สวัสดีพร้อมลมร้อนค่ะ : )
ปลายปีที่แล้วเจออากาศหนาวจัดไป
พอพ้นต้นปีมา อากาศร้อนจัดก็มาทักทาย
อากาศแบบนี้มันจะไปเที่ยวไหนได้
นอกจาก "ทะเล" จริงมั๊ยคะ ?
เพิ่งกลับมาจากทริปพักใจ (แต่ร่างและกล้องพังแทน) ที่เกาะกูดมาค่ะ
ซึ่งนี่เป็นการไปเกาะกูดครั้งที่สองของเราแล้ว ปกติเราไม่ค่อยชอบไปที่ไหนซ้ำๆ
(ด้วยเหตุผลทางด้านงบประมาณ ;p) ยกเว้นที่ที่ชอบมากจริงๆ คือยังไงก็คิดถึง ต้องไป
และเกาะกูดก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ เพราะที่นี่เงียบสงบ แล้วก็รู้สึกว่าได้ไปพักผ่อนจริงๆ
เราเป็นคนชอบชอบทะเล เพราะเวลาใจมันเซ ไปทะเลทีไรมันสบายใจขึ้นทุกที
ได้ไปนั่งโง่ๆ ดูพระอาทิตย์ลับเส้นขอบฟ้า วิ่งลงน้ำทะเล ดำผุดดำว่ายจนสาแก่ใจ
เหมือนชีวิตมีแต่น้ำทะเลกับท้องฟ้า ไม่ต้องคิดอะไรให้มันวุ่นวาย
และก็เชื่อว่าคงมีคนที่อยากปล่อยปัญหาให้ลอยไปกับฟ้ากับทะเลเหมือนกัน
เลยอยากเอาข้อมูลการเที่ยวเกาะกูดมาแบ่งปันกัน เผื่อใครอยากเทชีวิต Bad Bad
แล้วไปนอนอาบแดด โดดน้ำทะเลใสๆ ในวันที่ชีวิตหรือใจมันพังๆ นะคะ : )
จากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดตราด
ทริปนี้เราขับรถจากกรุงเทพฯ ไปนอนที่ตัวเมืองตราดก่อนหนึ่งคืน เพราะไม่อยากตื่นแต่เช้าไปขึ้นเรือ จำได้ว่าครั้งแรกที่ไปก็ประมาณ 3-4 ปีได้แล้ว ตอนนั้นก็เลือกเดินทางเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วไป คือตื่นแต่เช้าเพื่อขับรถออกจากกรุงเทพฯ ไปที่ท่าเรือแหลมศอกเพื่อรอขึ้นเรือเลย แต่เราว่ามันเหนื่อยไปเพราะถึงเกาะก็ต้องนั่งรถไปรีสอร์ทอีกประมาณ 30-40 นาที คราวนี้ก็เลยลองมองหาที่พักราคาไม่แพงมากในตัวเมืองตราดเพื่อนอนพักชิลๆ สักคืนก่อน ซึ่งเราค้นพบว่ามันโอเคมากเลยนะ เพราะขับรถออกจากกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายๆ มาถึงเย็นๆ ค่ำๆ เหยียบมาแบบเบาๆ ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบอะไร แล้วตอนเช้าตื่นสัก 7-8 โมง ไปขึ้นเรือก็ยังทัน
ส่วนโรงแรมในตัวเมืองตราด เราก็จิ้มๆ เอาจากใน Booking.com นั่นแหละ โดยตั้งงบไว้ว่าต้องไม่เกิน 1,000 บาทต่อคืน เพราะจะประหยัดงบเอาไว้พักบนเกาะกูด ก็เลยไปเจอะกับโรงแรม Avada Hotel ซึ่งราคาที่จองได้ตอนนั้นคือ 899 บาทต่อคืน ไม่ต้องประกันบัตรเครดิต ไปจ่ายที่โรงแรมได้เลย ก็จองไปแบบไม่คิดอะไร เพราะนอนพักแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ปรากฎว่าพอไปถึงแล้ว โรงแรมดีงามเกินคาดว่ะเฮ้ย ลักษณะเหมือนเพิ่งเปิดได้ไม่นานเพราะยังมีกลิ่นใหม่อยู่ แถมห้องนอนก็กว้างขวาง เตียงใหญ่มากเวอร์ ที่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรมมีห้องอาหารราคาไม่แพงด้วย เนื่องจากแถวนั้นเงียบสงัด ไม่ค่อยมีร้านอาหารให้ขับรถออกไปฝากท้อง อ้อ ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วยนะ คือมันโอเคมาก แถมยังสามารถขับรถจากโรงแรมไปถึงท่าเรือแหลมศอกแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เริ่ด! ใครอยากไปเกาะกูดแบบชิลๆ ไม่ต้องรีบตื่นเพื่อขับรถไปขึ้นเรือแต่เช้า ยังไงลองมองหาโรงแรมในตัวเมืองตราดพักสักคืนนะ เราว่าด้วยราคาไม่ถึงพัน แล้วแลกกับเวลาที่ได้เพิ่มมาแถมทำให้เหนื่อยน้อยลง มันโอเคมากๆ เลยละ : )
ปล. สำหรับใครที่ไม่ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็สามารถขึ้นรถทัวร์มาได้เด้อ โดยทั้งรถทัวร์และรถยนต์จะใช้เวลาเดินทางถึงจังหวัดตราดประมาณ 5 ชั่วโมงเศษๆ หรืออาจจะถึง 6 ชั่วโมงในกรณีรถติดหรือหลงทาง ; p หรือจะซื้อแพ็คเกจรถตู้ + เรือข้ามไปเกาะกูดเลย แบบนี้ก็สะดวกดีเหมือนกันนา
จากท่าเรือแหลมศอกสู่เกาะกูด
สำหรับการเดินทางข้ามไปสู่เกาะกูด เราสามารถเลือกเดินทางได้เองอย่างอิสระ โดยอิงจากเวลาออกเรือแต่ละเที่ยวว่าอยากไปถึงเกาะกูดเวลาไหน ซึ่งเรือที่ให้บริการข้ามไปยังเกาะกูด รวมถึงเกาะหมาก ก็จะมีให้บริการหลักๆ อยู่ประมาณ 3 เจ้า จะต่างกันก็เพียงเวลาการออกเรือและราคาค่ะ
1. Kohkood Princess ราคาเที่ยวละ 350 บาทต่อคน / ไป - กลับ 700 บาท
2. Ko Kut Express ราคาเที่ยวละ 350 บาทต่อคน / ไป - กลับ 700 บาท
3. บุญศิริ (Boonsiri) ราคาเที่ยวละ 500 บาทต่อคน / ไป - กลับ 1,000 บาท
4. Speed Boat Express (เจ้าเดียวกับ Kohkood Express) ราคาเที่ยวละ 600 บาทต่อคน / ไป - กลับ 1,200 บาท
ตารางเวลาการออกเรือของแต่ละเจ้า
ขาไป : ท่าเรือแหลมศอก - เกาะกูด
10.00 น. Speed Boat Express
10.45 น. บุญศิริ
12.30 น. Kohkood Princess
13.00 น. Ko Kut Express
14.20 น. บุญศิริ
ขากลับ : เกาะกูด (ท่าเรืออ่าวสลัด) - ท่าเรือแหลมศอก
9.00 น. บุญศิริ (รถรับที่รีสอร์ท 8.00 น.)
10.00 น. Kohkood Express, Ko Kut Princess (รถรับที่รีสอร์ท 9.00 น.)
12.00 น. บุญศิริ (รถรับที่รีสอร์ท 11.00 น.)
13.00 น. Speed Boat Express
จะเห็นได้ว่า บุญศิริ จะมีเที่ยวเรือให้เลือกเยอะสุด แล้วก็เวลาไป - กลับที่ไม่โหดร้ายเกินไปนัก แต่ก็ต้องยอมจ่ายเพิ่มอีก 150 บาท/เที่ยว ซึ่งสำหรับเรา เราว่าคุ้ม เพราะไปแค่ 3 วัน 2 คืน ก็อยากมีเวลาอยู่บนเกาะนานๆ หน่อย จำได้ว่าครั้งแรกเคยไปกับ Kohkood Princess เรือจากตราดออก 12.30 น. ไปถึงก็บ่ายสองกว่าเพราะต้องนั่งรถสองแถวเข้าไปที่พักอีก ส่วนขากลับก็ต้องรีบตื่นแต่เช้าตรู่มารอรถสองแถวไปส่งท่าเรือตั้งแต่ 9 โมงเช้า ทำให้รู้สึกขาดทุนเพราะเวลาอยู่บนเกาะน้อยเหลือเกิน คราวนี้เลยเลือกไปกับบุญศิริ เลือกเรือรอบเช้า 10.45 น. ไปถึงก็ประมาณบ่ายโมง สามารถเช็คอินเข้าห้องพักได้เลย ส่วนขากลับเลือกรอบ 12.00 น. รถจะมารับที่รีสอร์ทตอน 11 โมง ก็จะมีเวลาอยู่ที่เกาะเพิ่มมาอีกตั้ง 3 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณด้วยนา สำหรับใครที่อยากประหยัดจะเลือกไปกับ Princess หรือ Express ก็ได้ แต่ยังไงก็ควรพักอยู่บนเกาะขั้นต่ำ 3 วัน 2 คืนนะ เพราะนอนพักแค่ 1 คืนมันน้อยไปจริงๆ สำหรับเกาะสวรรค์แบบนี้!
[CR] เกาะกูด i Feel Good! เทชีวิต Bad Bad แล้วไปนอนอาบแดด โดดน้ำทะเลใสๆ กัน!
ปลายปีที่แล้วเจออากาศหนาวจัดไป
พอพ้นต้นปีมา อากาศร้อนจัดก็มาทักทาย
อากาศแบบนี้มันจะไปเที่ยวไหนได้
นอกจาก "ทะเล" จริงมั๊ยคะ ?
เพิ่งกลับมาจากทริปพักใจ (แต่ร่างและกล้องพังแทน) ที่เกาะกูดมาค่ะ
ซึ่งนี่เป็นการไปเกาะกูดครั้งที่สองของเราแล้ว ปกติเราไม่ค่อยชอบไปที่ไหนซ้ำๆ
(ด้วยเหตุผลทางด้านงบประมาณ ;p) ยกเว้นที่ที่ชอบมากจริงๆ คือยังไงก็คิดถึง ต้องไป
และเกาะกูดก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ เพราะที่นี่เงียบสงบ แล้วก็รู้สึกว่าได้ไปพักผ่อนจริงๆ
เราเป็นคนชอบชอบทะเล เพราะเวลาใจมันเซ ไปทะเลทีไรมันสบายใจขึ้นทุกที
ได้ไปนั่งโง่ๆ ดูพระอาทิตย์ลับเส้นขอบฟ้า วิ่งลงน้ำทะเล ดำผุดดำว่ายจนสาแก่ใจ
เหมือนชีวิตมีแต่น้ำทะเลกับท้องฟ้า ไม่ต้องคิดอะไรให้มันวุ่นวาย
และก็เชื่อว่าคงมีคนที่อยากปล่อยปัญหาให้ลอยไปกับฟ้ากับทะเลเหมือนกัน
เลยอยากเอาข้อมูลการเที่ยวเกาะกูดมาแบ่งปันกัน เผื่อใครอยากเทชีวิต Bad Bad
แล้วไปนอนอาบแดด โดดน้ำทะเลใสๆ ในวันที่ชีวิตหรือใจมันพังๆ นะคะ : )
จากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดตราด
ทริปนี้เราขับรถจากกรุงเทพฯ ไปนอนที่ตัวเมืองตราดก่อนหนึ่งคืน เพราะไม่อยากตื่นแต่เช้าไปขึ้นเรือ จำได้ว่าครั้งแรกที่ไปก็ประมาณ 3-4 ปีได้แล้ว ตอนนั้นก็เลือกเดินทางเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วไป คือตื่นแต่เช้าเพื่อขับรถออกจากกรุงเทพฯ ไปที่ท่าเรือแหลมศอกเพื่อรอขึ้นเรือเลย แต่เราว่ามันเหนื่อยไปเพราะถึงเกาะก็ต้องนั่งรถไปรีสอร์ทอีกประมาณ 30-40 นาที คราวนี้ก็เลยลองมองหาที่พักราคาไม่แพงมากในตัวเมืองตราดเพื่อนอนพักชิลๆ สักคืนก่อน ซึ่งเราค้นพบว่ามันโอเคมากเลยนะ เพราะขับรถออกจากกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายๆ มาถึงเย็นๆ ค่ำๆ เหยียบมาแบบเบาๆ ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบอะไร แล้วตอนเช้าตื่นสัก 7-8 โมง ไปขึ้นเรือก็ยังทัน
ส่วนโรงแรมในตัวเมืองตราด เราก็จิ้มๆ เอาจากใน Booking.com นั่นแหละ โดยตั้งงบไว้ว่าต้องไม่เกิน 1,000 บาทต่อคืน เพราะจะประหยัดงบเอาไว้พักบนเกาะกูด ก็เลยไปเจอะกับโรงแรม Avada Hotel ซึ่งราคาที่จองได้ตอนนั้นคือ 899 บาทต่อคืน ไม่ต้องประกันบัตรเครดิต ไปจ่ายที่โรงแรมได้เลย ก็จองไปแบบไม่คิดอะไร เพราะนอนพักแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ปรากฎว่าพอไปถึงแล้ว โรงแรมดีงามเกินคาดว่ะเฮ้ย ลักษณะเหมือนเพิ่งเปิดได้ไม่นานเพราะยังมีกลิ่นใหม่อยู่ แถมห้องนอนก็กว้างขวาง เตียงใหญ่มากเวอร์ ที่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรมมีห้องอาหารราคาไม่แพงด้วย เนื่องจากแถวนั้นเงียบสงัด ไม่ค่อยมีร้านอาหารให้ขับรถออกไปฝากท้อง อ้อ ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วยนะ คือมันโอเคมาก แถมยังสามารถขับรถจากโรงแรมไปถึงท่าเรือแหลมศอกแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เริ่ด! ใครอยากไปเกาะกูดแบบชิลๆ ไม่ต้องรีบตื่นเพื่อขับรถไปขึ้นเรือแต่เช้า ยังไงลองมองหาโรงแรมในตัวเมืองตราดพักสักคืนนะ เราว่าด้วยราคาไม่ถึงพัน แล้วแลกกับเวลาที่ได้เพิ่มมาแถมทำให้เหนื่อยน้อยลง มันโอเคมากๆ เลยละ : )
ปล. สำหรับใครที่ไม่ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็สามารถขึ้นรถทัวร์มาได้เด้อ โดยทั้งรถทัวร์และรถยนต์จะใช้เวลาเดินทางถึงจังหวัดตราดประมาณ 5 ชั่วโมงเศษๆ หรืออาจจะถึง 6 ชั่วโมงในกรณีรถติดหรือหลงทาง ; p หรือจะซื้อแพ็คเกจรถตู้ + เรือข้ามไปเกาะกูดเลย แบบนี้ก็สะดวกดีเหมือนกันนา
จากท่าเรือแหลมศอกสู่เกาะกูด
สำหรับการเดินทางข้ามไปสู่เกาะกูด เราสามารถเลือกเดินทางได้เองอย่างอิสระ โดยอิงจากเวลาออกเรือแต่ละเที่ยวว่าอยากไปถึงเกาะกูดเวลาไหน ซึ่งเรือที่ให้บริการข้ามไปยังเกาะกูด รวมถึงเกาะหมาก ก็จะมีให้บริการหลักๆ อยู่ประมาณ 3 เจ้า จะต่างกันก็เพียงเวลาการออกเรือและราคาค่ะ
1. Kohkood Princess ราคาเที่ยวละ 350 บาทต่อคน / ไป - กลับ 700 บาท
2. Ko Kut Express ราคาเที่ยวละ 350 บาทต่อคน / ไป - กลับ 700 บาท
3. บุญศิริ (Boonsiri) ราคาเที่ยวละ 500 บาทต่อคน / ไป - กลับ 1,000 บาท
4. Speed Boat Express (เจ้าเดียวกับ Kohkood Express) ราคาเที่ยวละ 600 บาทต่อคน / ไป - กลับ 1,200 บาท
ตารางเวลาการออกเรือของแต่ละเจ้า
ขาไป : ท่าเรือแหลมศอก - เกาะกูด
10.00 น. Speed Boat Express
10.45 น. บุญศิริ
12.30 น. Kohkood Princess
13.00 น. Ko Kut Express
14.20 น. บุญศิริ
ขากลับ : เกาะกูด (ท่าเรืออ่าวสลัด) - ท่าเรือแหลมศอก
9.00 น. บุญศิริ (รถรับที่รีสอร์ท 8.00 น.)
10.00 น. Kohkood Express, Ko Kut Princess (รถรับที่รีสอร์ท 9.00 น.)
12.00 น. บุญศิริ (รถรับที่รีสอร์ท 11.00 น.)
13.00 น. Speed Boat Express
จะเห็นได้ว่า บุญศิริ จะมีเที่ยวเรือให้เลือกเยอะสุด แล้วก็เวลาไป - กลับที่ไม่โหดร้ายเกินไปนัก แต่ก็ต้องยอมจ่ายเพิ่มอีก 150 บาท/เที่ยว ซึ่งสำหรับเรา เราว่าคุ้ม เพราะไปแค่ 3 วัน 2 คืน ก็อยากมีเวลาอยู่บนเกาะนานๆ หน่อย จำได้ว่าครั้งแรกเคยไปกับ Kohkood Princess เรือจากตราดออก 12.30 น. ไปถึงก็บ่ายสองกว่าเพราะต้องนั่งรถสองแถวเข้าไปที่พักอีก ส่วนขากลับก็ต้องรีบตื่นแต่เช้าตรู่มารอรถสองแถวไปส่งท่าเรือตั้งแต่ 9 โมงเช้า ทำให้รู้สึกขาดทุนเพราะเวลาอยู่บนเกาะน้อยเหลือเกิน คราวนี้เลยเลือกไปกับบุญศิริ เลือกเรือรอบเช้า 10.45 น. ไปถึงก็ประมาณบ่ายโมง สามารถเช็คอินเข้าห้องพักได้เลย ส่วนขากลับเลือกรอบ 12.00 น. รถจะมารับที่รีสอร์ทตอน 11 โมง ก็จะมีเวลาอยู่ที่เกาะเพิ่มมาอีกตั้ง 3 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณด้วยนา สำหรับใครที่อยากประหยัดจะเลือกไปกับ Princess หรือ Express ก็ได้ แต่ยังไงก็ควรพักอยู่บนเกาะขั้นต่ำ 3 วัน 2 คืนนะ เพราะนอนพักแค่ 1 คืนมันน้อยไปจริงๆ สำหรับเกาะสวรรค์แบบนี้!