ย้อนวันวานเที่ยวตลาดริมน้ำ 3 อำเภอ 2 จังหวัด
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดราชบุรี ตั้งอยู่ตรงรอยต่อของ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออัมพวา อำเภอบางคนที และอำเภอวัดเพลง โดยมีลำคลองแควอ้อม และคลองวัดประดู่เป็นตัวเชื่อม
โดยตลาดแห่งนี้ ริเริ่มก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจของลุงเพิ่ม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น
สินค้าที่ขายในตลาดก็จะเป็นสินค้าทางการเกษตร สินค้าหัตถกรรม สินค้าโอท็อป และอาหารไทย อาหารพื้นบ้าน ซึ่งราคาก็ถูกแสนถูกเอามากๆ
หากใครต้องการเที่ยวชมบรรยากาศที่เป็นพื้นบ้านแบบอัมพวาดั้งเดิมยังไม่ถูกการปรุงแต่งจากการท่องเที่ยว แนะนำให้มาที่นี่เลย รับรองว่าจะต้องถูกอกถูกใจอย่างแน่นอน
การเดินทางไปตลาดริมน้ำสามอำเภอ สามารถเดินทางไปได้หลายทางนะคะ สามารถเข้าได้ทาง วัดปราโมทย์ อ.บางคนที, วัดแก้วเจริญ อ.อัมพวา , ตลาดลุงเพิ่ม อ.วัดเพลง
จะเลือกไปทางไหนก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละพท่านเลยนะคะ
สำหรับทริปนี้ เราเลือกเข้าทางตลาดลุงเพิ่ม อ.วัดเพลงคร้า หน้าทางเข้าตลาดก็จะมีซุ้มประตูอย่างที่เห็นตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่คร้า เพียงเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามา กลิ่นหอมของขนมไทยที่ทำด้วยกระทะทองเหลืองก็ลอยเข้ามาเตะจมูก จนเราต้องหันไปมอง กลิ่นมันหอมกรุ่นมว้ากจริงๆ เราเลยขอแวะไปชมหน่อย
ขนมไทยหน้าตาน่าทาน เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ โดยมีคุณยายที่อายุมากเป็นผู้นั่งทำ คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นร้านแรกเลยค่ะ
ขนมวุ้นดอกไม้ น่าตาน่าทานมากเลยใช่มั้ยล่าาาา
ข้าวโพดคั่ว ที่ขั่วกันด้วยเครื่องขั่วแบบโบราณๆ น่าทานมาก
น้ำสมุนไพรไทย ดีต่อใจและสุขภาพมากเลยคร้า
ปลาทอดแบ่งไว้เป็นจานๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ เรียกเสียงร้องในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี
ต้องบอกเลยว่า ราคาอาหารที่ขายที่นี่ ไม่แพงเลยค่ะ เป็นราคาแบบบ้านๆ ถูกแสนถูกค่ะ
เราเดินเข้ามาจนใกล้จะถึงริมน้ำ ก็จะมีร้านค้าอีกมากตั้งแอยู่บริเวณนี้
ช่วงตอนกลางคือ ก็จะมีดนตรีกลางน้ำด้วย ไว้ให้นักท่องเที่ยวนั่งชิลๆ กินอาหารไป ฟังเพลงไป โดยตลาดแห่งนี้ จะเปิดตั้งแต่ 14.00-21.00 น . ในวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้นนะคะ ใครจะมาต้องมาให้ถูกวันเท่านั้นนะคร้า เดี๋ยวจะมาเก้อเอา
ป้ายบอกสถานที่ริมน้ำ สามารถไปเดินเที่ยวได้ทุกที่เลย แต่วันนี้เราจะเลือกนั่งเรือเที่ยวชมบรรยากาศกันคร้า
ที่นี่เป็นตลาดริมน้ำนะคะ ร้านค้าส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนริมฝั่ง มีเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้นที่พายเรือมาขาย แอบกระซิบว่าของเด็ดๆ มันก็อยู่ในเรือเหล่านี้ค่ะ อร่อยด้วยแถมราคาถูกมาก
ร้านนี้เลย กาแฟโบราณที่ชงกันแบบสดๆ ร้อนๆ ด้วยคุณยายที่มีความสาวหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่บอกเลยว่ารสชาติกาแฟฝีมือของคุณยายมันเลิศสะแมนแตนมาก
แก้วเนี้ย 15 บาทเท่านั้นเอง ถูกเวอร์
ซื้อน้ำเสร็จเราก็เตรียมลงเรือเลยค่ะ ราคาตั๋วรือจะอยู่ที่คนละ 10 บาทเท่านั้นเอง นั่งกินลมชมวิวเพลินๆ โดยกลุ่มเรือที่มารับจ้างนี้ ก็จะมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ดูแล ก่อตจั้งขึ้นกระจายรายได้ให้ชาวบ้าน
เราจะล่องเรือไปยังวัดแก้วเจริญกันค่ะ หรือใครจะเลือกเดินบนฝั่งก็ได้นะคะ แต่เราจะนั่งเรือ ขากลับค่อยเดินเอา เพราะตลอดสองข้างทางก็จะมีร้านค้าขายของอยู่ริมน้ำ
บรรยากาศของบ้านเรือนสองฝั่ง บอกเลยว่ามันเป็นอัมพวาจริงๆ อัมพว๊า อัมพวา ที่ไม่ได้รับการปรุงแต่ง แต่มีเสน่ห์แบบล้นเหลือ เป็นอัมพวาดั้งเดิมที่น่าหลงใหลมาก
เรือของนั่งท่องเที่ยวที่สวนกันมา ก็จะทำให้เกิดระลอกคลื่นและน้ำสาดกระเซ้นเล็กน้อย สนุกครื้นเคลงกันไป
บ้านไม้ริมน้ำ สามารถเดินผ่าน เดินชมได้
จุดบรรจบของ 3 ตลาดด้วยคลองแควอ้อมและคลองวัดประดู่ เป็น 3 แยกของลำน้ำที่เราชื่นชอบมาก
เรามาขึ้นฝั่งกันที่ท่าของวัดแก้วเจริญ
เพียงเดินเข้ามาก็จะมีชองขายเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผืชผลไม้ในสวน
เรามาช่วงบ่ายสอง คนเลยไม่เยอะเท่าไหร่ เดินสบายมากจะได้ไม่ต้องเบียดกัน แต่อาจจะร้อนสักนิด
อาหารแบบไทยๆ กล้วยย่าง แม่ค้าที่นี่ก็ใจดีมากบอกเลย
ช่วงนี้กระแสบุพเพสันนิวาสกำลังมาก กินกุ้งย่างน้ำจิ้มแซ่บๆ กันมั้ยออเจ้า
จุ้งๆ น่ากินมาก กุ้งแม่น้ำสดๆ ของแท้เลย เนื้อมันจะหว๊านหวาน
คูณพี่ท่านนี้เป็นผุ้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็นำกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆ มาขาย มีลูกค้ามาซื้อพี่แกเลยหยิบมาให้ลูกค้าเลือก บอกเลยตัวใหญ่โคตร หยิบขึ้นมาจากในแม่น้ำกันเลย
คุณลุงขายปลาหมึกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ล่องเรือไหว้พระ ก็มีบริการให้นักท่องเที่ยวนะคะ คนละ 50 บาท
บริเวณที่จัดไว้ให้นั่งทานอาหารกัน อยู่ริมน้ำเลย
ขนมข้าวหมาก 2 ห่อ 5 บาท
ผักปรัง 10 บาท
เรากำลังจะข้ามสะพานไปฝั่ง อ.วัดเพลงกันนะคะ ฝั่งนู่น เป็นจังหวัดราชบุรีแล้วนร้า
อันนี้เขาเลียกว่าตอกไม้ไผ่ เขาเอาไว้มัดลิ้นจี่ ซึ่งในปีนี้ลิ้นจี่อัมพวา ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงครามได้ออกผลิตหลังจากไม่ได้ออกมาเกือบ 4 ปี เป็นผลไม้แห่งความหวังของชาวสวนจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตกันในช่วงกลางเดือนเมษายน ที่จะถึงนี้ อย่าลืมมาเที่ยวชมและซื้อลิ้นจี่กินกันนะคร้า
ของเล่นแบบไทยๆ ป๋องแป๋ง
เราเดินข้ามสะพานกันแล้วค่ะ
ปูไทย เซเว่นมีขายไหม เริ่มหาทานยากแล้วนะ
ดอกไม้จากใบเตย และส้มโอขาวใหญ่ขึ้นชื่อ แกะใส่แพ็คไว้รอจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว
บรรยากาศมันเป็นแบบเนี้ย อารมณ์บ่านไม้ริมน้ำ พื้นยังเป็นไม้กระดานอยู่เลย
น่าเที่ยวมาขอบอก
ขนมปัง หวานเย็น น้ำหวานแดงเฮลบลูบอย เข้ากั๊นเข้ากัน
ที่หนึ่งคตลาดฝั่ง อ.บางคนที เราต้องข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่ง แต่ขออภัย เรามีเวลาไม่มาก เลยไม่ได้ข้ามไปเก็บภาพให้ชมกัน
เดินเล่นชมบ้านไม้ริมน้ำไปเรื่อยๆ
อากาศริมน้ำมันเย็นสบายดีจริงๆ
โอ่งมังกร ตั้งอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เมื่อก่อนสิ่งที่บ่งบอกฐานะของบ้านแต่ละบ้าน นั่นก็คือโอ่งมังกรนั่นเอง บ้านไหนมีโอ่งมังกรใบใหญ่ๆ ใบสวยๆ นั่นหมายถึงบ้านนั้นมีฐานะอันจะกิน อีกอย่างเป็นการแสดงน้ำใจของคนไทย ที่ตั้งโอ่งใส่น้ำไว้ให้คนผ่านไปผ่านมาได้ดื่มกิน
คำคมการะแมวันนี้ขอเสนอคำว่า "ถ่ายรูปฉันไปทำไมเนี้ย" นี่คืดคำพูดของคุณยายที่อยู่ในภาพ เราก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้งบอกตุณยายกลับไปว่า หนูจะถ่ายไปทำรีวิวคร้า ไปได้เอาไปทำอย่างอื่นเลยจริงๆ
บ้านริมน้ำฝั่งตรงข้าม บริเวณนี้ เคยเป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่องแม่นากกันด้วยนะ
[CR] พาเที่ยวตลาดริมน้ำสามอำเภอ By Girl Like Travel
ย้อนวันวานเที่ยวตลาดริมน้ำ 3 อำเภอ 2 จังหวัด
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดราชบุรี ตั้งอยู่ตรงรอยต่อของ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออัมพวา อำเภอบางคนที และอำเภอวัดเพลง โดยมีลำคลองแควอ้อม และคลองวัดประดู่เป็นตัวเชื่อม
โดยตลาดแห่งนี้ ริเริ่มก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจของลุงเพิ่ม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น
สินค้าที่ขายในตลาดก็จะเป็นสินค้าทางการเกษตร สินค้าหัตถกรรม สินค้าโอท็อป และอาหารไทย อาหารพื้นบ้าน ซึ่งราคาก็ถูกแสนถูกเอามากๆ
หากใครต้องการเที่ยวชมบรรยากาศที่เป็นพื้นบ้านแบบอัมพวาดั้งเดิมยังไม่ถูกการปรุงแต่งจากการท่องเที่ยว แนะนำให้มาที่นี่เลย รับรองว่าจะต้องถูกอกถูกใจอย่างแน่นอน
การเดินทางไปตลาดริมน้ำสามอำเภอ สามารถเดินทางไปได้หลายทางนะคะ สามารถเข้าได้ทาง วัดปราโมทย์ อ.บางคนที, วัดแก้วเจริญ อ.อัมพวา , ตลาดลุงเพิ่ม อ.วัดเพลง
จะเลือกไปทางไหนก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละพท่านเลยนะคะ
สำหรับทริปนี้ เราเลือกเข้าทางตลาดลุงเพิ่ม อ.วัดเพลงคร้า หน้าทางเข้าตลาดก็จะมีซุ้มประตูอย่างที่เห็นตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่คร้า เพียงเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามา กลิ่นหอมของขนมไทยที่ทำด้วยกระทะทองเหลืองก็ลอยเข้ามาเตะจมูก จนเราต้องหันไปมอง กลิ่นมันหอมกรุ่นมว้ากจริงๆ เราเลยขอแวะไปชมหน่อย
ขนมไทยหน้าตาน่าทาน เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ โดยมีคุณยายที่อายุมากเป็นผู้นั่งทำ คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นร้านแรกเลยค่ะ
ขนมวุ้นดอกไม้ น่าตาน่าทานมากเลยใช่มั้ยล่าาาา
ข้าวโพดคั่ว ที่ขั่วกันด้วยเครื่องขั่วแบบโบราณๆ น่าทานมาก
น้ำสมุนไพรไทย ดีต่อใจและสุขภาพมากเลยคร้า
ปลาทอดแบ่งไว้เป็นจานๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ เรียกเสียงร้องในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี
ต้องบอกเลยว่า ราคาอาหารที่ขายที่นี่ ไม่แพงเลยค่ะ เป็นราคาแบบบ้านๆ ถูกแสนถูกค่ะ
เราเดินเข้ามาจนใกล้จะถึงริมน้ำ ก็จะมีร้านค้าอีกมากตั้งแอยู่บริเวณนี้
ช่วงตอนกลางคือ ก็จะมีดนตรีกลางน้ำด้วย ไว้ให้นักท่องเที่ยวนั่งชิลๆ กินอาหารไป ฟังเพลงไป โดยตลาดแห่งนี้ จะเปิดตั้งแต่ 14.00-21.00 น . ในวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้นนะคะ ใครจะมาต้องมาให้ถูกวันเท่านั้นนะคร้า เดี๋ยวจะมาเก้อเอา
ป้ายบอกสถานที่ริมน้ำ สามารถไปเดินเที่ยวได้ทุกที่เลย แต่วันนี้เราจะเลือกนั่งเรือเที่ยวชมบรรยากาศกันคร้า
ที่นี่เป็นตลาดริมน้ำนะคะ ร้านค้าส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนริมฝั่ง มีเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้นที่พายเรือมาขาย แอบกระซิบว่าของเด็ดๆ มันก็อยู่ในเรือเหล่านี้ค่ะ อร่อยด้วยแถมราคาถูกมาก
ร้านนี้เลย กาแฟโบราณที่ชงกันแบบสดๆ ร้อนๆ ด้วยคุณยายที่มีความสาวหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่บอกเลยว่ารสชาติกาแฟฝีมือของคุณยายมันเลิศสะแมนแตนมาก
แก้วเนี้ย 15 บาทเท่านั้นเอง ถูกเวอร์
ซื้อน้ำเสร็จเราก็เตรียมลงเรือเลยค่ะ ราคาตั๋วรือจะอยู่ที่คนละ 10 บาทเท่านั้นเอง นั่งกินลมชมวิวเพลินๆ โดยกลุ่มเรือที่มารับจ้างนี้ ก็จะมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ดูแล ก่อตจั้งขึ้นกระจายรายได้ให้ชาวบ้าน
เราจะล่องเรือไปยังวัดแก้วเจริญกันค่ะ หรือใครจะเลือกเดินบนฝั่งก็ได้นะคะ แต่เราจะนั่งเรือ ขากลับค่อยเดินเอา เพราะตลอดสองข้างทางก็จะมีร้านค้าขายของอยู่ริมน้ำ
บรรยากาศของบ้านเรือนสองฝั่ง บอกเลยว่ามันเป็นอัมพวาจริงๆ อัมพว๊า อัมพวา ที่ไม่ได้รับการปรุงแต่ง แต่มีเสน่ห์แบบล้นเหลือ เป็นอัมพวาดั้งเดิมที่น่าหลงใหลมาก
เรือของนั่งท่องเที่ยวที่สวนกันมา ก็จะทำให้เกิดระลอกคลื่นและน้ำสาดกระเซ้นเล็กน้อย สนุกครื้นเคลงกันไป
บ้านไม้ริมน้ำ สามารถเดินผ่าน เดินชมได้
จุดบรรจบของ 3 ตลาดด้วยคลองแควอ้อมและคลองวัดประดู่ เป็น 3 แยกของลำน้ำที่เราชื่นชอบมาก
เรามาขึ้นฝั่งกันที่ท่าของวัดแก้วเจริญ
เพียงเดินเข้ามาก็จะมีชองขายเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผืชผลไม้ในสวน
เรามาช่วงบ่ายสอง คนเลยไม่เยอะเท่าไหร่ เดินสบายมากจะได้ไม่ต้องเบียดกัน แต่อาจจะร้อนสักนิด
อาหารแบบไทยๆ กล้วยย่าง แม่ค้าที่นี่ก็ใจดีมากบอกเลย
ช่วงนี้กระแสบุพเพสันนิวาสกำลังมาก กินกุ้งย่างน้ำจิ้มแซ่บๆ กันมั้ยออเจ้า
จุ้งๆ น่ากินมาก กุ้งแม่น้ำสดๆ ของแท้เลย เนื้อมันจะหว๊านหวาน
คูณพี่ท่านนี้เป็นผุ้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็นำกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆ มาขาย มีลูกค้ามาซื้อพี่แกเลยหยิบมาให้ลูกค้าเลือก บอกเลยตัวใหญ่โคตร หยิบขึ้นมาจากในแม่น้ำกันเลย
คุณลุงขายปลาหมึกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ล่องเรือไหว้พระ ก็มีบริการให้นักท่องเที่ยวนะคะ คนละ 50 บาท
บริเวณที่จัดไว้ให้นั่งทานอาหารกัน อยู่ริมน้ำเลย
ขนมข้าวหมาก 2 ห่อ 5 บาท
ผักปรัง 10 บาท
เรากำลังจะข้ามสะพานไปฝั่ง อ.วัดเพลงกันนะคะ ฝั่งนู่น เป็นจังหวัดราชบุรีแล้วนร้า
อันนี้เขาเลียกว่าตอกไม้ไผ่ เขาเอาไว้มัดลิ้นจี่ ซึ่งในปีนี้ลิ้นจี่อัมพวา ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงครามได้ออกผลิตหลังจากไม่ได้ออกมาเกือบ 4 ปี เป็นผลไม้แห่งความหวังของชาวสวนจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตกันในช่วงกลางเดือนเมษายน ที่จะถึงนี้ อย่าลืมมาเที่ยวชมและซื้อลิ้นจี่กินกันนะคร้า
ของเล่นแบบไทยๆ ป๋องแป๋ง
เราเดินข้ามสะพานกันแล้วค่ะ
ปูไทย เซเว่นมีขายไหม เริ่มหาทานยากแล้วนะ
ดอกไม้จากใบเตย และส้มโอขาวใหญ่ขึ้นชื่อ แกะใส่แพ็คไว้รอจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว
บรรยากาศมันเป็นแบบเนี้ย อารมณ์บ่านไม้ริมน้ำ พื้นยังเป็นไม้กระดานอยู่เลย
น่าเที่ยวมาขอบอก
ขนมปัง หวานเย็น น้ำหวานแดงเฮลบลูบอย เข้ากั๊นเข้ากัน
ที่หนึ่งคตลาดฝั่ง อ.บางคนที เราต้องข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่ง แต่ขออภัย เรามีเวลาไม่มาก เลยไม่ได้ข้ามไปเก็บภาพให้ชมกัน
เดินเล่นชมบ้านไม้ริมน้ำไปเรื่อยๆ
อากาศริมน้ำมันเย็นสบายดีจริงๆ
โอ่งมังกร ตั้งอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เมื่อก่อนสิ่งที่บ่งบอกฐานะของบ้านแต่ละบ้าน นั่นก็คือโอ่งมังกรนั่นเอง บ้านไหนมีโอ่งมังกรใบใหญ่ๆ ใบสวยๆ นั่นหมายถึงบ้านนั้นมีฐานะอันจะกิน อีกอย่างเป็นการแสดงน้ำใจของคนไทย ที่ตั้งโอ่งใส่น้ำไว้ให้คนผ่านไปผ่านมาได้ดื่มกิน
คำคมการะแมวันนี้ขอเสนอคำว่า "ถ่ายรูปฉันไปทำไมเนี้ย" นี่คืดคำพูดของคุณยายที่อยู่ในภาพ เราก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้งบอกตุณยายกลับไปว่า หนูจะถ่ายไปทำรีวิวคร้า ไปได้เอาไปทำอย่างอื่นเลยจริงๆ
บ้านริมน้ำฝั่งตรงข้าม บริเวณนี้ เคยเป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่องแม่นากกันด้วยนะ