มันเป็นจุดเริ่มต้นของการโดนช้างเท เลยเซมาที่สันหนอกวัว เพราะเมื่อเราจองเขาช้างเผือกไม่ได้ ทางเลือกไม่มี !! เลยต้องไปลงที่เขาสันหนอกวัวแทน
และข้าคือ ""ผู้พิชิตสันหนอกวัว 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเล"" พร้อมผองเพื่อนร่วมชะตากรรม
ความรู้สักนิด
อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาตะนาวศรีที่มีเทือกเขาสลับซับซ้อน ทอดตัวตามแนวเหนือใต้ มีความสูงประมาณ 100-1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นหินปูน หินทราย และหินดินดาน ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ เขาสันหนอกวัว มีความสูงประมาณ 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเลกลาง
เขาสันหนอกวัว ตั้งอยู่ทางเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี ในแนวเทือกเขาเขียว ที่เป็นป่าฝั่งตะวันตกของพื้นที่อุทยานฯ มีส่วนที่ติดต่อกับพื้นที่ป่าในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร จึงมีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ สภาพป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และยังคงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่
คำว่าสันหนอกวัว มาจากลักษณะของยอดเขาที่นูนออกมา รูปร่างคล้ายกับส่วนที่เป็นสันนูนบนหลังของวัว ที่เรียกว่าโหนก หรือหนอก
ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติค่อนข้างสูง สภาพอากาศบนยอดเขาดีมาก ซึ่งกว่าจะไปสัมผัสความสวยงามได้นั้นต้องใช้ความอดทนและใจที่รักในการเดินป่าเป็นอย่างมาก จึงเป็นเสน่ห์ของที่นี่ ที่ทำให้เราได้ไปสัมผัสความมหัศจรรย์แห่งสันหนอกวัว
สันหนอกวัว เปิดให้เดินป่าขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติ และชมทัศนียภาพจากบนยอดเขา การเดินทางขึ้นเขานั้นจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อนำทางไปยังจุดที่สามารถตั้งแค้มป์ได้ การเดินทางจะเริ่มจากเจ้าหน้าที่ขับรถนำไปยังจุดเริ่มเดินเข้าไปในป่า บริเวณเชิงเขาหัวโล้น ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ
จากนั้นต้องใช้การเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขา ที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ นำทางไปเท่านั้น ระยะทางจากด้านล่างไปยังจุดตั้งแค้มป์ ประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง (แล้วแต่สภาพของแต่ละบุคคล) ไม่สามารถเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียวได้ จะต้องพักค้างแรม กางเต็นท์นอนบนเขา การเดินทางขึ้นเขาควรเดินเกาะกลุ่ม ไม่ทิ้งห่างกันมาก ไม่เดินแยกไปตามลำพัง และควรเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะการเดินป่าแห่งนี้ไม่มีเส้นทางให้เห็นชัดเจน อาจหลงป่า หรือเกิดอันตรายได้ การขึ้นเขาไปยังสันหนอกวัว สามารถขึ้นได้ตลอดทั้งปี ช่วงหลังหน้าฝน เริ่มเข้าหน้าหนาว เป็นช่วงที่เหมาะกับการเดินขึ้นเขา และจะได้เห็นหมอกบนยอดเขา หน้าฝนการเดินขึ้น-ลงเขา อาจจะลำบากกว่าลื่น เปียกแฉะ ควรสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ล่วงหน้า
เครดิต FB สันหนอกวัว
ความรู้เพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้
http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1067
แหม แหม แหม เกริ่นมาซะยาวเลยนะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่ามั๊ย
ก่อนอี่นเราจะต้องโทรไปจองขึ้นเขาสันหนอกวัวเสียก่อน ได้วันที่จะไปแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ากลุ่มเราไปกี่คน เพราะว่าการขึ้นสันหนอกวัวจะต้องรวมตัวกันให้
ได้ 6-7 คน แต่เราไปกัน 2 คน เนื่องจากเราชวนเพื่อนๆ ไปละ ไอ้ตอนแรกก็มีคนไปเยอะอยู่น่ะ ถามล่วงหน้าเลย พอเอาเข้าจริง 555+ เหลือกันอยู่ 2 คน บ้างก็ติดงาน บ้างก็มาไม่ได้ บลาๆๆๆๆ
ไปหาเพื่อนร่วมเดินทางเอาข้างหน้าเลย และแล้วก็ถึงวันที่รอคอยสักที
***** ก่อนหน้านี้หนึ่งอาทิตย์ ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการจองขึ้นสันหนอกวัว ที่เบอร์ 034-510-431 ช่วงเวลาทำการเท่านั้นนะจ๊ะ หลังจากทำการจองกับทางเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว เราจะต้องส่งรูปถ่ายบัตรประชาชนของสมาชิกทุกคนที่จะขึ้นสันหนอกวัวทางไลน์ของทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยใช้ QR Code ในเฟสบุ๊คของอุทยานฯ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์
และทำการแจ้งว่าต้องการลูกหาบหรือไม่ ต้องการกี่คน โดยต้องทำการแจ้งล่วงหน้า เพื่อทางอุทยานฯจะได้จัดเตรียมลูกหาบไว้ล่วงหน้า
จาก กทม. (รามอินทรา 5) ถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ระยะทาง 332 กิโลเมตร ใช้เวลาในการขับรถไปประมาณ 4-5 ชั่วโมง เราจะค้างคืนกันที่นี่ 1 คืน ก่อนเดินขึ้นเขาสันหนอกวัวในช่วงเช้าของวันถัดไป
เอาบรรยากาศมาให้ชมกัน
รอบนี้เราเอาเต๊นท์ใหญ่มา แต่ตอนขึ้นเขาเราเอาเต๊นท์เล็กขึ้นไป เวลาแบกจะได้สบายหลังหน่อย
มีเพื่อนร่วมเดินทางที่จะไปกับเรา (ไม่โหวงเหวง)
บรรยากาศเงียบสงบ อากาศดีมากๆ
จุดชมวิวป้อมปี
เช้าแล้ว เราจะต้องรีบเก็บเต๊นท์และไปลงทะเบียนกับทางเจ้าหน้าที่ (ลงทะเบียนตั้งแต่ 8 โมงเช้าเป็นไปไม่เกินเที่ยงวัน) จะมีโต๊ะให้เราไปดูรายชื่อและชำระค่าลูกหาบ ค่ารถรับส่งไป-กลับของทางเจ้าหน้าที่และค่ากางเต๊นท์ ------>> ในส่วนของโต๊ะลงทะเบียนขึ้นเขาเราไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูนะ
เราจะต้องเดินทางจากอุทยานฯ ไปยังจุดเริ่มเดินอีก 5 กิโล โดยรถกระบะของทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ
ระหว่างทาง อากาศดีมากๆ สูดโอโซนได้อย่างเต็มปอดเลยทีเดียว
ถึงแล้ว ไปกันเลย
((มีเจ้าหน้าที่นำทางขึ้นเขา 1 ท่าน))
ระหว่างเดิน เจอพี่ลูกหาบ แบกของเยอะมาก
ขนาดเราเอาเป้ไปใบเดียว หลังแทบยอก 555+
จุดพักที่สองแว้ว หึบๆๆ
การเดินควรเดินเกาะกลุ่ม ไม่ควรทิ้งห่างหรือเดินแยกไปตามลำพังและควรเชื่อฟังคำแนะนำของจนท. เพราะการเดินป่าแห่งนี้ ไม่มีเส้นทางให้เห็นชัดเจน อาจหลงป่าหรือเกิดอันตรายได้ (ชัดเจน)
จุดพักที่สามแล้วค่ะ
เนินทรหด จะขนาดไหนเชียว
เนินหมาถอยซินะ
ช่วงแรกนี่ก็เดินอย่างไวเล่ย ช่วงหลังๆ นี่พักทุกชั่วโมงเล่ย ((ยิ่งเหนื่อย ยิ่งคุ้ม))
ถึงแล้วน่ะ ลานกางเต๊นท์ตีนเขาสันหนอกวัว
พักก่อนมั๊ย
ใกล้ค่ำแล้ว กางเต๊นท์เสร็จแล้ว สบายใจ
หมอกเต็มเลยยยยย
3 หลังพร้อมนอน
ต้มน้ำ ---->>> มาม่าเท่านั้นที่ครอบใจคนทั้งประเทศ 555+ เช้าวันพรุ่งนี้ เราจะต้มโจ้กกับโอวัลตินกัน
3 หนุ่ม 3 มุม (หนาวมั๊ยจ๊ะ)
ห้องน้ำที่นี่ แบบส้วมซึม ซึมลึกซึมมากอยู่ที่แนวคิด ห้องน้ำที่นี่ไม่มีน้ำ เราจะต้องเอาทิชชู่เปียกไป (ทิชชู่เช็ดก้นเด็ก)
ใกล้ค่ำแล้ว
พวกเราตื่นกันแต่เช้าตรู่ เพื่อเดินขึ้นไปยังยอดเขา ชมพระอาทิตย์ขึ้น
เช้าวันใหม่ที่สดใส
สวยจัง
เก็บตะวัน
ตะวันกับภูเขา
ดอกหญ้ากับดวงอาทิตย์
แสงจากขอบฟ้า
อีกฝั่งนึง
ทะเลหมอกทั้งน้าน ((ขอบคุณที่ฟ้าเป็นใจ))
แสงแดดกระทบกับดอกหญ้า
ต้นหญ้าบนยอดเขา
ชีวิตก็มีแค่นี้แหละ ((ชีวิตคือการเดินทาง หาความสุข))
อยู่กับบรรยากาศ อยู่กับความสุข
ยิ่งสูง ยิ่งหนาว
มีป้ายเตือน ((หน้าผาสูงชันและอันตราย ควรระวัง))
ถ่ายกับป้ายสักหน่อย ((ข้าคือ ผู้พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี เขาสันหนอกวัว 1,767 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า))
อีกจุดไฮไลน์ของการพิชิตเขาสันหนอกวัว
ส่วนภูเขาที่เราเห็นลูกใหญ่ๆนั้น คือ สันหนอกวัวใหญ่ พวกเราไม่ได้ไป
ชื่อสินค้า: ปีนเขา , เขาสันหนอกวัว , อุทยานแห่งชาติเขาแหลม , อิต่อง , ปิล็อค , น้ำตกจ๊อกกระดิ่น , กาญจนบุรี , ภูเขา , Backpack , นอนกางเต๊นท์ , เที่ยวทั่วไทย
คะแนน:
[CR] ข้าคือ ""ผู้พิชิตสันหนอกวัว 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเล"" และ (อิต่อง ปิล็อค จ๊อกกระดิ่น)
และข้าคือ ""ผู้พิชิตสันหนอกวัว 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเล"" พร้อมผองเพื่อนร่วมชะตากรรม
ความรู้สักนิด
อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาตะนาวศรีที่มีเทือกเขาสลับซับซ้อน ทอดตัวตามแนวเหนือใต้ มีความสูงประมาณ 100-1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นหินปูน หินทราย และหินดินดาน ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ เขาสันหนอกวัว มีความสูงประมาณ 1,767 เมตรจากระดับน้ำทะเลกลาง
เขาสันหนอกวัว ตั้งอยู่ทางเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี ในแนวเทือกเขาเขียว ที่เป็นป่าฝั่งตะวันตกของพื้นที่อุทยานฯ มีส่วนที่ติดต่อกับพื้นที่ป่าในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร จึงมีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ สภาพป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และยังคงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่
คำว่าสันหนอกวัว มาจากลักษณะของยอดเขาที่นูนออกมา รูปร่างคล้ายกับส่วนที่เป็นสันนูนบนหลังของวัว ที่เรียกว่าโหนก หรือหนอก
ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติค่อนข้างสูง สภาพอากาศบนยอดเขาดีมาก ซึ่งกว่าจะไปสัมผัสความสวยงามได้นั้นต้องใช้ความอดทนและใจที่รักในการเดินป่าเป็นอย่างมาก จึงเป็นเสน่ห์ของที่นี่ ที่ทำให้เราได้ไปสัมผัสความมหัศจรรย์แห่งสันหนอกวัว
สันหนอกวัว เปิดให้เดินป่าขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติ และชมทัศนียภาพจากบนยอดเขา การเดินทางขึ้นเขานั้นจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อนำทางไปยังจุดที่สามารถตั้งแค้มป์ได้ การเดินทางจะเริ่มจากเจ้าหน้าที่ขับรถนำไปยังจุดเริ่มเดินเข้าไปในป่า บริเวณเชิงเขาหัวโล้น ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ
จากนั้นต้องใช้การเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขา ที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ นำทางไปเท่านั้น ระยะทางจากด้านล่างไปยังจุดตั้งแค้มป์ ประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง (แล้วแต่สภาพของแต่ละบุคคล) ไม่สามารถเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียวได้ จะต้องพักค้างแรม กางเต็นท์นอนบนเขา การเดินทางขึ้นเขาควรเดินเกาะกลุ่ม ไม่ทิ้งห่างกันมาก ไม่เดินแยกไปตามลำพัง และควรเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะการเดินป่าแห่งนี้ไม่มีเส้นทางให้เห็นชัดเจน อาจหลงป่า หรือเกิดอันตรายได้ การขึ้นเขาไปยังสันหนอกวัว สามารถขึ้นได้ตลอดทั้งปี ช่วงหลังหน้าฝน เริ่มเข้าหน้าหนาว เป็นช่วงที่เหมาะกับการเดินขึ้นเขา และจะได้เห็นหมอกบนยอดเขา หน้าฝนการเดินขึ้น-ลงเขา อาจจะลำบากกว่าลื่น เปียกแฉะ ควรสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ล่วงหน้า
เครดิต FB สันหนอกวัว
ความรู้เพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้
http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1067
แหม แหม แหม เกริ่นมาซะยาวเลยนะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่ามั๊ย
ก่อนอี่นเราจะต้องโทรไปจองขึ้นเขาสันหนอกวัวเสียก่อน ได้วันที่จะไปแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ากลุ่มเราไปกี่คน เพราะว่าการขึ้นสันหนอกวัวจะต้องรวมตัวกันให้
ได้ 6-7 คน แต่เราไปกัน 2 คน เนื่องจากเราชวนเพื่อนๆ ไปละ ไอ้ตอนแรกก็มีคนไปเยอะอยู่น่ะ ถามล่วงหน้าเลย พอเอาเข้าจริง 555+ เหลือกันอยู่ 2 คน บ้างก็ติดงาน บ้างก็มาไม่ได้ บลาๆๆๆๆ
ไปหาเพื่อนร่วมเดินทางเอาข้างหน้าเลย และแล้วก็ถึงวันที่รอคอยสักที
***** ก่อนหน้านี้หนึ่งอาทิตย์ ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการจองขึ้นสันหนอกวัว ที่เบอร์ 034-510-431 ช่วงเวลาทำการเท่านั้นนะจ๊ะ หลังจากทำการจองกับทางเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว เราจะต้องส่งรูปถ่ายบัตรประชาชนของสมาชิกทุกคนที่จะขึ้นสันหนอกวัวทางไลน์ของทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยใช้ QR Code ในเฟสบุ๊คของอุทยานฯ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์ และทำการแจ้งว่าต้องการลูกหาบหรือไม่ ต้องการกี่คน โดยต้องทำการแจ้งล่วงหน้า เพื่อทางอุทยานฯจะได้จัดเตรียมลูกหาบไว้ล่วงหน้า
จาก กทม. (รามอินทรา 5) ถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ระยะทาง 332 กิโลเมตร ใช้เวลาในการขับรถไปประมาณ 4-5 ชั่วโมง เราจะค้างคืนกันที่นี่ 1 คืน ก่อนเดินขึ้นเขาสันหนอกวัวในช่วงเช้าของวันถัดไป
เอาบรรยากาศมาให้ชมกัน
รอบนี้เราเอาเต๊นท์ใหญ่มา แต่ตอนขึ้นเขาเราเอาเต๊นท์เล็กขึ้นไป เวลาแบกจะได้สบายหลังหน่อย
มีเพื่อนร่วมเดินทางที่จะไปกับเรา (ไม่โหวงเหวง)
บรรยากาศเงียบสงบ อากาศดีมากๆ
จุดชมวิวป้อมปี
เช้าแล้ว เราจะต้องรีบเก็บเต๊นท์และไปลงทะเบียนกับทางเจ้าหน้าที่ (ลงทะเบียนตั้งแต่ 8 โมงเช้าเป็นไปไม่เกินเที่ยงวัน) จะมีโต๊ะให้เราไปดูรายชื่อและชำระค่าลูกหาบ ค่ารถรับส่งไป-กลับของทางเจ้าหน้าที่และค่ากางเต๊นท์ ------>> ในส่วนของโต๊ะลงทะเบียนขึ้นเขาเราไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูนะ
เราจะต้องเดินทางจากอุทยานฯ ไปยังจุดเริ่มเดินอีก 5 กิโล โดยรถกระบะของทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ
ระหว่างทาง อากาศดีมากๆ สูดโอโซนได้อย่างเต็มปอดเลยทีเดียว
ถึงแล้ว ไปกันเลย ((มีเจ้าหน้าที่นำทางขึ้นเขา 1 ท่าน))
ระหว่างเดิน เจอพี่ลูกหาบ แบกของเยอะมาก
ขนาดเราเอาเป้ไปใบเดียว หลังแทบยอก 555+
จุดพักที่สองแว้ว หึบๆๆ
การเดินควรเดินเกาะกลุ่ม ไม่ควรทิ้งห่างหรือเดินแยกไปตามลำพังและควรเชื่อฟังคำแนะนำของจนท. เพราะการเดินป่าแห่งนี้ ไม่มีเส้นทางให้เห็นชัดเจน อาจหลงป่าหรือเกิดอันตรายได้ (ชัดเจน)
จุดพักที่สามแล้วค่ะ
เนินทรหด จะขนาดไหนเชียว
เนินหมาถอยซินะ
ช่วงแรกนี่ก็เดินอย่างไวเล่ย ช่วงหลังๆ นี่พักทุกชั่วโมงเล่ย ((ยิ่งเหนื่อย ยิ่งคุ้ม))
ถึงแล้วน่ะ ลานกางเต๊นท์ตีนเขาสันหนอกวัว
พักก่อนมั๊ย
ใกล้ค่ำแล้ว กางเต๊นท์เสร็จแล้ว สบายใจ
หมอกเต็มเลยยยยย
3 หลังพร้อมนอน
ต้มน้ำ ---->>> มาม่าเท่านั้นที่ครอบใจคนทั้งประเทศ 555+ เช้าวันพรุ่งนี้ เราจะต้มโจ้กกับโอวัลตินกัน
3 หนุ่ม 3 มุม (หนาวมั๊ยจ๊ะ)
ห้องน้ำที่นี่ แบบส้วมซึม ซึมลึกซึมมากอยู่ที่แนวคิด ห้องน้ำที่นี่ไม่มีน้ำ เราจะต้องเอาทิชชู่เปียกไป (ทิชชู่เช็ดก้นเด็ก)
ใกล้ค่ำแล้ว
พวกเราตื่นกันแต่เช้าตรู่ เพื่อเดินขึ้นไปยังยอดเขา ชมพระอาทิตย์ขึ้น
เช้าวันใหม่ที่สดใส
สวยจัง
เก็บตะวัน
ตะวันกับภูเขา
ดอกหญ้ากับดวงอาทิตย์
แสงจากขอบฟ้า
อีกฝั่งนึง
ทะเลหมอกทั้งน้าน ((ขอบคุณที่ฟ้าเป็นใจ))
แสงแดดกระทบกับดอกหญ้า
ต้นหญ้าบนยอดเขา
ชีวิตก็มีแค่นี้แหละ ((ชีวิตคือการเดินทาง หาความสุข))
อยู่กับบรรยากาศ อยู่กับความสุข
ยิ่งสูง ยิ่งหนาว
มีป้ายเตือน ((หน้าผาสูงชันและอันตราย ควรระวัง))
ถ่ายกับป้ายสักหน่อย ((ข้าคือ ผู้พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี เขาสันหนอกวัว 1,767 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า))
อีกจุดไฮไลน์ของการพิชิตเขาสันหนอกวัว
ส่วนภูเขาที่เราเห็นลูกใหญ่ๆนั้น คือ สันหนอกวัวใหญ่ พวกเราไม่ได้ไป
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น