กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อรีวิวและวิจารณ์การ์ตูนเรื่องปิ่นโต Love in a Lunchbox และมีการพูดถึงพัฒนาการของการ์ตูนทำอาหารที่วาดโดยคนไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน กับผลงานการ์ตูนทำอาหารที่ จขกท. กำลังทำอยู่และตอนท้ายจะมีการให้คะแนนการ์ตูนเรื่องนี้จากการตัดสินของเจ้าของกระทู้เอง


    เกริ่นนำ
         เนื่องด้วยวงการอุตสาหกรรมการ์ตูนนั้นมีการเติบโตอย่างไม่มีขีดจำกัด นานาประเทศต่างก็สร้างการ์ตูนขึ้นมาเพื่อให้ความบันเทิงและแข่งขันกันเองในประเทศและในต่างประเทศ โดยการ์ตูนแบ่งออกเป็น 2 สายหลัก คือแนวมังงะของญี่ปุ่น และแนวคอมมิคของอเมริกา ความแตกต่างของการ์ตูน 2 สายนี้ คือ มังงะจะเน้นไปทางสเกลตัวละครที่กึ่งสมจริง มีการวาดตาให้โต และวาดปากกับจมูกให้เรียวเล็กเป็นเหมือนจุดเล็กๆถ้ามองจากมุมมองตรง ส่วนคอมมิคจะเน้นวาดแบบสมจริง ปากเป็นปาก ตาเป็นตา จมูกวาดแบบมีรอยหยักโค้งชัดเจน ซึ่งทั้งมังงะและคอมมิคต่างก็มีวาดหมดทุกแนวที่เกี่ยวกับชีวิตและความเป็นจริงต่างๆ ทั้งแนวสืบสวน สยองขวัญ บู๊ระห่ำแอ็คชั่น ไซไฟ คอเมดี้ ดราม่า โรแมนติก แฟนตาซี ซึ่งการ์ตูนทั้งสองสายต่างก็ขายดีทั้งคู่และมีอิทธิพลต่อประเทศต่างๆ ให้สรรสร้างการ์ตูนสองสายนี้ขึ้นโดยมีทั้งประเทศที่ยอมรับการ์ตูนสองแนวนี้และประเทศที่ไม่ยอมรับกับประเทศที่มีเสียงแตกว่าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับการ์ตูนพวกนี้มาอยู่ในอุตสาหกรรมหลักดีไหม โดยคนที่มีผลต่อการตัดสินใจต่อการยอมรับการ์ตูนคือผู้มีอำนาจและผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนั้นๆ สำหรับประเทศไทยนั้นการ์ตูนมังงะและคอมมิคได้มีการรับเข้ามาในประเทศเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง ซึ่งการ์ตูนไทยสายหลักเมื่อสิบปีก่อนคือการ์ตูนผีเล่มละบาทและการ์ตูนของสำนักพิมพ์บรรลือสาส์นทั้งขายหัวเราะ มหาสนุกที่มีลายเส้นออกแนวผสมผสานคือจะมังงะก็ไม่มังงะจะคอมมิคก็ไม่คอมมิค ซึ่งการ์ตูนเหล่านี้ก็ยังตีพิมพ์มาจนถึงปัจจุบัน การ์ตูน 2 สายนี้มีการพัฒนาการก้าวกระโดดมาก ซึ่งหาอ่านได้ตามแผงหนังสือหรือตามเว็บคอมมิคที่ทยอยเปิดตัวทั้ง webtoon , ookbee , comico มีทั้งแบบอ่านฟรีและเสียเงิน แต่แนวอ่านบนเว็บนั้นจะเรียกมังงะก็ไม่ถูกนักเพราะไม่ได้วาดแบ่งช่องมากมายเหมือนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นแต่เป็นการวาดหน้าใหญ่ 1 หน้าเลยโดยหน้านั้นถ้าเป็นฉากก็วาดฉากทั้งหน้า ถ้าเป็นตัวละครก็เป็นตัวละครทั้งหน้าและมีรูปแบบการอ่านแบบไล่จากบนลงล่าง และใส่สีหน้ากระดาษด้วยขณะที่มังงะนั้นจะวาดแบบมีช่องเยอะในแต่ละหน้า และรูปแบบการอ่านเป็นการเปิดอ่านทีละหน้าและเป็นขาวดำ เรียกการ์ตูนแนวนี้ว่า มันฮวา โดยการ์ตูนแนวนี้เพิ่งได้รับความนิยมไม่นานเนื่องจากสะดวกและไม่ต้องพกพาไปไหนเป็นเล่มให้เกะกะ ซึ่งการ์ตูนแนวอ่านบนเว็บนี้พัฒนาโดยคนเกาหลีจากการเอามังงะมารวมกับอนิเมะ ที่พูดถึงการ์ตูนมันฮวาเพราะว่าการ์ตูนที่ผมจะนำมารีวิวนั้นเปิดให้คนอ่านทางเว็บ ookbee และมีรูปแบบอ่านแบบอ่านจากบนลงล่างแบบมันฮวา
        ประเด็นสำคัญ
         มาพูดถึงการ์ตูนที่ผมจะมารีวิวกันวันนี้ซึ่งก็คือเรื่องปิ่นโต Love in a Lunchbox ที่วาดโดยคุณ sinad Jaruartjanapat โดยคุณสินาดนั้นเป็นอาจารย์สอนที่สถาบันวาดรูปแห่งหนึ่ง แต่กระทู้นี้จะไม่ขอพูดถึงเรื่องส่วนตัวของคนวาด แต่จะพูดว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นมายังไงและก่อนหน้านี้เคยมีการ์ตูนทำอาหารอะไรที่มีกระแสคนพูดถึงมากมาก่อนไหม ซึ่งสำหรับเรื่องนี้นั้นพอคนวาดได้ประกาศว่าจะลงมือทำและปล่อยรูปลงในเพจส่วนตัวนั้นก็มีคนมากดถูกใจหลายหมื่นคนและมีเสียงชื่นชมมากกับกระแสวิจารณ์แบบประหลาดที่หลั่งไหลเข้ามา
โดยมีคอมเมนต์มาแสดงความคิดเห็นหลังคนวาดลงรูปนี้มากมายในแนวที่สื่อถึงความลามกโดยมีการพิมพ์ภาษาแปลกๆและมีแอคเคาท์ชื่อภาษาฝรั่งแบบแปลกๆ ซึ่งความเห็นแนวนี้มีมากมายล้นหลามกว่าความเห็นชื่นชมของคนไทย โดยคนที่แสดงความคิดเห็นเหล่านั้นคือคนบราซิล โดยได้มีคนชี้แจงว่าคำว่า Pinto ในภาษาโปรตุเกสนั้น แปลว่า ลูกเจี๊ยบ แต่ชาวบราซิลมักนิยมใช้แทนสื่อถึงอวัยวะเพศชาย ซึ่งต่อมาภายหลังคนวาดก็ตัดคำว่า Pinto ออกไป เหลือแต่คำว่า ปิ่นโต Love in a Lunchbox แทน และตอนนี้ตอนเกริ่นนำก็ลงให้คนอ่านเรียบร้อยแล้วในเว็บ Ookbee ในรูปแบบมันฮวา และก่อนที่จะพูดถึงภาพรวมว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นยังไง จะขอพูดถึงการพัฒนาการของวงการการ์ตูนทำอาหารในไทยก่อน ซึ่งจะพูดถึงการ์ตูนมังงะและมันฮวาในช่วง 5 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน จากมุมมองส่วนตัวของตัวเอง ผิดถูกประการใดก็ขออภัยด้วยครับ
           ในช่วง 5 ปีก่อนนั้นมีการ์ตูนทำอาหารไทยถูกสร้างโดยนักวาดหลายคนซึ่งมีทั้งในรูปแบบมังงะและมันฮวา โดยจะขอรวบรวมผลงานที่เด่นๆ 6 เรื่องและมีคะแนนความชอบส่วนตัวจาก จขกท. ด้วย
         1. เจ้าหนูข้าวจี่
                   ผลงานของเกษม อภิชนตระกูล และคุณากร ขุนนราศัย ตีพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ซีคิดส์ เอ๊กซ์เพรสของสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ โดยเริ่มตีพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารซีคิดส์ เอ๊กซ์เพรส ฉบับที่ 16 ปี พ.ศ. 2559 ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559  ตีพิมพ์ต่อเนื่องเป็นรายฉบับเว้นฉบับจนถึงฉบับที่ 42 ปี พ.ศ. 2559 โดยที่เรื่องยังไม่จบเนื่องจากนิตยสารซีคิดส์ เอ๊กซ์เพรสปิดตัวลงในฉบับที่ 43 ปี พ.ศ. 2559 ต่อมาได้วางจำหน่ายในรูปแบบหนังสือการ์ตูนรวมเล่ม รวม 2 เล่มจบโดย "เจ้าหนูข้าวจี่" เป็นชื่อเรื่องหลัก ส่วนชื่อเรื่องรอง "แผงลอยมหาประลัย ปิ้งสะท้านปฐพี" นั้นจะเปลี่ยนไปทุกครั้งด้วยเจตนาของตัวผู้เขียนเอง
          การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนแนวตลกล้อเลียน ซึ่งมุกแต่ละอย่างนั้นเวลาอ่านแล้วคนอ่านคงจะคิดในใจว่า นี่มันมุข เxี้ย อะไรเนี่ย ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับแผงลอยขายข้าวจี่ เพียงหนึ่งเดียวบนถนนกังสะเดิด แหล่งรวมภัตตาคารและร้านอาหารชั้นหรูระดับโลก ท่ามกลางพายุทุนนิยมอันเชี่ยวกราก!! “เจ้าหนูข้าวจี่” พร้อมรับการท้าทายจากคู่แข่งทั่วโลก แบบไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล!! ซึ่งอ่านแล้วก็ขำๆดี แต่ก็เป็นมุกออกแนวขำขัน อ่านแล้วคลายเครียดดี ไม่ค่อยมีเรื่องเกี่ยวกับการทำอาหาร จึงให้คะแนน 5/10
           2. ครัวแม่ดาชา
                        ผลงานโดยคุณอรรถชัย ดาดีหรือที่คนเรียกกันว่า เสี่ยแนน โดยการ์ตูนเรื่องนี้กล่าวถึงการเปิดร้านทำอาหารของสองสาวเพื่อนสนิทคือ 'ดาชา กระดานคุณธรรม' อดีตเน็ตไอดอล และ 'อาหมวย คงกระพัน' ผู้ช่วยเชฟ ที่ตัดสินใจลาออกจากงานทั้งคู่เพื่อมาทำตามความฝันคือเปิดร้านอาหาร ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้มี 2 ภาค ลงใน webtoon
           ตอนแรกก็อ่านแล้วสนุกดีนะ แต่หลังๆมาออกแฟนตาซีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจอมกินแหลกจนพังร้านยังงี้ พลังวิเศษกำลังภายในยังงี้ และมนุษย์ต่างดาวยังงี้ ทำให้ความสนุกค่อยๆลดลง และคนกดติดตามและกดถูกใจน้อยลงก่อนจะโดน webtoon ตัดจบไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่ง จขกท. ชอบการ์ตูนเรื่องนี้มากตอนอ่านแรกๆ แต่หลังๆมาก็ไม่ค่อยได้ตามจนรู้ว่าโดนตัดจบไปก็รู้สึกเสียดายการ์ตูนดีๆ ที่ภาพสวย แต่เสียตรงเนื่อเรื่อง ไม่เข้าไปที่แกนหลักคือการทำอาหารแต่ไปโฟกัสที่ความฝันของแต่ละคนแทนจนยืดเยื้อและมีแต่น้ำ ให้คะแนน 4/10
            3.ครัวง่ายๆ สไตล์เด็กหอ
           ผลงานของคุณซิบบิล ลงใน Webtoon ทุกวันเสาร์ เนื้อเรื่องกล่าวถึงแตงกวา นักศึกษาที่เรียนในมหาลัยแห่งหนึ่งโดยมาอยู่หอคนเดียวและต้องประกอบอาหารง่ายๆจากสูตรที่หาจากในเน็ตและความทรงจำของตัวเอง
                    อ่านได้เรื่อยๆ เพลินๆ แนวเบาสมอง ไม่ดราม่า ผมชอบนิสัยรั่วๆ ของแตงกวาดี และยังนิสัยตามใจปากทั้งที่ตัวเองนั้นอ้วนแต่ก็ยังทำเมนูที่ทำให้น้ำหนักขึ้นอยู่ดีทั้งอาหารจากชีสและขนมหวานต่างๆ แต่อ่านเรื่องนี้ก็ได้ความรู้เรื่องการทำอาหารแบบง่ายๆ ดี กับได้รู้การเอาตัวรอดเมื่อต้องอยู่คนเดียวโดยการประยุกต์การทำอาหารและการใช้เครื่องครัว มีการสอนการใช้เครื่องครัวและการประกอบอาหารและถนอมอาหารต่างๆ
       ความรู้จัดเต็มและแน่นดีแต่ก็เป็นแนวทำกินได้ง่ายๆ เลยให้คะแนน 7/10
        4.a la carte ชิมรักให้รู้รส
                    ผลงานของคุณ MeanMean ลงในเว็บ comico เนื้อเรื่องกล่าวถึง 'โรส’ หญิงสาวเจ้าของร้านเช่าหนังสือที่อยากเป็นนักเขียน แต่ความสามารถด้านนี้ห่วยสุดๆ กลับมีพรสวรรค์เรื่องชิมอาหาร และ ‘เคน’ ชายหนุ่มเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง ที่อยากเปิดภัตตาคารหรู ทั้งคู่จึงมาร่วมมือกัน หาวิธีทำให้ความฝันของแต่ละฝ่ายเป็นจริง!
            ออกแนว slice of life และคอเมดี้ ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับการทำอาหาร แต่ก็มีภาพอาหารน่ากินบ้าง
                           ภาพสวย วาดอาหารน่ารับประทาน แต่ไม่ค่อยมีเรื่องเกี่ยวกับอาหารเลย เน้นเรื่องความรักและเซอร์วิสเกินไป ให้คะแนน 4/10
              5.ครัวเล็กในป่าใหญ่
              
             ผลงานของคุณโกสินทร์ จีนสีคง และคุณ PittMomo ลงในเว็บ webtoon กล่าวถึง 'เหมย' นักวิจารณ์อาหารที่กลับมาบ้านเกิดเพื่อค้นหาความหมายของชีวิตบางอย่าง
             อ่านแล้วสนุกดี ภาพก็วาดสวย วาดอาหารได้น่ากิน มีความรู้เรื่องอาหารสอดแทรกมาบ้างแต่ไม่มากนัก และบางภาพก็ใช้โปรแกรมช่วยในการใส่ฉากจริงแทนการวาดเอง
                             องค์ประกอบครบทั้งภาพและเนื้อเรื่องดีหมด แต่เสียดายที่คนวาดนั้นไม่วาดต่อแล้วเนื่องจากคุณโกสินทร์นั้นไปวาดการ์ตูนของตัวเองเรื่อง แว่วกริ่งกังสดาล และคุณ PittMomo ก็ไปวาดการ์ตูนของตัวเองเรื่อง Gavin  จอมมารร้ายตัวจี๊ด ลง webtoon แต่คุณ PittMomo ก็เลิกวาดเรื่องกาวิน เปลี่ยนไปวาดการ์ตูนเรื่องใหม่ที่เป็นการ์ตูนทำอาหารซึ่ง จขกท.จะเขียนต่อไปในหัวข้อด้านล่าง คะแนน 6/10
                6.My little kitchen diary
                                       ผลงานของคุณ PittMomo ลงใน Webtoon เนื้อเรื่องกล่าวถึงตัวของผู้วาดที่ถ่ายทอดเรื่องราวการทำอาหารของตัวเองผ่านตัวละครสมมติ
                                           ได้ความรู้ด้านอาหารท้องถิ่นดี อ่านได้เรื่อยๆ เป็นแนวอบอุ่นหัวใจ มีการทำอาหารสอดแทรกตามเนื้อเรื่องที่ดำเนินควบคู่กัน โดยเรื่องนี้นางเอกเราจะตกงานเพราะไม่ชอบทำงานที่ไม่ได้รัก โดยความฝันของนางคือจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับการทำอาหารเลยต้องลาออกมาหาข้อมูลด้านอาหารที่บ้านเกิด ดูแล้วก็น่าเอาใจช่วยดี และสกิลการทำอาหารของนางเอกก็น้อยมากซึ่งคงจะพัฒนาไปตามเนื้อเรื่องและจำนวนตอน
                          ภาพสวย เนื้อเรื่องดี ได้ความรู้ด้านการทำอาหารและภาษาเหนือแต่เนื่องจากเป็นแนวสบายๆ จึงจะอ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ได้ ซึ่งถ้าพลาดไปตอนนึงก็ไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยมีเรื่องดราม่าหนักๆ หรือปัญหาให้ตัวละครแก้มากมาย แค่ทำอาหารและหาวัตถุดิบเป็นตอนๆ ให้ 5/10