ถ้าคนที่ชอบดูหนัง Drama หนัง Thriller ส่วนมากหนังจะสร้างตัวละครสองฝ่ายคือ ธรรมะ และ อธรรม
ถ้าไม่มีสองฝ่าย มาต่อสู้ห้ำหั่นกัน มันก็ไม่เป็นเรื่องเป็นราวให้ชวนติดตาม
กลายเป็นสารคดี ธรรมดาที่ไม่มีอะไรตื่นเต้น

พล็อตหนังส่วนใหญ่ มันจะถูกแบ่งเป็น 3 ตอน

ตอนเริ่มเรื่อง จะเนิบๆ ปกติ ...

ตอนกลางเรื่อง เริ่มเป็นเรื่องเป็นราว พวกโจร หรือ ตัวโกงมันจะซ่อนอยู่ในมุมมืด
แล้วค่อยๆ โผล่หัวมาทีละตัวสองตัว เรื่องราวจะค่อยๆเข้มขึ้นเรื่อยๆ หัวหน้าโจรมักจะอยู่ในมุมมืด
คนดูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าหัวหน้าโจรเป็นใคร

หนังแทบจะทุกเรื่อง ที่ฝ่ายโจร จะวางแผนชั่ว งัดกลยุทธต่างๆ นาๆ ที่เราก็คาดไม่ถึงว่าจะคิดไปได้
ฝ่ายพระเอกก็เป็นฝ่ายตั้งรับ คอยแก้คอยป้องกัน ไปเรื่อยๆ

ตอนท้ายเรื่อง หรือ climax ของเรื่องราว พวกโจรจะเริ่มเปิดหน้าสู้ เริ่มใช้ท่าไม้ตาย
พระเอกก็จะสู้ไปเรื่อยๆ โดนบ้าง เสียทีบ้าง บาดเจ็บบ้างถูกจับบ้าง เพื่อให้เรื่องดูตื่นเต้น
ช่วงนี้แหละ หัวหน้าโจร หรือพวกโจรจะงัดกลยุทธิ์ หรืออาวุธสุดท้าย หรือก่อการใหญ่

กลุ่มหัวหน้าโจรจะโผล่มาจนครบทุกตัว และ สุดท้าย ฝ่ายธรรมมะ หรือฝ่ายพระเอก
จะใช้อาวุธเด็ด หมัดเด็ด หรือถ้าหนังกำลังภายในก็จะใช้วรยุทธชั้นสูง ปราบผู้ร้ายจนสิ้นซาก

ผู้ร้ายโดนจับบ้าง ตายบ้าง เหลือแต่พระเอกยืนตระหง่านท่ามกลางซากปรักหักพัง หรือควันไฟ

แล้วหนังมันก็จบ แบบ Happy ending ผู้ชมยิ้มร่า ด้วยความสุขใจเดินออกจากโรงหนัง


คดีหวย 30 ล้าน ถ้าใครติดตามตั้งแต่ต้น มันเหมือนดูหนัง ที่มีคนเขียนบท ไม่มีผิดเลย

สุดท้ายตอนจบโจรถูกฆ่าตายหรือ โดนปราบหมดแบบถอนรากถอนโคน