ผมและคณะทัวร์ แดงเดือดมุ่งหน้าสู่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนเกมเริ่ม 3 ชั่วโมงเพื่อให้คณะทัวร์ซึมซับบรรยากาศฟุตบอลอังกฤษ ที่ตื่นเต้น มีสีสันมากมาย บางคนมาแล้วหลายครั้ง บางคนมาครั้งแรก

คนมาหลายครั้งยังรู้สึกเลยว่ามัน ขลัง และยังมีความตื่นเต้นรออยู่เหมือนเดิม ส่วนคนมาครั้งแรกไม่ต้องบรรยายความรู้สึก เพราะมันยากแก่การบรรยายจริงๆ ทั้งแฟนหงส์และแฟนผีในคณะทัวร์แห่งนี้

ส่วนตัวผมเองมีภาระกิจแฝง 555


ต้องไปรับบัตรผู้สื่อข่าวภาคสนามเป็น  pitch side เพื่อเตรียมรายงานจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด มาเมืองไทยทาง beIN Sports อย่างที่หลายท่านอาจจะได้ชมเกมไปนั่นแหละครับ

ครั้งแรกที่นักข่าวไทยรายงานจากสนามแข่งขันพรีเมียร์ลีกมายังประเทศไทย

ว่ากันแบบนั้น


ส่วนเรื่องของเกมผมนั่งติดขอบสนามดู ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากที่ท่านเห็นในจอทีวี อาจได้มุมเยอะรายละเอียดเรื่องการยืนตำแหน่งของนักเตะสองฝั่ง โดยเฉพาะ แมนฯยูฯ นั้นชัดเลยครับ

มูรินโญ่ เขาเล่นเกมแบบคุมโซน ล่อให้หงส์แดงบุกเข้ามา แล้วรอดัก รอตัดบอล ถ้าเสียบอลหรือพลาด สวนกลับทันที ส่วนตัวทำหงส์แดงคือ โม ซาลาห์ ที่อยู่ทางขวา ก็โดน แอชลีย์ ยัง กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ คริส สมอลลิง คอยซ้อน ถ้าได้บอล เป็น 3 ต่อ 1

ยิ่งเลี้ยง ยิ่งครองบอล ยิ่งเข้าทางผี

เอาอยู่ครับ


ไม่ได้บอลเกือบ 15 นาทีแรก หายไปเลย ขณะที่คนอื่นๆก็ทำเกมพยายามวิ่งสลับกันไปมา แต่โซนรับ มูรินโญ่ ผมเห็นในสนามคือ ยืนเชฟกันดีมาก ไม่มีป่วน บีบให้แคบเมื่อหงส์เจาะตรงกลาง

รุมแย่ง รุมตัดบอลให้ไปพ้นๆเขตโทษ

หากหงส์ออกปีก ตามไปคุมพื้นที่ไม่ให้เข้าเขตโทษ ถ้าช้า วิ่งเข้ามาจิ้มบอล มาเพรสซิงเพื่อให้เสียบอล

มูรินโญ่ วางแผนหลักๆเล่นเกมรับก่อน คือป้องกันก่อนบุก พอหงส์ทำเกมไม่ได้ มันก็เท่ากัน เกมก็ไม่มีอะไรน่ากลัว และยังไม่ทันไรเลย บอลโยนยาวเข้าหัว ลูกากู โหม่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด เก็บบอลจังหวะสองได้ก่อนไปหลอก เทรนต์ อเลกซานเดอร์ อาร์โนลด์ ยิงเข้าไป1-0

จากนั้นลูก 2-0 มาด้วยวิธีการเดิมๆเลย


เดยัน ลอฟเรน พลาดสองลูก ประกบไม่ดีนำไปสู่การเสียประตู

ส่วนครึ่งหลัง แมนฯยูฯ ตั้งใจรับมากกว่าปกติเพราะนำห่าง เลยทำให้โดนตีไข่แตก สร้างความหวาดเสียวให้แฟนผีทั้งเกมครึ่งหลัง แต่สรุปก็ต้องยอมรับว่า หงส์แดง เมื่อเข้าเขตโทษไม่ได้ ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว    

ยิงไกลไม่มี, เซตพีส อย่างเตะมุมมากกว่าแมนฯยูฯ ตั้ง 13-1 ยังกดดันไม่ได้

คุณภาพที่ไม่ได้มาตามปริมาณ ตรงกันข้าม แมนฯยูฯ ได้ยิง 5 ครั้งทังเกม เข้ากรอบ 2 เป็นสองประตู

นี่คือความแตกต่าง

เรื่องจุดโทษนั้นอยู่ในสนามยังมองไม่ชัดเลยครับ ดูภาพช้าวิจารณ์กันไป แต่ผมว่าไม่เกี่ยวครับ แพ้คือแพ้ อย่าโทษผู้ตัดสิน แพ้เพราะ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่สามารถหาวิธีการทำลายเกมรับแมนฯยูฯได้

รู้ทั้งรู้ว่า มูรินโญ่ ต้องเล่นแบบนี้

ความพ่ายแพ้ในแดงเดือดส่งผลต่อคะแนนที่โดนนำ 5 แต้มเหลืออีก 8 นัด คาดหวังให้แมนฯยูฯ สะดุด ผมว่ายากละครับ    

ส่วนบรรยากาศจากสนามที่น่าทึ่งคือแฟนหงส์ในมุมทีมเยือนที่ต้องรอให้แฟนผีออกจากสนามให้หมดก่อน จึงค่อยออก ตะโกนร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานมากๆ เป็นบรรยากาศเหมือนทีมชนะเลยครับ


มองในมุมของพัฒนาการฟุตบอล หงส์แดง ดีแต่ยังไม่มากพอที่จะชนะ

สิ่งที่ คล็อปป์ ต้องแก้ไขคือ การเล่นเกมใหญ่ แล้วเจอทีมที่เน้นเกมรับมากๆแบบนี้ ต้องเอาชนะให้ได้ ถ้าคาดหวังจะยกระดับทีมตัวเองให้ก้าวไปไกลกว่าแค่เล่นเพื่อ พื้นที่ ชปล. คล็อปป์ ต้องทำให้ได้

วางแผนมาแล้วถ้าทำไม่ได้ จะแก้อย่างไร

เกมที่เครียดๆ กดดัน สุดๆมันต้องมีทีเด็ดมาเล่นงานคู่แข่ง

เฉพาะเกมนี้นะครับ... โชเซ มูรินโญ่ เขี้ยวลากดินและเก๋ากว่า เจอร์เก้น คลอปป์ เขาวางแผนมาแล้วหยุดเกมรุกหงส์ได้ ด้วยแทกติกและความเก่งของเขาในการทำให้ทีมเล่นเกมรับได้ดี

มูรินโญ่ ทำได้อีกครั้ง

credit : www.siamsport.co.th โดย Jackie