สวนรถไฟ ทางเฉพาะเด็กและคนชรา กับ งานวิ่ง

สวนรถไฟ   ถนนเส้นกลาง


คนที่ไปสวนรถไฟในวันเสาร์อาทิตย์หลายคนเปรยให้ฟังว่า  สวนรถไฟเปลี่ยนไปเป็นที่จัดงานวิ่งไปแล้ว

ถนนเส้นกลางที่เคยเข็นรถให้แม่ได้สูดอากาศยามเช้า
ครอบครัวพ่อแม่ลูกเล็กนักปั่นขาไถ และนักปั่น 4 ล้อสีสันสดใส  
คุณย่าคุณยายเดินออกกำลังหยุดทักทายเจ้าตัวเล็กที่เอิ๊กอ๊ากอยู่บนรถเข็น
ภาพเหล่านี้พบเห็นได้บนถนนเส้นกลางในวันเสาร์-อาทิตย์ก่อนหน้านี้

ถนนเส้นกลาง ที่สวนรถไฟเองได้สงวนไว้เฉพาะเด็กและคนชรา


แต่สิ่งที่เห็นในวันเสาร์อาทิตย์ระยะหลังๆนี้คือ     ถนนเส้นกลางมีซุ้ม start-finish ขนาดใหญ่พาดขวางคร่อมอยู่
ด้านข้างถัดไปบนสนามหญ้าเขียวขจีที่เคยปูเสื่อล้อมวงปิกนิกกัน จะเต็มไปด้วยเต็นท์ใหญ่เล็กพร้อมเวที
เต็นท์ซุ้มย่อยพร้อมอุปกรณ์  กระจายไปทั่วบริเวณ

คงจินตนาการได้ถึงบรรยากาศคึกคักกระฉับกระเฉง ที่ผู้จัดกระหน่ำออกมาปลุกเร้าคลื่นนักวิ่งนับพันชีวิต  
ตั้งแต่ช่วงเริ่ม  นักวิ่งปล่อยตัว จนถึงเข้าเส้นชัย

ผู้อาวุโสบางคนที่ไม่รู้ว่ามีงานวิ่ง  มาเห็นก็กลับเลย     ครอบครัวลูกเล็กหลายคนได้แต่หลบๆเอาแถวนั้นก่อน  รอให้งานเลิก


นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของ  สวนวชิรเบญจทัศ   หรือ   สวนรถไฟที่เราคุ้นเคย
สวนที่มีบทเกริ่นนำองค์ประกอบสวน ว่า  สวนสาธารณะแห่งนี้ถูกสร้างในแนวคิด “สวนแห่งครอบครัว”  
ของสำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม  กทม.

ไม่ทราบเรื่องระเบียบวิธีการอนุญาตนะครับ  
แต่ที่เห็นที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้   สวนทางกับแนวคิดสวนแห่งครอบครัวที่ประกาศไว้อย่างชัดเจน  
พื้นที่สงวนแต่กลับละเมิดเสียเอง ก็แปลกดี    

ถึงวันนี้  หลายคนแปลกใจ  หลายคนเริ่มบ่น  ที่หนักไปถึงก่นด่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็มีให้ได้ยินกันบ้างแล้ว


ที่อยากสื่อแทนหลายๆคนคือ    ควรหรือไม่ที่ถนนเส้นกลางจะปลอดจากการจัดงานในลักษณะนี้ครับ  
ลองให้ความเห็นกันดูครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง    ว่าแค่งานวิ่ง 5 โล 10 โล  จะกระทบอะไรมากมายนักหนา

แต่จากที่ได้พบเห็นมาคือ  นอกจากความอีกทึกครึกโครมในช่วงวิ่ง  
จะยังมีความโกลาหลจากการเตรียมงาน  ซึ่งจะเริ่มจากการขนอุปกรณ์ลงพื้นที่
เลี่ยงไม่ได้เลย บนผิวทาง จะมีรถ 6 ล้อ  รถปิคอัพ   เรียงรายไปลงอุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้
โครงเหล็กเต็นท์ ผ้าใบ  รถปั่นไฟ เครื่องเสียงสนามใหญ่บึ้ม  อุปกรณ์ส่งเสริมการขายสารพัด

ทุกอย่างที่ว่าจะมาพร้อมทีมงานหลายสิบคน  เตรียมงานกันบนถนนเส้นกลางตั้งแต่บ่ายของวันก่อนวันงาน
เพราะเขาต้องเตรียมให้เสร็จสิ้นก่อนสวนปิด   เช้าวันงานสวนเปิดก็จะได้เริ่มกัน

งานส่วนใหญ่จะจบไม่เกิน 9 โมงเช้า     จากนั้นคือความโกลาหลจะกลับมาอีกรอบ  
เก็บของ รื้อเต็นท์ รื้อซุ้ม   ขบวนคอนวอย 6 ล้อ  ปิคอัพ  จะกลับมาอีกครั้ง    
กว่าจะเรียบร้อยได้  เที่ยงวันไปแล้วล่ะครับ ที่เห็น

ถนนเส้นกลางอันร่มรื่น  เข้าไปไม่ถึง 200 เมตร     กำลังเก็บครับ



มองย้อนมาจากอีกทาง   อากาศดีมากครับ    ผู้คนโล่งโจ้ง ไม่มีใครมาเกะกะ ทำงานสบายมากเลย 55



จุดนี้ น่าจะเป็นที่ปล่อยตัว/จบ

เจ้านี้เก็บได้เร็วครับ   และดูจากการออกแบบการวิ่ง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพอควร
ที่เคยเห็นบางเจ้า  10 โมงแล้ว    ซุ้มโครงเหล็ก พรมปูพื้น ยังอยู่เลย     
ป้าๆเค้าเดินออกกำลังอยู่ข้างล่าง    ข้างบนก็รื้อซุ้มกันโครมๆ    ผมละเสียวจริงๆ

ถ้าจะสรุปว่า   บนถนนเส้นกลาง    เขาทำอะไรกันในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  
- บ่ายวันศุกร์ ทีมงานวันเสาร์เริ่มเข้าพื้นที่  เตรียมงาน         เช้าวันเสาร์เริ่ม  จบสายๆ     จัดเก็บ ขนออก   เสร็จสิ้นประมาณเที่ยง
- บ่ายวันเสาร์ ทีมงานวันอาทิตย์เข้าพื้นที่  เตรียมงาน        เช้าวันอาทิตย์เริ่ม  จบสายๆ   จัดเก็บ ขนออก  เสร็จสิ้นประมาณเที่ยง

  ถนนเส้นกลาง ทางเฉพาะเด็กและคนชรา    จะกลับเข้าสู่สภาพปกติตอนบ่ายวันอาทิตย์เป็นต้นไป !


และนี่คือส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ไม่มีใครต้องการ     ที่เห็นก้มๆเงยๆอยู่นั่น  ไม่ใช่ทีมงานนะ เป็น จนท.สวนครับ


ลำพังจัดการกับต้นไม้ใบหญ้าให้เราได้ชื่นชมร่มรื่นกันแล้ว      เสาร์-อาทิตย์ ก็จะมีงานใหญ่ให้ทำกันแบบนี้แหละครับ
ซ้ำร้าย ผู้จัดบางรายใช้พลุกระดาษ กระจายเกลื่อนให้เก็บกวาดได้อีก      จะเบียดเบียนเขาไปไหม ลองคิดดู

ไม่ได้ต่อต้านงานวิ่งหรอกนะครับ เพราะตัวเองก็วิ่งอยู่     
แต่การใช้พื้นที่จัดงานไม่น่าจะทับซ้อนกับพื้นที่ครอบครัวที่สงวนไว้เดิม   โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์      
ทางวิ่งรอบสวน 2.5 กิโลเมตร  ใน 300 กว่าไร่ หาที่เหมาะสมไม่ได้เลยเชียวหรือ
ถึงต้องมาเบียดเอาทางของเด็กและคนชราแค่ไม่กี่ร้อยเมตร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่