เนื่องด้วยปัญหาในขณะนี้ คือ มีจำนวนประชากรของ หมาจร และ แมวจร จำนวนมาก การ set zero และ เก็บภาษีของคนเลี้ยงหมานั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะ จะสามารถควบคุมปริมาณ และ สามารถดูว่าใครที่พร้อมจะเลี้ยง หมาหรือแมวได้จริงๆ โดยตอนเด็กเป็นคนกลัวหมามาก เพราะ หมาเคยโดนกัดแล้วเป็นหมาที่ไม่มีเจ้าของ และ หมาเคยวิ่งตัดหน้ารถแล้วทำรถล้ม(จักรยานยนต์) เราก็เอาผิดกับหมาจรตัวนั้นไม่ได้ พวกที่ให้อาหารก็ไม่มีใครออกมารับผิดชอบสัคน
รอบก่อนไป โรงพยาบาล พยาบาล ก็พูดกันลอยๆว่า บางทีหมาก็เป็นสาเหตุทำให้รถล้ม แล้วก็เอาผิดไรกับหมาไม่ได้ เพราะบางที เจ้าของก็ไม่มารับผิดชอบ  จึงทำให้เห็นว่า
1. การ set zero เป็นผลดีกับทั้ง ผู้เลี้ยงสัตว์ และ ผู้ไม่เลี้ยงสัตว์ เนื่องจาก หมาจรบางตัวเราก็ไม่รู้ว่ามันเชื่องจริงหรือปล่าว บางตัวที่พร้อมจะทำร้ายเราล่ะ บางตัวเป็นพิษสุนัขบ้าล่ะ เราเอาผิดกับผู้เลี้ยงผู้ให้อาหารหมาจร แมวจรไม่ได้
2. การเก็บภาษี ส่วนนี้ กระผมคิดว่าดี กับผู้ที่เลี้ยงโดยตรง อาจเก็บปีละ 1000-3000 บาท คิดเป็นเดือน ก็เดือนละ 83-250 บาท มันก็เป็นการคัดคนที่พร้อมจะเลี้ยงได้ในระดับหนึ่ง แล้วนำเงินภาษีส่วนนั้นมา 1.ฝังชิปให้หมา 2.นำมาเป็นเงินทุนในการฝึก หมา หรือ แมวให้เชื่อง และเป็นมิตรกับบุคคลมากขึ้น 3.แบ่งเงินบางส่วนไปทำหมัน หมา หรือ แมวจร
3.อยากให้เอาผิดกับคนที่ละเลย ไม่สนใจหมา แมวของท่าน ถ้าไม่พร้อมเลี้ยงก็ไม่ต้องเลี้ง การเลี้ยงสัตว์ 1 ตัว เค้าจะอยู่กับคุณไปอีก อย่างน้อย 5 - 10 ปี โปรดดูแลเขาให้เต็มที่เขาเป็นเหมือนลูกของคุณ

ขอบคุณครับ