เที่ยวในสิ่งที่เป็น “ที่สุด” ของประเทศที่เราไปเยือน วันนี้เราก็เลือกที่สุดของ Guatemala ให้เป็นส่วนหนึ่งของทริปเราครั้งนี้
16 MAR 2018 (EL REMATE – SEMUC CHAMPEY)
ถ้าดูจากแผนที่แล้ว SEMUC CHAMPEY ดูอยู่อย่างโดดเดี่ยว รอบข้างไม่มีสถาทีเที่ยวอื่นน่าสนใจ ถ้าจะมาที่นี่คือต้อง “ใจ” จริงๆ ถึงจะมา คือใจอยากมาจริงๆ ก่อนมาเราก็ลอง search ดูรูปว่าหน้าตามันเป็นไงนะ ดูแล้วก็น่าสนใจ แล้วพออ่าน LP บอกว่าเป็น The most beautiful attraction in Guatemala อีก อย่างงี้คือไม่มาก็คงไม่ได้แล้ว!!!
จาก El Remate ไป Semuch Champey โดยรถโดยสารภายในวันเดียวสามารถทำได้ แต่ตอนเช้าต้องออกมาทันรถคันแรก ไม่อย่างนั้นจะไปไม่ทันใน 1 วัน เพราะจะต้องเปลี่ยนรถที่ Flores และ Coban ดังนั้นเราเลือกวิธีที่ง่ายสุดคือซื้อ Shuttle bus จากโรงแรมในราคา Q225 พอลองเปิดราคาแบบถ้าไปเองใน LP แล้วมันแพงกว่าไม่กี่สิบ แต่พอพาตัวเองมาถึง Semuc Champey แล้วช้ำใจ เพราะเค้านั่ง shuttle bus มากันแค่ Q135 เท่านั้น!!!!
คำแนะนำสำหรับคนที่ไป Tikal แล้วต้องการไป Semuc Champey ต่อ แนะนำให้พักที่ Flores ดีกว่า เป็นเมืองใหญ่กว่า ของกินให้เลือกมากกว่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่าเยอะ!!!
ในวันเดินทางเราออกมารถที่หน้าโรงแรมตอนเจ็ดโมง กว่ารถจะมาก็เกือบเจ็ดโมงครึ่ง แรกๆ ทางโรงแรมบอกว่า Shuttle bus จะรับแล้วส่งเราถึง Semuc Champey เลย ฟังดูดีใช่มั๊ยล่ะ แต่ความจริงเหมือนโดนหลอกขายฝัน!!! รถ Tourist bus จาก El Remate พาเรามาทิ้งที่ Flores หน้าป้าย Peten แล้วก็จากไปพร้อมบอกว่า เดี๋ยวรถที่จะไป Lanquin ก็จะมารับ!!! โหว....ชีวิตชั้น ทำไมโดยทิ้งกลางคลันแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งรอด้วยหัวใจ positive สุดๆ ว่าชั้นคงไม่โดนโกงหรอกเน๊อะ
รอไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็มีรถตู้ที่เต็มไปด้วยฝรั่งหัวทองมารับอาเจ๊หัวดำตาตี่เพียงคนเดียวในรถ แล้วนั่งยาวๆ ตั้งแต่แปดโมงครึ่งยันเกือบหกโมงเย็น มีแวะพักสองรอบ รอบละ 20 นาที พอถึงที่ Lanquin แล้วก็ไม่จบแค่นั้นค่ะ ต้องเปลี่ยนรถจากรถตู้เป็นรถ 4WD อันนี้คือสิ่งที่ทางโรงแรมขายฝัน (อีกแล้ว) ความจริอคือนั่งรถคล้ายๆ รถคอกหมูที่วิ่งขึ้นพระธาตุอินแขวนแต่คันเล็กกว่า ระยะทางแค่ 11 กม. แต่ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง เพราะทางเป็นทางกรวดขึ้นเขาลงเขา สวนกันค่อนข้างลำบาก
ถึงที่พักก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า ที่พักที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นที่สุด เพราะในห้องมีเพียงฟูก หมอน และผ้าห่มเท่านั้น ไม่มี wifi หรือกิจกรรมอื่นใดให้ทำ เพราะฉะนั้นมาที่นี่พักผ่อนได้เต็มที่จริงๆ
17 Mar 2018 (SEMUC CHAMPEY – GUATEMALA CITY)
วันนี้เราจะตื่นขึ้นมาเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงามที่สุดใน Guatemala (ตามที่เค้าว่ากัน) จากที่พักเราเดินไปแค่ประมาณ 20 เมตรก็ถึงทางเข้า จ่ายค่าเข้า Q50 แล้วสามารถขอแผนที่ (ฟรี) จากเจ้าหน้าที่ได้เลย สิ่งที่ได้มาไม่ใช่เฉพาะแผนที่แต่มีคำอธิบายของเจ้าหน้าที่อย่างละเอียดยิบ ถ้าหลงนี่ก็ไม่รู้จะว่ายังไงละ
จากทางเข้าหากต้องการชมวิวจากมุมสูงก่อนก็ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินขึ้นไปตามทางเรื่อยๆ ทัวร์ส่วนใหญ่จะเริ่มมาตอนประมาณ 10 โมง เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากได้วิวแบบไม่มีหมู่มวลมหาชล เราก็ควรที่จะเริ่มเดินตั้งแต่ 8 โมง แต่ถ้าอยากจะไปเล่นน้ำแบบไม่มีคน ไม่สนใจการถ่ายรูปก็เลี้ยวขวาแล้วเดินลงไปที่สระน้ำได้เลย เราเลือกเดินไปถ่ายรูปจากจุดชมวิวก่อน ซึ่งใช้เวลาเดิน (เยี่ยงเต่า) ประมาณ 40 นาที พอใกล้ๆ ถึง มีแม่ค้าขายมะม่วงดิบราคาแค่ Q5 พอๆ กับมะม่วงแถวเพลินจิต เราเลยจัดไปหนึ่งลูก พอได้กัดเท่านั้นแหละ.....น้ำปลาหวานอยู่ไหนคะ? เปรี้ยวมากกกกกกกกกกกกก!!!! เดินไปกัดไปจนถึงจุดชมวิว (ก็ยังไม่หมด)
พอมาถึงจุดชมวิว มันคือสวรรค์ เพราะไม่ใครตรงนั้นนอกจากเรา เพราะฉะนั้น ถ่ายรูปไปไม่ต้องเกรงใจใครทั้งนั้น
เราใช้เวลาที่นี่พักใหญ่ๆ จนมีครอบครัวนึงมาเราเลยเดินลงไปด้านล่างเพื่อดูว่าเค้าเล่นน้ำกันที่ไนห เดินไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงจุดว่ายน้ำ ตรงนี้จะมีล็อกเกอร์ให้เก็บกระเป๋าด้วย
เดินไล่ไปเรื่อยๆ ทุกจุดก็จะมีคนพาครอบครัวมาว่ายน้ำ น้ำใสมาก น่ากระโจนลงไปสุดๆ
เราดินจนเกือบสุดก็จะเห็นน้ำตกใหญ่สุดที่เกิดจากแหล่งน้ำนี้
เราใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมงก็กลับขึ้นมาด้านบน ตรงทางเข้าจะมีขายส้มตำ ไก่ย่าง!!! (มโนไปไกล) จริงๆ คือมีขายไก่ย่าง ซี่โครงหมูย่าง ถามแรกๆ เราจิ้มไปที่สะโพกบอก Q25 พอเดินออกเหลือ Q20 พอสั่งจริงหยิบน่องไก่มาให้แทนสะโพก!!! เฮ้อ....เพลียๆๆๆ สุดท้ายก็สั่งๆ กินไปพร้อมโค้กอีกขวด
ตอนกินๆ อยู่ก็มีคนมาถามว่าจะไป Lanquin มั๊ย พอถามราคาบอก Q25 เราเลยขอกกินก่อนแล้วกัน แล้วค่อยคิดกัน พอกินเสร็จจริงๆ มีคันนึงจะออกเราเลยกระโดดขึ้นรถแล้วให้เค้าขับไปรอที่หน้าโรงแรมเพื่อให้เราหยิบกระเป๋าขึ้นระ ถึงที่ปุ๊บหยิบเงินจะจ่ายถามว่าเท่าไหร่ เค้าคิด Q15 พวกที่มาถามเรานี่คือคิดค่าหัวคิวสินะ ถ้าใครไปเที่ยวที่นี่ไม่ต้องสนคนมาถาม เดินไปหาคนขับรถได้เลย แล้วถ้าพักที่ รร ไม่ต้องเดินกลับไปที่ทางเข้าน้ำตก รอที่หน้าโรงแรม รถที่วิ่งลงกลับไปที่ Lanquin ล้วนเป็นรถเปล่าทั้งนั้น!!!
ถึงที่ Lanquin เราก็รอรถที่จะไป Coban นั่งรอที่ร้านขายน้ำ ไม่ได้ซื้อน้ำเค้ากิน แต่เค้าก็ออกมานั่งคุยด้วย คุยกันไม่รู้เรื่องสุดๆ เปิด Dic ไปคุยไป จนรถมารับ จริงๆ ถ้าไม่อยากจะรอรถ ก็เดินลงไปประมาณ 5 นาทีไปขึ้นรถที่ร้านในรูปได้ เพราะรถทุกคันก่อนที่จะออกจะไปจอดที่นั่นประมาณ 15 -30 นาที
การได้กลับมานั่งรถ Local อีกครั้ง มันรู้สึกเหมือนกลับมามีชีวิตชีวา เด็กที่นั่นก็พยายามที่จะเล่นกับเรา พ่อแม่เค้าก็ยิ้มทักทายให้ เรารู้สึกเหมือนได้มาเที่ยวจริงๆ ผิดกับตอนนั่งรถ Shutter Bus มามาก
ถึงที่ Coban ต้องเดินมาอีก 2 กม. ก็จะถึงสถานีของรถ Monja Blanca รถรอบสุดท้ายที่จะไป Guatemala คือรอบ 4 โมง เราโชคดีมากที่รถจาก Lanquin มาถึงตอน 3 โมงครึ่งทำให้เราไป Guatemala City ทันในวันเดียว ไม่อย่างงั้นต้องนอน Coban ก่อน 1 คืน แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยเข้า Guatemala City
ด้วยความที่เมื่อคืนไม่มี Internet จะใช้ เราเลยไม่ต้องจองห้องมาก่อน พอมาถึงสถานีขนส่งก็ไม่รู้จะไปไหน เลยเดินหา รร ที่ใกล้ที่สุดแล้วราคาไม่แพงมากเกินไป เป็นที่ซุกหัวนอนในคืนนี้
[CR] +.+.+ลุยเดี่ยวเที่ยวตอนตกกงาน จาก USA ถึง PERU+.+.+ (DAY23-24: SEMUC CHAMPEY)
16 MAR 2018 (EL REMATE – SEMUC CHAMPEY)
ถ้าดูจากแผนที่แล้ว SEMUC CHAMPEY ดูอยู่อย่างโดดเดี่ยว รอบข้างไม่มีสถาทีเที่ยวอื่นน่าสนใจ ถ้าจะมาที่นี่คือต้อง “ใจ” จริงๆ ถึงจะมา คือใจอยากมาจริงๆ ก่อนมาเราก็ลอง search ดูรูปว่าหน้าตามันเป็นไงนะ ดูแล้วก็น่าสนใจ แล้วพออ่าน LP บอกว่าเป็น The most beautiful attraction in Guatemala อีก อย่างงี้คือไม่มาก็คงไม่ได้แล้ว!!!
จาก El Remate ไป Semuch Champey โดยรถโดยสารภายในวันเดียวสามารถทำได้ แต่ตอนเช้าต้องออกมาทันรถคันแรก ไม่อย่างนั้นจะไปไม่ทันใน 1 วัน เพราะจะต้องเปลี่ยนรถที่ Flores และ Coban ดังนั้นเราเลือกวิธีที่ง่ายสุดคือซื้อ Shuttle bus จากโรงแรมในราคา Q225 พอลองเปิดราคาแบบถ้าไปเองใน LP แล้วมันแพงกว่าไม่กี่สิบ แต่พอพาตัวเองมาถึง Semuc Champey แล้วช้ำใจ เพราะเค้านั่ง shuttle bus มากันแค่ Q135 เท่านั้น!!!!
คำแนะนำสำหรับคนที่ไป Tikal แล้วต้องการไป Semuc Champey ต่อ แนะนำให้พักที่ Flores ดีกว่า เป็นเมืองใหญ่กว่า ของกินให้เลือกมากกว่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่าเยอะ!!!
ในวันเดินทางเราออกมารถที่หน้าโรงแรมตอนเจ็ดโมง กว่ารถจะมาก็เกือบเจ็ดโมงครึ่ง แรกๆ ทางโรงแรมบอกว่า Shuttle bus จะรับแล้วส่งเราถึง Semuc Champey เลย ฟังดูดีใช่มั๊ยล่ะ แต่ความจริงเหมือนโดนหลอกขายฝัน!!! รถ Tourist bus จาก El Remate พาเรามาทิ้งที่ Flores หน้าป้าย Peten แล้วก็จากไปพร้อมบอกว่า เดี๋ยวรถที่จะไป Lanquin ก็จะมารับ!!! โหว....ชีวิตชั้น ทำไมโดยทิ้งกลางคลันแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งรอด้วยหัวใจ positive สุดๆ ว่าชั้นคงไม่โดนโกงหรอกเน๊อะ
รอไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็มีรถตู้ที่เต็มไปด้วยฝรั่งหัวทองมารับอาเจ๊หัวดำตาตี่เพียงคนเดียวในรถ แล้วนั่งยาวๆ ตั้งแต่แปดโมงครึ่งยันเกือบหกโมงเย็น มีแวะพักสองรอบ รอบละ 20 นาที พอถึงที่ Lanquin แล้วก็ไม่จบแค่นั้นค่ะ ต้องเปลี่ยนรถจากรถตู้เป็นรถ 4WD อันนี้คือสิ่งที่ทางโรงแรมขายฝัน (อีกแล้ว) ความจริอคือนั่งรถคล้ายๆ รถคอกหมูที่วิ่งขึ้นพระธาตุอินแขวนแต่คันเล็กกว่า ระยะทางแค่ 11 กม. แต่ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง เพราะทางเป็นทางกรวดขึ้นเขาลงเขา สวนกันค่อนข้างลำบาก
ถึงที่พักก็ปาเข้าไปทุ่มกว่า ที่พักที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นที่สุด เพราะในห้องมีเพียงฟูก หมอน และผ้าห่มเท่านั้น ไม่มี wifi หรือกิจกรรมอื่นใดให้ทำ เพราะฉะนั้นมาที่นี่พักผ่อนได้เต็มที่จริงๆ
17 Mar 2018 (SEMUC CHAMPEY – GUATEMALA CITY)
วันนี้เราจะตื่นขึ้นมาเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงามที่สุดใน Guatemala (ตามที่เค้าว่ากัน) จากที่พักเราเดินไปแค่ประมาณ 20 เมตรก็ถึงทางเข้า จ่ายค่าเข้า Q50 แล้วสามารถขอแผนที่ (ฟรี) จากเจ้าหน้าที่ได้เลย สิ่งที่ได้มาไม่ใช่เฉพาะแผนที่แต่มีคำอธิบายของเจ้าหน้าที่อย่างละเอียดยิบ ถ้าหลงนี่ก็ไม่รู้จะว่ายังไงละ
จากทางเข้าหากต้องการชมวิวจากมุมสูงก่อนก็ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินขึ้นไปตามทางเรื่อยๆ ทัวร์ส่วนใหญ่จะเริ่มมาตอนประมาณ 10 โมง เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากได้วิวแบบไม่มีหมู่มวลมหาชล เราก็ควรที่จะเริ่มเดินตั้งแต่ 8 โมง แต่ถ้าอยากจะไปเล่นน้ำแบบไม่มีคน ไม่สนใจการถ่ายรูปก็เลี้ยวขวาแล้วเดินลงไปที่สระน้ำได้เลย เราเลือกเดินไปถ่ายรูปจากจุดชมวิวก่อน ซึ่งใช้เวลาเดิน (เยี่ยงเต่า) ประมาณ 40 นาที พอใกล้ๆ ถึง มีแม่ค้าขายมะม่วงดิบราคาแค่ Q5 พอๆ กับมะม่วงแถวเพลินจิต เราเลยจัดไปหนึ่งลูก พอได้กัดเท่านั้นแหละ.....น้ำปลาหวานอยู่ไหนคะ? เปรี้ยวมากกกกกกกกกกกกก!!!! เดินไปกัดไปจนถึงจุดชมวิว (ก็ยังไม่หมด)
พอมาถึงจุดชมวิว มันคือสวรรค์ เพราะไม่ใครตรงนั้นนอกจากเรา เพราะฉะนั้น ถ่ายรูปไปไม่ต้องเกรงใจใครทั้งนั้น
เราใช้เวลาที่นี่พักใหญ่ๆ จนมีครอบครัวนึงมาเราเลยเดินลงไปด้านล่างเพื่อดูว่าเค้าเล่นน้ำกันที่ไนห เดินไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงจุดว่ายน้ำ ตรงนี้จะมีล็อกเกอร์ให้เก็บกระเป๋าด้วย
เดินไล่ไปเรื่อยๆ ทุกจุดก็จะมีคนพาครอบครัวมาว่ายน้ำ น้ำใสมาก น่ากระโจนลงไปสุดๆ
เราดินจนเกือบสุดก็จะเห็นน้ำตกใหญ่สุดที่เกิดจากแหล่งน้ำนี้
เราใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมงก็กลับขึ้นมาด้านบน ตรงทางเข้าจะมีขายส้มตำ ไก่ย่าง!!! (มโนไปไกล) จริงๆ คือมีขายไก่ย่าง ซี่โครงหมูย่าง ถามแรกๆ เราจิ้มไปที่สะโพกบอก Q25 พอเดินออกเหลือ Q20 พอสั่งจริงหยิบน่องไก่มาให้แทนสะโพก!!! เฮ้อ....เพลียๆๆๆ สุดท้ายก็สั่งๆ กินไปพร้อมโค้กอีกขวด
ตอนกินๆ อยู่ก็มีคนมาถามว่าจะไป Lanquin มั๊ย พอถามราคาบอก Q25 เราเลยขอกกินก่อนแล้วกัน แล้วค่อยคิดกัน พอกินเสร็จจริงๆ มีคันนึงจะออกเราเลยกระโดดขึ้นรถแล้วให้เค้าขับไปรอที่หน้าโรงแรมเพื่อให้เราหยิบกระเป๋าขึ้นระ ถึงที่ปุ๊บหยิบเงินจะจ่ายถามว่าเท่าไหร่ เค้าคิด Q15 พวกที่มาถามเรานี่คือคิดค่าหัวคิวสินะ ถ้าใครไปเที่ยวที่นี่ไม่ต้องสนคนมาถาม เดินไปหาคนขับรถได้เลย แล้วถ้าพักที่ รร ไม่ต้องเดินกลับไปที่ทางเข้าน้ำตก รอที่หน้าโรงแรม รถที่วิ่งลงกลับไปที่ Lanquin ล้วนเป็นรถเปล่าทั้งนั้น!!!
ถึงที่ Lanquin เราก็รอรถที่จะไป Coban นั่งรอที่ร้านขายน้ำ ไม่ได้ซื้อน้ำเค้ากิน แต่เค้าก็ออกมานั่งคุยด้วย คุยกันไม่รู้เรื่องสุดๆ เปิด Dic ไปคุยไป จนรถมารับ จริงๆ ถ้าไม่อยากจะรอรถ ก็เดินลงไปประมาณ 5 นาทีไปขึ้นรถที่ร้านในรูปได้ เพราะรถทุกคันก่อนที่จะออกจะไปจอดที่นั่นประมาณ 15 -30 นาที
การได้กลับมานั่งรถ Local อีกครั้ง มันรู้สึกเหมือนกลับมามีชีวิตชีวา เด็กที่นั่นก็พยายามที่จะเล่นกับเรา พ่อแม่เค้าก็ยิ้มทักทายให้ เรารู้สึกเหมือนได้มาเที่ยวจริงๆ ผิดกับตอนนั่งรถ Shutter Bus มามาก
ถึงที่ Coban ต้องเดินมาอีก 2 กม. ก็จะถึงสถานีของรถ Monja Blanca รถรอบสุดท้ายที่จะไป Guatemala คือรอบ 4 โมง เราโชคดีมากที่รถจาก Lanquin มาถึงตอน 3 โมงครึ่งทำให้เราไป Guatemala City ทันในวันเดียว ไม่อย่างงั้นต้องนอน Coban ก่อน 1 คืน แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยเข้า Guatemala City
ด้วยความที่เมื่อคืนไม่มี Internet จะใช้ เราเลยไม่ต้องจองห้องมาก่อน พอมาถึงสถานีขนส่งก็ไม่รู้จะไปไหน เลยเดินหา รร ที่ใกล้ที่สุดแล้วราคาไม่แพงมากเกินไป เป็นที่ซุกหัวนอนในคืนนี้