ประเทศไทยควรปล่อยให้มีการทำแท้งเสรีหรือไม่
หัวข้อโพลนำมาจาก
https://www.facebook.com/ummnakid/
บังเอิญว่าเร็ว ๆ นี้แอดมินได้มีโอกาสสนทนากับหลาย ๆ คนเกี่ยวกับหัวข้อที่ว่า
"เราควรปล่อยให้การทำแท้งเป็นหนึ่งในทางเลือก หนึ่งในสิทธิที่ผู้หญิงสามารถเลือกให้กับตัวเอง ได้หรือไม่"
ในปัจจุบันการในโลกนี้ มีประเทศที่ยอมให้ทำแท้งแบบถูกกฎหมายอยู่หลายประเทศ หลายคนไม่รู้ว่าประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ว่าเงื่อนไขของแต่ละประเทศจะแตกต่างกันไป ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ รวมถึงประเทศจีน และอเมริกา สามารถทำแท้งค่อนข้างเสรี ในขณะที่บางประเทศเช่นมอลต้า จะห้ามทำแท้งทุกกรณี เงื่อนไขในการพิจารณาตามหลักสากลโลกแล้วจะมีด้วยกัน 7 ข้อ เรียงลำดับตามน้ำหนักของเหตุผลได้แก่ (ข้อ 1 น้ำหนักมากสุด ข้อ 7 น้ำหนักน้อยสุด)
1. เพื่อรักษาชีวิตมารดา
2. เพื่อรักษาสุขภาพกายมารดา
3. เพื่อรักษาสุขภาพจิตมารดา
4. กรณีโดนข่มขืนหรือ มีความสัมพันธ์แบบ incest (คนในครอบครัว)
5. ความสมบูรณ์ของตัวอ่อน
6. เหตุผลทางสังคมและเศรษฐกิจ
7. ยื่นคำร้อง (ทำได้อิสระแต่ต้องยื่นคำร้อง)
ประเทศที่อนุญาตให้ทำแท้งได้ด้วยเหตุผลทั้ง 7 ข้อ อาทิเช่น (คัดเฉพาะที่แอดมินคิดว่าน่าสนใจ) จีน เกาหลีเหนือ สิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา อเมริกา เม็กซิโก แคนาดา และประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป ในขณะที่ไทย จะอนุญาตถึงแค่ลำดับที่ 5 เท่านั้น นั่นแปลว่า ถ้าเราจะทำแท้งเพราะอายสังคม หรือไม่มีปัญญาเลี้ยง หรือแค่อยากทำแท้งเฉย ๆ จะผิดกฎหมาย แต่ไทยอนุญาตในกรณีที่กระทบกระเทือนต่อสุขภาพมารดา โดนข่มขืน หรือตัวอ่อนมีปัญหาเท่านั้น
หลังจากถกเถียงอยู่นาน ก็พบว่าประเด็นนี้เป็นหนึ่งในประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุดเรื่องนึงเลยทีเดียว ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยต่างก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง ที่ฟังดูจะสมเหตุสมผลทั้งคู่ เลยเป็นที่มาของการตั้งกระทู้ถามขึ้นมา เราลองมาดูความเห็นทีละฝ่ายกันบ้างดีกว่า ใครคิดเห็นอย่างไร แสดงความเห็นกันได้เต็มที่ ขอแบบสุภาพชนคนมีอารยธรรมนะครับ
ปล. ในหัวข้อสนทนา จะละเว้นเรื่องจริยธรรม ศีลธรรม เวรกรรม บาปบุญเอาไว้ก่อนนะ เพราะเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล บางเรื่องก็มีเฉพาะบางศาสนา คนที่เชื่อก็จะเชื่อเลย คนที่ไม่เชื่อก็จะไม่เชื่อเลย เถียงกันด้วยเรื่องแบบนี้ 100 วันก็ไม่มีวันจบ เรามาว่ากันด้วยเหตุผลว่าทำไมกันดีกว่า
---------------------------------------------------------
ฝ่ายคัดค้านการทำแท้งเสรี
-------------------
- ก่อนจะทำแท้ง มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า เช่นการป้องกัน การป้องกันสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่วิธีง่าย ๆ เช่นสวมถุงยางอนามัย ไปจนถึงวิธียาก ๆ เช่นการทำหมัน และการป้องกันสามารถใช้หลายวิธีพร้อม ๆ กันได้เพื่อลดความเสี่ยง
- ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่า การป้องกันไม่สามารถกันได้ 100% มีโอกาสอยู่บ้างที่จะเกิดการตั้งครรภ์ ดังนั้นหากคิดจะมีเพศสัมพันธ์ก็ต้องเผื่อใจรับความเสี่ยงตรงนี้เอาไว้ด้วย ไม่ใช่ว่ารักสนุกเพียงอย่างเดียว แต่พอมีปัญหากลับเลือกที่จะทำแท้ง
- ส่วนใหญ่จะยอมให้เฉพาะในกรณีโดนข่มขืน หรือตัวอ่อนไม่ปกติเท่านั้น แต่ไม่เห็นด้วยกับอนุญาตให้ทำแท้งเสรีด้วยเหตุผลอื่น
- เหตุผลอื่นสามารถหาทางแก้ไขที่ดีกว่าได้เช่น ไม่มีปัญญาเลี้ยง ก็ขยันทำมาหากินให้มากขึ้นได้ ไม่พร้อม ก็ต้องปรับจิตใจให้พร้อม มีคนอีกตั้งมากมายที่ท้องตอนไม่พร้อม แต่ยังเลือกที่จะสู้ต่อ ยอมรับผลการกระทำ ตั้งหลักได้ ปรับสภาพจิตใจได้ และเดินหน้าต่อได้
- ชีวิตจะลำบากก็ต้องยอม เพราะเราทำตัวของตัวเอง ลูกที่เกิดขึ้นมาไม่ได้มีความผิดอะไร ทำไมถึงต้องมารับผิดชอบกับการกระทำของเราด้วย
- การปล่อยให้มีการทำแท้งเสรี ก็เท่ากับสนับสนุนให้วัยรุ่นรักสนุกแบบไม่คิดหน้าคิดหลังมากขึ้น เพราะคิดเอาแต่ว่าเดี๋ยวก็ไปทำแท้งได้ เป็นการสร้างภาระให้กับสังคมในระยะยาว
- การทำแท้งก็คือการหนีปัญหา การปัดความรับผิดชอบ ไม่กล้ารับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่ตัวเองได้กระทำลงไป ในเมื่อกล้าที่จะมีเพศสัมพันธ์ (จะป้องกันหรือไม่ก็ตาฒ) จนตั้งท้องได้ ก็ควรจะกล้าที่จะยอมรับผลการกระทำด้วย
- มนุษย์เรามีสิทธิในชีวิตของตัวเองด้วยกันทุกคน ในเมื่อเรายังอยากเลือกทางเดินให้กับชีวิต แล้วอีกหนึ่งชีวิตที่เพิ่งอุบัติขึ้น จะไม่อยากเลือกทางเดินให้กับชีวิตของตัวเองบ้างเลยหรือ การทำแท้งก็คือการริดรอนสิทธิในการมีชีวิตของคนหนึ่งคนเหมือนกัน
- การปล่อยให้มีการทำแท้งเสรีเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วิธีที่เหมาะสมกว่าคือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ นั่นคือการปฏิรูปวิชาเพศศึกษาใหม่ทั้งหมด ให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศ โรคติดต่อทางเพศ การตั้งครรภ์และการป้องกัน กับเยาวชนไทยใหม่ทั้งหมด จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง และเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนกว่าด้วย
---------------------------------------------------------
-------------------
ฝ่ายสนับสนุนให้การทำแท้งเป็นเรื่องถูกกฎหมาย
-------------------
ฝ่ายนี้ให้เหตุผลที่น่าสนใจหลายข้อเช่น
- การทำแท้งควรเป็นสิทธิในการเลือกของผู้หญิงทุกคน เพราะเป็นร่างกายของตัวเอง การทำแท้งคือการให้สิทธิ์ในการจัดการร่างกายของตัวเองแก่ผู้หญิง ไม่ว่าใครก็ไม่ควรถูกละเมิดสิทธิตรงนี้
- ไม่มีวิธีคุมกำเนินแบบไหนที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% สมมติว่าป้องกันแล้วพลาดขึ้นมาโดยที่ยังไม่พร้อม เช่น ครอบครัวไม่ต้องการ แฟนไม่ต้องการ มีหน้าที่การงานรัดตัว สถานะทางการเงินไม่พร้อม ความมั่นคงในชีวิตไม่พร้อม ถ้าดันทุรังให้เกิดมาในภาวะแวดล้อมที่ไม่พร้อม จะยิ่งเป็นปัญหาทั้งกับตัวเด็กเอง และครอบครัวของเด็กด้วย
- หลาย ๆ กรณีฝ่ายหญิงโดนทำให้ท้อง เสร็จแล้วฝ่ายชายไม่รับผิดชอบ หนีหายไป แต่ฝ่ายหญิงต้องเป็นคนรับผลจากการกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ไหนจะแรงกดดันทางสังคม โดนประนาม ถ้าเรียนอยู่ก็ต้องลาออกกลางคัน ไหนจะเรื่องความเสี่ยงด้านสุขภาพ ดังนั้นการตัดสินใจว่าจะทำแท้งได้หรือไม่ควรเป็นของผู้หญิง
- ลูกที่ออกมาตัวเองก็ต้องเป็นคนเลี้ยง ไม่มีใครมาช่วย ดังนั้นคนท้องจะรู้ดีว่าเลี้ยงไหวไหม พร้อมไหม การบังคับให้ผู้หญิงคนนึงเก็บเด็กไว้ เพราะเป็นความผิดของเธอเอง มันมีประโยชน์ยังไง ทั้งต่อตัวเธอเอง ต่อเด็ก ต่อสังคม
- ในทางการแพทย์แล้ว ตัวอ่อนที่อายุยังไม่ถึง 12 สัปดาห์ ตัวอ่อนมีขนาดแค่ 5.5 เซนติเมตร พัฒนาการของตัวอ่อนจะยังไม่เต็มที่จนสามารถนับได้ว่าเป็นบุคคล ยังไม่มีความรู้สึกนึกคิด ยังไม่มีจิตใจ ดังนั้นหากทำแท้งก่อนตัวอ่อนอายุ 12 สัปดาห์ จะถือว่ายังไม่เป็นการฆ่าคน
- การทำแท้ง ถ้าจะมีเรื่องบาปบุญคุณโทษจริง ก็ตกอยู่กับแค่พ่อกับแม่ของเด็กเท่านั้น ไม่ได้บาปไปทั้งสังคม ดีกว่าปล่อยให้เกิดมาในสภาพที่ไม่มีใครต้องการ แล้วไปเดือดร้อนคนอื่น กระทบในวงกว้าง แบบนี้ก็เท่ากับไปสร้างบาปให้กับคนอื่น ๆ อีกไม่ใช่หรือ
- หลาย ๆ กรณีที่พ่อแม่ไม่พร้อม แต่ไม่สามารถทำแท้งได้ เมื่อคลอดลูกออกมาเลี้ยงในสภาวะไม่พร้อมแล้ว มีแต่จะก่อปัญหาให้กับสังคม การทำแท้งคือการแก้ปัญหาในสังคมระยะยาวต่างหาก
- มีผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมากที่กำลังตั้งท้องในสภาพที่ไม่พร้อม และต้องการจะทำแท้งเพราะมองแล้วว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่เนื่องจากกฎหมายไม่เอื้ออำนวย ทำให้ต้องไปเสี่ยงชีวิตกับคลินิคเถื่อน การทำแท้งคือการตัดต้นเหตุของปัญหาสังคมทางหนึ่ง ไม่ควรปล่อยให้ผู้หญิงต้องนำชีวิตไปเสี่ยง การออกกฎหมายทำแท้งเสรี จะสามารถทำให้ผู้หญิงเข้ารับบริการทางการแพทย์ได้แบบไม่ต้องเสี่ยงชีวิต
- ตัวอ่อนอายุ 12 สัปดาห์เป็นแค่ก้อนเนื้อที่ยังไม่มีชีวิตด้วยซ้ำ ถ้าหากเราไม่ต้องการ ก้อนเนื้อนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับมะเร็ง การเข้ารับบริการทางการแพทย์เพื่อตัดส่วนที่เราไม่ต้องการออกจากร่างกายไม่เห็นจะแปลกตรงไหน
- การออกกฎหมาย โดยมากมักจะออกโดยชายแก่อายุ 60 กว่าที่นั่งอยู่ในรัฐสภา คนเหล่านี้จะไปรู้เรื่อง รู้ความรู้สึกของคนท้อง รู้ความต้องการของผู้หญิงได้อย่างไร คนที่จะตัดสินและออกกฏหมายว่าผู้หญิงมีสิทธิอะไรบ้าง ควรจะเป็นผู้หญิงด้วยกันเองต่างหาก
-------------------------------------
*** ปิดโหวต วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2561 เวลา 23:18:38 น.
ประเทศไทยควรปล่อยให้มีการทำแท้งเสรีหรือไม่
หัวข้อโพลนำมาจาก
https://www.facebook.com/ummnakid/
บังเอิญว่าเร็ว ๆ นี้แอดมินได้มีโอกาสสนทนากับหลาย ๆ คนเกี่ยวกับหัวข้อที่ว่า
"เราควรปล่อยให้การทำแท้งเป็นหนึ่งในทางเลือก หนึ่งในสิทธิที่ผู้หญิงสามารถเลือกให้กับตัวเอง ได้หรือไม่"
ในปัจจุบันการในโลกนี้ มีประเทศที่ยอมให้ทำแท้งแบบถูกกฎหมายอยู่หลายประเทศ หลายคนไม่รู้ว่าประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ว่าเงื่อนไขของแต่ละประเทศจะแตกต่างกันไป ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ รวมถึงประเทศจีน และอเมริกา สามารถทำแท้งค่อนข้างเสรี ในขณะที่บางประเทศเช่นมอลต้า จะห้ามทำแท้งทุกกรณี เงื่อนไขในการพิจารณาตามหลักสากลโลกแล้วจะมีด้วยกัน 7 ข้อ เรียงลำดับตามน้ำหนักของเหตุผลได้แก่ (ข้อ 1 น้ำหนักมากสุด ข้อ 7 น้ำหนักน้อยสุด)
1. เพื่อรักษาชีวิตมารดา
2. เพื่อรักษาสุขภาพกายมารดา
3. เพื่อรักษาสุขภาพจิตมารดา
4. กรณีโดนข่มขืนหรือ มีความสัมพันธ์แบบ incest (คนในครอบครัว)
5. ความสมบูรณ์ของตัวอ่อน
6. เหตุผลทางสังคมและเศรษฐกิจ
7. ยื่นคำร้อง (ทำได้อิสระแต่ต้องยื่นคำร้อง)
ประเทศที่อนุญาตให้ทำแท้งได้ด้วยเหตุผลทั้ง 7 ข้อ อาทิเช่น (คัดเฉพาะที่แอดมินคิดว่าน่าสนใจ) จีน เกาหลีเหนือ สิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา อเมริกา เม็กซิโก แคนาดา และประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป ในขณะที่ไทย จะอนุญาตถึงแค่ลำดับที่ 5 เท่านั้น นั่นแปลว่า ถ้าเราจะทำแท้งเพราะอายสังคม หรือไม่มีปัญญาเลี้ยง หรือแค่อยากทำแท้งเฉย ๆ จะผิดกฎหมาย แต่ไทยอนุญาตในกรณีที่กระทบกระเทือนต่อสุขภาพมารดา โดนข่มขืน หรือตัวอ่อนมีปัญหาเท่านั้น
หลังจากถกเถียงอยู่นาน ก็พบว่าประเด็นนี้เป็นหนึ่งในประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุดเรื่องนึงเลยทีเดียว ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยต่างก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง ที่ฟังดูจะสมเหตุสมผลทั้งคู่ เลยเป็นที่มาของการตั้งกระทู้ถามขึ้นมา เราลองมาดูความเห็นทีละฝ่ายกันบ้างดีกว่า ใครคิดเห็นอย่างไร แสดงความเห็นกันได้เต็มที่ ขอแบบสุภาพชนคนมีอารยธรรมนะครับ
ปล. ในหัวข้อสนทนา จะละเว้นเรื่องจริยธรรม ศีลธรรม เวรกรรม บาปบุญเอาไว้ก่อนนะ เพราะเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล บางเรื่องก็มีเฉพาะบางศาสนา คนที่เชื่อก็จะเชื่อเลย คนที่ไม่เชื่อก็จะไม่เชื่อเลย เถียงกันด้วยเรื่องแบบนี้ 100 วันก็ไม่มีวันจบ เรามาว่ากันด้วยเหตุผลว่าทำไมกันดีกว่า
---------------------------------------------------------
ฝ่ายคัดค้านการทำแท้งเสรี
-------------------
- ก่อนจะทำแท้ง มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า เช่นการป้องกัน การป้องกันสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่วิธีง่าย ๆ เช่นสวมถุงยางอนามัย ไปจนถึงวิธียาก ๆ เช่นการทำหมัน และการป้องกันสามารถใช้หลายวิธีพร้อม ๆ กันได้เพื่อลดความเสี่ยง
- ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่า การป้องกันไม่สามารถกันได้ 100% มีโอกาสอยู่บ้างที่จะเกิดการตั้งครรภ์ ดังนั้นหากคิดจะมีเพศสัมพันธ์ก็ต้องเผื่อใจรับความเสี่ยงตรงนี้เอาไว้ด้วย ไม่ใช่ว่ารักสนุกเพียงอย่างเดียว แต่พอมีปัญหากลับเลือกที่จะทำแท้ง
- ส่วนใหญ่จะยอมให้เฉพาะในกรณีโดนข่มขืน หรือตัวอ่อนไม่ปกติเท่านั้น แต่ไม่เห็นด้วยกับอนุญาตให้ทำแท้งเสรีด้วยเหตุผลอื่น
- เหตุผลอื่นสามารถหาทางแก้ไขที่ดีกว่าได้เช่น ไม่มีปัญญาเลี้ยง ก็ขยันทำมาหากินให้มากขึ้นได้ ไม่พร้อม ก็ต้องปรับจิตใจให้พร้อม มีคนอีกตั้งมากมายที่ท้องตอนไม่พร้อม แต่ยังเลือกที่จะสู้ต่อ ยอมรับผลการกระทำ ตั้งหลักได้ ปรับสภาพจิตใจได้ และเดินหน้าต่อได้
- ชีวิตจะลำบากก็ต้องยอม เพราะเราทำตัวของตัวเอง ลูกที่เกิดขึ้นมาไม่ได้มีความผิดอะไร ทำไมถึงต้องมารับผิดชอบกับการกระทำของเราด้วย
- การปล่อยให้มีการทำแท้งเสรี ก็เท่ากับสนับสนุนให้วัยรุ่นรักสนุกแบบไม่คิดหน้าคิดหลังมากขึ้น เพราะคิดเอาแต่ว่าเดี๋ยวก็ไปทำแท้งได้ เป็นการสร้างภาระให้กับสังคมในระยะยาว
- การทำแท้งก็คือการหนีปัญหา การปัดความรับผิดชอบ ไม่กล้ารับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่ตัวเองได้กระทำลงไป ในเมื่อกล้าที่จะมีเพศสัมพันธ์ (จะป้องกันหรือไม่ก็ตาฒ) จนตั้งท้องได้ ก็ควรจะกล้าที่จะยอมรับผลการกระทำด้วย
- มนุษย์เรามีสิทธิในชีวิตของตัวเองด้วยกันทุกคน ในเมื่อเรายังอยากเลือกทางเดินให้กับชีวิต แล้วอีกหนึ่งชีวิตที่เพิ่งอุบัติขึ้น จะไม่อยากเลือกทางเดินให้กับชีวิตของตัวเองบ้างเลยหรือ การทำแท้งก็คือการริดรอนสิทธิในการมีชีวิตของคนหนึ่งคนเหมือนกัน
- การปล่อยให้มีการทำแท้งเสรีเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วิธีที่เหมาะสมกว่าคือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ นั่นคือการปฏิรูปวิชาเพศศึกษาใหม่ทั้งหมด ให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศ โรคติดต่อทางเพศ การตั้งครรภ์และการป้องกัน กับเยาวชนไทยใหม่ทั้งหมด จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง และเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนกว่าด้วย
---------------------------------------------------------
-------------------
ฝ่ายสนับสนุนให้การทำแท้งเป็นเรื่องถูกกฎหมาย
-------------------
ฝ่ายนี้ให้เหตุผลที่น่าสนใจหลายข้อเช่น
- การทำแท้งควรเป็นสิทธิในการเลือกของผู้หญิงทุกคน เพราะเป็นร่างกายของตัวเอง การทำแท้งคือการให้สิทธิ์ในการจัดการร่างกายของตัวเองแก่ผู้หญิง ไม่ว่าใครก็ไม่ควรถูกละเมิดสิทธิตรงนี้
- ไม่มีวิธีคุมกำเนินแบบไหนที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% สมมติว่าป้องกันแล้วพลาดขึ้นมาโดยที่ยังไม่พร้อม เช่น ครอบครัวไม่ต้องการ แฟนไม่ต้องการ มีหน้าที่การงานรัดตัว สถานะทางการเงินไม่พร้อม ความมั่นคงในชีวิตไม่พร้อม ถ้าดันทุรังให้เกิดมาในภาวะแวดล้อมที่ไม่พร้อม จะยิ่งเป็นปัญหาทั้งกับตัวเด็กเอง และครอบครัวของเด็กด้วย
- หลาย ๆ กรณีฝ่ายหญิงโดนทำให้ท้อง เสร็จแล้วฝ่ายชายไม่รับผิดชอบ หนีหายไป แต่ฝ่ายหญิงต้องเป็นคนรับผลจากการกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ไหนจะแรงกดดันทางสังคม โดนประนาม ถ้าเรียนอยู่ก็ต้องลาออกกลางคัน ไหนจะเรื่องความเสี่ยงด้านสุขภาพ ดังนั้นการตัดสินใจว่าจะทำแท้งได้หรือไม่ควรเป็นของผู้หญิง
- ลูกที่ออกมาตัวเองก็ต้องเป็นคนเลี้ยง ไม่มีใครมาช่วย ดังนั้นคนท้องจะรู้ดีว่าเลี้ยงไหวไหม พร้อมไหม การบังคับให้ผู้หญิงคนนึงเก็บเด็กไว้ เพราะเป็นความผิดของเธอเอง มันมีประโยชน์ยังไง ทั้งต่อตัวเธอเอง ต่อเด็ก ต่อสังคม
- ในทางการแพทย์แล้ว ตัวอ่อนที่อายุยังไม่ถึง 12 สัปดาห์ ตัวอ่อนมีขนาดแค่ 5.5 เซนติเมตร พัฒนาการของตัวอ่อนจะยังไม่เต็มที่จนสามารถนับได้ว่าเป็นบุคคล ยังไม่มีความรู้สึกนึกคิด ยังไม่มีจิตใจ ดังนั้นหากทำแท้งก่อนตัวอ่อนอายุ 12 สัปดาห์ จะถือว่ายังไม่เป็นการฆ่าคน
- การทำแท้ง ถ้าจะมีเรื่องบาปบุญคุณโทษจริง ก็ตกอยู่กับแค่พ่อกับแม่ของเด็กเท่านั้น ไม่ได้บาปไปทั้งสังคม ดีกว่าปล่อยให้เกิดมาในสภาพที่ไม่มีใครต้องการ แล้วไปเดือดร้อนคนอื่น กระทบในวงกว้าง แบบนี้ก็เท่ากับไปสร้างบาปให้กับคนอื่น ๆ อีกไม่ใช่หรือ
- หลาย ๆ กรณีที่พ่อแม่ไม่พร้อม แต่ไม่สามารถทำแท้งได้ เมื่อคลอดลูกออกมาเลี้ยงในสภาวะไม่พร้อมแล้ว มีแต่จะก่อปัญหาให้กับสังคม การทำแท้งคือการแก้ปัญหาในสังคมระยะยาวต่างหาก
- มีผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมากที่กำลังตั้งท้องในสภาพที่ไม่พร้อม และต้องการจะทำแท้งเพราะมองแล้วว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่เนื่องจากกฎหมายไม่เอื้ออำนวย ทำให้ต้องไปเสี่ยงชีวิตกับคลินิคเถื่อน การทำแท้งคือการตัดต้นเหตุของปัญหาสังคมทางหนึ่ง ไม่ควรปล่อยให้ผู้หญิงต้องนำชีวิตไปเสี่ยง การออกกฎหมายทำแท้งเสรี จะสามารถทำให้ผู้หญิงเข้ารับบริการทางการแพทย์ได้แบบไม่ต้องเสี่ยงชีวิต
- ตัวอ่อนอายุ 12 สัปดาห์เป็นแค่ก้อนเนื้อที่ยังไม่มีชีวิตด้วยซ้ำ ถ้าหากเราไม่ต้องการ ก้อนเนื้อนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับมะเร็ง การเข้ารับบริการทางการแพทย์เพื่อตัดส่วนที่เราไม่ต้องการออกจากร่างกายไม่เห็นจะแปลกตรงไหน
- การออกกฎหมาย โดยมากมักจะออกโดยชายแก่อายุ 60 กว่าที่นั่งอยู่ในรัฐสภา คนเหล่านี้จะไปรู้เรื่อง รู้ความรู้สึกของคนท้อง รู้ความต้องการของผู้หญิงได้อย่างไร คนที่จะตัดสินและออกกฏหมายว่าผู้หญิงมีสิทธิอะไรบ้าง ควรจะเป็นผู้หญิงด้วยกันเองต่างหาก
-------------------------------------