TITANIC เรือแห่งความฝัน หนังยิ่งใหญ่รางวัลออสการ์ 11 ตัว

นําเสนอภาพยนตร์ ผลงานยิ่งใหญ่ ของ James Cameron กำกับการแสดง และเขียนบทเอง โปรดิวเซอร์เองเป็นผลงานระดับโลก เป็นงานอัจฉริยะภาพของผู้กำกับท่านนี้ ในหนังจะเห็นความรักอมตะ ดาราดังพระเอกที่แสดงนำชื่อ ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ รับบทแจ็ค นางเอก เคท วินสเล็ทรับบทโรส สาวผู้ดีชั้นสูงที่พบรักกับแจ็คคนจนชอบเล่นการพนันมาในเรือไททานิก                วิวัย จิตต์แจ้ง จะพาไปย้อน ในอดีดเมื่อร้อยปีก่อน จะนำเรื่องจริงและในหนังเล่าพร้อมกันไปเลย ติดตามได้ณ.บัดนี้

โศกนาฎกรรมกลางทะเลลึก เป็นประวัติโลก เรื่องนี้เกิดขึ้นในปีค.ศ. 1912 ตรงกับพ.ศ. 2455 ในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2455 เรีอยักษ์ สำราญลำนี้มีระวางขับน้ำมากที่สุดในโลกในยุคต้นศตวรรษที่20 ตอนออกเรือตั้งชื่อว่า อาเอ็มเอส TAIANIC มีนามเรียกกันว่า Unsin Kable Ship หรือเรือที่ไม่มีวันจม ไททานิกมาจากคำว่า Titan เป็นชื่อของอสูรเทพที่ทรงพลังที่สุด ตามเทพนิยายกรีกโบราณ ได้ออกเดินทางจากท่าเรือเซาแธมป์ตันของประเทศอังกฤษเพื่อมุ่งหน้า

ตรงสู่มหานครนิวยอร์คไป ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เขียนมีความเห็นว่าจุดที่น่าสนใจของเรือ ไททานิกเรือที่ชะตาขาดประสบเคราะห์กรรมถึงขั้นล่ม ตั้งแต่ออกเดินเรือในครั้งแรกเลยยังเป็นปริศนา จนทุกวันนื้ ฝรั่งเขามีธรรมเนียมความเชื่อเกี่ยวกับเรือ คล้ายๆกับของไทยและอีกหลายประเทศ ชาวตะวันตก ถือว่าเรือเป็นเพศหญิงเขาเชื่อกันว่าจะมีเทพเทวีประจำที่หัวเรือในสมัยโบราณมักจะ

แกะลายไม้ให้สวยงามเป็นรูปนางสวรรค์อ่อนช้อยงดงาม ส่วนไทยเราจะนับถือแม่ย่านางเรือมาตั้งแต่สมัยโบราณเช่นกันถือหัวเรือจึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ก่อนเรือออกเดินทางต้องไหว้บูชาก่อนทุกครั้ง ส่วนฝรั่งจะให้ผู้หญิงสวยๆเป็นคนเจิมหัวเรือโดยใช้ขวดแชมเปญตีที่หัวเรือให้ขวดแตก แต่แปลกมากๆ ไททานิกไม่มีการทำพิธีมงคลใดๆทั้งหมด มีเรื่องตื่นเต้นกันแล้วติดตามกันต่อเลยครับ สำหรับการเดิน

ทางเที่ยวแรกของไทยจะจุดประทัดทุกครั้งที่ออกทะเล การเดินทางเทียวแรกเรียกประเดิมชัยฝรั่งเขามีคำเรียกน่าฟังว่า Maiden Voyage ถือเป็นการเดินทางของอิสตรีจะนำโชคดีมาให้ เที่ยวปฐมฤกษ์จึงสำคัญที่สุด แต่ไททานิก มีอาถรรพ์หายนะครั้งสำคัญที่สุดในโลกเป็นโศกนาฎกรรมกลางทะเลลึกในคืนทีมีอากาศหนาวจัดติดลบ ประมาณ 10องศาน้ำเริ่มเป็นน้ำแข็ง ตอนนี้คิดถึงเพลงไททานิกที่ซีลีน ดิออนร้อง ไพเราะโหยหวนจับใจ ชีวิตของคนนับพันต้องตายพร้อมกันกลางทะเลหนังTITANIC สะท้อนให้เห็นทุกแง่ทุกมุมเหมือนท่านอยู่ในเหตุการณ์ประวิติศาสตร์ตลอดเวลาในการชมภาพยนตร์เรื่องนี้

คนที่ถูกกล่าวโทษหนักคือ กัปตันเอ็ดเวิร์ด เจ สมิธ ที่ควบคุมเรือลำนี้โดนว่าเร่งเครื่องเรือใหญ่เร็วเกินไปเพื่อทำเวลาให้ไปถึงจุดหมายก่อนกำหนดต้องเป็นแพะรับบาปไป ท่านจมไปกับเรือแต่ยังวิจารณ์ว่าเป็นต้นเหตุ แต่อีกข้อมูลหนึ่งว่าตอนตีพวงมาลัยเรือให้พ้นภูเขาน้ำแข็ง สมิตกะจังหวะไม่ถูกเพราะไม่เคยควบคุมเรือใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเพราะเป็นลำแรกของโลก ไททานิกมีเครื่องจักรไอน้ำมี

กำลังแรงสูงถึง 46000 แรงม้าทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 26 น๊อดในหนังผู้กำกับ เจมส์ คาเมร่อน เน้นให้เห็นตอนขับเรือและผิดพลาดอย่างชัดเจน เรือใหญ่การตีวงหลบต้องหมุนพวงมาลัยล่วงหน้าแต่ไกลในหนังตีระยะกระชั้นชิดมากไม่ทัน สุดท้ายชนภูเขาน้ำแข็ง กัปตันได้พยายามเต็มที่แล้วเต็มความสามารถ

ในห้องเครื่องของเรือไททานิกเป็นห้องใหญ่มากที่กุมความลับตำมืดของการจมของเรือลำนี้มีห้องเครื่องใหญ่ เรียกว่า BoiLer Room เป็นพลังงานไอน้ำต้องใช้ถ่านหินในการต้มน้ำเดือดเพื่อเกิดแรงหมุนใบจักรเรือ ในภาพยนตร์ ไททานิกภาพนี้คนดูได้เห็นชัดเจน เขาใช้ถ่านหินถึง 5892 ตันในหนังจะเห็นคนงานโกยถ่านหินเป็นร้อยคนช่วยกันแบบไม่หยุดเลย 24 ชั่วโมง 29 ห้องเครื่องแสนจะร้อนเพื่อให้ผู้โดยสารข้างบนได้สุขสำราญมีทั้งเต้นรำ ทานอาหารและกิจกรรมมากมายตลอดการเดินทางสุดท้ายคนในเรือ ไททานิก ต้องมาจบชีวิตพร้อมกันเป็นพันอยู่ใต้

มหาสมุทรแอดแลนติกเมื่อ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 ชนภูเขาน้ำแข็งระหว่างเดินทางเพียงเที่ยวแรก การจมของไททานิก ส่งผลให้มีคนเสียชีวิต 1514 คนเป็นการเสียชีวิตกลางทะเลมากที่สุดในโลก ในวันนั้น เที่ยวมรนะบรรทุกผู้โดยสารมากถึง 2223 คน เรือไททานิกได้รับการออกแบบให้มีความสะดวกสบายหรูหราที่สุดประกอบด้วย ยิมเนเซียม กับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องสมุดภัตตาคารและห้องอาหารจำนวนมาก ยังมีโทรเลขไว้บริการด้วย

เรือไททานิกมีความปลอดภัยก้าวหน้าทันสมัย เช่นมีห้องกั้นน้ำมีประตูน้ำทำ ด้วยรีโมดคอนโทล เป็นระบบทันสมัยที่สุดในสมัยนั้นเมี่อ 100 ปีก่อนซึ่งเรือลำอื่นไม่มีแบบทันสมัยเท่าลำนี้ ทุกอย่างคนสมัยนั้นมั่นใจว่าปลอดภัยที่สุดและจะไม่มีวันจมถ้าเรือรั่วก็จะมีเครื่องมือทันสมัยระบายน้ำออกได้ทันท่วงที ส่วนที่สั่งทำพิเศษคืออุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ใช้ปิดห้องกั้นน้ำเป็นส่วนเพื่อป้องกันเรือล่มจากน้ำเข้าเรือ ไททานิกก็ติดตั้งระบบไว้พร้อมแบบมั่นใจเต็มร้อย เลยทำให้เกิดความประมาท จึงไม่ได้เตรียมเรือเล็กๆสำรองไว้ให้พอเพียง เรือสำรองมีน้อยมากเพียงไม่กี่ลำและไม่มีชูชีพเพียงพอกับผู้โดยสาร ทั้งหมดมีชูชีพเพียงสำหรับคนโดยสารเพียง 1178 คนเท่านั้น ซึ่งมีจำนวนประมาณครึ่งกว่าของผู้โดยสารเรีอเทียวแรกเท่านั้น

ถึงตอนสำคัญแล้วครับ ติดตามกันเลย หลังจากออกเดินทางเมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1912 เรือมุ่งหน้าไปทางตะวันตกสู่นิวยอร์ค ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ.1912 ก่อนเดินทางผู้บัญชาการเรือ ไททานิก กัปตันเอ็ดเวิร์ด เจ สมิทท่านบอกว่าผมจะเดินทางเที่ยวนี้เป็นเที่ยวสุดท้ายแล้วครับ เที่ยวนี้จะเป็นการสั่งลาในอาชีพกัปตันเรือก่อนที่จะเกษียณ แต่ไม่ทันที่ภารกิจนี้จะสำเร็จเขาก็ได้พักผ่อนชั่วนิรันดร์ เสียชีวิตไปกับเรือไททานิก

เหตุการณ์ที่คนเดินทางต้องจบชีวิตลงพร้อมกันจำนวนหลายร้อยพันชีวิตในเรือลำใหญ่มหึมานี้ต้องมาจบใต้ก้นมหาสมุทรอันมีความลึกมากเป็นนิรันดร์ ชีวิตมนุษย์ที่เคยสุขสันต์ต้องทิ้งไว้แต่ร่างอยู่ใต้ท้องทะเลอันมืดและอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเดียวดายในความลึกถึง 12600 ฟิตความลึกเทียบเท่าดอยอินทนนท์เกือบ 2 เท่า ในคืนที่เกิดชะตากรรมเรือได้เดินทางห่างจากเซาแทมตันประมาณราว 600 กิโลเมตร มหาตภัยครั้งนี้เกิดขึ้นในความเงียบหนาวเยือกเย็น

ในคืนนั้นเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์นับถึงปัจจุบันเป็นเวลานานถึง 106 ปีแล้ว ที่ไททานิกจมประสบเคราะห์กรรมถึงขั้นล่มในตอนดึกเวลาประมาณ 11.40 นาฬิกา ตรงกับคืนวันที่ 14 เมษายน พ. ศ. 2455 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 ไททานิกชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง การชนแฉลบทำให้แผ่นลำเรืองอเข้าไปในตัวเรือและแผลเป็นรอยขีดยาวหลายเมตรฝั่งกาบขวาของเรือ ทำให้เกิดน้ำซึมเข้าเรือทันที

ในภาพยนตร์ผู้กำกับ คาเมร่อนเน้นให้เห็นนาทีวิกฤตว่าเรือชนยังไง หน้าเรือ ไททานิกมีเสากระโดงสูงมีคนคอยสังเกตุการณ์อยู่ข้างบนตลอดเวลาแต่คืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นยังเป็นปริศนา เขามองไม่เห็นภูเขาน้ำแข็งและไม่ได้ส่งสัญญานไปที่ห้องกัปตัน จนเรือเข้าใกล้ภูเขาน้ำแข็งเขาจึงเห็นในระยะประมาณ 2กิโลเมตรเท่านั้นมันไม่ทันแล้วถึงแจ้งห้องกัปตัน เหตุร้ายแรงจึงเกิดขึ้น จากแรงชนทำให้น้ำซึมเข้าเรืออย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องระดมสูบน้ำออกแต่ไม่ทันอีก 2 ชั่วโมงครึ่งต่อมาน้ำเริ่มไหลแรงมากขึ้นตามลำดับ เรือเริ่มเสียการทรงตัว

ผู้โดยสารเริ่มกระวน กระวาย วุ่นวายไปกันหมดพยายามหนีตาย เรือโดยสารลำเล็กถูกปล่อยลงน้ำโดยให้เด็กและผู้หญิงลงก่อน ผู้ชายส่วนใหญ่อยู่ที่ชั้น 2 ยังถูกขังอยู่บนเรือไม่ให้ลงเรือเล็ก ในหนังจะเห็นภาพนี้สับสนวุ่นวายกันไปหมด โรส กับ แจ็ค ก็พยายามหนีเอาตัวรอดคนดูลุ้นตื่นเต้นทั้งโรงหนังเอาใจช่วยพระเอกนางเอกชนิดหายใจไม่ทั่วท้องกันแทบทุกคน หนังเรื่องนี้น่าดูมากๆ

เพราะสร้างจากเหตุการณ์จริงจึงมีมนต์ขลัง ขณะนั่งชมเล่นเอาคนดูใจหายใจคว่ำไปตามๆกัน เล่าต่อก่อนเวลา 02.20 น คืนนั้นเกิดปรากฏการณ์ที่นึกไม่ถึงเรือ
ไททานิก แตกงอหงายขึ้นชี้ฟ้า หักเป็น2ท่อน และจมลงทันที เกิดคลื่นแรงใน

บริเวณนั้นอย่างมากขณะนั้นมีคนอยู่บนเรืออีกเป็นพันคน คนตกจากเรือจำนวนมากจนเรือจมสู่ท้องทะเล มีคนไปลอยคอแช่น้ำอยู่จำนวนมาก เราจะเห็นเรือตั้งชันคนตกลงมาเหมือนตกเหวก่อนเรือจมประมาณ 1 ชั่วโมงไฟฟ้าในเรือดับหมดเครื่องหยุดทำงานทั้งหมดในเรือมืดหมด คนดูเห็นภาพนื้ทั้งโรงแบบหมดอาลัยสงสารทุกชีวิตทุกคนจมลอยอยู่ในน้ำเต็มไปหมดเรือที่มาช่วยก็ยังมาไม่ถึง สถานะการณ์ตอนนั้นแย่มากจาก 1500 ชีวิตลอยคอและต้องตายลงเป็นจำนวนมาก จากการแช่น้ำนานในทะเลซึ่งเย็นจัดติดลบ 7 องศา

ตอนนี้เป็นคำพูดของแจ็ค กับโรสซึ้ง ก่อนตายจากขณะลอยคอในทะเลในตอนดึกคืนนั้นดังนี้ครับ โรสพูดว่า “ฉันรักเธอแจ๊คเธอต้องไม่ตาย เราจะไม่พรากจากกัน อดทนนะแจ็คคงมีคนมาช่วยเราทัน” แจ็คอยู่ในสภาพไม่ไหว ตอบว่า “เป็นบุญของผมทำให้ผมได้พบคุณ โรสเธอต้องอดทนนะต้องเอาชีวิตให้รอด โรสรับปากผมก่อน สัญญานะคุณต้องมีชีวิตเพื่ออยู่ต่อไปคุณต้องมีลูกมีหลานโชคดีนะโรส”เป็นการพูดโต้ตอบครั้งสุดท้ายก่อนต้องจากกันชั่วนิจนิรันดร์


ภาพที่เห็นในไททานิกตอนท้ายของเรื่อง เห็นคู่รักทั้งสองแล้วคนดูทั้งโรงหนังเงียบกันหมด นํ้าตาซึม เป็นภาพอันทรงจำกับหนังคลาสสิกอมตะ TITANIC มืดอยู่ในทะเล หนาวจัด เห็นแจ็คหมดสติค่อยๆจมหายไป ในท้องทะเล ได้ยินเสียงเรือเล็กที่มาช่วย ส่องไฟฉายพร้อมคะโกนดังๆว่า “ มีใครมีชีวิตรอดบ้างไหมๆๆๆ”

เรื่องราวอันยิ่งใหญ่และน่าตื่นตะลึงของภาพยนตร์ ไททานิกที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เรื่องราวของความรักที่แสนซาบซึ้ง ดื่มด่ำ ที่นักดูหนังทั้งโลกยังประทับใจไม่รู้ลืม จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลทำเงินสูงสุดในโลก หนุ่มสาวผู้พบรักระหว่างเดินทางในเรือสำราญลำนี้

เกิดไปชนกับภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาขณะลอยลำกลางมหาสมุทรแอตแลนติคเหนือ ความรักอันแสนหวานรัญจวนใจจึงกลายเป็นการเสี่ยงตายเพื่อการเอาชีวิตรอด ผลงานผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน ซึ่งทำให้เรื่องราวความรักต้องห้าม และการเสียสละเมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติจนหนังกลายเป็นสุดยอดผลงานที่ยากจะหาเรื่องใดเทียบได้จนถึงทุกวันนี้ หนังTITANIC ฉายครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.1997 ฉายทั่วโลก ประสพความสำเร็จท่วมท้นและได้กลับมาฉายใหม่ฉลองเรือ TANANIC จมครบ 100 ปีคือปี 2012 ทำเป็นระบบ3D

ต้องขอขอบคุณบริษัท 20 เซ็นจูรี่ฟ๊อก สำหรับภาพประกอบ และเวปพีเพิลซีน อ่านแล้วอย่าลืมคิดถึงเพลง My Heart Will Go On จากไททานิก ขับร้องโดย Celine Dion