16 กุมภาพันธ์ 2559
วันนี้ ไปเยี่ยมบ้านยาย อายุ70ปี โรคประจำตัวเป็นสมองเสื่อม พูดไม่รู้เรื่อง และอัมพฤกษ์ อ่อนแรงด้านซ้าย ผู้ดูแลหลักเป็นสามี อายุพอๆกัน มีลูกเก้าคน
ลูกชายคนโต เอาบ้าน แกไปจำนองกับธนาคาร แล้วไม่ส่งเงิน ทั้งต้น ทั้งดอก เขาเลยยึดบ้านแก แต่ แกไม่ยอมย้ายออก ธนาคารเลยขายต่อบ้าน ให้คนอื่น พอดี มีคนสนใจก็เลยซื้อ ปรากฏว่า ครอบครัวนี้ยังอยู่ วันนึง เจ้าของบ้านคนใหม่ เลยเข้าไปคุยกับครอบครัวนี้ ไปเจอกับลูกชายคนโต ไม่รู้คุยอีท่าไหน เลยถูกลูกชายคนโต ชักปืนมายิงตายคาที่เลย หลังจากนั้น ลูกชายแกเลยติดคุก
ส่วนลูกชายคนรอง ก็ติดยาบ้า ต้องเล่นยาทุก2ชม พฤติกรรมก้าวร้าว ครั้งที่แล้วพยาบาลไปเยี่ยมบ้าน แกตะโกนใส่หน้าว่า "จะเยี่ยมก็เยี่ยมไป ไม่ต้องมาถามอะไรกรู " หลังจากนั้น ก็ไปสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ เบิ้ลเครื่อง พ่นควันไอเสียใส่หน้าพยาบาลแล้วขับรถออกไป ส่วนพยาบาลเห็นท่าไม่ดี เลยลากลับก่อน
ส่วน อสม ที่ไปด้วยใจ พอเจอบ้านนี้เข้าไปก็ส่ายหัว ขอลาขาด
ส่วนลูกคนอื่นๆ ก็กระจัดกระจายไปหมด เหลือแต่ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งบ้านอยู่ควนลังมาเยี่ยมทุกวัน
สภาพบ้าน เห็นว่ารอบแรก รกรุงรังมาก ยายขรี้เยี่ยวไว้เต็มพื้น รอบนี้ สะอาดหน่อยยายใส่แพมเพอร์ส นอนอยู่บนฟูก เห็นแขนซ้ายแก้เริ่มติดในท่างอ ยกแขนไม่ขึ้น เลยออกมาคุยกับสามีแกซึ่งนั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน
พยาบาล: แล้วปกติ แกเดินได้ไหม
สามี : แกค่อยๆถด(คืบคลาน) ไปได้
(สักพัก แกเรียก )
คนไข้ : บ่าว ๆ (แปลว่า ผู้ชาย)
สามี :แกคิดถึงหลานชายแก แยกบ้านออกไปเดือนนึงแล้ว
คนไข้: บ่าวๆ (แกมองมาทางเรา และกวักมือเรียก)
(สักพัก แกคลานออกมาจากห้องแก มานอนตรงพื้นหน้าบ้าน )
คนไข้ : บ่าวๆ (แกคลานมาจับขาเรา) บ่าวๆ แล้วนอนตรงพื้น
(สักพัก แกคลานมาจับตรงขอบแคร่ แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นมายืน ด้วยความกลัวว่าแกจะล้ม เลยเข้าไปประคองแขน ปรากฏว่า แกพยายาม เดิน แม้ชาจะสั่น ๆ สามีแกเลยต้องเข้าไปประคองอีกด้าน จนแกเดินได้มั่นคง แล้วประคองแกกลับเข้าในห้อง)
หลังจากคุยเรื่องยา ของแกซึ่งมีถึง12ชนิด และ สุขภาพคุณลุง ก็ลากลับ ทำให้ได้รู้ว่า
1.การมีลูกมาก ไม่ได้บอกถึงคุณภาพ ไม่ได้บอกว่าลูกจะกลับมาดูแลตอนแก่
2.แม้ คนไข้จะเป็นทั้งอัลไซเมอร์ และอัมพฤกษ์ แต่ถ้าเรากระตุ้นดีๆ ก็พาเดินรอบบ้านได้ ป้องกันอาการข้อติด
3.การไปเยี่ยม บ้านอาจทำให้ คนไข้คิดว่าเราเป็นลูกหลาน ต่อไปอาจได้รับมรดกแบบบุญหล่นทับก็ได้ (แต่คงไม่ใช่บ้านนี้ เพราะมีแต่หนี้สิน)
4.การซื้อบ้านมือสองมีความเสี่ยง
ควรไปดูด้วยตนเองก่อนว่าธนาคารได้ทำการไล่เจ้าของเดิมไปรึยัง มิเช่นนั้นอาจเป็นเช่นนี้(การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจ)
เยี่ยมบ้าน คนไข้อัมพฤกษ์
วันนี้ ไปเยี่ยมบ้านยาย อายุ70ปี โรคประจำตัวเป็นสมองเสื่อม พูดไม่รู้เรื่อง และอัมพฤกษ์ อ่อนแรงด้านซ้าย ผู้ดูแลหลักเป็นสามี อายุพอๆกัน มีลูกเก้าคน
ลูกชายคนโต เอาบ้าน แกไปจำนองกับธนาคาร แล้วไม่ส่งเงิน ทั้งต้น ทั้งดอก เขาเลยยึดบ้านแก แต่ แกไม่ยอมย้ายออก ธนาคารเลยขายต่อบ้าน ให้คนอื่น พอดี มีคนสนใจก็เลยซื้อ ปรากฏว่า ครอบครัวนี้ยังอยู่ วันนึง เจ้าของบ้านคนใหม่ เลยเข้าไปคุยกับครอบครัวนี้ ไปเจอกับลูกชายคนโต ไม่รู้คุยอีท่าไหน เลยถูกลูกชายคนโต ชักปืนมายิงตายคาที่เลย หลังจากนั้น ลูกชายแกเลยติดคุก
ส่วนลูกชายคนรอง ก็ติดยาบ้า ต้องเล่นยาทุก2ชม พฤติกรรมก้าวร้าว ครั้งที่แล้วพยาบาลไปเยี่ยมบ้าน แกตะโกนใส่หน้าว่า "จะเยี่ยมก็เยี่ยมไป ไม่ต้องมาถามอะไรกรู " หลังจากนั้น ก็ไปสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ เบิ้ลเครื่อง พ่นควันไอเสียใส่หน้าพยาบาลแล้วขับรถออกไป ส่วนพยาบาลเห็นท่าไม่ดี เลยลากลับก่อน
ส่วน อสม ที่ไปด้วยใจ พอเจอบ้านนี้เข้าไปก็ส่ายหัว ขอลาขาด
ส่วนลูกคนอื่นๆ ก็กระจัดกระจายไปหมด เหลือแต่ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งบ้านอยู่ควนลังมาเยี่ยมทุกวัน
สภาพบ้าน เห็นว่ารอบแรก รกรุงรังมาก ยายขรี้เยี่ยวไว้เต็มพื้น รอบนี้ สะอาดหน่อยยายใส่แพมเพอร์ส นอนอยู่บนฟูก เห็นแขนซ้ายแก้เริ่มติดในท่างอ ยกแขนไม่ขึ้น เลยออกมาคุยกับสามีแกซึ่งนั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน
พยาบาล: แล้วปกติ แกเดินได้ไหม
สามี : แกค่อยๆถด(คืบคลาน) ไปได้
(สักพัก แกเรียก )
คนไข้ : บ่าว ๆ (แปลว่า ผู้ชาย)
สามี :แกคิดถึงหลานชายแก แยกบ้านออกไปเดือนนึงแล้ว
คนไข้: บ่าวๆ (แกมองมาทางเรา และกวักมือเรียก)
(สักพัก แกคลานออกมาจากห้องแก มานอนตรงพื้นหน้าบ้าน )
คนไข้ : บ่าวๆ (แกคลานมาจับขาเรา) บ่าวๆ แล้วนอนตรงพื้น
(สักพัก แกคลานมาจับตรงขอบแคร่ แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นมายืน ด้วยความกลัวว่าแกจะล้ม เลยเข้าไปประคองแขน ปรากฏว่า แกพยายาม เดิน แม้ชาจะสั่น ๆ สามีแกเลยต้องเข้าไปประคองอีกด้าน จนแกเดินได้มั่นคง แล้วประคองแกกลับเข้าในห้อง)
หลังจากคุยเรื่องยา ของแกซึ่งมีถึง12ชนิด และ สุขภาพคุณลุง ก็ลากลับ ทำให้ได้รู้ว่า
1.การมีลูกมาก ไม่ได้บอกถึงคุณภาพ ไม่ได้บอกว่าลูกจะกลับมาดูแลตอนแก่
2.แม้ คนไข้จะเป็นทั้งอัลไซเมอร์ และอัมพฤกษ์ แต่ถ้าเรากระตุ้นดีๆ ก็พาเดินรอบบ้านได้ ป้องกันอาการข้อติด
3.การไปเยี่ยม บ้านอาจทำให้ คนไข้คิดว่าเราเป็นลูกหลาน ต่อไปอาจได้รับมรดกแบบบุญหล่นทับก็ได้ (แต่คงไม่ใช่บ้านนี้ เพราะมีแต่หนี้สิน)
4.การซื้อบ้านมือสองมีความเสี่ยง
ควรไปดูด้วยตนเองก่อนว่าธนาคารได้ทำการไล่เจ้าของเดิมไปรึยัง มิเช่นนั้นอาจเป็นเช่นนี้(การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำการศึกษาหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจ)