถใช้งานในเมือง ที่รถติดทุกวัน ๆ สมมติว่า ออกจากบ้าน 5:30 ถึงที่ทำงาน 8:00 ระยะทางวิ่งไป 25 กม แต่เครื่องยนต์ทำงานไป 2:30 ชั่วโมง และขากลับ เอาเท่าเดิมละกัน อีก 30 กม เจอรถติดอีก เครื่องยนต์ + เกียร์ ทำงานไปอีก 2:30 ชั่วโมง
สรุป วันนึง วิ่งไป 55 กม แต่เครื่องยนต์และเกียร์ ทำงานหมุนเวียนในระบบไป 5 ชั่วโมง สมมติเดือนนึง ทำงาน 22 วัน ก็แค่ 1,210 กม แค่นั้นเอง แต่เครื่องยนต์ + เกียร์ ทำงานไป 110 ชั่วโมง
ถ้าเทียบกับรถวิ่งต่างจังหวัด ที่ความเร็ว 110 กม/ชม วิ่งไป 110 ชั่วโมงเหมือนกัน แต่ ระยะทางเขาวิ่งไปแล้ว 12,100 กม ซึ่ง เขาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไปแล้วรอบนึง ก่อนหน้าจะครบ 110 ชั่วโมงด้วยซ้ำ
แต่รถคันแรก ที่วิ่งในเมือง ใช้ระยะเวลาที่เครื่องยนต์ทำงานเท่ากันกับคันที่ 2 แต่กลับบอกว่า รอครบ 10,000 กม ค่อยเปลี่ยนก็แล้วกัน
นี่เหละครับ สาเหตุที่ ทำไมทางศูนย์รถยนต์ เขาถึงกำหนด ระยะเวลาด้วย เพราะเขาไม่รู้หรอกครับว่า ลักษณะการใช้งานของคุณ เป็นอย่างไร
จริงอยู่ว่า รถคุณอาจจะวิ่งแค่ 42,000 กม แต่ ทางบริษัทเขาไม่รู้หรอกครับว่า คุณอาจจะใช้งานในกรุงเทพ เจอรถติดทุกวัน วันละ 2 - 3 ชั่วโมง น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์มันก็ต้องหมุนเวียนในระบบของมัน เพียงแต่ระยะทางมันไม่ขึ้น ก็้เท่านั้นเอง
สมมติว่า คุณใช้งานในเมือง วันละ 2 ชั่วโมง ขับทุกวัน เท่ากับเครื่องยนต์+เกียร์ทำงานไป 60 ชม/เดือน ซึ่ง 12 เดือน ก็เท่ากับ 720 และ 3 ปี ก็เท่ากับ 2,160 ชั่วโมง
การที่เครื่องยนต์ทำงานไปแล้ว 2,160 ชั่วโมง ถ้าเทียบกับรถอีกคันที่ใช้งานต่างจังหวัด ที่ความเร็ว 110 กม/ชม เขาวิ่งไป 237,600 กม แล้วนะครับ
ยิ่งบางคันเนี่ย เจอรถติด ๆ ในกรุงเทพ เอะอะเข้า P เอะอะเข้า P คือ รถติดเนี่ย เข้า P ตลอด พอขยับหน่อย 3 เมตร เปลี่ยนมา D พอหยุดเข้า P อีกละ ผมขับตามยังรำคาญไฟถอยเลย เดี๋ยวติด ๆ โอ้ย ไม่อยากจะคิด ใครซื้อรถต่อคันนั้นไปนี่ ทำใจเลย
กรณีของคุณเนี่ย ผมว่า ลองหาร้านซ่อม CVT ดูครับ เพราะระบบเกียร์ CVT สมัยนี้ มีช่างที่รับซ่อม CVT เริ่มเยอะขึ้นครับ อย่างผมเห็นคนใช้ JAZZ โฉมแรก ก็มีเอาไปโอเวอร์ฮอลกัน ราคาเมื่อหลายปีก่อนอยู่ที่ประมาณไม่ถึง 30,000 บาท ปัจจุบัน ก็ไม่น่าจะถึง 20,000 บาทแล้ว ลองดูนะครับ ดีกว่า เสียเป็นแสน
หมายเหตุ การคำนวณ ระยะการทำงานเครื่องยนต์ + เกียร์ ในขณะรถติด กับการเทียบกับรถที่วิ่งต่างจังหวัด เป็นตัวเลขที่ผม สมมติขึ้น เพื่อความง่ายในการเข้าใจ มันอาจจะไม่ถูกต้อง 100 % แต่เพื่อให้เห็นภาพว่า ถึงแม้ขณะรถติดนั้น เครื่องยนต์และระบบเกียร์ทุกอย่าง มันก็มีน้ำมันที่หล่อลื่นหมุนเวียนในระบบ ไม่ใช่ว่า รถวิ่งในเมือง แต่ไมล์ไม่ขึ้นเลย ก็ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ก็ได้
แสดงความคิดเห็น
HRV 3 ปี 10 วัน ระยะวิ่ง 42,000 โล เปลี่ยนเกียร์ยกชุดราคาเกือบ 2 แสน?
รถคนนี้ซื้อมาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2558 ครับ ตอนนี้อายุ 3 ปี กับอีก 10 วัน
แต่เมื่อไม่นานมานี้เองรถมีเสียง วี๊ดดดด เวลาเร่งถึงความเร็ว 60 - 80 เราก็คิดว่าเขาคงไม่เป็นอะไรมาก วันรุ่งขึ้นก็เอารถเข้าศูนย์ Honda ใกล้บ้าน
จองคิวเสร็จไปเทสรถกับช่าง ช่างบอกเสียงไม่ดีอาจจะต้องเปลี่ยนเกียร์ยกชุดเป็นเงินหลักแสน ผมนี่ตกใจเลยครับ
หลังจากนั้นก็คุยกับศูนย์ถามถึงสาเหตุว่ามันเป็นเพราะอะไร เพราะรถเพิ่ง 3 ปีเอง ไม่เคยชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ศูนย์ให้คำตอบว่าอาจเป็นเพราะผมไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ผมเข้าใจว่าต้องเปลี่ยนทุกๆ 40,000 โล เกินมา 2 พันกว่าถึงกับเกียร์พังเลยรึ ศูนย์บอก 2 ปีต้องเปลี่ยนที อันนี้ความรู้ใหม่ผมจริงๆครับ เพราะรถคันเก่า Honda เหมือนกัน 11 ปี 7.6 หมื่นกว่าโล นานๆเข้าเช็คระยะทีก็ไม่มีปัญหา
(ผมเอารถเช็คระยะครั้งสุดท้ายเมื่อ 1 ปีกับอีก 8 เดือน ที่ระยะ 20,000 กว่าโล)
ผมอยากสอบถามว่า อะไหร่ของรถมันเปราะบางขนาดนี้เลยเหรอ ผมพอทำอะไรได้บ้างไหมครับ ขอความช่วยเหลือหน่วยงานไหนได้บ้าง เพราะรถผมยังใหม่มาก และไม่ได้วิ่งเยอะเลย ไม่คิดว่าจะต้องมาจ่ายค่าซ่อมแพงขนาดนี้