[CR] เที่ยวโตเกียว ตลาดปลาซุกิจิ เก็บสตอเบอรี่ และชมซากุระก่อนใครที่「KAWAZU ZAKURA」

TRIP 8.... Day 1 มะม่วงรีวิว

สำหรับทริป 8 เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวโตเกียว ดูซากุระที่ KAWAZU เก็บสตอเบอรี่ เที่ยวน้ำตก  Kawazu Nanadaru Waterfall และไร่ซาบิกันนะคะ

KAWAZU อยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งเรียกว่าเรา「KAWAZU ZAKURA」ซากุระจะบานเร็วกว่าที่อื่น ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ได้ชมซากุระที่สีชมพูสดใส จะได้บรรยากาศฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุนได้เลย
ช่วงสิ้นเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนจะเป็นช่วงซากุระแล้ว สีชมพูสดใสของดอกซากุระทำให้แต่ละพื้นที่ในญี่ปุ่นกลายเป็นฤดูใบไม้ผลิ และสิ่งมีชีวิตต่างๆก็จะออกมาหากินในฤดูนี้ ทำให้เป็นฤดูที่มีชีวิตชีวามากเลยทีเดียว ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะมาเพลินเพลินกับบรรยากาศเหล่านี้ที่ญี่ปุ่นในช่วงวันหยุดสงกรานต์เป็นจำนวนมาก
และนอกจากนี้ บริเวณอิซุ จะมีให้เก็บสตอเบอรี่, Kawazu Nanadaru Waterfall และนาวาซาบิดะ สถานที่ที่มีเสน่ห์สำหรับคนไทยอยู่มากมาย ในครั้งนี้จึงอยากจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และน่าสนใจในอิซุและบริเวณโดยรอบ พร้อมกับเมืองที่เป็น เกทเวย์อย่างโตเกียวกัน


เรามาเริ่มกันที่ DAY 1

ค่าใช้จ่ายและการเดินทาง


เดินเที่ยวตลาดเก่าเก่าแก่ที่ 『KOMACHI DORI』 และเที่ยวศาลเจ้า『TSURUGAOKA HACHIMANGU』
ในครั้งนี้จะมาเที่ยว「KAMAKURA DAIBUTSU」ที่อยู่ในคามาคุระที่เป็นที่รู้จักของคนไทย และพักที่เมืองโกเท็มบะ ตรงตีนเขาภูเขาไฟฟูจิกัน
หลังจากนั้นก็ไปที่คาบสมุทรอิซุ 「ชิโมดะ」และก็ไปที่ๆเป็นสถานที่หลักในครั้งนี้อย่าง 「KAWAZU ZAKURA」ตามด้วยสถานที่ขึ้นชื่อของอิซุ 「Kawazu Nanadaru Waterfall」และที่ 「JOREN NO TAKI」ที่คนไทยรู้จักเป็น”นาวาซาบิ”ดะเพื่อสัมผัสประสบการณ์ 「WASABI DON」(ข้าวหน้าวาซาบิ)
และก็กลับไปที่โตเกียว เพื่อไปตามสถานที่ท่องเที่ยวและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง กับทริป 3 คืน 6 วัน
เรามาลงที่โตเกียว สนามบินฮาเนะดะ และที่แรกที่เราจะไปคือ คามาคุระ

เที่ยวบินที่มาจากกรุงเทพก็มาถึงสนามบินฮาเนะดะแล้ว ดีเลย์นิดหน่อยด้วยเมื่อ 1 เดือนที่แล้วก็มาที่ญี่ปุ่นไฟท์เดียวกันนี้ แต่ตอนที่ถึงตอนนั้นฟ้ายังไม่สว่างเลย แต่ครั้งนี้พระอาทิตย์ขึ้นจนฟ้าสว่างหมดแล้วจากหน้าหนาวที่ตอนกลางคืนจะนาน เหมือนได้สัมผัสการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลไปด้วยเลย

สนามบินฮาเนะดะในช่วงเวลานี้จะมีเครื่องบินมาลงจอดอยู่หลายสายการบิน แค่เที่ยวบินที่มาจากกรุงเทพก็มีตั้ง 3 เที่ยวบินเลย จากลอนดอน แฟรงก์เฟิร์ต หรือสิงคโปร์ก็มาลงพร้อมๆกัน ดังนั้นอาจจะใช้เวลาที่ตม.นานหน่อยแล้วและก็ผ่านศุลกากรออกมาได้อย่างปลอดภัย
ก่อนอื่นเลยที่แรกที่เราจะไปก็คือ 「คามาคุระ」ไปกันเลย !การเดินทางไป คามาคุระ มี 2 วิธี
ใช้รถไฟเคฮินคิวโค (KEIHIN KYUKO) ผ่านคามาตะเพื่อไปที่โยโกฮาม่า ⇒ จากโยโกฮาม่า ก็เปลี่ยนขบวนเป็น JR สายโยโคซุกะ (ใช้เวลา 1ชั่วโมง・790 เยน)ลีมูซีนบัสจากสนามบิน(ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที・1370 เยน)ครั้งนี้ อยากจะนั่งไปเลยเลือกข้อ ② ลีมูซีนบัสสามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์ ถ้าออกจากทางออกจะอยู่ด้านซ้ายมือนอกจากเงินสดแล้วก็สามารถให้บัตรเครดิตได้ด้วย

ลีมูซีนบัสไปคามาคุระจะออกจากป้ายเบอร์ 9วิธีไปป้ายเบอร์ 9 คือเดินเลยที่ขายบัตรไปอีกและให้ลงบันไดเลื่อนที่อยู่ด้านขวาเดินตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอป้ายเบอร์ 9 เลย

สำหรับคนที่มี IC CARD ของ Suicaหรือ PASMO ก็สามารถขึ้นรถได้เลยโดยไม่ต้องซื้อตั๋วSuica หรือ PASMO สามารถซื้อได้ที่สถานีรถไฟในสนามบินเลย
หรือจะซื้อที่สถานีรถไฟรางเดี่ยว ที่อยู่ชั้นที่เดินทางมาถึง ที่นั่นสามารถซื้อ Suica รถไฟรางเดี่ยวได้เหมือนกันน่าจะสะดวกกว่า

ที่นั่งบัสเป็นแบบไม่ระบุที่นั่ง ถ้าเป็นไปได้อยากจะแนะนำให้นั่งฝั่งด้านซ้าย จากหน้าต่างรถจะมองเห็น เมืองท่าที่อยู่ติดโตเกียว「Yokohama Bay Bridge」เกทเวย์ของโยโกฮาม่าได้ด้วย

รถบัสมาถึงสถานีคามาคุระก่อนเวลากำหนดวันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งเชียว


ก่อนจะออกเดินทางก็มาฝากสัมภาระหนักๆกันก่อนภายในสถานีจะมีตู้ล๊อกเกอร์หยอดเหรียญอยู่หลายที่ ไซส์ S ราคา 400 เยนจะไม่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ และไซส์ M ราคา 500 เยนจะสามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดกลางได้
ถ้าในกรณีที่ไม่มีตู้ว่าง ก็สามารถนำไปฝากไว้ที่สมาคมการท่องเที่ยวได้ อยู่ด้านหลังสถานี 「ENODEN」 ตึกคามาคุระ (ตึกกระเบื้องสีน้ำตาล)สมาคมท่องเที่ยวจะอยู่บนชั้น 4F(600 เยน – 800 เยน ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก)


ฝากของแล้วก็สบายตัวเลย และเดินไปลานกว้างซ้ายมือที่อยู่หน้าสถานี เลยแมคโดนัลด์แล้วเข้าโทริอิ เพื่อเข้าไปย่านร้านค้ากัน

ย่านร้านค้าย่านนี้ชื่อว่า 「KOMACHI DORI」จากสถานีคามาคุระ เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยัง「ศาลเจ้าสึรุงะโอกะ ฮะจิมัง」「TSURUGAOKA HACHIMANGU」ที่เป็นสถานที่หลักในคามาคุระ ซึ่งย่านนี้จะมีร้านอาหารและร้านขายของฝากเรียงกันอยู่เต็มไปหมด นักท่องเที่ยวก็คึกคัก

มัวแต่เเวะข้างทางเลยเดินซะนานเลย กลิ่นหอมมันโชยมาจนเลือกไม่ถูกเลยว่าจะกินอะไรดี


ภายในนั้นก็มีร้านที่ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษอยู่ร้านนึง ถ้าเข้ามาที่ย่านโคมาจิแล้วร้านจะอยู่เลยแยกที่สองไปอีกอยู่ทางซ้ายมือชื่อร้านว่า 『SAKURA NO YUMEMIYA HONTEN』「ร้านซากุระโนะยูเมะมิยะสาขาใหญ่」


เมนูขึ้นชื่อของร้านก็คือ 「คินาโกะ」「มิตาราชิ」และก็มี「มัทฉะถั่วแดงกวน」หรือ「ถั่วแดงกวนน้ำผึ้งมะนาว」เป็นร้านที่ขายดังโงะรสชาติไม่เมือนที่อื่น
เลือก「ดังโงะสตอเบอรี่ถั่วแดงกวน」(200 เยน)ที่มีเฉพาะฤดูนี้ เป็นดังโงะที่มีถั่วแดงกวนอยู่ข้างในและวางสตอเบอรี่ไว้ด้านบน น่าทานมากๆ
สตอเบอรี่สดกับถั่วแดงกวนหวานๆมันเข้ากันสุดๆ อร่อยมากๆเลย
ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่สตอเบอรี่อร่อยมากที่สุด จะพยายามอัพเดตข้อมูลข่าวสารตามฤดูกาลต่างๆให้ทุกคนนะคะ 555

เส้นนี้มีร้านรถลากด้วย『EBISUYA』
1 บริเวณ(ระยะเวลาประมาณ 12-15 นาที)3000 เยน (ต่อ 1 คน)-4000 เยน(2คน)ไม่ได้ใช้บริการร้านเค้า แต่พี่เขาก็ให้ถ่ายรูปคู่กันด้วย หล่อแล้วยังใจดีอีกดีต่อใจจริงๆ

พอเดินไปเรื่อยๆ ก็ถึงที่『TSURUGAOKA HACHIMANGU』ศาลเจ้าสึรุงะโอกะ ฮะจิมัง ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 950 กว่าปีมาแล้วในปี ค.ศ.1063


เมื่อเข้ามาในศาลเจ้าสึรุงะโอกะ ฮะจิมัง ก็จะเห็นบ่อน้ำเกนเป 「GENPEI IKE」อยู่ตรงหน้า และ Taikobashi สะพานไทโกะโด่งอยู่ตรงกลางด้วย แล้วยิ่งถ้าเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนซากุระที่ปลูกไว้รอบๆบ่อน้ำก็จะบานเต็มที่สวยมากๆ ซากุระที่บานอยู่ก็ว่าสวยแล้วแต่กลีบดอกที่ปลิวตกลอยอยู่บนน้ำก็ยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก

ข้างในมีร้านขายขนมอยู่ด้วย เป็นร้านขาย「ลูกอมสตอเบอรี่」「ICHIGO AME」(200 เยน)คือเอาสตอเบอรี่มาวางบนแครกเกอร์แล้วโรยด้วยน้ำตาล  ที่ชอบกินจุบจิบอยู่แล้วก็ไม่มีทางพลาดอยู่แล้วความหวานของสตอเบอรี่กับน้ำตาลอาจจะดูหนักไปหน่อยแต่ไม่คิดว่ามันจะอร่อยเข้ากันขนาดนี้เลย

ตรงหัวมุมทางขึ้นบันไดไปสู่ตัวศาลเจ้าจะมีรูปปั้นสุนัข「โคมะอินุ」ตั้งอยู่ เพื่อต้อนรับผู้ที่มาสักกระศาลเจ้ารูปปั้นสุนัขโคมะอินุนี้นั่งอยู่ตรงนี้มาประมาณ 300 กว่าปีก่อนแล้วด้วย

ต่อไปคือ สถานที่สำคัญของศาลเจ้าสึรุงะโอกะ ฮะจิมังลำต้นของต้นแปะก๊วย(รูปที่①)เมื่อก่อนที่นี่มีต้นแปะก๊วยที่มีอายุยืนเป็นพันๆปีอยู่ด้วย(รูปที่②)แต่น่าเสียดายที่มันถูกลมพัดจนล้มไป เลยต้องตัดต้นเหลือแต่ราก ในปี 2010 และตอนนี้ก็มีต้นอ่อนงอกออกมาใหม่จากรากของมันด้วย
เป็นต้นไม้ที่มีพลังแม้จะตัดไปแล้วก็กลับมามีชีวิตใหม่ได้อีก ทำให้ผู้คนนิยมมาสักการะเพื่อรับโชคกัน
เดินขึ้นบันไดมากเรื่อยๆก็เจอกับส่วนหลักของศาลเจ้า


ถ้าลองสังเกตุดูจะเห็นว่าเลขแปดในภาษาญี่ปุ่น (八) ในป้ายของศาลเจ้า「八幡宮」ถูกแทนด้วยรูปนกพิราบสองตัว
ที่ศาลเจ้าสึรุงะโอกะ ฮะจิมังมีความเชื่อว่า นกพิราบ คือผู้รับใช้เทพเจ้า และถูกเซ่นไหว้ด้วยจนมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 「ฮาโตะมิยะ」แปลว่า ศาลเจ้านกพิราบวิธีไหว้ศาลเจ้าหลักจะมีขั้นตอนดังนี้คือ
โยนเงินทำบุญลงไปในกล่องรับเงินทำบุญ (เท่าไหร่ก็ได้ ส่วนมากจะอยู่ที่ 5 เยน ถึง 50 เยน)ก้มหัว 2 ครั้งปรบมือ 2 ครั้งและก้มหัว 1 ครั้ง

ศาลเจ้าสึรุงะโอกะ ฮะจิมังจะเด่นในเรื่อง「การประสบความสำเร็จ・โชคเกี่ยวกับหน้าที่การงาน・โชคทางด้านการแข่งขัน」คนที่กำลังเตรียมตัวสอบหรืออยากจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานก็สามารถรับ(ซื้อ)เครื่องรางกลับไปได้ด้วยเครื่องรางการทำงาน 1000 เยนเคื่องรางการแข่งขัน 800 เยน
แล้วก็มีเครื่องรางสุขภาพ(800เยน)ลายคิตตี้ที่คนไทยชอบขายอยู่ด้วย
ได้ไปสักการะ 「ศาลเจ้าสึรุงะโอกะ ฮะจิมัง」สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของคามาคุระแล้ว ต่อไปก็จะไปที่พระพุทธรูปคามาคุระ「KAMAKURA  DAIBUTSU」กัน แต่ก่อนไปขอหาอะไรทานก่อนน้าที่ข้างๆ ศาลเจ้าสึรุงะโอกะ ฮะจิมังมีร้านอุด้งชื่อดังร้าน 「ซาโตะโนะอุดง」「SATO NO UDON」ร้านนี้มีสาขาอยู่ที่เอ็มโพเรียมที่กรุงเทพด้วยเรารีบไปกันเลยดีกว่า

ลงบันไดที่มีโคมาอินุแล้วไปทางซ้ายมือ และเดินตรงไป ร้านจะอยู่ห่างจากตัวศาลเจ้าแค่ 3 นาทีข้ามถนนไปก็จะถึงร้าน 「ซาโตะโนะอุดง」「SATO NO UDON」
「ซาโตะโนะอุดง」นอกจากอุด้งแล้วก็จะมี ข้าวหน้าปลาชิราสุ หรือข้าวหน้าหมูที่ชาวต่างชาตินิยมก็มีในครั้งหน้าเราจะไปกินข้าวกลางวันที่ 「ซาโตะโนะอุดง」และไปสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นใจกลางของคามาคุรุ「พระพุทธรูปคามาคุระ」กัน
ชื่อสินค้า:   โตเกียว ตลาดปลาซุกิจิ สตอเบอรี่ ซากุระที่ KAWAZU
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่