สวัสดีครับ เพื่อนทุกคน
เราทำ PRK (คล้ายๆ lasik แต่รายละเอียดต่างกันบางอย่าง) มาน่าจะ 6-7 ปีแล้ว และผลพลอยได้ที่ไม่อยากได้เลยคือ "ตาแห้ง"
เราเชื่อว่าเพื่อนหลายคนที่ทำ lasik หรือ PRK คงจะมีบางคนประสบปัญหา ตาแห้ง เหมือนกัน และทางแก้ยอดฮิตเลยคือ น้ำตาเทียม สารพัดยี่ห้อ ที่เห็นรีวิวกันในกระทู้ทั้งหลาย ซึ่งตัวที่ผมใช้อยู่เป็นประจำเลยคือ cellufresh MD กับ natear ซึ่งทั้งสองตัวนี้สิ่งที่เหมือนกันคือเป็นแบบ รายเดือน ราคาค่าตัวก็จะถูกกว่าพวกรายวันอยู่ (cellufresh 15 ml ราคา 160 -180 , natear 10 ml ราคา 90-110 บาท) อีกข้อที่เหมือนกันคือ ใช้วัตถุกันเสียแบบที่ว่าจะสลายง่ายมาก แค่โดนอากาศหรือน้ำเนี่ยแหละก็สลายแล้ว (ตามที่เค้าเคลม) ซึ่งก็เหมาะกับผมซึ่งต้องใช้ทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง แทบจะชั่วโมงละครั้ง ไอ้จะให้ใช้แบบรายวันแบบปราศจากสารกันเสีย ราคาก็แพงเหลือเกิน สรุปคือก็ใช้ 2 ยี่ห้อนี้แหละ สลับกันแล้วแต่อารมณ์และเสื้อผ้าหน้าผม
แต่แล้วก็ได้มาพบกับตัวเลือกอีกตัวแบบบังเอิญ
มันคือ "ยาล้างตา"
ก่อนจะไปลงรายละเอียดต้องบอกก่อนว่า "มันไม่สามารถใช้แทนกันได้หรอกนะ!!!" น้ำตาเทียมกับยาล้างตา ชื่อมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไม่มีหมอคนไหนจ่ายยาคนไข้ที่ตาแห้งด้วยยาล้างตาแทนน้ำตาเทียมหรอก
ก่อนจะงงไปมากกว่านี้ เอารูปยาล้างตาที่เราใช้มาให้ดู
มันคือ ยาล้างตา ยี่ห้อ ออพ-ไอซ์ (OP-IZE)
อันนี้รูปเมื่อเปิดฝา ตรง
จะแหลมๆ สามารถเหยาะใส่ลูกตาได้เลย
อันนี้สรรพคุณข้างขวด
จาก สรรพคุณข้างขวด สิ่งที่อยากให้สังเกตคือ มันบอกว่า "มีความสมดุลกับน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตา"
ดังนั้น มันควรจะดีกว่าเอาน้ำเปล่าหรือน้ำประปามาหยอดใส่ลูกตา
แต่คือ เราไม่ได้เอามาใช้ล้างตาหรอก เราเอามาหยดใส่ลูกกะตาเหมือนใช้น้ำตาเทียม
สิ่งที่ได้คือ มันช่วยให้ความชุ่มชื้น "บ้าง"
คะแนนความชุ่มชื้นของมันคือ ดีกว่าน้ำเปล่า แต่ไม่เท่าน้ำตาเทียม
ข้อเสียของมันคือ มันไม่เคลือบลูกกะตาเหมือนน้ำตาเทียม เพราะฉะนั้นมันจะชุ่มชื้นแค่ "แป๊บเดียว"
ดังนั้นก็ต้องหยดบ่อยหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะหมดไว ไม่ต้องห่วงว่าจะเปลือง เพราะปริมาณของมันในรูปคือ 110 ml
ปริมาณมากกว่าน้ำตาเทียม 7 เท่า (ขวด 15 ml) !!! แต่ราคาค่าตัวของมันคือ 70 บาท !!! คือ ถูกมากกกกกกกกกกกกกก ก.ไก้ล้านตัว
สำหรับเรา มันเหมาะจะใช้ช่วงที่ตาไม่แห้งมาก
แต่ถ้าช่วงที่รู้ตัวว่าต้องตาแห้งมากๆ แน่นอน เช่น ช่วงที่นอนหลับ เราจะกลับไปใช้น้ำตาเทียมหยดก่อนนอนเหมือนเดิม
ข้อดีอีกอย่าง นอกจากความถูก คือ มันไม่ใส่วัตถุกันเสีย (ดูที่ฉลากภาพสอง)
ดังนั้น เหยาะไปเลย เหยาะแบบไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องกลัวเปลือง ไม่ต้องกลัวหมด ไม่ต้องกลัวสารกันเสีย เหยาะๆๆๆๆๆ เข้าไป 555+
อ้อ ดูคำเตือนด้วย เค้าบอกว่าเก็บได้แค่ 30 วันหลังเปิดใช้ เนื่องจากไม่มีสารกันเสีย
เอาล่ะ สุดท้ายนี้ เราจะบอกว่าเราไม่ได้เป็นหมอตา และเราไม่ได้ปรึกษาหมอตา ความเห็นของเราอาจมีความเสี่ยงกับตาของคุณ ตาเราอาจจะโอเคกับวิธีนี้แต่คนอื่นไม่รู้ จงใช้อย่างระมัดระวัง ตาใครตามัน
ขอเน้นย้ำอีกครั้ง เราไม่ได้ใช้ ยาล้างตา แทน น้ำตาเทียม
เราใช้สลับกัน ช่วงไหนแห้งมากใช้น้ำตาเทียม ช่วงไหนแห้งน้อยใช้ยาล้างตา และจากที่ใช้มาซัก 3 เดือนแล้ว ยังไม่พบปัญหาอะไร
ปล. 1 มันหาซื้อยากมาก เราหาซื้อตามร้านขายยาไม่ได้เลย ตัวที่ซื้อนี่ซื้อมาจาก ร้านขายยา pure ที่รู้สึกจะเป็นส่วนหนึ่งของ bigC
ปล. 2 บริษัทที่ผลิต คือ A.N.B. Laboratories เป็นบริษัทที่ผลิตน้ำเกลือ Klean & Kare ขวดหัวแหลมๆ แบบเดียวกันเลย
ปล. 3 ยาล้างตาของแต่ละยี่ห้อมีส่วนประกอบไม่เหมือนกัน บางยี่ห้อ(ส่วนใหญ่เลยแหละ) มีวัตถุกันเสีย แต่ยี่ห้อที่แนะนำไม่มีนะจ้ะ
ปล. 4 ถึงขวดจะดูใหญ่จนตอนแรกคิดว่าถ้าเทแล้วต้องไหลโจ๊ก แต่รูที่ขวดเล็กมาก ถ้าใช้จนชินแล้วสามารถบังคับให้มันออกมาทีละหยดได้สบายบรื๋อ
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ
[CR] เมื่อ "ตาแห้ง" แต่ "งบจำกัด"
เราทำ PRK (คล้ายๆ lasik แต่รายละเอียดต่างกันบางอย่าง) มาน่าจะ 6-7 ปีแล้ว และผลพลอยได้ที่ไม่อยากได้เลยคือ "ตาแห้ง"
เราเชื่อว่าเพื่อนหลายคนที่ทำ lasik หรือ PRK คงจะมีบางคนประสบปัญหา ตาแห้ง เหมือนกัน และทางแก้ยอดฮิตเลยคือ น้ำตาเทียม สารพัดยี่ห้อ ที่เห็นรีวิวกันในกระทู้ทั้งหลาย ซึ่งตัวที่ผมใช้อยู่เป็นประจำเลยคือ cellufresh MD กับ natear ซึ่งทั้งสองตัวนี้สิ่งที่เหมือนกันคือเป็นแบบ รายเดือน ราคาค่าตัวก็จะถูกกว่าพวกรายวันอยู่ (cellufresh 15 ml ราคา 160 -180 , natear 10 ml ราคา 90-110 บาท) อีกข้อที่เหมือนกันคือ ใช้วัตถุกันเสียแบบที่ว่าจะสลายง่ายมาก แค่โดนอากาศหรือน้ำเนี่ยแหละก็สลายแล้ว (ตามที่เค้าเคลม) ซึ่งก็เหมาะกับผมซึ่งต้องใช้ทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง แทบจะชั่วโมงละครั้ง ไอ้จะให้ใช้แบบรายวันแบบปราศจากสารกันเสีย ราคาก็แพงเหลือเกิน สรุปคือก็ใช้ 2 ยี่ห้อนี้แหละ สลับกันแล้วแต่อารมณ์และเสื้อผ้าหน้าผม
แต่แล้วก็ได้มาพบกับตัวเลือกอีกตัวแบบบังเอิญ
มันคือ "ยาล้างตา"
ก่อนจะไปลงรายละเอียดต้องบอกก่อนว่า "มันไม่สามารถใช้แทนกันได้หรอกนะ!!!" น้ำตาเทียมกับยาล้างตา ชื่อมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ไม่มีหมอคนไหนจ่ายยาคนไข้ที่ตาแห้งด้วยยาล้างตาแทนน้ำตาเทียมหรอก
ก่อนจะงงไปมากกว่านี้ เอารูปยาล้างตาที่เราใช้มาให้ดู
มันคือ ยาล้างตา ยี่ห้อ ออพ-ไอซ์ (OP-IZE)
อันนี้รูปเมื่อเปิดฝา ตรงจะแหลมๆ สามารถเหยาะใส่ลูกตาได้เลย
อันนี้สรรพคุณข้างขวด
จาก สรรพคุณข้างขวด สิ่งที่อยากให้สังเกตคือ มันบอกว่า "มีความสมดุลกับน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตา"
ดังนั้น มันควรจะดีกว่าเอาน้ำเปล่าหรือน้ำประปามาหยอดใส่ลูกตา
แต่คือ เราไม่ได้เอามาใช้ล้างตาหรอก เราเอามาหยดใส่ลูกกะตาเหมือนใช้น้ำตาเทียม
สิ่งที่ได้คือ มันช่วยให้ความชุ่มชื้น "บ้าง"
คะแนนความชุ่มชื้นของมันคือ ดีกว่าน้ำเปล่า แต่ไม่เท่าน้ำตาเทียม
ข้อเสียของมันคือ มันไม่เคลือบลูกกะตาเหมือนน้ำตาเทียม เพราะฉะนั้นมันจะชุ่มชื้นแค่ "แป๊บเดียว"
ดังนั้นก็ต้องหยดบ่อยหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะหมดไว ไม่ต้องห่วงว่าจะเปลือง เพราะปริมาณของมันในรูปคือ 110 ml
ปริมาณมากกว่าน้ำตาเทียม 7 เท่า (ขวด 15 ml) !!! แต่ราคาค่าตัวของมันคือ 70 บาท !!! คือ ถูกมากกกกกกกกกกกกกก ก.ไก้ล้านตัว
สำหรับเรา มันเหมาะจะใช้ช่วงที่ตาไม่แห้งมาก
แต่ถ้าช่วงที่รู้ตัวว่าต้องตาแห้งมากๆ แน่นอน เช่น ช่วงที่นอนหลับ เราจะกลับไปใช้น้ำตาเทียมหยดก่อนนอนเหมือนเดิม
ข้อดีอีกอย่าง นอกจากความถูก คือ มันไม่ใส่วัตถุกันเสีย (ดูที่ฉลากภาพสอง)
ดังนั้น เหยาะไปเลย เหยาะแบบไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องกลัวเปลือง ไม่ต้องกลัวหมด ไม่ต้องกลัวสารกันเสีย เหยาะๆๆๆๆๆ เข้าไป 555+
อ้อ ดูคำเตือนด้วย เค้าบอกว่าเก็บได้แค่ 30 วันหลังเปิดใช้ เนื่องจากไม่มีสารกันเสีย
เอาล่ะ สุดท้ายนี้ เราจะบอกว่าเราไม่ได้เป็นหมอตา และเราไม่ได้ปรึกษาหมอตา ความเห็นของเราอาจมีความเสี่ยงกับตาของคุณ ตาเราอาจจะโอเคกับวิธีนี้แต่คนอื่นไม่รู้ จงใช้อย่างระมัดระวัง ตาใครตามัน
ขอเน้นย้ำอีกครั้ง เราไม่ได้ใช้ ยาล้างตา แทน น้ำตาเทียม
เราใช้สลับกัน ช่วงไหนแห้งมากใช้น้ำตาเทียม ช่วงไหนแห้งน้อยใช้ยาล้างตา และจากที่ใช้มาซัก 3 เดือนแล้ว ยังไม่พบปัญหาอะไร
ปล. 1 มันหาซื้อยากมาก เราหาซื้อตามร้านขายยาไม่ได้เลย ตัวที่ซื้อนี่ซื้อมาจาก ร้านขายยา pure ที่รู้สึกจะเป็นส่วนหนึ่งของ bigC
ปล. 2 บริษัทที่ผลิต คือ A.N.B. Laboratories เป็นบริษัทที่ผลิตน้ำเกลือ Klean & Kare ขวดหัวแหลมๆ แบบเดียวกันเลย
ปล. 3 ยาล้างตาของแต่ละยี่ห้อมีส่วนประกอบไม่เหมือนกัน บางยี่ห้อ(ส่วนใหญ่เลยแหละ) มีวัตถุกันเสีย แต่ยี่ห้อที่แนะนำไม่มีนะจ้ะ
ปล. 4 ถึงขวดจะดูใหญ่จนตอนแรกคิดว่าถ้าเทแล้วต้องไหลโจ๊ก แต่รูที่ขวดเล็กมาก ถ้าใช้จนชินแล้วสามารถบังคับให้มันออกมาทีละหยดได้สบายบรื๋อ
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ