มีใครเคยสงสัยไหมครับ ทำไมเพื่อนๆ เราแต่ละคนที่เรียนวิทย์คณิต พ่อแม่มักมีฐานะที่บ้านที่ไม่ค่อยดี

สวัสดีครับพอดีมีเรื่องคาใจกับการเรียนปัจจุบันทุกวันนี้ มหาลัยผมให้เราลองทำแบบสำรวจว่าเด็กมัธยมปลายทุกวันนี้มักสนใจและอยากเรียนอะไร ซึ่งหลังจากเราทำแบบสำรวจเสร็จเราก็มาพบว่า เด็กส่วนมากที่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี  จะกาแบบสำรวจข้อที่เราถามว่า "ถ้าเลือกได้อยากเรียนเอกอะไร" ในช้อยส์เราจะมี "วิทย์-คณิต, ศิลป์คำนวณ/ศิลป์สังคม, ศิลป์ภาษา, ปวช., พอใจในเอกที่เรียนอยู่, อื่นๆ...." โดยเด็กเหล่านี้มักจะตอบ "ศิลป์ภาษา" แต่พอผมกลับไปอ่านว่าตอนนี้เรียนอะไร จากแบบสำรวจ เด็กวิทย์-คณิต 30 คนมี 12 คนที่อยากเรียนศิลป์ภาษา พอใจในเอกที่เรียนอยู่ 8 คน โดย 8 คนนี่มีฐานะทางบ้านที่ไม่ได้เดือดร้อนอะไร อีก 7 อยากเรียน ศิลป์สังคม และ 3 อยากไป ปวช.ด้วยเหตุผลที่ว่าระบบทรงผมกับการเรียนที่ยาก แล้วจากนั้นผมไปดูในส่วนของเด็กศิลป์ภาษากับศิลป์คำนวณและปวช. โดยสองศิลป์นี้และ 1 สายนี้ติก "พอใจในเอกที่เรียนอยู่" ซะสวนใหญ่ และฐานะทางบ้านพอมีพอกิน ผมเลยอยากถามความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ว่าทำไมมันเป็นเช่นนี้ผมเองก็มีเพื่อนที่เป็นแบบนี้น่ะ แต่ก็ไม่ได้ไปก้าวก่ายว่าทำไม "เอ็งเรียนวิทย์คณิตวะ" แต่ก็อดไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรกับปัจจุบัน ที่ทำไมเด็กมัธยมปลายที่มีฐานะทางบ้านไม่ดีถึงไปเรียนวิทย์-คณิตกัน

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อ่านเรียบเรียงเรื่องราวแล้วยังงงๆ  แต่จะสรุปการวิเคราะห์จากเหตุและผลว่า  เพราะตลาดงานประเทศไทยเปิดโอกาสอาชีพที่เรียนสายวิทย์มากกว่าสายศิลป

จขกท จะเห็นภาพคำตอบชัดเจนมากขึ้นถ้าคุณทำการสำรวจต่อไปว่า   ในระดับมหาลัยมีคณะที่เปิดให้แก่ผู้เรียนแก่ทั้งสองสายเปรียบเทียบกันให้เห็น   และทำสำรวจต่อไปอีกด้วยว่า   เมื่อจบออกมาแล้วอาชีพจากการเรียนสายวิทย์หรือศิลป์  สัดส่วนการหางานได้หรือตกงานแตกต่างกันอย่างไร?

อีก 1 สำรวจ  อาชีพแต่ละสาขาได้รับเงินเดือนต่างกันอย่างไร?    ผมมีคำตอบให้จากประเทศอื่นที่เขาทำสำรวจออกมาหมดแล้วว่า  เพราะอาชีพที่เรียนมาทางสายวิทย์  คำนวณ นั้นมีโอกาสหางานได้ง่ายกว่า   เงินเดือนสูงกว่านั่นเอง  ไม่ได้แตกต่างสำหรับเรื่องนี้ไม่ว่าจะประเทศพัฒนาแล้วหรือกำลังพัฒนา

สิ่งที่แตกต่างคือ  ตลาดงานในประเทศพัฒนาแล้วมี spectrum ของอาชีพงานที่กว้างกว่ามากมาย   มีอาชีพสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดเรียนวิทย์คณิต    ผู้ที่เรียนในสายที่ตนเองรักและเมื่อจบแล้วหางานทำได้อย่างไม่ยากเย็น   เงินเดือนอาจไม่สูงเท่าคนที่เรียนหนักกว่า เครียดกว่าแต่เลี้ยงชีพได้อย่างพอเพียงและเพราะมีระบบสวัสดิการมารองรับไว้ในเรื่องหลักๆ ที่ใช้ค่าใช้จ่ายมากที่สุดคือ  การศึกษาของรุ่นลูกต่อไป  ค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยและเงินเกษียณ  3  รายการนี้ถือว่าสำคัญที่สุดในการดำรงชีพอย่างมั่นคง

ในประเทศกำลังพัฒนาที่ยังไม่พร้อมในการพัฒนาตลาดงานขึ้นมารองรับทุกอาชีพอย่างเพียงพอ   ทำให้เด็กที่มาจากครอบครัวที่ฐานะทางการเงินอ่อนแอต้องการหลุดออกมาจากสภาพเดิม   และหาโอกาสที่ตนเองจะสร้างฐานะการเงินด้วยอาชีพที่ให้โอกาสดีกว่าและรายได้เพียงพอแม้แต่ต้องเรียนในสายที่ตนเองไม่ชอบก็ต้องจำทนและยอมรับ  นั่นคือมุ่งไปทางสายวิทย์คณิตไว้ก่อน

เด็กที่บ้านฐานะการเงินดีจะไม่มีแรงกดดันมากเท่า และจะมีความมั่นใจมากกว่าจากความพร้อมด้านการเงินสนับสนุนของครอบครัว  การหางานเมื่อจบแล้วก็ไม่ได้อยู่ภายใต้สภาวะที่ต้องเร่งด่วน

โครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมของไทยทำให้เกิดการบังคับให้การเรียนการศึกษาบิดเบี้ยวออกมาแบบนี้นั่นคือ   เด็กต้องเลือกเรียนในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ   และพ่อแม่เองก็คล้อยไปตามกระแสเศรษฐกิจสังคมนี้จึงบังคับให้ลูกๆ เรียนสายวิทย์ คณิตโดยพยายามปลูกฝังความคิดว่าการรียนสายวิทย์ คณิต  จะมีโอกาสได้เรียนต่อในสายที่มีอาชีพเงินเดือนสูง  เช่น  แพทย์  วิศวกรรม  คอมพิวเตอร์  วิทยาศาสตร์   บัญชี   การตลาด  เพื่อการันตีรายได้ในอนาคต

จะเห็นว่ามีกระทู้คำถามรายวันว่า  เรียนสายวิทย์ คณิตไม่ดีต้องการเปลี่ยนสาย  หรือ  พ่อแม่บังคับให้เรียนวิทย์ คณิต  หรือ  ทางเลือกคณะในมหาลัยสำหรับสายศิลป์สังคมมีน้อยจะเลือกเรียนอะไรดี?  ฯลฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่