สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอยู่ม.2กำลังจะขึ้นม.3 เริ่มแรกคือเรามีพี่สาวอยู่สองคน คนแรกเรียนหมอค่ะ คนที่สองสอบข้อเขียนได้แต่ไปพูดตอนสอบสัมภาษณ์ว่าไม่อยากเป็นเลยไม่ได้ แล้วก็ไปเข้าคณะหนึ่งในมหา'ลัยลำดับหนึ่งของประเทศสำหรับคณะนั้นค่ะ หลังจากนั้นเค้าก็โดนทั้งบ้านด่า+นินทาประมาณว่าไปเรียนทำไม การงานไม่มั่นคง เดี๋ยวพอได้เลื่อนขั้นเยอะๆเค้าก็จะหาทางเขี่ยออก คุณแม่ถึงขนาดขอร้องให้พี่คนกลางซิ่วไปเรียนหมอทั้งๆที่กำลังจะขึ้นปีสองแล้วค่ะ
ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไรมากเพราะอายยังน้อยอยู่ แต่ตอนนี้เราอยู่ม.ต้นโครงการพิเศษของรร.ซึ่งปั้นเด็กให้เรียนต่อม.ปลายโครงการพิเศษซึ่งปั้นเด็กให้เป็นหมอโดยเฉพาะค่ะ คุณแม่ก็สรรหาหนังสือเตรียมสอบเข้ามาตลอด จนเราเริ่มมารู้ตัวเองตอนก่อนขึ้นม.2ค่ะ ว่าชอบวิชาสังคมกับประวัติศาสตร์ ก็หาความรู้ใส่ตัวเองในเรื่องนี้ตลอด ภาษาอังกฤษก็ได้เรื่อยๆ ขณะที่วิชาวิทย์กับคณิตตรงกันข้ามค่ะ ยิ่งเรียนยิ่งรู้สึกว่าไม่อยากใช้ชีวิตไปกับพวกนั้น ไม่เคยมีความสุขตอนที่เรียนเลย เลยบอกกับพ่อแม่ค่ะ ว่าอยากเรียนสายศิลป์ หลังจากนั้นบ้านแทบแตกเลยค่ะ เราอธิบายอะไรไปก็เอาแต่บอกว่ามันไม่มั่งคง(ครอบครัวเราเป็นข้าราชการทั้งครอบครัวค่ะ) คำเดียวกับตอนที่พี่ของเราโดนด่าค่ะ เงินเดือนดีเรื่อยๆเค้าก็หาทางเขี่ยออก ตอนนั้นเราร้องไห้หนักมาก เคว้งมาก แต่ก็เริ่มทำใจค่ะ ถ้าอยากเข้าคณะสายศิลป์จริงๆก็ต่อก็ได้ ถึงตอนนั้นก็ไม่มีอะไรห้ามเราได้หรอก จนกระทั่งไม่กี่เดือนมานี้ เราติดนิยายจีนค่ะ แต่ว่าคนแปลยังแปลไม่จบ เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เราเริ่มเรียนภาษาจีนด้วยตัวเอง พอได้เริ่มเรียนแล้วมันเป็นอะไรที่ใช่เลยค่ะ ชอบมากๆ มากพอๆกับวิชาประวัติศาสตร์ อยากเรียนรู้มันมากๆ ยังไงก็จะเข้าศิลป์จีนให้ได้ ตอนนี้ความคิดเราเป็นแบบนี้ค่ะ แต่ว่าพอเราปิดเทอมแล้ว คุณแม่ก็จะไซโคหนักขึ้นเรื่อยๆ ต้องไปเข้าโครงการนี้นะ ต้องตั้งใจเรียนเยอะๆ จนเราทนไม่ไหวแล้วถามคุณแม่เข้าไปว่า หนูจะต้องเรียนโครงการนี้จริงๆเหรอ คุณแม่ก็ตอบว่า แน่นอนสิ ไม่เรียนโครงการนี้แล้วจะเรียนที่ไหน เราก็ถามต่อค่ะ ถ้าหนูเรียนโครงการนี้ พอจะขึ้นมหา'ลัยหนูจะเข้าคณะที่หนูอยากเรียนยังไงก็ได้ใช่มั้ย เค้าก็พูดมาว่า จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ต้องเรียนคณะที่มีอนาคตมั่นคงสิ เราก็เลยเงียบค่ะ อันนี้เราถามลองเชิงเฉยๆ ไม่ได้อะไรมาก แต่เราเครียดกับเรื่องสายศิลป์มากๆเลยค่ะ ถ้าเราเรียนโครงการพิเศษ รุ่นพี่บอกมาว่าโครงการนั้นเรียนทั้งหมด10คาบค่ะ เราตกใจมากเลย ถ้าคิดจะเรียนโครงการนี้จะเอาเวลาไหนไปเรียนภาษาจีน จะต้องทนอยู่กับวิชาที่ไม่อยากอยู่ด้วยเหรอ ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่มีทางยอมค่ะ ต่อให้เราต้องแอบสมัครสายศิลป์เราก็จะทำ อาจจะดูเด็กหรืองี่เง่าไปบ้าง แต่เราจะไม่มีทางยอมให้อนาคตของเราต้องมาติดกับอะไรแบนี้แน่นอน แต่ว่าเราไม่อยากทำแบบนั้นค่ะ อยากให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจแล้วก็ยอมรับกับความคิดของเรา อยากเรียนในสิ่งที่ชอบ อยากมีความสุขกับวิชาที่ได้เรียน เราควรจะอธิบายพวกท่านยังไงดีเหรอคะ เราไม่รู้จริงๆว่าควรพูดยังไงให้ทุกคนเข้าใจ ยังไงก็ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ
พ่อแม่ไม่ยอมให้เรียนสายศิลป์ค่ะ
ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไรมากเพราะอายยังน้อยอยู่ แต่ตอนนี้เราอยู่ม.ต้นโครงการพิเศษของรร.ซึ่งปั้นเด็กให้เรียนต่อม.ปลายโครงการพิเศษซึ่งปั้นเด็กให้เป็นหมอโดยเฉพาะค่ะ คุณแม่ก็สรรหาหนังสือเตรียมสอบเข้ามาตลอด จนเราเริ่มมารู้ตัวเองตอนก่อนขึ้นม.2ค่ะ ว่าชอบวิชาสังคมกับประวัติศาสตร์ ก็หาความรู้ใส่ตัวเองในเรื่องนี้ตลอด ภาษาอังกฤษก็ได้เรื่อยๆ ขณะที่วิชาวิทย์กับคณิตตรงกันข้ามค่ะ ยิ่งเรียนยิ่งรู้สึกว่าไม่อยากใช้ชีวิตไปกับพวกนั้น ไม่เคยมีความสุขตอนที่เรียนเลย เลยบอกกับพ่อแม่ค่ะ ว่าอยากเรียนสายศิลป์ หลังจากนั้นบ้านแทบแตกเลยค่ะ เราอธิบายอะไรไปก็เอาแต่บอกว่ามันไม่มั่งคง(ครอบครัวเราเป็นข้าราชการทั้งครอบครัวค่ะ) คำเดียวกับตอนที่พี่ของเราโดนด่าค่ะ เงินเดือนดีเรื่อยๆเค้าก็หาทางเขี่ยออก ตอนนั้นเราร้องไห้หนักมาก เคว้งมาก แต่ก็เริ่มทำใจค่ะ ถ้าอยากเข้าคณะสายศิลป์จริงๆก็ต่อก็ได้ ถึงตอนนั้นก็ไม่มีอะไรห้ามเราได้หรอก จนกระทั่งไม่กี่เดือนมานี้ เราติดนิยายจีนค่ะ แต่ว่าคนแปลยังแปลไม่จบ เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เราเริ่มเรียนภาษาจีนด้วยตัวเอง พอได้เริ่มเรียนแล้วมันเป็นอะไรที่ใช่เลยค่ะ ชอบมากๆ มากพอๆกับวิชาประวัติศาสตร์ อยากเรียนรู้มันมากๆ ยังไงก็จะเข้าศิลป์จีนให้ได้ ตอนนี้ความคิดเราเป็นแบบนี้ค่ะ แต่ว่าพอเราปิดเทอมแล้ว คุณแม่ก็จะไซโคหนักขึ้นเรื่อยๆ ต้องไปเข้าโครงการนี้นะ ต้องตั้งใจเรียนเยอะๆ จนเราทนไม่ไหวแล้วถามคุณแม่เข้าไปว่า หนูจะต้องเรียนโครงการนี้จริงๆเหรอ คุณแม่ก็ตอบว่า แน่นอนสิ ไม่เรียนโครงการนี้แล้วจะเรียนที่ไหน เราก็ถามต่อค่ะ ถ้าหนูเรียนโครงการนี้ พอจะขึ้นมหา'ลัยหนูจะเข้าคณะที่หนูอยากเรียนยังไงก็ได้ใช่มั้ย เค้าก็พูดมาว่า จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ต้องเรียนคณะที่มีอนาคตมั่นคงสิ เราก็เลยเงียบค่ะ อันนี้เราถามลองเชิงเฉยๆ ไม่ได้อะไรมาก แต่เราเครียดกับเรื่องสายศิลป์มากๆเลยค่ะ ถ้าเราเรียนโครงการพิเศษ รุ่นพี่บอกมาว่าโครงการนั้นเรียนทั้งหมด10คาบค่ะ เราตกใจมากเลย ถ้าคิดจะเรียนโครงการนี้จะเอาเวลาไหนไปเรียนภาษาจีน จะต้องทนอยู่กับวิชาที่ไม่อยากอยู่ด้วยเหรอ ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่มีทางยอมค่ะ ต่อให้เราต้องแอบสมัครสายศิลป์เราก็จะทำ อาจจะดูเด็กหรืองี่เง่าไปบ้าง แต่เราจะไม่มีทางยอมให้อนาคตของเราต้องมาติดกับอะไรแบนี้แน่นอน แต่ว่าเราไม่อยากทำแบบนั้นค่ะ อยากให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจแล้วก็ยอมรับกับความคิดของเรา อยากเรียนในสิ่งที่ชอบ อยากมีความสุขกับวิชาที่ได้เรียน เราควรจะอธิบายพวกท่านยังไงดีเหรอคะ เราไม่รู้จริงๆว่าควรพูดยังไงให้ทุกคนเข้าใจ ยังไงก็ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ