สวัสดีค่ะ (กระทู้นี้เป็นการเขียนกระทู้รีวิวกระทู้แรก ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ)
       ช่วงนี้เป็นช่วงสอบเราจึงพอมีวันหยุด 4-5 วัน หลังจากสอบผ่านไปแล้วหลายวิชาและอ่านหนังสือมาอย่างหนักหน่วง (หราาา55) เราเลยคิดว่าจะหาที่ไปพักผ่อนหย่อนใจ แต่!!เรามีวันว่างตรงกันแค่2-3วัน ด้วยเวลาที่มีจำกัดถ้าจะไปไกลก็กลัวว่าจากจะพักผ่อน จะกลายเป็นนั่งรถให้เหนื่อยกว่าเดิม  เราเลยตัดสินใจกันว่าจะไปไกล้ๆและระหว่างทางไหว้พระทำบุญไปด้วย โขงเจียมจึงเป็นตัวเลือกที่เราเลือกที่จะไปกัน *ปล.เราเรียนอยู่อุบลนะคะ
       เมื่อตกลงวางแผนกันได้แล้วเราก็ไม่ลังเล เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ค่ะ (สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถขึ้นรถตู้สาย อุบล-โขงเจียม-ช่องเม็ก ได้ที่บขส.อุบลฯนะคะ ค่ารถประมาณ 80 บาท) เราเดินทางโดยเริ่มจากไหว้พระ วัดต่างๆริมแม่น้ำมูลในตัวเมืองอุบล ไปจนถึงอำเภอโขงเจียมค่ะ สำหรับที่พักเราเลือกบ้านก้อนคำ ราคาหลักร้อยแต่ประทับใจมากค่ะ
วัดแรก....วัดสุปัฏนารามวรวิหาร
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร เป็นวัดริมแม่น้ำมูล โดยภายในวัดจะมีแพยื่นออกมาจากท่าน้ำของทางวัด สามารถให้อาหารปลาได้
วัดที่ 2....วัดทุ่งศรีเมือง
วัดทุ่งศรีเมืองเป็นวัดที่มีหอไตรอยู่กลางน้ำ สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าพรหมราชวงศา (กุทองสุวรรณกูฏ) สามารถเข้าไปเยี่ยมชมหอไตรกลางน้ำ และให้อาหารปลาได้
วัดที่ 3.... วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ
วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อยู่ไม่ไกลมากจากวัดทุ่งศรีเมือง โดยบรรยากาศในวัดเงียบสงบและร่มรื่นมาก
ออกมาจากวัดไม่ไกลมากมุ่งหน้าลงมาทางแม่น้ำมูล ก็จะพบกับสะพานไม้หาดวัดใต้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายรูปฮิปๆ โป 55. เมื่อข้ามไปอีกฝั่งจะเป็นแพร้านอาหาร เหมาะกับการมาพักผ่อนมากค่ะ
วัดที่ 4.... วัดมหาวนาราม
วัดมหาวนารามนิยมเรียกว่า วัดป่าใหญ่ เป็นวัดเก่าแก่ และเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี โดยช่วงนี้จะเป็นช่วงที่วัดกำลังบูรณะนะคะ แต่สามารถไปไหว้พระทำบุญได้ค่ะ
วัดที่ 5.... วัดเสนาวงศ์
ออกมาจากตัวเมืองอุบลขับรถข้ามมาทางสะพานใหม่ จะพบกับวัดเสนาวงศ์ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูล ตรงข้ามกับหาดวัดใต้

>>>>หลังจากที่ไหว้พระทำบุญในตัวเมืองแล้ว สถานที่ต่อมาเราจึงมุ่งหน้าสู่อำเภอโขงเจียมค่ะ
ถ้าเดินทางมาจากอำเภอพิบูลฯ ไกล้ถึงโขงเจียม จะพบกับไร่สตอเบอรี่พูลทรัพย์
ไร่สตอเบอรี่พูลทรัพย์ จะมีร้านกาแฟ ด้านบนสามารถขึ้นไปนั่งได้ ภายในจะมีขายของฝาก ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสตอเบอรี่ มีทางเดินสามารถไปเยี่ยมชมไร่ได้ค่ะ

>>>>เมื่อเดินทางมาถึงตัวอำเภอโขงเจียมเราจึงมุ่งหน้าสู่ที่พัก
โดยเราเลือกพักที่บ้านก้อนคำค่ะ (ปล.ไม่ได้ถ่ายภาพด้านหน้าตอนกลางวันไว้ ^^)
บ้านก้อนคำเป็นห้องพักที่ราคาถูกมาก คืนละ 350 บาท ไม่มีค่ามัดจำ จ่ายตังแล้วเข้าพักได้เลยค่ะ บริการดีพูดเพราะ มี Wifi ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น จักรยานให้ขี่ฟรี
>>>>เมื่อเรานอนพักผ่อน จากการขับรถมาแล้ว เราจึงออกเดินทางไปตามโปรแกรมของเราต่อค่ะ
"กาลครั้งหนึ่ง"
เราค่อนข้างประทับใจที่นี่มากค่ะ กาลครั้งหนึ่งเป็นทั้งร้านกาแฟ โฮมสเตย์ ทั้งยังเป็นสถานที่เรียนรู้ ภูมิปัญญาการทอผ้า อีกด้วยค่ะ ร้านกาแฟค่อนข้างวินเทจมากๆผสมผสานกับกลิ่นอายความเป็นเรือนไทยเรือนไม้เก่าๆ เมื่อได้มาที่นี่เหมือนให้เวลาเดินช้าๆ ได้พักผ่อนหย่อนใจไปด้วย อาหารและที่พักราคาไม่แพงด้วยค่ะ บรรยากาสดีมากกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว
มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติค่ะ ^^
สามารถขึ้นมานั่งด้านบนได้นะคะ
ออกจากกาลครั้งหนึ่งตรงลงมาทางแม่น้ำโขง เราก็จะพบกับ "ตึกขาว ร.ศ.112"
ตามประวัติ>> ตึกขาว ร.ศ.112 เป็นอาคารพาณิชย์แห่งแรกในโขงเจียม เป็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส สไตล์โคโลเนียล (Colonial Style) ในยุคล่าอาณานิคม สร้างเมื่อ ร.ศ.112 (พ.ศ.2436) สมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันมีอายุร้อยกว่าปี เป็นตึกของนายต้น กอมณี คหบดีชาวโขงเจียมในยุคนั้น สร้างขึ้นเพื่อประกอบการค้าระหว่างไทย-ลาว และภายในท้องถิ่น

>>>> หลังจากไปเป็นผู้สาวขาเลาะในตัวเมืองโขงเจียมแล้ว เราจึงกลับมาที่พักเพื่อนอนพักผ่อนตามจุดประสงค์หลักของเรา ZzzZZzzzz
และเพลานี้ อีตะเว็น(ตะวัน) กำลังจะตกดินแล้ววววว เราจึงคว้าเจ้าจักรยานของทางที่พักมาคนละ 1 คัน และปั่นเลาะๆตามริมแม่น้ำน้ำโขง
บรรยากาสตอนนี้ดีมาก มีลมเย็นๆและมีสองเรา แฮ่
มีป่า มีเขา มีเราบ้างไหม แหนะ :3
เมื่อปั่นลัดๆเลาะๆมาเลื่อยๆ ก็จะพบกับวัดที่ 6....วัดโขงเจียม
โชคดีมากที่วันที่เรามาเป็นวันที่ทางวัดมีงานบุญ เราเลยได้เห็นธรรมเนียมประเพณีของทางอำเภอโขงเจียม ภายในงานจะมีเหมือนงานวัดทั่วไปเลย ไม่ว่าจะเป็นปาโป่ง ยิงปืน ล้วงไห แล้วยังมีลำวงย้อนยุค ปิดท้ายด้วยหมอลำ
เมื่อไหว้พระทำบุญกันเสร็จแล้ว กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง จังหวะนี้หิวมาก เราเลยเลือกร้านเนื้อย่างอย่างไม่ลังเล :3 เมื่อหนังท้องเริ่มตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน เราจึงเดินทางกลับที่พัก >> จบไป1วันค่ะสำหรับทริปนี้ ZzzzzZZZ ^^
เอ้กอี้เอ้กเอ้ก .... กับเช้าวันใหม่ และนี่คือวิวด้านหลังของที่พักค่ะ
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวคืนกุญแจห้องเสร็จ เราก็ไปหาอะไรกินตอนเช้ากัน (คิดไม่ออกบอกเซเว่น) ^^
เมื่อกินอิ่ม รับบรรยากาศริมโขงเสร็จแล้วเราจึงเริ่มออกเดินทางมาที่วัดที่ 7....วัดถ้ำคูหาสวรรค์
เป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่งของอำเภอโขงเจียม ด้านบนสามารถเห็นวิวของแม่น้ำโขง มีนักท่องเที่ยวไปเป็นจำนวนมาก ถ้าเดินลงไปทางด้านล่างจะเป็นถ้ำ สามารถเดินลงไปเพื่อไหว้พระได้ค่ะ
เลี้ยวซ้ายออกจากวัดถ้ำคูหาสวรรค์ สังเกตุซ้ายมือจะมีป้ายที่พักริมทาง เราสามารถขี่รถเลาะมาตามทางเล็กๆ เมื่อขี่มาจนสุดทางจะพบกับซุ้มบันไดพญานาค เมื่อเดินไปตามบันไดแล้วเราจะเห็นตัวอำเภอโขงเจียมค่ะ
วัดที่ 8.....วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย
เข้ามาทางอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะตรงเข้ามาเลื่อยๆก็จะพบป้ายวัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย จอดรถแล้วเดินลงไปตามป้ายบอกทางค่ะ ระหว่างทางเดินจะค่อนข้างเป็นป่านะคะ เดินไม่ไกลมากก็จะถึงบริเวณถ้ำค่ะ
ทางเดินลงไปถ้ำค่ะ
นอกจากนี้ในช่วงปลายฝนจะมีน้ำตกไหลจากหน้าผาด้านบนผ่านลงมาบริเวณด้านหน้าพระนอนก่อนที่จะตกลงสู่หุบเหวเบื้องล่างค่ะ

วัดที่ 9....วัดดอนธาตุ
วัดดอนธาตุ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางลำน้ำมูลที่บ้านทรายมูล ตำบลทรายมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร การเดินทางไปวัดดอนธาตุนี้จะต้องนั่งเรือหรือแพข้ามฟากของทางวัดไปเท่านั้นค่ะ
ภายในวัดร่มรื่นดีมากค่ะ
เมื่อไหว้พระทำบุญเสร็จ ก็จะมานั่งรอเพื่อข้ามกลับไปอีกฝั่งค่ะ

เป็นอันจบทริปและเดินทางกลับอย่างปลอดภัย ขอบคุณที่รับชมค่ะ ^^