หุ่นรบในตำนานเล่าขานสืบมา มาชินก้า แซด อายุอานามจากวันที่ฉายในญี่ปุ่นก็ ล่วงเข้าจะครึ่งศตวรรษแล้ว ไม่แปลกหากหนังเรื่องนี้กลุ่มคนดูจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่า เด็กๆ เพราะยุคสมัยนั้นผ่านมานานโขอยู่

ก่อนอื่นขอบอกว่า หากใครไม่เคยดูเรื่องราวของหุ่นยนต์เหล่านี้มาก่อน ก็อาจจะ งง กับตัวละครที่เยอะและไม่รู้จักเลย ไม่มีการปูที่มาที่ไป ใส่กันอย่างเดียว แต่แฟนๆรุ่นเก่า คงจะถือได้ว่า อิ่มเอมกันทีเดียวครับ กับ การ์ตูนเรื่องนี้ กระทู้นี้ ขอสปอลย์เป็นบางส่วนนะครับ



เริ่มเลยละกัน หนังเปิดตัวด้วยให้มีฉากโหมโรงการต่อสู้ด้วย หุ่นยนตร์อีกตัวหนึ่งคือ เกรท แมชชินก้า หุ่นยนตร์รุ่นสองที่มีความแข็งแกร่งกว่าหุ่น Z ในอดีต ซึ่งการได้เห็น เกรท ออกโรงก่อนถือว่าได้ใจแฟนๆเก่าแน่นอน เพราะไม่คิดว่าจะมีบทเยอะ คนสร้างก็ปล่อยเต็มที่กับ ท่าไม้ตาย ลมสลาตัน บูมเมอแรง หมัดจรวก ลำแสงจากหน้าอก และ สายฟ้าพิฆาต เรียกว่า งานนี้มีแต่กิ๊ก ไม่มีกั๊ก

ตัวพระเอกของเรา คือหุ่น Z ออกโรงทีหลังครับ หลังเกิดเหตุการณ์จำเป็น ( อันนี้กั๊กไว้ให้ไปดูกันเอง ) ซึ่งพระเอกคนขับยานของเรา ได้เปลี่ยนแนวบู๊ไปอยุ่ ฝ่ายวิจัยนานแล้ว แต่จำเป็นขนาดไหนถึงต้องกลับมาขับหุ่น Z เดาไม่ยาก เพราะการ์ตูนยุคเก่า ใส่กันอย่างเดียว และเมื่อถึงยามหุ่น Z ออกโรง ก็จัดเต็มเหมือนกัน ท่าไม้ตายเป็นชุด ถ้าใช้ภาษาในการพากษ์ Moto GP เขาต้องใช้คำว่า เข้าโค้ง ลงเนิน เดินคันเร่งต่อเนื่อง คือไม่มีเบาเลย

นอกจากนี้หนังยังมีสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ เพิ่มเติมเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ที่น่าสนใจ ( แต่ไม่ใช่สิ่งใหม่ ) มีสองส่วนครับ




ส่วนแรกคือ โลกคู่ขนานกับอนาคตของเรานั้น มันมีความเป็นไปได้หลายอย่าง ก็คล้ายๆ การ์ตุนโดเรม่อน ที่ โนบิตะ เคยตามโดเรม่อนไปดูอนาคต ปรากฎว่า อนาคต มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับปัจจุบันที่เราทำ ความเป็นไปได้จึงมีหลายทาง ขึ้นอยู่กับเราเลือก ซึ่งในเรื่อง Infinity ก็มีฉากที่พระเอกของเราเลือกอนาคตครับ ส่วนนี้เล่ามากเดี๋ยวยาวไม่ขออ้างทฤษฏีเยอะละกันครับ เอาแค่ข้อความที่หนังสื่อนิดๆหน่อยๆมาฝากกัน

แต่หนังมีประเด็นอีกส่วนคือ โลกเราคู่ควรแก่การอยุ่ไม๊ ? เป็นคำถามที่หนังได้โยนมาให้คนดู กระตุกจิตสำนึกกันนิดหน่อย ซึ่งในเรื่องนี้ตัวละครล้วนพิจารณาแล้วว่า แม้โลกเรามันจะเลวร้าย เพราะคนชั่วบ้าง หรือแม้แต่เราเองก็ไม่ได้ทำดีไปซะทุกวัน หรือ ตลอดชีวิต มันต้องมีดี มีชั่วปนกัน แต่ส่วนใหญ่ คนดีเยอะกว่าคนเลว ดังนั้นโลกเราก็ยังน่าอยู่ นี่คือข้อความของหนังดังยุค 70 ฝากมาถึงคนยุคปัจจุบันในแง่ของ ทัศนคติ ซึ่งมันสำคัญ

หากใครเคยทำงานแล้วเจอปัญหา หัวหน้าคุณอาจเคยแนะนำว่า ให้เลือกสองอย่างคือ เอาวะ หรือ ช่างมัน ซึ่งแน่นอน เอาวะ ย่อมดีกว่า ช่างมัน ซะมากกว่า



หนังมีสร้าง Girl Group มาเซอร์ไพรส์ตามยุคสมัยนิดๆ เข้าไปดูแล้วอาจมีขำๆกับฉากเหล่านี้ แต่ไม่มีเยอะ นิดๆหน่อยๆ

อีกส่วนนึงที่ทำให้นึกถึงการ์ตูนดังอีกเรื่องคือ ดราก้อนบอล ตอนสร้างลูกบอล เก็งกิ ต้องใช้ศรัทธาจากคนทั่วโลก ซึ่งใน Infinity หากใครได้มีโอกาสจะไปดู คุณจะเห็นว่า ญี่ปุ่นเขาเน้นศรัทธาร่วมมือร่วมใจกันเบอร์ใหญ่มาก ขอบอก งานนี้ก็มีให้เห็นเหมือนกันครับ ( ไม่แปลกใหม่ แต่กระตุกๆ จิตใจนิดหน่อย )



แต่ใครเล่าจะบู๊กันไม่เลิกรา เรื่องความรักนั้นก็มีให้เห็นในหนังเรื่องนี้ แม้จะไม่มากแต่ก็เพียงพอสำหรับหนังเรื่องนึง และเพลงมีบทแปลเป็นซับไทยที่ดี เหมือนดูพวก Saint Seiya หรือ Kiminonawa นั่นละครับ แม้จะไม่ติดหู แต่ก็โอเคน่ะ

สรุปว่า หนังสร้างมาให้คนรุ่นที่หุ่นยนตร์ตัวนี้รุ่งเรืองก็คืออายุผุ้ใหญ่กันแล้วแน่ๆ แต่ถ้าเด็กรุ่นใหม่จะเข้าไปดูก็พอได้ เรียกว่า ดูสนุกๆได้ครับ ดูพระเอกอย่างเดียว ผู้ร้ายไม่ต้องใส่ใจมากคือ มันจะงงจนเง็งได้ เอาเป็นว่า หุ่น Infinity นั้น มีประเด็นของมันอยู่ซึ่ง หากใครยังไม่ได้ดู ลองไปแวะหาคำตอบกันครับ

ส่วนตัวแล้ว ผมว่าหนังสนุกสำหรับกลุ่มแฟนๆครับ