จากเรื่องบุพเพสันนิวาส จะมีการลงหวาย
เหตุใดจึง ไข้ขึ้นในเวลาถัดมา จะมาอธิบายกัน
การลงหวาย เริ่มใช้สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์และเลิกใช้สมัยรัชกาลที่ 5
"หวาย" เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการลงโทษและทรมาน ตามระบบจารีตนครบาล สรรพคุณทำให้เจ็บปวด และกระชากหนังกำพร้าให้เหลือแต่เนื้อแดงๆ เจ็บแสบเวลาเคลื่อนไหว ซึ่งตามสารบบแล้วจะมีอยู่ สามชนิด ด้วยกัน คือ หวายแช่น้ำแสบ หวายกระชากหนังกำพร้า หวายสามแนว
พอเป็นแผลแบบนี้แล้ว ถ้าปล่อยไว้ จะทำให้ติดเชื้อแบคทีเรีย เมื่อแผลติดเชื้อแล้ว อาการต่อมาคือมีไข้ขึ้น
ซึ่งยาที่ขุนหลวงให้รับประทานหลังจากแม่การะเกดให้ทานนั้น อาจมีฤทธิ์ Antibacterial ทำให้เชื้อที่ติดนั้นตาย
และทำให้อาการทุเราลงเรื่อยๆ นั้นเป็นสาเหตุที่การลงหวายสมัยก่อนหายช้า ทำให้คนที่โดนลงโทษหลาบจำ
#แต่พอแม่การะเกตเพิ่งหายจะไปดูแข่งเรืออีกอันนี้เรียกหลาบจำรึเปล่าน้าาาาา 5555+
การลงหวาย มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ มีข้อมูลมาฝาก
เหตุใดจึง ไข้ขึ้นในเวลาถัดมา จะมาอธิบายกัน
การลงหวาย เริ่มใช้สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์และเลิกใช้สมัยรัชกาลที่ 5
"หวาย" เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการลงโทษและทรมาน ตามระบบจารีตนครบาล สรรพคุณทำให้เจ็บปวด และกระชากหนังกำพร้าให้เหลือแต่เนื้อแดงๆ เจ็บแสบเวลาเคลื่อนไหว ซึ่งตามสารบบแล้วจะมีอยู่ สามชนิด ด้วยกัน คือ หวายแช่น้ำแสบ หวายกระชากหนังกำพร้า หวายสามแนว
พอเป็นแผลแบบนี้แล้ว ถ้าปล่อยไว้ จะทำให้ติดเชื้อแบคทีเรีย เมื่อแผลติดเชื้อแล้ว อาการต่อมาคือมีไข้ขึ้น
ซึ่งยาที่ขุนหลวงให้รับประทานหลังจากแม่การะเกดให้ทานนั้น อาจมีฤทธิ์ Antibacterial ทำให้เชื้อที่ติดนั้นตาย
และทำให้อาการทุเราลงเรื่อยๆ นั้นเป็นสาเหตุที่การลงหวายสมัยก่อนหายช้า ทำให้คนที่โดนลงโทษหลาบจำ
#แต่พอแม่การะเกตเพิ่งหายจะไปดูแข่งเรืออีกอันนี้เรียกหลาบจำรึเปล่าน้าาาาา 5555+