ยืมล็อกอินเพื่อน มาระบายความในใจนะครับ เพราะแก่เกินจะปรึกษาเพื่อนในชีวิตจริงแล้วครับ
ถ้าทำให้รำคาญ ต้องขออภัยด้วยนะครับ
จขกท. อายุ 33 ปีครับ เป็นพนง.ออฟฟิศ หน้าตาธรรมดาๆ ครับ โสดมาเกือบ 2 ปี นานนิดนึง เพราะชอบความอิสระ และติดนิสัยแบดบอย ชอบท่องราตรีครับ
เป็นคนไม่ตื่นเต้นเรื่อง ผญ เพราะผ่านโลกมาพอควร
จนมาเจอน้องคนนี้หล่ะครับ...ความมั่นใจแบบแมนๆหายหมด เหมือนเด็กๆ ที่เพิ่งชอบ ผญ เลยครับ
ผมเจอน้องครั้งแรก ตอนผมกับกลุ่มเพื่อน จะไปดูโชว์จิ๊มิ๊ยิงลูกปิงปอง ที่วอล์คกิ้ง สตรีท พัทยา -"-
ไม่ได้เจอกันระหว่างดูโชว์นะครับ อย่าคิดลึก ^0^
ผมเจอกลุ่มสาวตัวเล็กตั้งแต่ทางเข้า มากัน 5-6 คน ก็เห็นเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปไม่ได้สนใจอะไร กลุ่มเราเดินติดกันไปเรื่อยๆ เพราะถนนเส้นนี้ดึกๆ คนมันเยอะ
จนกระทั่งเห็นพวก พนง.เชียร์โชว์ ที่ยืนตามหน้าร้าน แทะโลมสาวในกลุ่มเขา เลยสะกิดให้เพื่อนดู ว่าคนไทยไม่น่าทำแบบนี้ มันน่าเกลียด
ระหว่างที่ผมหันไปคุยกับเพื่อน พอหันหน้ากลับมาอีกที ฟ้าผ่าเปรี้ยงที่ผมเลยครับ
สาวต่างชาติ หน้าหมวย ตัวเล็ก ผิวขาวมากก มัดผมหางม้า หน้าตาจิ้มลิ้ม ทุกอย่างผสมกันลงตัว บนใบหน้าเล็กๆนั้น จนทำให้เสื้อผ้าปอนๆบนตัวเธอสกัดความน่ารักนั้นไม่อยู่ เธอกำลังเดินมาสมทบกลุ่มเพื่อน
เธอดูตื่นเต้นกับแสงสีอันบ้าคลั่ง ยามค่ำคืนของพัทยา เหมือนเด็กน้อยทำตาโต เมื่อกำลังจะเอามือจับเปลวไฟ
ทุกอย่างดูผิดที่ผิดทางไปหมด สาวไร้เดียงสา กลางถนนคนบาป มันดูผิดฝา ผิดฝั่งไปหมด
ผมรู้สึกหวง รู้สึกว่าเธอไม่น่าจะมาที่นี่ มันไม่ใช่ ตอนนั้นผมคิดว่าเธอน่าจะไปขี่ช้าง หรือเดินเล่นชายหาดมากกว่ามาอยู่ตรงที่แบบนี้
ที่สำคัญ คือ ควรไปกับผม!! ผมอยากพาเธอไปเที่ยวที่ๆมันดีกว่านี้
เธอหันมามองผมที่เผลอตัวตะลึงมองเธออยู่ เมื่อเราสบตากัน
เสียงเพลงดังสนั่นของถนนสายราตรี เงียบสงัดในโสตประสาทของผม ผมเขิน เนื้อตัวรุ่มร้อน วูบวาบ ผมอาย ผมอยากจิกหมอน
เป็นความอายที่ผมไม่ได้พบกับมันเป็น10 ปีแล้ว นับตั้งแต่ผมยังเป็นหนุ่มน้อย
ผมยิ้มให้น้องอย่างลืมตัว ผมอยากรู้จักน้อง ที่ไม่คาดฝัน คือ น้องยิ้มตอบกลับมา
ยิ้มสวยเต็มใบหน้า บนแก้มใสๆ เป็นยิ้มหวาน ที่ผมอยากจะครอบครองไว้คนเดียว เป็นโมเม้นต์ที่ผมคนเดียวเท่านั้นได้สัมผัส
ใจผมไปไกลมากแล้ว...
ผมบอกเพื่อนให้เดินไปก่อน ไม่ต้องรอ ผมเดินช้าลง ... เพื่อให้ระยะการเดินเข้ามาใกล้กันมากขึ้น ถึงตอนนี้เราก็เหมือนเดินคู่กันแล้ว
ผมทักเธอเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยคำว่าสวัสดี ในใจก็ตุ๊มๆต่อมๆ ว่าเธอจะพูดภาษาอังกฤษได้ไหม และเธอก็ตอบกลับมาได้อย่างคล่องแคล่ว
ผมแนะนำตัวเอง แล้วเราก็เริ่มบทสนทนากันอย่างง่ายๆ เช่น ชื่อของเราสองคน ผมถามเธอว่ามาจากที่ไหน ทำไมมาที่นี่ เธอบอดผมว่า มาจากโตเกียว มาเที่ยวไทยครั้งแรก
เราเดินคุยกันมาสารพัดเรื่อง รู้ตัวอีกทีก็มาสุดถนนแล้ว เวลาของผมหมดแล้ว
ผมอยากไปกับเธอต่อ อันที่จริงผมอยากจะไปกับน้องในทุกที่นับจากนี้ แต่ผมไม่กล้าตื๊อเธอ เพราะรู้จักคนญี่ปุ่นอยู่บ้าง ว่า ไม่ประทับใจคนที่แสดงอารมณ์ออกมาตรงๆ
ตอนนั้นเลยตัดสินใจ เอาวะ ขอไลน์ และเฟซ ของน้องไปเลยละกัน.... รู้ตัวอีกที น้องก็รับมือถือของผมไปพิมพ์ไอดีของตัวเองแล้ว
ผมรับมือถือกลับมาอย่างดีใจ แต่อีกใจก็กลัว กลัวจะไม่ได้เจอเธออีก กลัวจะไม่ได้คุยกันอีก
ผมปลื้ม ผมมีความสุข ระคนกับความกังวล และก็ทำใจว่าคงไม่ได้เจอกันแล้ว ผมบอกลาเธอ อวยพรเธอให้สนุกกับทริป
เธอยิ้มหวานให้ผมอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวลาอย่างสุภาพ ส่วนผมได้แต่ยิ้มแหยๆ
ผมเดินกลับไปสมทบกับกลุ่มเพื่อน พวกเราไปต่อกันในผับ ผมจิบเหล้าบางๆ คิดถึงรอยยิ้มนั้น คิดถึงใบหน้าเล็กๆนั้นซ้ำๆ ผมไม่แตะต้องผู้หญิงที่ไหนอีกเลยในคืนนั้น
กระทั่งเที่ยงคืน มือถือผมแจ้งเตือน มีข้อความเข้ามา อายะจังนั่นเอง น้องส่งข้อความมาหาผม น้องส่งข้อความมาทักก่อน!
ข้อความง่ายๆ ที่บอกว่า "ดีใจนะที่วันนี้เราได้พบกัน" และสติ๊กเกอร์หน้าเขินอันเล็กๆ ทำให้ใจผมพองโต
สาวน้อยคนนี้จะรู้ไหม ว่ากำลังทำให้ผมหัวปั่น ผมตอบกลับอย่างรวดเร็ว เหมือนคนกระหายน้ำ ที่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่พอ
เราคุยกัน คุยกัน คุยกัน ผ่านจอมือถือเล็กๆ นั่น จนเวลาผ่านไปรวดเร็ว ผมหลับคาโทรศัพท์ เมื่อฟ้าสว่าง
เช้าวันถัดมา พวกผมต้องกลับกรุงเทพ แต่น้องกับเพื่อนยังอยู่ที่พัทยาต่อ
ผมไม่ได้ส่งข้อความหาเธออีก เพราะคิดว่า มันก็แค่คืนหนึ่งของคนเหงา ในเมืองแห่งแสงสี
เรื่องนี้ก็แค่ฝันกลางวันให้คนแก่ได้ชื่นใจ น้องอายุ 23 ส่วนผม 33 ห่างกัน 10 ปี ต่างชาติ ต่างภาษา และไม่รู้จักกันเลย มันเป็นไปไม่ได้
ผมต้องกลับไปทำงาน ส่วนน้องอีกไม่กี่วันก็คงกลับญี่ปุ่น เธอก็คงจะลืมผมในไม่ช้า ... ผมตัดสินใจแล้วว่าจะลืมเรื่องนี้ไปซะ
ตรึ๊งงง ... น้องส่งข้อความมาอีกแล้ว 5555
นักท่องเที่ยวสาวญี่ปุ่น กับแบดบอยหนุ่มไทย เมื่อถึงวันที่เราต้องลา
ถ้าทำให้รำคาญ ต้องขออภัยด้วยนะครับ
จขกท. อายุ 33 ปีครับ เป็นพนง.ออฟฟิศ หน้าตาธรรมดาๆ ครับ โสดมาเกือบ 2 ปี นานนิดนึง เพราะชอบความอิสระ และติดนิสัยแบดบอย ชอบท่องราตรีครับ
เป็นคนไม่ตื่นเต้นเรื่อง ผญ เพราะผ่านโลกมาพอควร
จนมาเจอน้องคนนี้หล่ะครับ...ความมั่นใจแบบแมนๆหายหมด เหมือนเด็กๆ ที่เพิ่งชอบ ผญ เลยครับ
ผมเจอน้องครั้งแรก ตอนผมกับกลุ่มเพื่อน จะไปดูโชว์จิ๊มิ๊ยิงลูกปิงปอง ที่วอล์คกิ้ง สตรีท พัทยา -"-
ไม่ได้เจอกันระหว่างดูโชว์นะครับ อย่าคิดลึก ^0^
ผมเจอกลุ่มสาวตัวเล็กตั้งแต่ทางเข้า มากัน 5-6 คน ก็เห็นเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปไม่ได้สนใจอะไร กลุ่มเราเดินติดกันไปเรื่อยๆ เพราะถนนเส้นนี้ดึกๆ คนมันเยอะ
จนกระทั่งเห็นพวก พนง.เชียร์โชว์ ที่ยืนตามหน้าร้าน แทะโลมสาวในกลุ่มเขา เลยสะกิดให้เพื่อนดู ว่าคนไทยไม่น่าทำแบบนี้ มันน่าเกลียด
ระหว่างที่ผมหันไปคุยกับเพื่อน พอหันหน้ากลับมาอีกที ฟ้าผ่าเปรี้ยงที่ผมเลยครับ
สาวต่างชาติ หน้าหมวย ตัวเล็ก ผิวขาวมากก มัดผมหางม้า หน้าตาจิ้มลิ้ม ทุกอย่างผสมกันลงตัว บนใบหน้าเล็กๆนั้น จนทำให้เสื้อผ้าปอนๆบนตัวเธอสกัดความน่ารักนั้นไม่อยู่ เธอกำลังเดินมาสมทบกลุ่มเพื่อน
เธอดูตื่นเต้นกับแสงสีอันบ้าคลั่ง ยามค่ำคืนของพัทยา เหมือนเด็กน้อยทำตาโต เมื่อกำลังจะเอามือจับเปลวไฟ
ทุกอย่างดูผิดที่ผิดทางไปหมด สาวไร้เดียงสา กลางถนนคนบาป มันดูผิดฝา ผิดฝั่งไปหมด
ผมรู้สึกหวง รู้สึกว่าเธอไม่น่าจะมาที่นี่ มันไม่ใช่ ตอนนั้นผมคิดว่าเธอน่าจะไปขี่ช้าง หรือเดินเล่นชายหาดมากกว่ามาอยู่ตรงที่แบบนี้
ที่สำคัญ คือ ควรไปกับผม!! ผมอยากพาเธอไปเที่ยวที่ๆมันดีกว่านี้
เธอหันมามองผมที่เผลอตัวตะลึงมองเธออยู่ เมื่อเราสบตากัน
เสียงเพลงดังสนั่นของถนนสายราตรี เงียบสงัดในโสตประสาทของผม ผมเขิน เนื้อตัวรุ่มร้อน วูบวาบ ผมอาย ผมอยากจิกหมอน
เป็นความอายที่ผมไม่ได้พบกับมันเป็น10 ปีแล้ว นับตั้งแต่ผมยังเป็นหนุ่มน้อย
ผมยิ้มให้น้องอย่างลืมตัว ผมอยากรู้จักน้อง ที่ไม่คาดฝัน คือ น้องยิ้มตอบกลับมา
ยิ้มสวยเต็มใบหน้า บนแก้มใสๆ เป็นยิ้มหวาน ที่ผมอยากจะครอบครองไว้คนเดียว เป็นโมเม้นต์ที่ผมคนเดียวเท่านั้นได้สัมผัส
ใจผมไปไกลมากแล้ว...
ผมบอกเพื่อนให้เดินไปก่อน ไม่ต้องรอ ผมเดินช้าลง ... เพื่อให้ระยะการเดินเข้ามาใกล้กันมากขึ้น ถึงตอนนี้เราก็เหมือนเดินคู่กันแล้ว
ผมทักเธอเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยคำว่าสวัสดี ในใจก็ตุ๊มๆต่อมๆ ว่าเธอจะพูดภาษาอังกฤษได้ไหม และเธอก็ตอบกลับมาได้อย่างคล่องแคล่ว
ผมแนะนำตัวเอง แล้วเราก็เริ่มบทสนทนากันอย่างง่ายๆ เช่น ชื่อของเราสองคน ผมถามเธอว่ามาจากที่ไหน ทำไมมาที่นี่ เธอบอดผมว่า มาจากโตเกียว มาเที่ยวไทยครั้งแรก
เราเดินคุยกันมาสารพัดเรื่อง รู้ตัวอีกทีก็มาสุดถนนแล้ว เวลาของผมหมดแล้ว
ผมอยากไปกับเธอต่อ อันที่จริงผมอยากจะไปกับน้องในทุกที่นับจากนี้ แต่ผมไม่กล้าตื๊อเธอ เพราะรู้จักคนญี่ปุ่นอยู่บ้าง ว่า ไม่ประทับใจคนที่แสดงอารมณ์ออกมาตรงๆ
ตอนนั้นเลยตัดสินใจ เอาวะ ขอไลน์ และเฟซ ของน้องไปเลยละกัน.... รู้ตัวอีกที น้องก็รับมือถือของผมไปพิมพ์ไอดีของตัวเองแล้ว
ผมรับมือถือกลับมาอย่างดีใจ แต่อีกใจก็กลัว กลัวจะไม่ได้เจอเธออีก กลัวจะไม่ได้คุยกันอีก
ผมปลื้ม ผมมีความสุข ระคนกับความกังวล และก็ทำใจว่าคงไม่ได้เจอกันแล้ว ผมบอกลาเธอ อวยพรเธอให้สนุกกับทริป
เธอยิ้มหวานให้ผมอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวลาอย่างสุภาพ ส่วนผมได้แต่ยิ้มแหยๆ
ผมเดินกลับไปสมทบกับกลุ่มเพื่อน พวกเราไปต่อกันในผับ ผมจิบเหล้าบางๆ คิดถึงรอยยิ้มนั้น คิดถึงใบหน้าเล็กๆนั้นซ้ำๆ ผมไม่แตะต้องผู้หญิงที่ไหนอีกเลยในคืนนั้น
กระทั่งเที่ยงคืน มือถือผมแจ้งเตือน มีข้อความเข้ามา อายะจังนั่นเอง น้องส่งข้อความมาหาผม น้องส่งข้อความมาทักก่อน!
ข้อความง่ายๆ ที่บอกว่า "ดีใจนะที่วันนี้เราได้พบกัน" และสติ๊กเกอร์หน้าเขินอันเล็กๆ ทำให้ใจผมพองโต
สาวน้อยคนนี้จะรู้ไหม ว่ากำลังทำให้ผมหัวปั่น ผมตอบกลับอย่างรวดเร็ว เหมือนคนกระหายน้ำ ที่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่พอ
เราคุยกัน คุยกัน คุยกัน ผ่านจอมือถือเล็กๆ นั่น จนเวลาผ่านไปรวดเร็ว ผมหลับคาโทรศัพท์ เมื่อฟ้าสว่าง
เช้าวันถัดมา พวกผมต้องกลับกรุงเทพ แต่น้องกับเพื่อนยังอยู่ที่พัทยาต่อ
ผมไม่ได้ส่งข้อความหาเธออีก เพราะคิดว่า มันก็แค่คืนหนึ่งของคนเหงา ในเมืองแห่งแสงสี
เรื่องนี้ก็แค่ฝันกลางวันให้คนแก่ได้ชื่นใจ น้องอายุ 23 ส่วนผม 33 ห่างกัน 10 ปี ต่างชาติ ต่างภาษา และไม่รู้จักกันเลย มันเป็นไปไม่ได้
ผมต้องกลับไปทำงาน ส่วนน้องอีกไม่กี่วันก็คงกลับญี่ปุ่น เธอก็คงจะลืมผมในไม่ช้า ... ผมตัดสินใจแล้วว่าจะลืมเรื่องนี้ไปซะ
ตรึ๊งงง ... น้องส่งข้อความมาอีกแล้ว 5555