เกริ่นที่ 1 ต้องบอกก่อนเลยว่านี่คือกระทู้รีวิวเที่ยวอันแรกของเรา (เขินนน)
เกริ่นที่ 2 บันทึกนี้เราเขียนระหว่างเดินทาง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 สค. 2017
และได้แชร์ไปในเฟสบุ๊กส่วนตัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
แต่พึ่งมีไฟ จะเอามาลงพันทิป เพราะ
- ตอนแรกเราคิดว่ารูปเราไม่สวยพอ เพราะถ่ายจาก ไอโฟนทั้งหมด (เนื่องจากข้อจำกัดที่จะเล่าในเนื้อหา)
- แต่เห็นว่าเป็นประสบการณ์ที่คนอื่นๆเค้าไม่ค่อยทำกัน เลยคิดว่าน่าแชร์ดี
- น่าจะเป็นข้อมูลที่ดีสำหรับเด็กอังกฤษทุนต่ำอีกหลายๆคน ซึ่งการแชร์ในนี้น่าจะมีคนเห็นมากกว่าในเฟสเรา
- เนื้อหาส่วนใหญ่มันจะดูเหมือนเราพูดคนเดียวหน่อยๆ แต่เราจะปรับให้ดูมีสาระมากขึ้นนะ ฮาๆๆ
- ด้วยความที่ไม่ได้คิดจะเขียนรีวิวจริงจังตั้งแต่แรก ทำให้รูปมันอาจจะไม่ครอบคลุมทั้งหมด
เราจะพยายามเอารูปจากกล้องฟิล์มที่ถ่ายไว้ และอาจจะมีรูปจากอินเตอร์เนตมาเพิ่มเติมในส่วนที่สำคัญนะคะ
จบการเกริ่นค่าา ต่อไปจะเป็นเนื้อหา + คำแนะนำต่างๆ ละนะ ตามมาาา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
part 1 ที่มา+การเตรียมตัว (สำหรับ backpacker บ้านๆ)
ที่มา: ฝรั่งเศส ประเทศสำหรับ beginner
จริงๆแล้ว ถ้าคนที่เคยมาเรียนที่อังกฤษจะรู้ว่าฝรั่งเศสป็นประเทศที่ไปง่ายมาง่ายที่สุดในยุโรปแล้ว เพราะมันใกล้ ราคาเลยถูก การเดินทางทั้งภายในและนอกประเทศเองก็สะดวกสบาย และด้วยความอีโก้ที่เห็นว่ามันเป็นประเทศขั้นbeginner เราเลยไม่ยอมมาแตะประเทศนี้ซักที (ทริปนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เราส่ง dissertation และใกล้ๆจะกลับแล้ว) 5555
-----------------------------------------------------------
เอนี่เวย์, ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะ
- นั่งดูวีซ่าที่เหลืออีกแค่1เดือนสุดท้าย ก็เกิดความเสียดายเงินที่จ่ายค่าวีซ่าไปอย่างแพงระยิบ
(ทำใหม่ไม่คุ้ม เพราะแพงมากจริมๆ + หลังส่งดิสเซอร์แล้ว จะยื่นขอเอกสารจากมหาลัยเพื่อเอาไปทำ Schengen visa ก็ไม่ได้แล้วนะยู)
เราเลยพยายามยัดทริปเที่ยวยุโรปให้ได้มากที่สุดในเวลาที่จำกัดนี้
- เนื่องจากทริปอื่นๆ เราจัดวันไปเที่ยวตามความสะดวกของเพื่อนร่วมทริป แก๊ปวันว่างที่เหลืออยู่นิดเดียวทำให้เราต้องไปประเทศที่มาไวไปไว อย่างฝรั่งเศส 555
- เรายังมี voucher นั่งฟรี1 เที่ยวของ flixbus (บริษัทรถบัสวิ่งทั่วยุโรป ราคาถูกแต่นั่งนาน)เหลืออยู่. ซึ่งได้จากความ error ของรถนางตอนเราไปเที่ยว Scandinavia. ด้วยความเสียดาย ก็เลยนั่งดูที่เที่ยวที่สามารถใช้กับเจ้า voucher นี้ได้ และฝรั่งเศสคือหนึ่งในนั้น
- ซึ่งพบว่าถ้าจะเที่ยว เราต้องกดจองตั๋วตอนนั้นเลย! (นั่งดูวันที่28 เดินทางวันที่3)
- ความกระชั้นและลำบากของทริป บวกกันเพื่อนก็เริ่มทยอยกลับไป พวกที่เหลืออยู่คือกำลังอยู่ในจุดพีคของดิสเซอร์ ทำให้เราตัดปัญหาความชักช้าด้วยการเที่ยวคนเดียว จบปิ๊ง.
**ตอนกดจองคือคิดในใจว่า อ่าาา~ ถึงเวลาแล้วสินะปารีส
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ระยะเวลา : 2คืน1วัน
คือออกคืนวันที่3 ถึง 6.30 ของวันที่4
และกลับตอน23.50 ของวันที่4
เหตุผลเพราะ สำหรับเราการเดินทางเที่ยวด้วยบัส มีข้อดีคือการนั่งยาวๆไป ถึงแล้วเที่ยวเลย อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ไม่เสียค่าที่พัก
ประหยัดแล้วประหยัดอีก ทั้งค่าเดินทางและที่นอน เพราะมีอีกหลายทริปที่ต้องจับจ่าย.
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเตรียมตัว : น้อยที่สุด ดีที่สุด
เล่าก่อนว่าหลังจากกลับจากฝรั่งเศสถึงลอนดอนเช้าวันที่5 เราต้องบินไป Luxembourg ต่อเลยแบบไม่มีเวลากลับบ้าน. ทำให้เราต้องเตรียมของไว้ประทังความเน่าระหว่างอยู่ในลอนดอนด้วย (ส่วนของที่เอาไปเที่ยว Luxembourg เราให้น้องแบกมาให้ 555)
ประเด็นคืออ หลังกดจองเวลาเดินทางแล้วมานั่งคุยกับเพื่อน ถึงพึ่งตระหนักว่า ชิบละ! ฝรั่งเศสมันอันตราย นี่หว่า.
คือรองๆลงมาจากอิตาลีเรื่องการโดยขโมย และมีความเถื่อนๆ หน่อยๆ ด้วย.
-----------------------------------------------------------
ดังนั้น เพื่อความไม่พะรุงพะรังตอนเที่ยวปารีส ซึ่งนอกจากจะเกะกะแล้วยังน่าจะโดนเพ็งเล็งได้ง่ายจากมิฉฉาชีพ
เราเลยเอาของไปให้น้อยที่สุดตามนี้!
- ของเบสิก: แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ล้างหน้า+ยาต่างๆ
- ผ้าเปียก+โลออน+นำ้หอม (ไม่ได้อาบน้ำแน่ๆ2วัน ก็ต้องสิ่งเหล่านี้แหละ)
- เสื้อ1ตัว (กางเกงใส่ตัวเดิม/ไม่ต้องพูดถึงชุดนอน ไม่มีค่ะ!)
- เสื้อใน/ผ้าอนามัย (เปลี่ยนแทนกกน. จะได้ไม่เน่าอยู่ในกระเป๋าโน๊ะ)
- สายชาร์ต+พาวเวอร์แบงค์ขนาด 20000 mah
- กล้องฟิล์ม1อัน(ง่ายดีไม่ต้องชาร์ตแบต)
ทั้งหมดนี้(ยกเว้นกล้องที่สะพานคอเอา) เป็นของที่ไม่น่าโดนขโมยเลยยัดไว้ใน tote bag สบายๆ1ใบ
ส่วนของมีค่า(เงิน, บัตรเครดิต, พาสปอร์ต, BRP,โทรศัพท์)
เราแนบสนิทติดตัวกับ waist pack ซึ่งยืนน้องมา (ตอนยืมไม่รู้ พอเอามา เอาละ Gucci ค่ะ! มันจะหายก็กระเป๋าเนี่ยะแหละ T T)
และเพื่อความชัวร์ก็สอดมันไว้กับสายเข็มขัดกางเกง ใส่เสื้อที่ปิดๆลงมาหน่อย ทับด้วยแจ็กเก็ตอีกตัว.
เอาให้ถ้ามันจะหายก็เป็นเพราะเราละหล่ะ 🙄🙄
-----------------------------------------------------------
อ๋อ เรื่องเงิน คือเราเอาติดตัวมาแค่ 55€ = 1,617฿ ฮาๆๆ
ด้วยความที่บัตร atm ของอังกฤษมันสามารถใช้ในยุโรปได้ปกติ
เราเลยไม่เอาเงินไปเยอะ เพราะไม่อยากพะวงหลายอย่าง (คือดูแลแค่บัตรใบเดียวพอ จบ)
และนี้คือสัมภาระทั้งหมดของเราในการเตรียมตัวอยู่ 2 คืน 2 วัน (รวมในลอนดอน)
ดูไม่มีอะไรให้ขโมยจริงๆเนอะ 555
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เดี๋ยวกลับมาต่อนะคะ
[CR] Lonely in Paris ทริปคนบ้า! เที่ยวปารีส 1 วันแบบตัวปลิวๆ สไตล์เด็กอังกฤษทุนต่ำ
เกริ่นที่ 1 ต้องบอกก่อนเลยว่านี่คือกระทู้รีวิวเที่ยวอันแรกของเรา (เขินนน)
เกริ่นที่ 2 บันทึกนี้เราเขียนระหว่างเดินทาง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 สค. 2017
และได้แชร์ไปในเฟสบุ๊กส่วนตัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
แต่พึ่งมีไฟ จะเอามาลงพันทิป เพราะ
- ตอนแรกเราคิดว่ารูปเราไม่สวยพอ เพราะถ่ายจาก ไอโฟนทั้งหมด (เนื่องจากข้อจำกัดที่จะเล่าในเนื้อหา)
- แต่เห็นว่าเป็นประสบการณ์ที่คนอื่นๆเค้าไม่ค่อยทำกัน เลยคิดว่าน่าแชร์ดี
- น่าจะเป็นข้อมูลที่ดีสำหรับเด็กอังกฤษทุนต่ำอีกหลายๆคน ซึ่งการแชร์ในนี้น่าจะมีคนเห็นมากกว่าในเฟสเรา
- เนื้อหาส่วนใหญ่มันจะดูเหมือนเราพูดคนเดียวหน่อยๆ แต่เราจะปรับให้ดูมีสาระมากขึ้นนะ ฮาๆๆ
- ด้วยความที่ไม่ได้คิดจะเขียนรีวิวจริงจังตั้งแต่แรก ทำให้รูปมันอาจจะไม่ครอบคลุมทั้งหมด
เราจะพยายามเอารูปจากกล้องฟิล์มที่ถ่ายไว้ และอาจจะมีรูปจากอินเตอร์เนตมาเพิ่มเติมในส่วนที่สำคัญนะคะ
จบการเกริ่นค่าา ต่อไปจะเป็นเนื้อหา + คำแนะนำต่างๆ ละนะ ตามมาาา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา: ฝรั่งเศส ประเทศสำหรับ beginner
จริงๆแล้ว ถ้าคนที่เคยมาเรียนที่อังกฤษจะรู้ว่าฝรั่งเศสป็นประเทศที่ไปง่ายมาง่ายที่สุดในยุโรปแล้ว เพราะมันใกล้ ราคาเลยถูก การเดินทางทั้งภายในและนอกประเทศเองก็สะดวกสบาย และด้วยความอีโก้ที่เห็นว่ามันเป็นประเทศขั้นbeginner เราเลยไม่ยอมมาแตะประเทศนี้ซักที (ทริปนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เราส่ง dissertation และใกล้ๆจะกลับแล้ว) 5555
-----------------------------------------------------------
เอนี่เวย์, ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะ
- นั่งดูวีซ่าที่เหลืออีกแค่1เดือนสุดท้าย ก็เกิดความเสียดายเงินที่จ่ายค่าวีซ่าไปอย่างแพงระยิบ
(ทำใหม่ไม่คุ้ม เพราะแพงมากจริมๆ + หลังส่งดิสเซอร์แล้ว จะยื่นขอเอกสารจากมหาลัยเพื่อเอาไปทำ Schengen visa ก็ไม่ได้แล้วนะยู)
เราเลยพยายามยัดทริปเที่ยวยุโรปให้ได้มากที่สุดในเวลาที่จำกัดนี้
- เนื่องจากทริปอื่นๆ เราจัดวันไปเที่ยวตามความสะดวกของเพื่อนร่วมทริป แก๊ปวันว่างที่เหลืออยู่นิดเดียวทำให้เราต้องไปประเทศที่มาไวไปไว อย่างฝรั่งเศส 555
- เรายังมี voucher นั่งฟรี1 เที่ยวของ flixbus (บริษัทรถบัสวิ่งทั่วยุโรป ราคาถูกแต่นั่งนาน)เหลืออยู่. ซึ่งได้จากความ error ของรถนางตอนเราไปเที่ยว Scandinavia. ด้วยความเสียดาย ก็เลยนั่งดูที่เที่ยวที่สามารถใช้กับเจ้า voucher นี้ได้ และฝรั่งเศสคือหนึ่งในนั้น
- ซึ่งพบว่าถ้าจะเที่ยว เราต้องกดจองตั๋วตอนนั้นเลย! (นั่งดูวันที่28 เดินทางวันที่3)
- ความกระชั้นและลำบากของทริป บวกกันเพื่อนก็เริ่มทยอยกลับไป พวกที่เหลืออยู่คือกำลังอยู่ในจุดพีคของดิสเซอร์ ทำให้เราตัดปัญหาความชักช้าด้วยการเที่ยวคนเดียว จบปิ๊ง.
**ตอนกดจองคือคิดในใจว่า อ่าาา~ ถึงเวลาแล้วสินะปารีส
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ระยะเวลา : 2คืน1วัน
คือออกคืนวันที่3 ถึง 6.30 ของวันที่4
และกลับตอน23.50 ของวันที่4
เหตุผลเพราะ สำหรับเราการเดินทางเที่ยวด้วยบัส มีข้อดีคือการนั่งยาวๆไป ถึงแล้วเที่ยวเลย อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ไม่เสียค่าที่พัก ประหยัดแล้วประหยัดอีก ทั้งค่าเดินทางและที่นอน เพราะมีอีกหลายทริปที่ต้องจับจ่าย.
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเตรียมตัว : น้อยที่สุด ดีที่สุด
เล่าก่อนว่าหลังจากกลับจากฝรั่งเศสถึงลอนดอนเช้าวันที่5 เราต้องบินไป Luxembourg ต่อเลยแบบไม่มีเวลากลับบ้าน. ทำให้เราต้องเตรียมของไว้ประทังความเน่าระหว่างอยู่ในลอนดอนด้วย (ส่วนของที่เอาไปเที่ยว Luxembourg เราให้น้องแบกมาให้ 555)
ประเด็นคืออ หลังกดจองเวลาเดินทางแล้วมานั่งคุยกับเพื่อน ถึงพึ่งตระหนักว่า ชิบละ! ฝรั่งเศสมันอันตราย นี่หว่า.
คือรองๆลงมาจากอิตาลีเรื่องการโดยขโมย และมีความเถื่อนๆ หน่อยๆ ด้วย.
-----------------------------------------------------------
ดังนั้น เพื่อความไม่พะรุงพะรังตอนเที่ยวปารีส ซึ่งนอกจากจะเกะกะแล้วยังน่าจะโดนเพ็งเล็งได้ง่ายจากมิฉฉาชีพ
เราเลยเอาของไปให้น้อยที่สุดตามนี้!
- ของเบสิก: แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ล้างหน้า+ยาต่างๆ
- ผ้าเปียก+โลออน+นำ้หอม (ไม่ได้อาบน้ำแน่ๆ2วัน ก็ต้องสิ่งเหล่านี้แหละ)
- เสื้อ1ตัว (กางเกงใส่ตัวเดิม/ไม่ต้องพูดถึงชุดนอน ไม่มีค่ะ!)
- เสื้อใน/ผ้าอนามัย (เปลี่ยนแทนกกน. จะได้ไม่เน่าอยู่ในกระเป๋าโน๊ะ)
- สายชาร์ต+พาวเวอร์แบงค์ขนาด 20000 mah
- กล้องฟิล์ม1อัน(ง่ายดีไม่ต้องชาร์ตแบต)
ทั้งหมดนี้(ยกเว้นกล้องที่สะพานคอเอา) เป็นของที่ไม่น่าโดนขโมยเลยยัดไว้ใน tote bag สบายๆ1ใบ
ส่วนของมีค่า(เงิน, บัตรเครดิต, พาสปอร์ต, BRP,โทรศัพท์)
เราแนบสนิทติดตัวกับ waist pack ซึ่งยืนน้องมา (ตอนยืมไม่รู้ พอเอามา เอาละ Gucci ค่ะ! มันจะหายก็กระเป๋าเนี่ยะแหละ T T)
และเพื่อความชัวร์ก็สอดมันไว้กับสายเข็มขัดกางเกง ใส่เสื้อที่ปิดๆลงมาหน่อย ทับด้วยแจ็กเก็ตอีกตัว.
เอาให้ถ้ามันจะหายก็เป็นเพราะเราละหล่ะ 🙄🙄
-----------------------------------------------------------
อ๋อ เรื่องเงิน คือเราเอาติดตัวมาแค่ 55€ = 1,617฿ ฮาๆๆ
ด้วยความที่บัตร atm ของอังกฤษมันสามารถใช้ในยุโรปได้ปกติ
เราเลยไม่เอาเงินไปเยอะ เพราะไม่อยากพะวงหลายอย่าง (คือดูแลแค่บัตรใบเดียวพอ จบ)
และนี้คือสัมภาระทั้งหมดของเราในการเตรียมตัวอยู่ 2 คืน 2 วัน (รวมในลอนดอน)
ดูไม่มีอะไรให้ขโมยจริงๆเนอะ 555
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เดี๋ยวกลับมาต่อนะคะ