พิธีการศุลกากรเมื่อเข้าประเทศ ซื้อของไม่เกิน 2 หมื่นบาท จะต้องรวมกับของที่มีอยู่เดิมที่สำแดงไปก่อนหน้าหรือไม่

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่า อาจจะเป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่ แต่เท่าที่ได้อ่านมาหลายๆ กระทู้แล้วก็ยังไม่ได้คำตอบ ขออนุญาตเรียนถามดังนี้นะครับ

สมมติว่าเรากำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ และต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายเป๊ะ

ขาออก กฎหมายระบุไว้ว่า

​การนำของใช้ส่วนตัวออกจากประเทศและประสงค์จะนำกลับเข้ามา
               ผู้โดยสารที่ต้องการนำของใช้ส่วนตัวติดตัวออกไประหว่างการเดินทาง เช่น นาฬิกา สร้อยคอ แหวน กล้องถ่ายวีดีโอ กล้องถ่ายรูป วิทยุเทป คอมพิวเตอร์สำหรับพกพา ฯลฯ และประสงค์จะนำกลับมาภายในประเทศโดยได้รับการยกเว้นอากร ผู้โดยสารจะต้องนำของดังกล่าว พร้อมบัตรที่นั่งบนเครื่องบิน (Boarding Pass) หนังสือเดินทาง และตั๋วโดยสาร มาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ที่ทำการขาออก เพื่อบันทึกรายละเอียดและรับสำเนาเอกสารไว้สำหรับแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำช่องตรวจสีแดงในวันเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย

สมมติว่า สำแดงแล้ว ของเรามีมูลค่า 1 ล้านบาท ขากลับก็ไม่ควรจะโดนภาษีอะไรอีกสำหรับข้าวของได้สำแดงไว้ล่วงหน้าแล้ว

แต่คำถามคือ ถ้าซื้อของเพิ่มจากต่างประเทศ เป็นของใช้ส่วนตัว เช่นเสื้อโค้ท 1 ตัว มูลค่า 15,000 บาท (ซึ่งไม่เกิน 20,000 บาท ตามกฎหมาย) เช่นนี้แล้ว เพราะถ้าหากคิดเฉพาะของชิ้นนี้จริงๆ ก็ไม่เกิน 2 หมื่น แต่เคยได้ยินมาว่า ถ้าไม่ได้สำแดงของใช้ก่อนออกประเทศ ทาง ตม. อาจจะใช้ดุลยพินิจ รวม 15,000 นี้ เข้ากับของใช้ที่ไม่ได้สำแดงก่อนออกนอกประเทศได้ ซึ่งจะทำให้เป็นความผิดขึ้นมาหากไม่ได้ไปชำระภาษีให้ถูกต้อง แต่หากได้เคยสำแดงของก่อนออกนอกประเทศเรียบร้อยแล้ว 15,000 นี้ จะยังคงต้องเอาไปรวมอีกหรือไม่ หรือว่าแยกไปเลย

รบกวนขอความเห็นด้วยครับ ขอบพระคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่