เริ่มเดินทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปยังเกาะเต่าโดยเรือนอน(เกาะเจริญ) เตียงนอนสบาย มีแอร์เย็นๆ เรือออกเดินทางเวลา 21.30น. ถึงเกาะเต่า 6.30น.หลับสบายมาทั้งคืน ตื่นมาก็ถึงเกาะเต่าเลย

           Day 1. เริ่มขึ้น ณ เกาะเต่า เมื่อลงจากเรือก็มีพี่คนขับรถจากที่เรียนดำน้ำมาถือป้ายรอรับที่ท่าเรือ แล้วก็เดินทางไปสู่ Big bubble diving ที่นี่แหละที่แอนจะมาเรียนดำน้ำ ซึ่งอ่านรีวิวมาแล้วว่าสอนดีและปลอดภัย ถึงที่เรียนขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เจอกับครูนุ ผู้ที่จะมาสอนแอนดำน้ำ ทักทายกันเสร็จครูนุก็บอก “มา เรียนกันเลย” สำหรับ courses ที่แอนเรียนคือ open water หลักสูตร PADI สามารถดำได้ลึกสุด 18 เมตร ส่วนพี่กิ๊ฟไม่ต้องเรียนเพราะเคยเรียนถึงระดับ Advance มาแล้ว ดำได้เลย เริ่มเรียนตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงบ่ายโมง ครูสอนเรื่องฟิสิกเกี่ยวกับการดำน้ำ,การใช้อุปกรณ์ดำน้ำ ,โรคต่างๆที่อาจจะเกิดจากการดำน้ำและการรักษา ฯลฯ

         ช่วงบ่ายถึงเวลาเรียนดำน้ำและใช้อุปกรณ์จริง ได้ออกเรือไปเรียนกันในทะเลจริงๆเลย ณ จุด ดำน้ำชื่อ หินสามก้อน

          โดยครูชาร์จ สอนการทำ skill ใต้น้ำ การใส่ชุด+อุปกรณ์ดำน้ำครั้งแรก รู้สึกหนักและอึดอัดไปหมด เมื่อกระโดดลงไปอยู่ในน้ำแล้วเริ่มดำน้ำลงไป รู้สึกปวดหู เคลียร์หูไม่ได้ ครูก็ค่อยๆสอนจนทำได้ และลงสู่โลกใต้น้ำได้สำเร็จ การทำskillใต้น้ำจะยากหน่อยต้องมีสติ ในเย็นและดูครูฝึกดีดี Dive แรก ดำลึก5เมตร เวลา 55 นาที แล้วขึ้นมาพัก ลง Dive2.อีกครั้ง ณ จุดดำน้ำ ชื่อ ตุ๊กตุ๊ก ขึ้นมาอีกที่ก็เย็นแล้ว ครูนุก็เลยให้แบบฝึกหัดไปทำที่ที่พัก  และพักผ่อน

             สำหรับที่พัก ขอนำเสนอ Haadtien Beach Resort เป็นรีสอร์จที่ตั้งอยู่ริมทะเล สงบ บรรยากาศดี สะดวกสบาย อาหารอร่อย

           เมื่อเริ่มง่วงก็กลับที่พักกัน โดยเพื่อนให้ยืมมอเตอร์ไซค์ขับกลับ แถมขับตามมาส่งถึงที่พักด้วย ต้องขอบคุณเพื่อนผู้น่ารักมากๆ

           Day2. ตื่นเช้า อาบน้ำแต่งตัวกินอาหารเช้าที่รีสอร์ท

          แล้วรถมารับตอน 8โมงเช้า เพื่อไปดำน้ำเช้า Diveที่3 ไปดำกันที่จุด Green rock ที่ความลึก 18เมตร ดำดูปะการังและฝูงปลาสวยงาม จุดนี้เจอเจ้าถิ่น คือ ปลาวัวยักษ์  (Titan Triggerfish) ไล่กัด พี่กิ๊ฟโดนที่ถังแก็ส และโดนที่ตีนกบ  เนื่องจากดำไปในบริเวณรังของมัน แต่ก็รอดมาได้ ทำเอาตื่นเต้นตกใจกันไปหมด Dive ที่ 4. ไปดำกันที่ Twins Rock จุดนี้มีองเล่นให้ดำเล่น คือมีห่วงรูปทรงต่างๆให้รอด มีรูปปั้นสัตว์น้ำ เป็นจุดน่าถ่ายรูป และในจุดนี้มีปลาโนรีขี้เล่นมาว่ายเล่นกับพวกเรา อย่างน่ารัก ดำเล่นกันจนเพลิน

          ขึ้นฝั่งอีกทีก็ช่วงบ่ายแล้ว กลับขึ้นมาครูสอนทฤษฎีอีกนิดหน่อย ขณะเรียนก็นั่งคิดว่า “การเรียนดำน้ำนั้นเป็นการเรียนวิชาฟิสิกส์ที่สนุกมากไม่เหมือนตอนเรียน ม.ปลาย”

          ช่วงเย็นพาพี่กิ๊ฟเดินไปไหว้ศาลพ่อตาโต๊ะแม่ตาแม๊ะ เป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ ประจำเกาะเต่า แล้วก็เดินต่อไปยังเขาจอนสุวรรณ บรรยากาศข้างบนมองเห็นชายหาด2ฝั่ง ขั้นกลางด้วยเขา สวยงาม สบายตา บริเวณนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแวะเวียนกันมาชมไม่ขาดสาย เป็นจุดที่ไม่ควรพลาด เป็นจุดที่ไม่ควรพลาดที่จะต้องเก็บภาพไว้


        ช่วงค่ำสมาชิกร่วมทริปอีกคนของเรากำลังเดินทางมาถึง คือ พี่แนน บินมาจาก กทม.แล้วลงเรือเร็วต่อมาเกาะเกาะ แอนกับพี่กิ๊ฟไปรอรับและก็หาของอร่อยกินกันที่ร้านระเบียงไม้ ซึ่งอยู่ใกล้ท่าเรือ อาหารรสชาติอร่อย

         Day3. วันนี้เช้ากว่าเมื่อวานทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ รถมารับ7.30น. ลงเรือไปดำน้ำกันต่อ Dive5. ที่จุด Twrite Rock ที่ความลึก 18 เมตร จุดเด่นคือ แนวปะการังสวยมากและมาปลาหลากหลายสายพันธุ์ให้ดูเพลินตา

        
         Dive6. จุด Japanese Garden จุดเด่นคือ ปะการังสีสันสวยเหมือนสวนดอกไม้ญี่ปุ่น จุดนี้เสียดายแอนไม่ได้ดำ เพราะเมาเรือ นอนสลบอยู่บนเรือ
    ช่วงเย็นไปกินข้าวกันที่ร้านครัวปราณี  

    วันนี้มีงานเปิดโลกทะเลเกาะเต่า Koh Tao Fastival 2018 พวกเราก็แว้นมอเตอร์ไซค์กันไปเที่ยวงาน ที่งานมีการจัดซุ่มของหน่วยงานต่างๆ มีซุ่มร้านอาหารน่าทาน มีเวทีคอนเสริตและอีกจุดที่น่าสนใจคือลำวงย้อนยุค

      Day4. วันนี้พายุเข้าฝนตกตั้งแต่เช้าเลย คลื่นดูน่ากลัวมาก พวกเราเลยไม่ได้ดำน้ำเช้า เปลี่ยนเป็นมาเดินเล่นริมชายหาดและว่ายน้ำที่สระของรีสอร์จแทน  

          ช่วงบ่ายอากาศเริ่มสดใส เรามาอยู่กันที่ big bubble เจอน้องไอซ์ ซึ่งเป็นผู้ทำโครงการปลูกปะการังร่วมกับ big bubble ชวนไปปลูกปะการัง พวกเราสามคนตอบตกลงโดยไม่ลังเล แล้วเตรียมอุปกรณ์อย่างรวดเร็ว ก่อนไปน้องไอซ์บอกพวกเราว่า “พวกพี่เป็นอาสาสมัครกลุ่มแรกที่กล้าไปกับผม555’’ ก่อนดำลงปลูกน้องไอซ์และครูปุ๊เล่าถึงโครงการและอธิบายขั้นตอนการปลูกให้ฟัง พวกเราตื่นเต้นมากที่จะได้ทำเอง พอเริ่มทำจริงทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแกะกาวEpoxy จากถุงเพื่อผสมกันล้วนำมาแปะปะการังไว้กับอิฐบ๊อกที่เตรียมไว้ ใช้เวลานานพอสมควรบวกกับวันนี้มีกระแสน้ำไม่นิ่งการทรงตัวจึงลำบากหน่อย แต่พวกเราก็สู้ปลูกไปได้คนละหลายต้นเลย รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำกิจกรรมนี้

       การปลูกปะการังเป็นการช่วยอนุรักษ์ไม่ให้สูญพันธ์ นอกจากนี้ปะการังยังเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ทะเลบางชนิด แต่สิ่งเดียวที่เป็นการอนุรักษ์ที่ดีที่สุดคือ การที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมแล้วไม่ไปจับต้องหรือหักพวกเขา ปล่อยให้เขาอยู่ตามธรรมชาติ แค่นี้โลกใต้ท้องทะเลก็จะสวยงามไม่มีวันเปลี่ยน ขอบคุณน้องไอซ์และทีม big bubble ที่ทำให้พวกเราได้มาทำกิจกรรมสนุกแบบนี้ ถ้ามีโอกาส จะกลับมาดูปะการังต้นที่ปลูกไว้ว่าโตแค่ไหน