ตามชื่อกระทู้เลยค่ะ

สายการบิน : AirAsia
Flight No : FD450

ออกเดินทางจาก สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา
ไปยัง สนามบินมาเก๊า

เวลา 18.30 น. ถึง มาเก๊า 21.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)

.......................................
Day 1
.
เมื่อเดินทางถึงมาเก๊า ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
ไม่ต้องกรอบใบ ตม. แต่อย่างใด ยื่น passport แล้วเค้าจะแนบใบสี่เหลี่ยมขาวๆ มีข้อความให้เรา
ใบนี้สำคัญนะคะ เก็บไว้ใช้ตอนออกจากมาเก๊าด้วยค่ะ
.
จากนั้น ก็มุ่งหน้าไปยังที่พัก
เราเน้นสะดวก เพราะลูกแค่ 5 ขวบ ไม่อยากให้เค้าเหนื่อยกับการเดินทาง จึงเลือกโรงแรมที่ใกล้สนามบินที่สุด
ชื่อโรงแรม : Gloden Crown Chaina Hotel
ที่ตั้ง : หน้าสนามบินเลยค่ะ ขึ้นชั้น 2 ออกประตู ข้ามถนน ถึงเลย ใกล้มาก

ขอบคุณรูปจาก internet ค่ะ
.
หรือใครจะเลือกโรงแรมที่มีรถบัสรับส่งฟรี ก็ได้นะคะ
ออกจากประตู ตม. และ ศุลกากร
เลี้ยวขวา จะเจอที่จอดรถบัส ของโรงแรมต่างๆ
เยอะเลยค่ะ
...................

เช็คอิน ที่พักเรียบร้อย ถ้ายังไม่ง่วง
เราไปเที่ยวกันเถอะค่ะ
เดินข้ามฝั่งมาที่สนามบิน ลงชั้นล่างสุด
ออกไปยังลานจอดรถ เพื่ออาศัยรถฟรี ของเวเนเชี่ยน
.
Venetian นี่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากนะคะ
นิยมถ่ายพรีเว็ดดิ้งมากๆ
เอาภาพเวเนเชี่ยนมาให้ชม มุมจะประมาณนี้ค่ะ
ภาพนี้ สามีถ่ายเอง ลงได้ไม่หวง

เรามากันหลายรอบแล้ว รอบนี้เลยไปลงที่
Parisian ที่เป็นหอไอเฟล จำลอง ที่มีขนาดเท่าของจริง
แต่โลเคชั่น และ การประดับไฟ อาจจะไม่สวยเท่าของจริง
แต่ก็ดีนะคะ ถ่ายรูปเพลินดีค่ะ
.
บริเวณนี้มีห้างให้ Shopping ด้วยนะคะ
อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลิน ห้างเค้าปิด 5 ทุ่มนะคะ
แต่คาสิโนเปิดทั้งคืน ที่นี่แทบจะมีคาสิโนทุกโรงแรม
ถือว่าเป็นรายได้หลักของมาเก๊า ก็ว่าได้นะคะ
ใครที่จะไปคาสิโน อย่าลืมพก Passport นะคะ
บางคนั้งก็ตรวจ บางครั้งก็ไม่ตรวจค่ะ
แต่เด็กเข้าไม่ได้นะคะ
.
เหนื่อยแล้วกลับโรงแรมกันเถอะค่ะ
นอนพัก เก็บแรงไว้สู้ต่อในวันพรุ่งนี้
..............................

Day 2
ตื่นแต่เช้า ทานข้าว เช็คเอ้าท์แล้วค่ะ
.
วันนี้ปลายทางเราอยู่ที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์
เราจะใช้วิธีการนั่งเรือ Ferry
จาก มาเก๊า ไป ฮ่องกง กันนะคะ
.
เหมือนเดิมค่ะ
ลงมาชั้นล่าง ประตูทางออกจะมีคำว่า Ferry Terminal
ออกทางที่จอดรถ เหมือนเดิม
จากนั้นเดินตรงไปสุดทาง
เบี่ยงทางซ้ายจะเจอป้ายกระดาษพร้อมลูกศรบอกทาง
ประมาณ 450 เมตร จะถึงท่าเรือ Cotai Water Jet ค่ะ
เข้าประตู แล้วเดินไปเรื่อยๆ จะพบกับ Ticket Office
ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 จะมีช่องขายตั๋ว พร้อมเวลาให้เราเลือกเดินทางได้ตามสะดวก
บริเวณนั้นจะมีคนมายืนขายตั๋ว ที่ราคาถูกกว่าตั๋วเรา 20 เหรียญฮ่องกงดอลล่าร์ค่ะ (ถ้าสะดวกซื้อได้นะคะ)
.
เราซื้อตั๋ว one way ค่ะ
Adult ผู้ใหญ่ : 160 เหรียญ , Child เด็ก : 140 เหรียญ
.
จากนั้นก็เดินลงมาชั้นเดิมค่ะ แล้วเข้าไปเชคตั๋ว
ตรงนี้สำคัญนะคะ ถือว่าเป็นการเดินทางออกนอกประเทศ passport และ ใบขาว ถือไว้เลยค่ะ
เราจะผ่าน ตม. กันนะคะ
.
จากนั้นตรงไปยัง Gate ที่ระบุไว้ในตั๋ว
ควรไปถึง 20 นาทีก่อนเวลาเดินทาง
.
เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่จะให้เราเลือกที่นั่ง
โดยที่ที่นั่งบนเรือจะแบ่งเป็น 2-3-3-3-2
แถวที่เป็น 2 ที่ จะเป็นโหมด A,B และ Q,P
จะเป็น windows seat ริมหน้าต่าง เห็นทะเล
และตั๋วจะมี 2 Class
- Cotai Frist Class
- Cotai Class โดยส่วนตัวเลือกอันนี้ เพราะ ที่นั่งก็ Fixed แล้ว ไม่เบียดไม่แออัด ... จะเสียแพงไปทำไม
.
ถึงเวลาลงเรือแล้วค่ะ
.
ระยะเวลาที่เดินทางจาก มาเก๊า ไปยัง ฮ่องกง
ใช้เวลา 1 ชม. หรือ อาจจะเร็ว หรือ ช้าบ้างเล็กน้อย
บนเครื่องลูกเรือจะทำการแจก ใบ immigration
ให้เรากรอกรายละเอียด ตามข้อมูลของเรา
.
ในใบจะมีให้กรอกที่อยู่ใน ฮ่องกง เราเว้นไว้
เพราะเราไปเช้าเย็นกลับ ตรงนี้แหละค่ะ ที่เป็นปัญหา
ทำให้เรา 3 คน ถูกเรียกไปสัมภาษณ์
.
คำถามภาษาอังกฤษ ตอบ // อังกฤษ แปลเลยนะคะ
จนท : มาด้วยกันใช่มั้ย // ใช่
จนท : มากี่วัน // วันเดียว จะพาลูกไปดิสนีย์แลนด์ แล้วจะกลับมาขึ้นเครื่องที่มาเก๊า จองตั๋วไว้แล้ว ดูมั้ยคะ
จนท : โน ..
จนท : เมื่อคืนพักที่ไหน // มาเก๊า
จนท : ชื่อโรงแรม // ตอบไปตามนั้น
จนท : ทำงานอะไร // เจ้าของธุรกิจ
จนท : สามีคุณล่ะ ทำงานอะไร // ทหารเรือ มีบัตรจะดูมั้ย
จนท : ไม่ , โอเค .. ผ่าน
...
จบการสนทนา แบบ งง ๆ ..
จะให้ดี ควรเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวเอง ว่ามีงานทำ เราจะไม่มาทำงานที่บ้านเมืองเค้าแน่นอน

เพราะขนาดเรา 3 คน passport เดินทางต่างประเทศปีละ 3-6 ครั้ง มีวีซ่าอังกฤษ มีตราประทับ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตเรีย ... ยังโดนเรียกคุยเลย กันไว้ดีกว่าแก้นะคะ
.....
ผ่านแล้ว ก็ไปเที่ยวกันเถอะค่ะ
อาคารที่เรือจอด เหมือนห้างๆนึงเลยค่ะ
มีร้านค้าเต็มไปหมด ชั้นล่างสุดจะเป็น

MTR (MRT บ้านเรา)
ตู้ขายตั๋วที่นี่ จะรับเฉพาะแบงค์ 10,20,50 นะคะ
ถ้าไม่มีย่อย ตรงใกล้ๆมี Kios ของธนาคารค่ะ แลกได้
จากสถานีต้นทาง Sheung Wan ถึงปลายทาง Disneylang Resort
ราคา : 28.50 เหรียญ
จะซื้อเป็นไปกลับก็ได้ หรือ one way ก็ได้ค่ะ
.
ชื่อสถานี ที่เรือจอด คือ Sheung Wan (สายสีน้ำเงิน)


ดูจากภาพนะคะ
ซึ่งปลายทางที่เราต้องการไปคือ Disneyland (สายชมพู)
ดังนั้นจากภาพ เราต้องเปลี่ยนสถานีด้วยนะคะ
.
อธิบายจากภาพดังนี้นะคะ
เราออกจากต้นทาง
Sheung Wan สีน้ำเงิน -> ไปสถานี Central (สีน้ำเงิน)
แล้วทำการเปลี่ยนรถไปเป็นสายสีเหลือง
Central (น้ำเงิน) -> Hongkong (เหลือง)
ปลายทางสายสีเหลืองของเราคือ
Sunney Bay (สีเหลือง)
ระหว่างสถานี มีร้านค้าให้เราเลือกซื้อของมากมาย
แต่อย่าเพิ่งซื้อนะคะ จะได้ไม่ต้องถือไป ไว้ค่อยซื้อขากลับ
.
ช่วงที่เปลี่ยนจากสายสีน้ำเงินเป็นเหลือง เดินเยอะนิดนึงนะคะ ตลอดทางมีป้ายกำกับ คู่กัน กับสีชมพู ที่เขียนว่า Disneyland ค่ะ มองหมายเลขกำกับไว้ด้วยก็ดีนะคะ
.
เมื่อเราถึง Sunney Bay ก็จะเจอกับ รถไฟมิ๊กกี้เมาส์ มารับเราไปยัง Disneyland ค่ะ

เมื่อรถไฟจอดที่สถานีดิสนีย์แลนด์
เราก็ขึ้นบันได ไปชั้นบนนะคะ
เดินไปนิดนึง เราก็จะพบกับ ป้ายใหญ่โต ที่บอกว่าเรา
มาถึงแล้วจ้าาา

ถ่ายรูปตรงจุดนี้กันสักนิด จะได้รู้ว่าเราไปไหนมา
เดินต่อไปตามทาง สักพัก เราจะเจอ น้ำพุมิ๊กกี้เมาส์
มองไปทางขวา จะพบทางเข้าที่แท้ทรู
ผ่านจุดตรวจกระเป๋าสักเล็กน้อย
.
ก็จะเจอกับ Ticket Office ห้องขายตั๋ว
ยืนต่อคิวซื้อตั๋ว ประมาณ 10-15 นาที เราก็จะได้เข้าไปด้านในดิสนีย์แลนด์ นะคะ

แนะนำเรื่องหารซื้อตั๋วสักนิดนะคะ
ถ้าใครที่มีเวลาเตรียมตัว แนะนำว่าซื้อตั๋ว ล่วงหน้า
ก็ดีนะคะ สามารถซื้อตามเว็บ Hong Kong Fan Club
ก็ได้นะคะ หรือ อีกทางเลือกนึงคือ App ของ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เด่วเรามาดูหน้าตา App กันค่ะ

ดาวน์โหลดได้ทั้ง iPhone และ Android
จากนั้นเมื่อเปิดเข้าไป หน้าตาของ app จะเป็นแบบนี้ค่ะ
.
.
.
ใน 3 รูปนี้ จะเป็นในส่วนของ Buy Ticket
โดยจะมีเงื่อนไขให้เราเลือกค่ะ
ว่าเราจะซื้อตั๋วแบบไหน
โดยที่แบบที่ 1
เป็นบัตร สำหรับ 1 วัน มี วาฟเฟิล มิ๊กกี้เมาส์ แถมให้ 1 ชิ้นหรือ จะรับเป็น Voucher 50 เหรียญ
ใน app ก็จะราคาเท่ากันกับที่เราไปซื้อหน้าตู้
ผู้ใหญ่ 619 เหรียญ
เด็ก 458 เหรียญ
ใน App จะถามเราว่า จะรวมมื้ออาหารไปด้วยเลยมั้ย
หรือ อยากได้ของเล่นเพิ่มไปเลยมั้ย ราคาพิเศษ
เชื้อเชิญกันไปค่ะ
แล้วเราก็รอดจากการเป็น เหยื่อทางการตลาด55
ที่ไหนล่ะ มาเสียเงินซื้อกินเองสิคะ อร่อยด้วย
ใครอยากทานฟรี ซื้อตั๋วจาก App มานะคะ
.
ทีนี้ จะแนะนำในส่วนของ App ต่อนะคะ
ใน App จะมี แผนที่บอกเรา โดยที่เราไม่ต้องถือกระดาษ กางแผนที่ให้วุ่นวาย มีเวลาโชว์ตามที่ต่างๆ บอกเรา รอบการแสดง ถือว่าสะดวกสบายสุดๆค่ะ
.
******* เด่วมาเล่าต่อนะคะ******