สวัสดีค่า ขอเกริ่นก่อนเลยว่ารีวิวนี้เป็นรีวิวแรกในชีวิตของเบนซ์ ส่วนตัวชอบเรื่องสกินแคร์มาก เพราะเชื่อว่าแค่ผิวดีมีชัยไปเกินครึ่งแล้วค่ะ เลยศึกษาสกินแคร์ของแบรนด์ต่างๆมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนมอต้นหัวโปกอยู่เลยค่ะ ฮ่าๆๆๆประกอบกับเพื่อนๆหลายคนชอบขอคำแนะนำเรื่องครีมบำรุงผิวตัวไหนดีตัวไหนเด็ด ซึ่งตัวเบนซ์เองชอบให้คำแนะนำเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว อยากให้เพื่อนได้ใช้ของที่ดีและเหมาะกับสภาพผิวของเค้า แต่ยังไม่คิดที่จะทำรีวิวแบบจริงจังซะที จนกระทั่งวันนี้ได้มีโอกาสมารีวิวให้เพื่อนๆกัน ถือว่ามาแชร์ประสบการณ์กันดีกว่าเนอะ รีวิวนี้อาจจะยาวไปบ้าง แต่รับรองว่ามีประโยชน์ต่อผิวคุณจริง ลองอ่านกันดูนะคะ ^.^ มาเริ่มกันดีกว่าหลังจากเวิ่นเว้อมานานฮ่าๆๆ
ผิวเบนซ์เป็นผิวผสมที่มีสิวอุดตันและสิวอักเสบขึ้นบ้างค่ะ(แถมชอบบีบสิวด้วยสิ เวลาเห็นหัวสิวใครจะไปทนไม่กดสิวล่ะจริงมะ) พออายุเข้าสู่เลข 3 บอกเลยว่าปัญหาผิวต่างๆเกิดง่าย แต่มันหายย้ากยาก โดยเฉพาะจุดด่างดำ รอยแผลจากสิว บางทีเกือบสองเดือนกว่ารอยจะจาง เพราะฉะนั้นสกินแคร์ที่เลือกใช้เนี่ยนอกจากบำรุงให้ผิวขาวแล้วต้องไม่ทำให้เกิดสิว และลดรอยสิวได้อย่างรวดเร็วด้วย เลยอยากจะมาแชร์สกินแคร์ดีๆ ให้เพื่อนๆที่กำลังมองหาสกินแคร์สำหรับผิวกระจ่างใส และช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิวด้วย และนี่คือบรรดาสกินแคร์ที่เบนซ์ใช้อยู่ตอนนี้ คัดมาแล้วว่าเลิศ เห็นผลชัดเจน และคุ้มค่ากับเงินค่ะ
SK-II Facial Treatment Essence
หากพูดถึงสกินแคร์เพื่อผิวขาวกระจ่างใส จะขาดตัวนี้ไปได้อย่างไรล่ะคะ น้ำตบอันโด่งดังเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆทั่วโลก ถึงขนาดเรียกว่าเป็น Miracle Water กันเลยทีเดียว เบนซ์ใช้ SK-II มาตั้งแต่อายุ 15 แล้ว (ตอนนี้อายุ 30 แย้ว T-T) ใช้มานานมาก แต่ไม่ค่อยได้ซื้อใช้ประจำเพราะของมันแพง ซื้อตอนที่มีเงินค่ะ ฮ่าๆๆๆ Essence ขวดนี้มีส่วนผสมของพิเทร่า ซึ่งเป็นส่วนผสมเฉพาะของแบรนด์ SK-II พิเทร่าช่วยให้วงจรผิวเราทำงานดีขึ้นใน 28 วัน โดยช่วยทำให้เซลล์ผิวเราจะมีกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกจากผิว โดย Essence ขวดนี้มีส่วนผสมพิเทร่าเข้มข้นถึง 90% ใครที่อยากลองใช้แบรนด์ SK-II ต้องเริ่มลองตัวนี้ก่อนนะคะ
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ (Ingredients)
1 Galactomyces Ferment Filtrate หรือพิเทร่าที่เราคุ้นเคยกันดี เกิดการจากหมักบ่มยีสต์ “Galactomyces” หรือพูดง่ายๆคือการบักบ่มสาเกนั่นเอง พิเทร่าอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวถึง 50 ชนิด ช่วยปรับสภาพวงจรผิวเราให้เกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิวทุกๆ 28 วัน ทำให้ผิวเรานั้นกระจ่างใส อ่อนเยาว์ และแข็งแรงขึ้น
2 Butylene Glycol เป็นสารที่เกิดจากก๊าซบีเทน ในวงการเครื่องสำอางค์ตัวนี้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ปรับสมดุลให้กับผิว
วิธีใช้และความรู้สึกหลังใช้
ใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังจากล้างหน้าและเช็ดโทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว กด 1-2 ปั๊ม ลงบนแผ่นสำลี (แต่ส่วนตัวปั๊มลงฝ่ามือ)แล้วตบเบาๆทั่วใบหน้า รอบดวงตา ริมฝีปาก และลำคอ ตัวเอ็สเซ้นส์เป็นน้ำ ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ชุ่มชื่น ประเด็นคือกลิ่น ส่วนตัวแล้วรับได้นะ ไม่เหม็นเกินไป เพราะใช้มานานจนชินกลิ่นแล้วค่ะ ฮ่าๆ หลังใช้ประมาณ 5 วัน เห็นชัดเลยว่าผิวดูใสขึ้นมานิดนึง แต่หลังจากใช้ได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อนๆทักเลยว่าผิวดีขึ้น ใสขึ้น ส่วนเรื่องจุดด่างดำช่วงแรกจางลงไวนะคะ แต่พอใช้ไปได้สักระยะรู้สึกว่าจุดด่างดำจากสิวจางช้าลง เหมือนต้องหาตัวอื่นมาช่วยทำให้รอยจางเร็วขึ้น เบนซ์ซื้อใช้มาหลายขวดแล้วค่ะ แต่พักหลังๆมาใช้วันเว้นวันแค่ตอนเช้าเท่านั้น เพราะรู้สึกว่าตัวนี้ทำให้มีสิวอุดตันขึ้นมาบ้าง เลยลดปริมาณการใช้ลง
เคล็ดไม่ลับฉบับ BenzSoCute
เท Essence ตัวนี้กับมากส์หน้าอัดเม็ดหรือมากส์แผ่นใต้ตาเพื่อนำมาเพิ่มความชุ่มชื่นแบบเร่งด่วน หรือเทลงสำลีให้ชุ่มแล้วนำมาแปะบริเวณผิวที่แห้งลอก ผิวเบิร์นจากแดด หรือแปะบริเวณริมฝีปากเพื่อเพิ่มความนุ่ม ไม่แห้งกร้าน
DrGL Skin Repair
ขวดจิ๋วแต่ราคาอุ๊แม่เจ้ามาก!!! แบรนด์นี้เพิ่งมาเปิดเคาเตอร์ที่เมืองไทยได้ประมาณ 2 ปี โดยแพทย์หญิงจอร์เจีย ลี แพทย์ผิวหนังชื่อดังจากสิงคโปร์เป็นคนก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นมา จุดเด่นคือใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุดที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น และผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์ได้ทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย
เซรั่มตัวนี้มีส่วนผสมจากสเต็มเซลล์พืชที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวเก่าและช่วยการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ผิวที่ผ่านการเลเซอร์ ทรีทเม้นท์แรงๆ หรือกดสิวมา ตัวนี้ช่วยฟื้นฟูผิวได้เร็วยิ่งขึ้น รอยดำรอยแดงต่างๆจางลงอย่างรวดเร็ว ป้องกันการระคายเคืองผิวด้วย
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ (Ingredients)
1 Cucumis Sativus Fruit Extract สารสกัดสเต็มเซลล์จากแตงกวา ช่วยลดความแห้งกร้านให้กับผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นกระชับ และปลอบประโลมผิวจากการใช้ยาสิว หรือเลเซอร์ผิวหน้า
ช่วยลดรอยแดงและรอยแผลเป็นจากสิวได้เป็นอย่างดี
2 Thioctic Acid คือ Alpha Lipoic Acid เป็นสารAnti - Oxidant ที่ดีแถมยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ Anti - Oxidant ตัวอื่นๆอีกด้วย เช่น เสริมประสิทธิภาพการทำงานของกลูตาไธโอน และวิตามินอีให้ดียิ่งขึ้น กรดไลโปอิกนี้สามารถซึมผ่านเข้าสู่เซลล์ผิวในระดับ DNA ซึ่งช่วยปกป้องและชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี บางวิจัยบอกว่ากรดไลโปอิกช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นได้ด้วย
3 Sphingo Lipids สารเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวสุขภาพดี ไม่แห้ง และลดเลือนริ้วรอย
วิธีใช้และความรู้สึกหลังใช้
ทาทั่วใบหน้าทั้งเช้าและเย็น ใช้หลังจาก SK-II Facial Treatment Essence เนื้อเซรั่มเป็นน้ำใส ไม่มีกลิ่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวไว ผลลัพธ์หลังจากใช้บอกเลยว่าสิวอุดตันลดลง รอยแดงจากการกดสิวหายไวขึ้น รอยดำจากสิวจางลงบ้างนิดนึงแต่ใช้ระยะเวลาพอสมควรเกือบๆเดือนเลย แต่ถ้าผิวแห้งต้องเพิ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ด้วยเพราะตัวนี้ยังให้ความชุ่มชื่นยังไม่ดีพอ ส่วนตัวคิดว่าตัวนี้ช่วยเรื่องสิวมากกว่า เพราะเห็นผลเรื่องสิวลดลงชัดเจน
สัปดาห์แรกที่ใช้แนะนำใช้ทาทั่วหน้าทั้งเช้าและเย็น ทารอบดวงตาได้เลย หลังจากนั้นใครที่งกเหมือนเบนซ์ (ฮ่าๆๆๆ ของมันแพงนิเนอะ) ใช้แค่ตอนเย็นพอ หรือแต้วเน้นเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาเช่น สิวอักเสบ รอยด่างดำต่างๆ
เคล็ดไม่ลับฉบับ BenzSoCute
ถ้ามีสิวอักเสบที่เริ่มจะแดงอักเสบ หรือสิวอักเสบที่ไม่มีหัว เอาตัวนี้แต้มแทนยาทาสิวได้เลยค่ะ เคยแต้มสิวอักเสบที่ไม่มีหัวประมาณ 3-4 วันสิวยุบลงนะ ไม่ทิ้งรอยแดงรอยดำไว้ด้วยแหละเธอว์ แบรนด์นี้มีโปรโมชั่นทุกเดือน ก่อนซื้อลองเช็คโปรดูก่อนนะคะ
Aesop Lucent Facial Concentrate
แบรนด์สกินแคร์ชื่อดังจากออสเตรเลีย จุดเด่นของแบรนด์นี้คือ ผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติต่างๆที่มีประโยชน์ต่อผิว โดยใช้นวัตกรรมทางวิทยาการวิทยาศาสตร์มาสกัดและวิจัยเพื่อให้สิ่งที่ได้จากธรรมชาตินั้นเกิดประสิทธิภาพมากที่สุดผลิตภัณฑ์ Aesop สามารถตอบโจทย์ทุกๆ Lifestyle ของลูกค้า ตัวผลิตภัณฑ์และรูปแบบเคาเตอร์มีความดึงดูดมากเลย คือดูเรียบง่ายแต่เก๋ สินค้าทุกตัวสามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็น Signature เลยคือ Parsley Seed Anti-Oxidant Serum ตอนที่ออกมาใหม่ๆที่ออสเตรเลียขายดีมากถึงขนาดที่ว่าลูกค้าต้องยอมลงชื่อจองคิวเพื่อซื้อตัวนี้กันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นตัวตัวแรกที่ใช้และเป็นตัวโปรดของเบนซ์เลยค่ะ โปรดขนาดไหนน่ะหรอเอาเป็นว่าหลังจากหมดขวดแรก ต้องไปถอยมาครบเซ็ทของกลุ่ม Parsley Seed กันเลยทีเดียวหึหึ! แถมยังพ่วงซื้อแชมพูสระผม Calming Shampoo มาด้วย แก้อาการคันหนังศีรษะได้ดีเว่อร์ แต่วันนี้เบนซ์จะรีวิวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อผิวกระจ่างใสพร้อมทั้งทำให้ผิวอ่อนเยาว์ของ Aesop กันค่ะ
Aesop Lucent Facial Concentrate ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวแบบเร่งรัด ที่อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพเช่น Vitamin C และ Vitamin B3 ช่วยทำให้ผิวของเรากระจ่างใสและดูอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความกระจ่างใส ลดรอยดำต่างๆและลดเลือนริ้วรอย ก่อนที่จะมาใช้ตัวนี้เบนซ์กังวลเรื่องรอยดำจากสิวมาก เพราะหายช้ามาก เป็นเดือนรอยยังไม่จาง เลยต้องหาตัวช่วยเด็ดมากำจัดรอยดำ
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ (Ingredients)
1 Sodium Ascobyl Phosphate คือวิตามินซีที่มีความเสถียร โดยปกติแล้ววิตามินซีเสื่อมสภาพได้ง่ายมาก แค่โดนอากาศโดนแสงแดดก็เสื่อมสภาพแล้ว เพราะฉะนั้นวิตามินซีที่ใช้ในสกินแคร์จะผ่านกระบวนทำให้ตัววิตามินซีมีความทนทานกับการเผชิญอากาศและแสงแดดได้ในระยะนึง วิตามินซีที่ Aesop ใช้นั้นดูดซึมเข้าสู่ผิวเราได้ดีกว่าวิตามินซีแบบละลายน้ำทั่วๆไป แถมออกฤทธิ์ได้ดีกว่าวิตามินซีทั่วไปถึง 7 เท่า คุณสมบัติของวิตามินซีแน่นอนว่าต้องช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ Anti - oxidant และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว แถมยังช่วงลดการอักเสบของสิวด้วย ดูจากส่วนผสมที่ขวดอยู่ลำดับที่สาม น่าจะใส่มาเข้มข้นพอที่จะทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนอยู่เหมือนกัน
2 Niacinamide หรือ Vitamin B3 ช่วยเรื่องปรับโทนสีผิวให้ขาวขึ้น ลดจุดด่างดำ เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังช่วยลดการเกิดสิวด้วย
3 Boswellia Carterii Oil หรือ Frankincense oil เป็นน้ำมันหอมระเหยจาก Frankincense มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องลดเลือนริ้วรอย ช่วยฟื้นฟูผิวจากการถูกทำลายจากแสงแดด ต้านการอักเสบของผิว(Antiseptic) และลดเลือนรอยแผลจากสิว
4 Fusanus Spicatus Wood Oil หรือ Sandalwood Oil คุณสมบัติช่วยต้านแบคทีเรีย(Antiseptic) ลดการอักเสบของสิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและลดริ้วรอย
วิธีใช้และความรู้สึกหลังใช้
หยดประมาณ 4-5หยดแล้วทาลงบนผิวให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ หลังจากลง Essence แบบน้ำแล้ว ใช้ได้ทั้งเข้าและเย็นเนื้อสัมผัสมีความข้นนิดนึงแต่พอทาที่ผิวแล้วกลับซึมซับเข้าสู่ผิวได้ดี ไม่เหนอะหนะหน้า แต่มีความชุ่มชื่น มีกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย หลังจากได้ลองใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์ สังเกตได้เลยว่าผิวกระจ่างใสขึ้น รอยดำและรอยแดงจากการกดสิวจางไวขึ้น บางครั้งไม่ลงมอยเจอร์ไรเซอร์ด้วยเพราะตัวนี้ให้ความชุ่มชื่นได้ดีในระดับคนผิวมัน หรือบางครั้งขี้เกียจทาครีมเยอะจะลงแค่ตัวนี้แล้วนอนเลย เป็นตัวโปรดของเบนซ์เลย จากส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อผิวเราจริงๆ ทำให้ผิวกระจ่างใส รอยดำจางลง หน้าอ่อนเยาว์ขึ้น และยังช่วยเรื่องสิวอีกด้วย เอาเป็นว่าไปซื้อมาลองเถอะ ตัวเดียวจบ คุ้มค่ากับเงินทีเสียไป
เคล็ดไม่ลับฉบับ BenzSoCute
ตัวนี้สามารถนำมามากส์ผิวแบบเร่งด่วนได้ด้วยนะ วันไหนที่นอนน้อย ผิวโทรม เอามาโปะหนาๆที่ผิวทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออก ผิวเราจะดูมีชีวิตชีวามากขึ้นมาทันทีเลยล่ะ หรือใครผิวแห้งมากลองหยดน้ำมันบำรุงผิวสัก 1-2 หยดลงไปผสมแล้วทาผิว จะทำให้ผิวเราชุ่มชื่นขึ้น (จากประสบการณ์ส่วนตัววันไหนผิวแห้งแดงจากยาสิว เบนซ์ผสมน้ำมัน Parsley Seed Anti-Oxidant Facial Treatment 2 หยดคู่กับ Lucent วันรุ่งขึ้นผิวหายแห้งแดงเลยจ้า)
ส่วนใครอยากให้รอยดำต่างๆกจางไวให้ใช้ Aesop Lucent Facial Concentrate แต้มเน้นที่รอยได้เลยค่ะ
[CR] ชำแหละสกินแคร์...คัดมาแล้วว่าช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้จริง ฉบับมนุษย์สิว
สวัสดีค่า ขอเกริ่นก่อนเลยว่ารีวิวนี้เป็นรีวิวแรกในชีวิตของเบนซ์ ส่วนตัวชอบเรื่องสกินแคร์มาก เพราะเชื่อว่าแค่ผิวดีมีชัยไปเกินครึ่งแล้วค่ะ เลยศึกษาสกินแคร์ของแบรนด์ต่างๆมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนมอต้นหัวโปกอยู่เลยค่ะ ฮ่าๆๆๆประกอบกับเพื่อนๆหลายคนชอบขอคำแนะนำเรื่องครีมบำรุงผิวตัวไหนดีตัวไหนเด็ด ซึ่งตัวเบนซ์เองชอบให้คำแนะนำเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว อยากให้เพื่อนได้ใช้ของที่ดีและเหมาะกับสภาพผิวของเค้า แต่ยังไม่คิดที่จะทำรีวิวแบบจริงจังซะที จนกระทั่งวันนี้ได้มีโอกาสมารีวิวให้เพื่อนๆกัน ถือว่ามาแชร์ประสบการณ์กันดีกว่าเนอะ รีวิวนี้อาจจะยาวไปบ้าง แต่รับรองว่ามีประโยชน์ต่อผิวคุณจริง ลองอ่านกันดูนะคะ ^.^ มาเริ่มกันดีกว่าหลังจากเวิ่นเว้อมานานฮ่าๆๆ
ผิวเบนซ์เป็นผิวผสมที่มีสิวอุดตันและสิวอักเสบขึ้นบ้างค่ะ(แถมชอบบีบสิวด้วยสิ เวลาเห็นหัวสิวใครจะไปทนไม่กดสิวล่ะจริงมะ) พออายุเข้าสู่เลข 3 บอกเลยว่าปัญหาผิวต่างๆเกิดง่าย แต่มันหายย้ากยาก โดยเฉพาะจุดด่างดำ รอยแผลจากสิว บางทีเกือบสองเดือนกว่ารอยจะจาง เพราะฉะนั้นสกินแคร์ที่เลือกใช้เนี่ยนอกจากบำรุงให้ผิวขาวแล้วต้องไม่ทำให้เกิดสิว และลดรอยสิวได้อย่างรวดเร็วด้วย เลยอยากจะมาแชร์สกินแคร์ดีๆ ให้เพื่อนๆที่กำลังมองหาสกินแคร์สำหรับผิวกระจ่างใส และช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิวด้วย และนี่คือบรรดาสกินแคร์ที่เบนซ์ใช้อยู่ตอนนี้ คัดมาแล้วว่าเลิศ เห็นผลชัดเจน และคุ้มค่ากับเงินค่ะ
SK-II Facial Treatment Essence
หากพูดถึงสกินแคร์เพื่อผิวขาวกระจ่างใส จะขาดตัวนี้ไปได้อย่างไรล่ะคะ น้ำตบอันโด่งดังเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆทั่วโลก ถึงขนาดเรียกว่าเป็น Miracle Water กันเลยทีเดียว เบนซ์ใช้ SK-II มาตั้งแต่อายุ 15 แล้ว (ตอนนี้อายุ 30 แย้ว T-T) ใช้มานานมาก แต่ไม่ค่อยได้ซื้อใช้ประจำเพราะของมันแพง ซื้อตอนที่มีเงินค่ะ ฮ่าๆๆๆ Essence ขวดนี้มีส่วนผสมของพิเทร่า ซึ่งเป็นส่วนผสมเฉพาะของแบรนด์ SK-II พิเทร่าช่วยให้วงจรผิวเราทำงานดีขึ้นใน 28 วัน โดยช่วยทำให้เซลล์ผิวเราจะมีกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกจากผิว โดย Essence ขวดนี้มีส่วนผสมพิเทร่าเข้มข้นถึง 90% ใครที่อยากลองใช้แบรนด์ SK-II ต้องเริ่มลองตัวนี้ก่อนนะคะ
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ (Ingredients)
1 Galactomyces Ferment Filtrate หรือพิเทร่าที่เราคุ้นเคยกันดี เกิดการจากหมักบ่มยีสต์ “Galactomyces” หรือพูดง่ายๆคือการบักบ่มสาเกนั่นเอง พิเทร่าอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวถึง 50 ชนิด ช่วยปรับสภาพวงจรผิวเราให้เกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิวทุกๆ 28 วัน ทำให้ผิวเรานั้นกระจ่างใส อ่อนเยาว์ และแข็งแรงขึ้น
2 Butylene Glycol เป็นสารที่เกิดจากก๊าซบีเทน ในวงการเครื่องสำอางค์ตัวนี้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ปรับสมดุลให้กับผิว
วิธีใช้และความรู้สึกหลังใช้
ใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังจากล้างหน้าและเช็ดโทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว กด 1-2 ปั๊ม ลงบนแผ่นสำลี (แต่ส่วนตัวปั๊มลงฝ่ามือ)แล้วตบเบาๆทั่วใบหน้า รอบดวงตา ริมฝีปาก และลำคอ ตัวเอ็สเซ้นส์เป็นน้ำ ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ชุ่มชื่น ประเด็นคือกลิ่น ส่วนตัวแล้วรับได้นะ ไม่เหม็นเกินไป เพราะใช้มานานจนชินกลิ่นแล้วค่ะ ฮ่าๆ หลังใช้ประมาณ 5 วัน เห็นชัดเลยว่าผิวดูใสขึ้นมานิดนึง แต่หลังจากใช้ได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อนๆทักเลยว่าผิวดีขึ้น ใสขึ้น ส่วนเรื่องจุดด่างดำช่วงแรกจางลงไวนะคะ แต่พอใช้ไปได้สักระยะรู้สึกว่าจุดด่างดำจากสิวจางช้าลง เหมือนต้องหาตัวอื่นมาช่วยทำให้รอยจางเร็วขึ้น เบนซ์ซื้อใช้มาหลายขวดแล้วค่ะ แต่พักหลังๆมาใช้วันเว้นวันแค่ตอนเช้าเท่านั้น เพราะรู้สึกว่าตัวนี้ทำให้มีสิวอุดตันขึ้นมาบ้าง เลยลดปริมาณการใช้ลง
เคล็ดไม่ลับฉบับ BenzSoCute
เท Essence ตัวนี้กับมากส์หน้าอัดเม็ดหรือมากส์แผ่นใต้ตาเพื่อนำมาเพิ่มความชุ่มชื่นแบบเร่งด่วน หรือเทลงสำลีให้ชุ่มแล้วนำมาแปะบริเวณผิวที่แห้งลอก ผิวเบิร์นจากแดด หรือแปะบริเวณริมฝีปากเพื่อเพิ่มความนุ่ม ไม่แห้งกร้าน
DrGL Skin Repair
ขวดจิ๋วแต่ราคาอุ๊แม่เจ้ามาก!!! แบรนด์นี้เพิ่งมาเปิดเคาเตอร์ที่เมืองไทยได้ประมาณ 2 ปี โดยแพทย์หญิงจอร์เจีย ลี แพทย์ผิวหนังชื่อดังจากสิงคโปร์เป็นคนก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นมา จุดเด่นคือใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุดที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น และผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์ได้ทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย
เซรั่มตัวนี้มีส่วนผสมจากสเต็มเซลล์พืชที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวเก่าและช่วยการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ผิวที่ผ่านการเลเซอร์ ทรีทเม้นท์แรงๆ หรือกดสิวมา ตัวนี้ช่วยฟื้นฟูผิวได้เร็วยิ่งขึ้น รอยดำรอยแดงต่างๆจางลงอย่างรวดเร็ว ป้องกันการระคายเคืองผิวด้วย
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ (Ingredients)
1 Cucumis Sativus Fruit Extract สารสกัดสเต็มเซลล์จากแตงกวา ช่วยลดความแห้งกร้านให้กับผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นกระชับ และปลอบประโลมผิวจากการใช้ยาสิว หรือเลเซอร์ผิวหน้า
ช่วยลดรอยแดงและรอยแผลเป็นจากสิวได้เป็นอย่างดี
2 Thioctic Acid คือ Alpha Lipoic Acid เป็นสารAnti - Oxidant ที่ดีแถมยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ Anti - Oxidant ตัวอื่นๆอีกด้วย เช่น เสริมประสิทธิภาพการทำงานของกลูตาไธโอน และวิตามินอีให้ดียิ่งขึ้น กรดไลโปอิกนี้สามารถซึมผ่านเข้าสู่เซลล์ผิวในระดับ DNA ซึ่งช่วยปกป้องและชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี บางวิจัยบอกว่ากรดไลโปอิกช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นได้ด้วย
3 Sphingo Lipids สารเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวสุขภาพดี ไม่แห้ง และลดเลือนริ้วรอย
วิธีใช้และความรู้สึกหลังใช้
ทาทั่วใบหน้าทั้งเช้าและเย็น ใช้หลังจาก SK-II Facial Treatment Essence เนื้อเซรั่มเป็นน้ำใส ไม่มีกลิ่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวไว ผลลัพธ์หลังจากใช้บอกเลยว่าสิวอุดตันลดลง รอยแดงจากการกดสิวหายไวขึ้น รอยดำจากสิวจางลงบ้างนิดนึงแต่ใช้ระยะเวลาพอสมควรเกือบๆเดือนเลย แต่ถ้าผิวแห้งต้องเพิ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ด้วยเพราะตัวนี้ยังให้ความชุ่มชื่นยังไม่ดีพอ ส่วนตัวคิดว่าตัวนี้ช่วยเรื่องสิวมากกว่า เพราะเห็นผลเรื่องสิวลดลงชัดเจน
สัปดาห์แรกที่ใช้แนะนำใช้ทาทั่วหน้าทั้งเช้าและเย็น ทารอบดวงตาได้เลย หลังจากนั้นใครที่งกเหมือนเบนซ์ (ฮ่าๆๆๆ ของมันแพงนิเนอะ) ใช้แค่ตอนเย็นพอ หรือแต้วเน้นเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาเช่น สิวอักเสบ รอยด่างดำต่างๆ
เคล็ดไม่ลับฉบับ BenzSoCute
ถ้ามีสิวอักเสบที่เริ่มจะแดงอักเสบ หรือสิวอักเสบที่ไม่มีหัว เอาตัวนี้แต้มแทนยาทาสิวได้เลยค่ะ เคยแต้มสิวอักเสบที่ไม่มีหัวประมาณ 3-4 วันสิวยุบลงนะ ไม่ทิ้งรอยแดงรอยดำไว้ด้วยแหละเธอว์ แบรนด์นี้มีโปรโมชั่นทุกเดือน ก่อนซื้อลองเช็คโปรดูก่อนนะคะ
Aesop Lucent Facial Concentrate
แบรนด์สกินแคร์ชื่อดังจากออสเตรเลีย จุดเด่นของแบรนด์นี้คือ ผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติต่างๆที่มีประโยชน์ต่อผิว โดยใช้นวัตกรรมทางวิทยาการวิทยาศาสตร์มาสกัดและวิจัยเพื่อให้สิ่งที่ได้จากธรรมชาตินั้นเกิดประสิทธิภาพมากที่สุดผลิตภัณฑ์ Aesop สามารถตอบโจทย์ทุกๆ Lifestyle ของลูกค้า ตัวผลิตภัณฑ์และรูปแบบเคาเตอร์มีความดึงดูดมากเลย คือดูเรียบง่ายแต่เก๋ สินค้าทุกตัวสามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็น Signature เลยคือ Parsley Seed Anti-Oxidant Serum ตอนที่ออกมาใหม่ๆที่ออสเตรเลียขายดีมากถึงขนาดที่ว่าลูกค้าต้องยอมลงชื่อจองคิวเพื่อซื้อตัวนี้กันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นตัวตัวแรกที่ใช้และเป็นตัวโปรดของเบนซ์เลยค่ะ โปรดขนาดไหนน่ะหรอเอาเป็นว่าหลังจากหมดขวดแรก ต้องไปถอยมาครบเซ็ทของกลุ่ม Parsley Seed กันเลยทีเดียวหึหึ! แถมยังพ่วงซื้อแชมพูสระผม Calming Shampoo มาด้วย แก้อาการคันหนังศีรษะได้ดีเว่อร์ แต่วันนี้เบนซ์จะรีวิวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อผิวกระจ่างใสพร้อมทั้งทำให้ผิวอ่อนเยาว์ของ Aesop กันค่ะ
Aesop Lucent Facial Concentrate ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวแบบเร่งรัด ที่อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพเช่น Vitamin C และ Vitamin B3 ช่วยทำให้ผิวของเรากระจ่างใสและดูอ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการความกระจ่างใส ลดรอยดำต่างๆและลดเลือนริ้วรอย ก่อนที่จะมาใช้ตัวนี้เบนซ์กังวลเรื่องรอยดำจากสิวมาก เพราะหายช้ามาก เป็นเดือนรอยยังไม่จาง เลยต้องหาตัวช่วยเด็ดมากำจัดรอยดำ
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ (Ingredients)
1 Sodium Ascobyl Phosphate คือวิตามินซีที่มีความเสถียร โดยปกติแล้ววิตามินซีเสื่อมสภาพได้ง่ายมาก แค่โดนอากาศโดนแสงแดดก็เสื่อมสภาพแล้ว เพราะฉะนั้นวิตามินซีที่ใช้ในสกินแคร์จะผ่านกระบวนทำให้ตัววิตามินซีมีความทนทานกับการเผชิญอากาศและแสงแดดได้ในระยะนึง วิตามินซีที่ Aesop ใช้นั้นดูดซึมเข้าสู่ผิวเราได้ดีกว่าวิตามินซีแบบละลายน้ำทั่วๆไป แถมออกฤทธิ์ได้ดีกว่าวิตามินซีทั่วไปถึง 7 เท่า คุณสมบัติของวิตามินซีแน่นอนว่าต้องช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ Anti - oxidant และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว แถมยังช่วงลดการอักเสบของสิวด้วย ดูจากส่วนผสมที่ขวดอยู่ลำดับที่สาม น่าจะใส่มาเข้มข้นพอที่จะทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนอยู่เหมือนกัน
2 Niacinamide หรือ Vitamin B3 ช่วยเรื่องปรับโทนสีผิวให้ขาวขึ้น ลดจุดด่างดำ เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังช่วยลดการเกิดสิวด้วย
3 Boswellia Carterii Oil หรือ Frankincense oil เป็นน้ำมันหอมระเหยจาก Frankincense มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องลดเลือนริ้วรอย ช่วยฟื้นฟูผิวจากการถูกทำลายจากแสงแดด ต้านการอักเสบของผิว(Antiseptic) และลดเลือนรอยแผลจากสิว
4 Fusanus Spicatus Wood Oil หรือ Sandalwood Oil คุณสมบัติช่วยต้านแบคทีเรีย(Antiseptic) ลดการอักเสบของสิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและลดริ้วรอย
วิธีใช้และความรู้สึกหลังใช้
หยดประมาณ 4-5หยดแล้วทาลงบนผิวให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ หลังจากลง Essence แบบน้ำแล้ว ใช้ได้ทั้งเข้าและเย็นเนื้อสัมผัสมีความข้นนิดนึงแต่พอทาที่ผิวแล้วกลับซึมซับเข้าสู่ผิวได้ดี ไม่เหนอะหนะหน้า แต่มีความชุ่มชื่น มีกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย หลังจากได้ลองใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์ สังเกตได้เลยว่าผิวกระจ่างใสขึ้น รอยดำและรอยแดงจากการกดสิวจางไวขึ้น บางครั้งไม่ลงมอยเจอร์ไรเซอร์ด้วยเพราะตัวนี้ให้ความชุ่มชื่นได้ดีในระดับคนผิวมัน หรือบางครั้งขี้เกียจทาครีมเยอะจะลงแค่ตัวนี้แล้วนอนเลย เป็นตัวโปรดของเบนซ์เลย จากส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อผิวเราจริงๆ ทำให้ผิวกระจ่างใส รอยดำจางลง หน้าอ่อนเยาว์ขึ้น และยังช่วยเรื่องสิวอีกด้วย เอาเป็นว่าไปซื้อมาลองเถอะ ตัวเดียวจบ คุ้มค่ากับเงินทีเสียไป
เคล็ดไม่ลับฉบับ BenzSoCute
ตัวนี้สามารถนำมามากส์ผิวแบบเร่งด่วนได้ด้วยนะ วันไหนที่นอนน้อย ผิวโทรม เอามาโปะหนาๆที่ผิวทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออก ผิวเราจะดูมีชีวิตชีวามากขึ้นมาทันทีเลยล่ะ หรือใครผิวแห้งมากลองหยดน้ำมันบำรุงผิวสัก 1-2 หยดลงไปผสมแล้วทาผิว จะทำให้ผิวเราชุ่มชื่นขึ้น (จากประสบการณ์ส่วนตัววันไหนผิวแห้งแดงจากยาสิว เบนซ์ผสมน้ำมัน Parsley Seed Anti-Oxidant Facial Treatment 2 หยดคู่กับ Lucent วันรุ่งขึ้นผิวหายแห้งแดงเลยจ้า)
ส่วนใครอยากให้รอยดำต่างๆกจางไวให้ใช้ Aesop Lucent Facial Concentrate แต้มเน้นที่รอยได้เลยค่ะ