ช่วงนี้เห็นมีแต่คนหยิบ FIIT มารีวิว ไอ้เราเห็นว่ามันก็ไม่ได้แพงมากควรค่าแก่การหยิบมาลองให้รู้แล้วรู้แรดอยู่เหมือนกัน คุชชั่นกลายเป็นไอเท็มโปรดของเราเพราะมันจบได้หมดในตลับเดียวไม่ต้องลงอะไรเยอะแยะ แถมพกพาสะดวก เรื่องของเรื่องคือถึงจะชอบแค่ไหนแต่การจะหาสีที่ตรงกับผิวแบบสาวไทยมันยากเหลือเกิน คุชชั่นสำหรับคนเอเชียส่วนใหญ่ก็เน้นไปแต่ทางเกาหลี คืออันย๊องง หนังหน้าชั้นผิวสองสีไปจนเกือบๆจะแทน ไม่ได้ขาวออร่าแบบออนนี่ไงฮือออ ดูรีวิวของบล็อกเกอร์คนอื่นๆบนฟีดก็ต้องมานั่งบวกลบคูณหารว่าเอ๊ะที่เค้าว่าดีเนี่ยมันจริงมั๊ยนะ จริงไม่จริงไม่เท่าไหร่ ต้องมานั่งงมอีกว่าสีผิวเค้ามันตรงกับสีผิวเรามั๊ยหว่า (บางทีเค้ารีวิวจริงๆแหละว่ามันดีโคตรๆ แต่สีผิวเราคนละโทนไปลองแบบเค้าก็ตายได้เหมือนกัน 555) ปัจจุบันลองมาหลายยี่ห้อไม่ว่าจะงานเอเชียโซนเกาหลี ไต้หวัน แบรนด์ไทย แบรนด์ยุโรป หรือแบรนด์โซนอเมริกา พูดตรงนี้เลยว่าคุชชั่นเนี่ย หมด-ไว-มากกก จะซื้อแบรนด์เมืองนอกไกลๆเราราคาก็ไม่เป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์พี่เท่าไหร่เลย ส่วนคุชชั่นหลักร้อย พูดเลยว่าหน้า "ลอย" มาหลายยี่ห้อแล้วจ้า (ฮาาา) แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหามาลองไปเรื่อยๆ มาค่ะ วันนี้มาแกะกล่องรีวิวคุชชั่น FIIT ให้ดูไปพร้อมๆกัน ตามมาส่องได้เล้ย
สูตรที่หยิบมาลองวันนี้คือสูตร Perfect Matte เน้นการปกปิด แต่ไม่หนาเตอะ เบอร์ที่ใช้กับผิวเราคือ PM03-Cool Caramel มีเข้มกว่านี้แต่อันนั้นต้องผิวแบบน้องโดโรธี เพทโซล์ดซึ่งอิชั้นยังไปไม่ถึง คือเป็นสีผิวที่เกือบๆจะแทนแล้วอะ แต่ก็ยังไม่แทน มันเลยหาสีรองพื้นแบรนด์เมืองนอกที่พอดีกับผิวได้ค่อนข้างยากกก พอรู้ว่าแบรนด์ FIIT เค้าตั้งใจทำคุชชั่นสำหรับคนเอเชียโดยคัดสีมาให้สาวไทยใช้โดยเฉพาะก็เอาน่ะ ลองดูสักตั้งจะเป็นไรไป แถมเค้ามีสารบำรุงกับสารกันแดดมาให้ในตัวด้วย เรียกว่าเป็นทั้งครีม รองพื้น และกันแดดได้ในตัวเดียว
ปาดดูบนหลังมือเห็นเลยว่านางปกปิดเริ่ดมากกกก คือรอยแผลเป็น จุดด่างดำกับสีเส้นเสือดบนหลังมือหายวับไปเลยเด้อ เนื้อแบบนี้คือใช้แทนคอนซีลเลอร์ได้เลย ขุ่นแม่ประทับใจสุดตรงที่เนื้อไม่หนาทาแล้วไม่หนักหน้า และด้วยความที่ขุ่นแม่เก็บกด ไม่ได้ออกไปไหนเลยช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เลยหยิบคุชชั่น FIIT มาทำ มินิฮาวทูเล็กๆให้ชมกันค่ะ ลุคนี้เป็นลุคกันตายใช้ออกงานได้ทุกรูปแบบ ใครอยากแต่งตามมาเริ่มกันได้เล้ย
(ภาพก่อนแต่งหน้า-หลังแต่งหน้า สะพรึงดีแท้ 555)
ขั้นแรกจากหน้าสดหลังทำความสะอาดใบหน้าเสร็จ ไม่ต้องลงครีม ไม่ต้องใช้เบสปรับสภาพผิว ข้ามกันแดดไปได้เลยเพราะตลับนี้มีกันแดดมาให้สูงถึง SPF50+ สะดวกสุดๆ ตลับเดียวจบเนี่ยช้อบชอบ วันนี้ลองลงแค่คุชชั่นฟิตต์โบกป้าบๆๆ ตรงไหนมีรอยดำเห็นชัดก็ตบๆกดๆเติมทับซ้ำเฉพาะจุดเอา ผลลัพธ์ออกมามีกรี๊ดเบาๆสีมันไม่เทาค่ะคู้นนน ปลาบปลื้มที่สีนางกลืนกับผิวดี๊ดี รอยคล้ำใต้ตาหายไปแบบเนียนๆไม่หลอกไม่ลอยด้วยนะเออ
(ทาให้ดูครึ่งหน้า เห็นเลยว่าต่างกันมากกก ปิดเนียนแต่ไม่หนา ฟินิชแบบแมตต์แต่ไม่แห้งแตกนะจ๊ะ)
จากนั้นมาคอนทัวร์กรอบหน้ากันค่ะ แต้มๆบริเวณกรอบหน้า ข้างจมูก เพื่อสร้างมิติพิศวงแห่งแสงและเงาแอ๊บแบ๊วให้หน้าดูเล็กลงโดยไม่ต้องพึ่งโบท๊อก
เสร็จแล้วลงอายชาโดว์ พาเลทกันตายของอิชั้นคือไคลี่ Burgundy Palette สีแดงเบอร์กันดีนางเริ่ดแบบหายี่ห้ออื่นแทนไม่ได้จริงๆ ลงเบอร์ 1 เป็นเบสเบาๆก่อนลงเบอร์ 2 ให้ทั่วเปลือกตา เบอร์ 3 ใช้เบลนด์สีให้นัวๆ ฟุ้งๆ ส่วนเบอร์ 4 ลงเพิ่มมิติบริเวณหางตา เบอร์ 5 ลงที่หัวตาเพื่อเพิ่มประกายวิ้งละเอียดๆ
ใต้ตาจะมีการลงแป้งเอาไว้เพื่อที่เวลาฝุ่นอายชาโดว์หล่นลงมาจะได้ปัดออกง่ายๆไม่เลอะเทอะค่ะ
เพิ่มมิติให้เปลือกตาด้วยการ Top อายชาโดว์เนื้อชิมเมอร์สีทองลงไป พาเลทอันนี้ของซุปเปอร์มัม วิ้งกระจายมากๆ กระพริบตาแล้วดูมีการเล่นกับแสงวิบวับๆ
ใช้ดินสอเขียนคิ้ว Merrezka สีน้ำตาลเข้มวาดกรอบคิ้ว แล้วเบลนด์ด้วยตัวแปรงที่ปลายด้าม ก่อนจะ top คิ้วด้วยเนื้อฝุ่น เลือกใช้พาเลท Lid Lingerie จาก Nyx ใช้แค่สีเดียวคือหลุมซ้ายล่างสุดค่ะ
เก็บงานคิ้วให้เนี้ยบ เอาแปรงหัวตัดจุ่มเนื้อคุชชั่นมาวาดตามขอบคิ้วให้คมกริบ เบลนด์แทนการใช้คอนซีลเลอร์ได้เลย
บลัชออนกับไฮไลท์เลือกใช้จากพาเลท Champaign Pop ของ Becca เลือกใช้แค่ไฮไลท์สีทองบริเวณจุดกระทบแสงทั่วใบหน้า ส่วนบลัชออนก็ผสมๆสามแถวบนเอาค่ะ นัวๆสวยกำลังดี
กรีดตาใช้อายไลน์เนอร์พู่กันสีดำ ดัดขนตาแล้วปัดมาสคาร่ามาจอร์ลิก้าสีดำ ตบท้ายด้วยทาปากสี 'เทราปตรี' เป็นลิปแมตจิ้มจุ่มสีชมพูอมน้ำตาลตุ่นๆจากแบรนด์เจ้านางค่ะ
ทำผมหน่อย เปลี่ยนชุด ก็แปลงร่างงง!! ออกไปลั้นลาได้แล้วฮะ อ้อ ที่เห็นขนตาฟูๆคือติดขนตาปลอมนะเออ ขนตาจริงๆปัดแล้วก็ยังดูงัดไม่ค่อยขึ้นเลยต้องพึ่งกันสาดค่ะ (ฮาา)
หลังจากออกไปแรด เอ๊ย ไปทำธุระปะปัง ก็พบว่าคุชชั่นตัวนี้เอาอยู่ในสภาพอากาศร้อนของเมืองไทย ทาแล้วไม่มัน ผ่านไประหว่างวันพอผิวผลิตน้ำมันออกมาผิวดูสวยเป็นธรรมชาติพอดีๆไม่เมือก ไม่เยิ้ม ใครที่ผิวต้องการปกปิด แต่ไม่อยากโบกหน้าหลายชั้นให้ดูหนา ใช้แค่คุชชั่นฟิตต์ก็ออกมาให้ผิวเนียนขั้นเทพได้อยู่ สรุปว่าผ่าน!!
หวังว่าทู้นี้จะมีประโยชน์กับสาวๆที่เล็งๆมองหาคุชชั่นตลับใหม่กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย นานๆขุ่นแม่จะทำฮาวทูสักที หวังว่าโอกาสหน้าจะได้เจอกันอีกน้า วันนี้ไปละ บ๊ายบาย
รีวิวคุชชั่น FIIT เห็นบล็อกเกอร์ใช้กันรัวๆ ขอลองดูบ้างว่ารอดไม่รอด เอาให้รู้เรื่อง!
สูตรที่หยิบมาลองวันนี้คือสูตร Perfect Matte เน้นการปกปิด แต่ไม่หนาเตอะ เบอร์ที่ใช้กับผิวเราคือ PM03-Cool Caramel มีเข้มกว่านี้แต่อันนั้นต้องผิวแบบน้องโดโรธี เพทโซล์ดซึ่งอิชั้นยังไปไม่ถึง คือเป็นสีผิวที่เกือบๆจะแทนแล้วอะ แต่ก็ยังไม่แทน มันเลยหาสีรองพื้นแบรนด์เมืองนอกที่พอดีกับผิวได้ค่อนข้างยากกก พอรู้ว่าแบรนด์ FIIT เค้าตั้งใจทำคุชชั่นสำหรับคนเอเชียโดยคัดสีมาให้สาวไทยใช้โดยเฉพาะก็เอาน่ะ ลองดูสักตั้งจะเป็นไรไป แถมเค้ามีสารบำรุงกับสารกันแดดมาให้ในตัวด้วย เรียกว่าเป็นทั้งครีม รองพื้น และกันแดดได้ในตัวเดียว
ปาดดูบนหลังมือเห็นเลยว่านางปกปิดเริ่ดมากกกก คือรอยแผลเป็น จุดด่างดำกับสีเส้นเสือดบนหลังมือหายวับไปเลยเด้อ เนื้อแบบนี้คือใช้แทนคอนซีลเลอร์ได้เลย ขุ่นแม่ประทับใจสุดตรงที่เนื้อไม่หนาทาแล้วไม่หนักหน้า และด้วยความที่ขุ่นแม่เก็บกด ไม่ได้ออกไปไหนเลยช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เลยหยิบคุชชั่น FIIT มาทำ มินิฮาวทูเล็กๆให้ชมกันค่ะ ลุคนี้เป็นลุคกันตายใช้ออกงานได้ทุกรูปแบบ ใครอยากแต่งตามมาเริ่มกันได้เล้ย
(ภาพก่อนแต่งหน้า-หลังแต่งหน้า สะพรึงดีแท้ 555)
ขั้นแรกจากหน้าสดหลังทำความสะอาดใบหน้าเสร็จ ไม่ต้องลงครีม ไม่ต้องใช้เบสปรับสภาพผิว ข้ามกันแดดไปได้เลยเพราะตลับนี้มีกันแดดมาให้สูงถึง SPF50+ สะดวกสุดๆ ตลับเดียวจบเนี่ยช้อบชอบ วันนี้ลองลงแค่คุชชั่นฟิตต์โบกป้าบๆๆ ตรงไหนมีรอยดำเห็นชัดก็ตบๆกดๆเติมทับซ้ำเฉพาะจุดเอา ผลลัพธ์ออกมามีกรี๊ดเบาๆสีมันไม่เทาค่ะคู้นนน ปลาบปลื้มที่สีนางกลืนกับผิวดี๊ดี รอยคล้ำใต้ตาหายไปแบบเนียนๆไม่หลอกไม่ลอยด้วยนะเออ
(ทาให้ดูครึ่งหน้า เห็นเลยว่าต่างกันมากกก ปิดเนียนแต่ไม่หนา ฟินิชแบบแมตต์แต่ไม่แห้งแตกนะจ๊ะ)
จากนั้นมาคอนทัวร์กรอบหน้ากันค่ะ แต้มๆบริเวณกรอบหน้า ข้างจมูก เพื่อสร้างมิติพิศวงแห่งแสงและเงาแอ๊บแบ๊วให้หน้าดูเล็กลงโดยไม่ต้องพึ่งโบท๊อก
เสร็จแล้วลงอายชาโดว์ พาเลทกันตายของอิชั้นคือไคลี่ Burgundy Palette สีแดงเบอร์กันดีนางเริ่ดแบบหายี่ห้ออื่นแทนไม่ได้จริงๆ ลงเบอร์ 1 เป็นเบสเบาๆก่อนลงเบอร์ 2 ให้ทั่วเปลือกตา เบอร์ 3 ใช้เบลนด์สีให้นัวๆ ฟุ้งๆ ส่วนเบอร์ 4 ลงเพิ่มมิติบริเวณหางตา เบอร์ 5 ลงที่หัวตาเพื่อเพิ่มประกายวิ้งละเอียดๆ
ใต้ตาจะมีการลงแป้งเอาไว้เพื่อที่เวลาฝุ่นอายชาโดว์หล่นลงมาจะได้ปัดออกง่ายๆไม่เลอะเทอะค่ะ
เพิ่มมิติให้เปลือกตาด้วยการ Top อายชาโดว์เนื้อชิมเมอร์สีทองลงไป พาเลทอันนี้ของซุปเปอร์มัม วิ้งกระจายมากๆ กระพริบตาแล้วดูมีการเล่นกับแสงวิบวับๆ
ใช้ดินสอเขียนคิ้ว Merrezka สีน้ำตาลเข้มวาดกรอบคิ้ว แล้วเบลนด์ด้วยตัวแปรงที่ปลายด้าม ก่อนจะ top คิ้วด้วยเนื้อฝุ่น เลือกใช้พาเลท Lid Lingerie จาก Nyx ใช้แค่สีเดียวคือหลุมซ้ายล่างสุดค่ะ
เก็บงานคิ้วให้เนี้ยบ เอาแปรงหัวตัดจุ่มเนื้อคุชชั่นมาวาดตามขอบคิ้วให้คมกริบ เบลนด์แทนการใช้คอนซีลเลอร์ได้เลย
บลัชออนกับไฮไลท์เลือกใช้จากพาเลท Champaign Pop ของ Becca เลือกใช้แค่ไฮไลท์สีทองบริเวณจุดกระทบแสงทั่วใบหน้า ส่วนบลัชออนก็ผสมๆสามแถวบนเอาค่ะ นัวๆสวยกำลังดี
กรีดตาใช้อายไลน์เนอร์พู่กันสีดำ ดัดขนตาแล้วปัดมาสคาร่ามาจอร์ลิก้าสีดำ ตบท้ายด้วยทาปากสี 'เทราปตรี' เป็นลิปแมตจิ้มจุ่มสีชมพูอมน้ำตาลตุ่นๆจากแบรนด์เจ้านางค่ะ
ทำผมหน่อย เปลี่ยนชุด ก็แปลงร่างงง!! ออกไปลั้นลาได้แล้วฮะ อ้อ ที่เห็นขนตาฟูๆคือติดขนตาปลอมนะเออ ขนตาจริงๆปัดแล้วก็ยังดูงัดไม่ค่อยขึ้นเลยต้องพึ่งกันสาดค่ะ (ฮาา)
หลังจากออกไปแรด เอ๊ย ไปทำธุระปะปัง ก็พบว่าคุชชั่นตัวนี้เอาอยู่ในสภาพอากาศร้อนของเมืองไทย ทาแล้วไม่มัน ผ่านไประหว่างวันพอผิวผลิตน้ำมันออกมาผิวดูสวยเป็นธรรมชาติพอดีๆไม่เมือก ไม่เยิ้ม ใครที่ผิวต้องการปกปิด แต่ไม่อยากโบกหน้าหลายชั้นให้ดูหนา ใช้แค่คุชชั่นฟิตต์ก็ออกมาให้ผิวเนียนขั้นเทพได้อยู่ สรุปว่าผ่าน!!
หวังว่าทู้นี้จะมีประโยชน์กับสาวๆที่เล็งๆมองหาคุชชั่นตลับใหม่กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย นานๆขุ่นแม่จะทำฮาวทูสักที หวังว่าโอกาสหน้าจะได้เจอกันอีกน้า วันนี้ไปละ บ๊ายบาย