จากการที่มีการถกเถียงกันหลากหลายกระทู้ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับคุณสมบัติและความสามารถของเหล่าตัวร้ายของ MCU ที่ผ่านมาแล้วนั้น บ้างก็ว่า
กากเกินไป ไม่เห็นจะเก่งเหมือนในตัวอย่าง บางคนก็ว่าทำได้แค่นี้เองเหรอ ความสามารถน้อยเกิน หรือบางคนก็ว่าตายง่ายไป เปิดตัวซะดิบดี
แต่โดนฆ่าง่ายๆๆ ตายโง่ๆๆ ประมาณนี้ครับ ผมเลยลองย้อนกลับไปดูหนังแต่ละเรื่องใหม่ แล้วลองวิเคราะห์ดูใหม่ว่าเฮ้ย มันกากจริงๆๆ อย่างที่
เค้าว่ากันรึป่าววะ ก็เลยได้คำตอบมา และจะมาบอกกล่าวกับทุกคนให้ได้เข้าใจ และลองวิเคราะห์กันดู ก่อนที่จะเข้าสู่ศึกใหญ่ที่มาพร้อมกับ
ตัวร้ายที่ยิ่งใหญ่ ที่รอคอยการแสดงพลังมากว่า 10 ปีครับ


1. The Iron Monger จากเรื่อง Ironman 1 (ปี 2008)
    โอบาไดอา ผู้ที่มีกึ๋นน้อยกว่าโทนี่หน่อยนึง หลอกใช้กลุ่ม Ten Rings ให้ทำงานให้ตัวเอง และพึ่งแต่ชุดเกราะเหล็กที่สร้างมาโดยไม่ได้รู้ถึงคุณสมบัติ
    ที่สำคัญอย่างครบถ้วน และไม่ได้ฝึกฝนการใช้งานมาก่อนเลย ผมว่าความเก่งหรือกากนั้นขึ้นอยู่กับชุดเป็นหลัก แต่โอบาไดอาทำได้ไม่ดีพอ เพราะ
    ถึงแม้จะใช้เครื่องปฏิกรณ์อาร์คที่ใหม่กว่าของโทนี่มาให้พลังงานกับชุด บวกกับคุณสมบัติของชุดแล้ว แต่ก็ยังทำได้แค่สูสีกับโทนี่เท่านั้น จนสุดท้าย
    แพ้กึ๋นของโทนี่จนโดนจัดการไปในที่สุด คะแนนความเก่งผมจึงให้แค่ 4/10 สรุปว่า "กาก"

2. The Abomination จากเรื่อง The Incredible Hulk (ปี 2008)
    อีมิล บลอนสกี้ ผู้ที่มีกึ๋นน้อยกว่าแบนเนอร์อยู่หน่อยนึงเหมือนกัน พยายามใช้ยาที่ทำให้ตัวเองกลายเป็นอสุรกายร่างยักษ์ เพื่อที่จะได้มีกำลังวังชา
    ทัดเทียมกับแบนเนอร์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทัดเทียมเลยซักนิด ทำให้แบนเนอร์ได้แค่คันๆๆ เท่านั้น จบสุดท้ายก็ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นชิ้นเป็นอัน
    ดังนั้นผมจึงสรุปคะแนนได้ไม่ยากเท่าไหร่นักครับ โดยให้แค่ 3/10 สรุปว่า "กาก"

3. The Whiplash จากเรื่อง Ironman 2 (ปี 2010)
    แวนโก้เป็นตัวนึงที่ผมชอบนะ แกดูมีมิติของอารมณ์ที่ลึกซึ้ง สีหน้าแกดูกวนทีน ดูมั่นใจ ดูมุ่งมั่น แต่บอกได้เลยว่าจิตใจแกเศร้าโศกมากแน่นอน
    ส่วนพูดถึงความสามารถนั้น ถ้านับชุด Whiplash ชุดแรกของแกที่ไปป่วนโทนี่ถึงโมนาโก ก็ต้องบอกว่ายังห่วยอยู่ เพราะทำได้แค่หวดแซ่ไปมา
    ส่วนชุดหลังที่ไปบุกถึง Stark Expo นั้นถือว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว ดูแล้วทัดเทียมกับชุดของโทนี่อีกด้วย ถึงแม้แกจะไม่เคยฝึกฝนการใช้ชุดมาก่อนเลย
    แต่แกก็เป็นคนสร้างเอง ปรับแต่งเองในแบบของแก โดยใช้กึ๋นของแกที่ไม่ได้เป็นรองโทนี่ซักเท่าไหร่นัก ผมว่าถ้าสู้กันตัวๆๆ โทนี่อาจไม่ชนะก็ได้นะ
    โดยรวมแล้วผมให้คะแนน 8/10 สรุปว่า "เก่ง"

4. The Frost Giants จากเรื่อง Thor 1 (ปี 2011)
    ที่จริงตัวร้ายหลักเรื่องนี้คือโลกิ แต่ผมจะขอพูดถึงยักษ์น้ำแข็งละกัน เพราะจะไปพูดถึงโลกิอีกทีในเรื่อง The Avengers ซึ่งเหล่ากองทัพยักษ์น้ำแข็ง
    นำโดยลาฟฟี่นั้นถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์นักรบที่เกรียงไกรเลยทีเดียว และได้เปรียบตรงที่สามารถใช้เวทย์มนต์ในการสร้างน้ำแข็งได้ แต่จากการสังเกตุ
    เวลาที่ได้ต่อสู้กับกลุ่มพระเอกแล้ว ดูเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด นี่ถ้าไม่ติดว่าพวกมาก กลุ่มพระเอกน่าจะเอาชนะได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ยิ่งตัวหัวหน้า
    อย่างลาฟฟี่ยิ่งแล้วใหญ่ ถูกโลกิหลอกใช้จนตัวเองติดกับ แล้วถูกฆ่าอย่างง่ายดาย ตายโง่ๆๆ เกินไป จึงถือว่าได้คะแนนไปแค่นี้ก็บุญแล้วครับ 4/10
    สรุปว่า "กาก"

5. Red Skull จากเรื่อง Captain America 1 : The First Avengers (ปี 2011)
    ผู้พันชมิธ แห่งหน่วยไฮดร้า ของกองทัพนาซี ในสงครามโลกครั้งที่สอง ตัวนี้ผมว่าพอใช้ได้นะ เพราะว่ามีพละกำลังทัดเทียมกับพระเอกเลย อาจจะดู
    ด้อยกว่าหน่อยนึง แต่โดยรวมแล้วถือเป็นตัวร้ายที่ดี ไม่ค่อยมีความเห็นกับตัวนี้ซักเท่าไหร่ แต่ให้คะแนนตามนี้ละกัน 6/10 สรุปว่า "เฉยๆๆ"

6. Loki จากเรื่อง The Avengers 1 (ปี 2012)
    ไม่มีคำนิยามสำหรับตัวละครตัวนี้ครับ เป็นที่ยอมรับของทุกคนแล้วว่าแกเจ๋งจริง มีทุกมิติของอารมณ์ที่สื่อออกมา ความสามารถนั้นล้นเหลือมาก
    ด้านพลังกายอาจจะสู้เทพผู้พี่ไม่ได้ แต่ฝีมือการต่อสู้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันมากมายนัก แถมมีข้อดีคือมักมีลูกเล่น ลูกล่อลูกชน โดยการใช้เล่เหลี่ยม
    บวกกับพลังเวทย์ในการหลอกล่อศัตรูให้หลงกลของตัวเอง มีวาทะกรรมในการพูดโน้มน้าวหรือปั่นป่วนจิตใจได้ ถือเป็นตัวร้ายที่รับมือได้ยากตัวนึง
    ดังนั้นคะแนนจึงได้ไปเต็มที่เลยครับ 9/10 สรุปว่า "เก่ง"


7. Aldrich Killian จากเรื่อง Ironman 3 (ปี 2013)
    ตัวนี้ถือว่าเก่งเลยแหละครับ เกราะระเบิดทั้งตัวยังฆ่าไม่ตาย ถ้าตัวๆๆ นี่โทนี่โดนย่างเป็นไก่แน่ครับ เทคโนโลยีเอ็กซ์ตรีมมิสในหนังนี่ถือว่าแหล่มมาก
    ผมว่าคิลเลี่ยนสู้พวกต่างดาวบางเผ่าพันธุ์ได้สบายเลยครับ ที่สำคัญผมชอบบทบาทของแกที่มีการจัดฉาก วางตัวเองไว้เบื้องหลัง แล้วให้โลกเผชิญ
    หน้ากับตัวแสดงแทนอย่างแมนดาริน แผนการนี้ถือว่าแยบยลมาก เพราะคนจะพุ่งเป้าไปที่แมนดาริน ไม่ใช่ตัวคิลเลี่ยนเอง ถือว่าเป็นตัวร้ายที่มีทั้งฝีมือ
    และมันสมองอันล้ำเลิศอีกด้วย จึงได้คะแนนจากผมไปเยอะหน่อยละกัน เอาไปซัก 8/10 สรุปว่า "เก่ง"

8. Malekith The Dark Elf จากเรื่อง Thor 2 : The Dark World (ปี 2013)
    ผมว่าแกไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำของ Dark Elf ซักเท่าไหร่นะ หน่วยก้านได้ ลักษณะภายนอกได้ แต่พลังแกไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นเลย ผมว่า
    ลูกน้องของแกที่ถูกส่งมาปิดบาเรียของวังแอสการ์ดนั้นยังดูเก่งกว่าเลยครับ สามารถอัดธอร์ได้และดูเหนือกว่าด้วย ฆ่าโลกิได้ แม้จะเป็นโลกิมายา
    ก็เถอะ แต่ตัวแกเองนี่ดูธรรมดามาก ขนาดได้รับพลังจาก Reality Stone แล้วก็ยังดูไม่พีคเท่าที่ควรเลย ดังนั้นคะแนนที่จะให้จึงลดหลั่นตามกันไป
    ครับ เหอะๆๆ 5/10 สรุปว่า "กาก"

9. The Winter Soldier จากเรื่อง Captain America 2 : The Winter Soldier (ปี 2014)
    จะบอกว่าบัคกี้เป็นตัวนึงที่ผมชอบนะ แต่ไม่สามารถให้คะแนนเยอะได้จริงๆๆ เพราะดูจากความสามารถแล้วมันไม่ต่างจากตัวร้ายในภาคแรกมากนัก
    คือเป็นทหาร เชี่ยวชาญการทำสงคราม และมีพละกำลังเหนือมนุษย์ จะมีที่ต่างอยู่บ้างคือบัคกี้เชี่ยวชาญการฆ่ามากกว่า มีรูปแบบในการโจมตีศัตรู
    ที่หลากหลายกว่า แต่ผมว่ามันควรจะมีมากกว่านี้หน่อย อันนี้คือก็ยังดูเป็นรองพระเอกอยู่ดี ไม่ต่างจากผู้พันชมิธในภาคแรกเลย งั้นเอาคะแนนไป
    เท่านี้ก็พอละ 7/10 สรุปว่า "เฉยๆๆ"

10. Ronan the Accuser จากเรื่อง Guardians of the Galaxy 1 (ปี 2014)
    โรแนนเป็นนักรบชาวครีที่เชี่ยวชาญการสงครามมากที่สุดคนนึง เห็นได้ชัดว่าพวกพระเอกไม่มีทางต่อกรได้เลย โดนยิงด้วยปืนสั่งอานุภาพแล้วก็ยัง
    ชิวๆๆ ต้องร่วมกันใช้ Power Stone ถึงจะสามารถจัดการลงได้สำเร็จ ถือเป็นเรื่องนึงที่ตัวร้ายเหนือกว่าพวกพระเอกอยู่ค่อนข้างเยอะมาก ดังนั้นผม
    จึงเทคะแนนให้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย 9/10 สรุปว่า "เก่ง"

11. Ultron จากเรื่อง The Avengers 2 : Age of Ultron (ปี 2015)
    มาถึงหุ่นกระป๋องในตำนานครับ อัลตรอนถือเป็นตัวร้ายที่มีคนค่อนขอดมากที่สุดแล้วใน MCU ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ แต่เห็นด้วยอย่างมีหลักการครับ
    คือถ้าจะพูดให้ถูกแล้ว ต้องบอกว่า Ultron เป็นตัวร้ายที่เก่งมากตัวนึงเลยนะครับ ไม่มีทางที่พวกพระเอกจะสู้ได้เลย เพราะแกไม่มีตัวตน เป็นเพียง
    เมทริกซ์ปฏิบัติการที่สามารถเดินทางและอาศัยอยู่ได้ในอินเตอร์เน็ต ซึ่งถ้าหากโลกนี้ยังคงใช้อินเตอร์เน็ตอยู่ อัลตรอนก็จะไม่มีวันตายครับ ทีนี้
    เรามาดูกันว่า อันตรอนกากได้ยังไง มันเริ่มมาจากแนวความคิดที่ว่าจะสร้างโลกใหม่ที่มีแต่สันติ สันติในยุคเรา มนุษย์ต้องการการวิวัฒ หรือจะอะไร
    ก็แล้วแต่ที่อันตรอนเรียนรู้มาจากโทนี่ มันไม่ได้แปลว่าอัลตรอนจะต้องสร้างร่างเนื้อให้กับตัวเองซักหน่อย ไม่มีร่างประจำก็ดีอยู่แล้ว ทีนี้พอคิดสร้าง
    ร่างกายขึ้นมาก็ดันทำผิดพลาดอีก ปล่อยให้พวกพระเอกชิงร่างไปได้ ร่างนั้นเลยไปกลายเป็นวิชั่น แล้วย้อนกลับมาทำร้ายตัวอัลตรอนเอง สุดท้าย
    ก็โดน Disconnect ออกจากอินเตอร์เน็ต ด้วยฝีมือวิชั่น เลยทำให้ความอมตะที่เคยมีนั้นหายไป จากที่จะสามารถย้ายไปเข้าร่างใหม่ได้เรื่อยๆๆ
    ผ่านอินเตอร์เน็ต กลับเหลือร่างอยู่แค่หุ่นโลหะชนที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งเมื่อมันมีจำนวนจำกัด จึงทำให้อัลตรอนไม่ไร้เทียมทานอีกต่อไป
    สุดท้ายเลยโดนเก็บเรียบทุกตัว สมน้ำหน้า 55555 ดูแล้วเหมือนฆ่าตัวตายชัดๆๆ คะแนนที่จะให้ก็เอาไปเลยชัดๆๆ 4/10 สรุปว่า "กาก"

12. The Yellow Jacket จากเรื่อง Ant-man 1 (ปี 2015)
    เป็นตัวละครที่มีบุคลิกน่าสนใจครับ มีความหัวรั้น เกรี้ยวกราด ดาเรน ครอส หักหลังอาจารย์ตัวเอง ตั้งตัวเป็นใหญ่ แล้วจากนั้นก็ยึดบริษัทของอาจารย์
    ตัวเองซะเลย ที่สำคัญแกเก่งระดับอัจฉริยะเลยนะครับ ถึงขนาดสามารถลอกเลียนแบบสูตรของอนุภาคพิมได้สำเร็จ จนสร้างเป็น Yellow Jacket
    ซึ่งเป็นชุดสูทปฏิบัติการรบและจารกรรมอย่างเต็มรูปแบบได้ แต่ว่าพลังและความเก่งกาจไฉนมันจึงไม่ก้าวข้ามมนุษย์มดพระเอกของเราไปได้ก็ไม่รู้
    แต่การแพ้ของ Yellow Jacket ก็ไม่ธรรมดานะครับ พระเอกถึงกับต้องเสียสละชีวิตตัวเองย่อส่วนให้เล็กมากๆๆ เพื่อเข้าไปจัดการกับระบบชุดของ
    Yellow Jacket จนตัวเองต้องเข้าไปสู่มิติควอนตัม ดีที่มีอุปกรณ์ขนาดตัวอยู่ด้วย ไม่งั้นคงต้องกลายเป็นผงอยู่ในมิติควอนตัมเป็นแน่แท้ ส่วนคะแนน
    ของเจ้าตัวร้ายนั้น ผมให้ไม่มากไม่น้อยละกัน 6/10 สรุปว่า "เฉยๆๆ"

สรุป 2 เฟสที่ผ่านมาของหนังในจักรวาล MCU เหล่าตัวร้ายก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรนะครับ โดยมีตัวที่ "เก่ง" อยู่ 4 ตัว "เฉยๆๆ" 3 ตัว
และตัวที่ "กาก" มีมากถึง 5 ตัวเลยทีเดียวครับ ส่วนสำหรับใครที่คิดว่าเฮ้ยตัวนั้นมันเก่งนะไม่ได้กาก หรือตัวนี้เก่งตรงไหนวะ กากชัดๆๆ ก็แสดง
ความคิดเห็นกันได้ครับ ถ้าให้ดีใส่เหตุผลมาด้วยซักหน่อยนะว่าทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้น

หมายเหตุ : อ่านข้อมูลของ Phase III ได้ที่ความคิดเห็นที่ 13 นะครับ