สวัสดีคะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา เรามีเรื่องอยากเล่าให้ฟังขอเกริ่นก่อนนะคะ เราเป็นนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัยนึงคะ ทุกปิดเทอมเราจะต้องไปทำจิตอาสากับทางผู้มอบทุนคะ โดยจะไปนอนพักในที่ๆทางผู้มอบทุนจัดไว้ให้คะ โดยจะแบ่งนักศึกษาออกไปตามห้องต่างๆคะ ตัวเรามักจะได้นอนห้องใหญ่ ซึ่งห้องนี้จะนอนได้ 15 คน ห้องน้ำในตัว เราชอบนอนแถวหน้าห้องน้ำโดยมีเพื่อนนอนคั่นเรากับห้องน้ำไว้คนเดียว เพราะ เราเป็นคนเข้าห้องน้ำบ่อยตอนกลางคืน ด้วยความที่ห้องนอนนี้อยู่ในตึกโรงพยาบาลคะ แต่แยกมาจากฝั่งโรงพยาบาลนะคะ เป็นที่พักของบุคคลากร ซึ่งเป็นหอที่ค่อนข้างมืดและเงียบมาก ส่วนตัวเราเองเราไม่เคยเจอผีแต่ก็ความเชื่อและกลัวมาก เราไปนอนที่นี่ 2 คืนคะ ในคืนแรกเราสวดมนต์และซื้อเตียง(เตียงเราคาดว่าน่าจะเป็นเตียงหอผู้ป่วยที่เก่าแล้ว มั้งคะ ไม่แน่ใจ แต่หมอน เป็นหมอนโรงพยาบาลคะ) เข้าเรื่องนะคะ คืนแรกเราก็นอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม เพราะ เหนื่อยมาก แล้วคืนนั้นอากาศในห้องก็ร้อนมาก เลยตื่นมาตอนตี 2 บรรยากาศวังเวงมาก แต่ข้างล่างตึกค่อนข้างเสียงดังเนื่องจากเป็นตลาดกลางคืน มันเหมือนในห้องกับตลาดเป็นคนละโลกกันเลย เราลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำเพื่อเอาน้ำลูบตัว ตอนที่เดินออกมาเราเพิ่งสังเกตุเห็นว่าเพื่อนในห้องห่มผ้ากันทุกคน ก็คิดในใจว่า "
ร้อนขนาดนี้ห่มกันไปได้ไงว่ะ" ช่วงที่กำลังหลับตาเราก็นอนมองขึ้นไปบนเพดาน บนหัวเตียงเราจะมีตู้เสื้อผ้า 4 ตู้เรียงกันอยู่ (เป็นตู้เหล็กที่เปิดแล้วจะเสียงดังๆอะคะ) ทีนี้หางตามันมองไปเห็นตู้ที่อยู่ทางขวามือเราเห็นมีเงายาวๆเหมือนขาพาดลงมาจากตู้ ตอนนั้นใจเราหล่นตุ้บเหมือนใจจะวาย ข่มตาหลับใจสั่นไปหมด สักพักรู้สึกมีคนเดินรอบเตียง อยากลืมตาดูก็อยาก แต่ไม่กล้าเว้ยยย T.T แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ เช้ามาเราก็พูดเล่นกับเพื่อน ว่าเมื่อคืนอากาศมันร้อนนอนห่มผ้ากันได้ไงว่ะ สิ่งที่เพื่อนตอบมาคือ มันหนาวมากเลยนนะ ผ้าห่มนี่ห่มกันหนาวไม่ได้เลย (-.- ต้องรู้สึกยังไงหรอมที่เพื่อนบอกหนาวแต่ตรูร้อนนนน) แต่เราเองก็ไม่ได้พูดไรต่อ ด้วยความที่คิดว่าเมื่อคืนคงกลัวบรรยากาศแล้วคิดไปเอง คืนที่สอง คืนสุดท้าย เราลืมบอกว่าทางซ้ายมือเราจะมีเพื่อนนอนอยู่เตียงนึง แล้วถัดไปเป็นห้องน้ำ เรากับเพื่อนนอนหันหน้าหากัน ซึ่งแปลว่าเราหันเข้าห้องน้ำ ก็คุยเล่นกันตามภาษา พอเริ่มดึกเพื่อนคนอื่นๆในห้องก็จะปิดไฟ เราคิดไงไม่รู้บอกว่าไม่อยากให้ปิด ใจมันรู้สึกว่าถ้าคืนนี้ปิดเราจะต้องเจออะไรแน่นอน แต่ด้วยเราเป็นคนที่ปากไวคิดอะไรก็พูดเลย เราก็พูดกับเพื่อนที่นอนฝั่งซ้ายว่า " ถ้ากูปิดไฟกูต้องเจอแน่เลย" เพื่อนเราก็เหมือนจะไม่ได้คิดไรเลยบอกเราให้นอน เราก็ยื้ออยู๋สักพัก แต่ด้วยความเกรงใจก็เลยปิดก็ปิดว่ะ เพราะ คนอื่นก็เริ่มนอนกันแล้ว ด้วยความที่นอนไม่หลับก็ยังตาค้างอยู่ แต่ตัวยังหันหน้าเข้าห้องน้ำ อยู่ เพื่อนเราก็ยังนอนไม่หลับก็คุยกันเบาๆ สักพักเราเห็นไฟห้องน้ำติดๆดับๆ ทั้งๆที่ห้องน้ำเราทุกคนปิดไฟไปแล้ว ด้วยความกลัวก็เลยหลับตาปี๋ ไอเพื่อนข้างๆก็เรียกถามว่าเราเป็นอะไร เราก็เลยลืมตา คราวนี้เห็นเลย เป็นผู้หญิงผมยาว ชุดดำ ใส่กางเกงขาสั้น ยืนเปิดปิดไฟหน้าห้องน้ำ ดังแปะๆ แปะๆ อยู่ สติแทบหลุด ด้วยความรักเพื่อน + ไม่แน่ใจว่าคนหรือผี ก็พูดกับเพื่อนว่า "หันไปข้างหลังดิ" เพื่อนซึ่งไม่ได้คิดอะไรก็หันไปมองแล้วก็หันกลับมาแทบจะทันที แน่นอนว่าเพื่อนหน้าซีดมาก พลางพูดว่า นอนเถอะ แล้วมันก็หลับไป เราเองกลัวก็กลัวแต่ก็ไม่กล้าโฟกัสที่หน้าห้องน้ำเลยหลับตาลง พออีกวันตอนกินข้าว เราถามเพื่อนว่าใครใส่ชุดดำ หรือ น้ำเงินเข้มนอนไหม สิ่งที่ตอบมาคือไม่มี และ เราก็มั่นใจว่าไม่มีใครเดินผ่านเราไปเข้าห้องน้ำ เพราะ ถ้ามีคนผ่านเรากับเพื่อนจะต้องเห็น จากนั้นเราก็เล่าเรื่องนี้ให้พี่ทุนปีอื่นฟัง พี่บอกว่าก็เจอกันทุกปีแหละ แค่ใครจะเป็นคนเจอแค่นั้น แต่เรามีเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง คืนสุดท้ายตอนที่เราหลับเราฝันว่า มีผู้หญิงเอาหน้าแนบกับบานเกร็ด ซึ่งหน้าที่แนบมานั้นอยู่สูงกว่าคนปกติจะเป็นได้ มองลอดมาตรงช่องว่าง ซึ่งหน้าต่างตรงนี้อยู่ปลายเท้าแน่นอนว่ามันตรงระดับตาที่เราเห็นพอดี ตอนนั้นร่างกายแข็งทื่อ เราไม่รู้ว่าสายตาที่มองมาเขาสื่ออะไร เรากลัว เราขยับไม่ได้ ไม่แม้แต่จะร้องเรียกเพื่อนด้วยซ้ำ เราถูกมองด้วยสายตานั้นนานมาก มากพอที่จะทำให้เราร้องไห้ แล้ว คิดในใจว่าเรากลัว เราแค่มาทำจิตอาสา เราไม่ได้มาทำอะไรไม่ดี อย่ามาหลอกเราเลย ตอนนั้นหน้าพ่อหน้าแม่ลอยมา ได้แต่คิดในใจว่าพ่อช่วยหนูด้วย ตอนนั้นรู้เลยว่ากลัวจนแทบบ้าคืออะไร ได้แต่คิดถึงพ่อถึงแม่วนไปวนมา สักพักเราสะดุ้งสุดตัวตื่นขึ้นมา เพราะ เพื่อนเราปลุก ตอนที่ตื่นนี่เหงื่อท่วมตัว หน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เพื่อนก็ถาม แต่เราเลือกที่จะไม่เล่า จนตอนไปกินข้าวก็นั่นแหละตามที่เล่ามา จากนั้นเราไม่รู้ว่าคืออะไรเรามักจะเห็นเงาหรืออะไรแปลกๆ ตลอดหลังจากเหตุการณ์นั้น แล้วก็ได้มีโอกาสไปดูดวงกับป้าแก่ๆคนนึงในชุมชนแออัดแถวสะพานควาย เราเปิดไพ่มาไพ่หนึ่ง ป้ามองไพ่เงียบๆ แล้วอยู่ๆป้าก็พูดว่า คนเราบางครั้งมีโอกาสได้เจอสิ่งลี้ลับ ถ้าเราจูนเขาติดเราก็มีโอกาสที่จะเห็นอีกเรื่อยๆ แต่โชคดีที่เราจูนมาแค่บางส่วนเลยจะมีแค่บางครั้งที่เราอาจเห็นหรือเจอ ซึ่งเราค่อนข้างเชื่อกับที่เราพบมา
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านจนจบ เราเรียงเรื่องไม่ถูก พยายามเล่าให้รู้เรื่อง จริงๆมีอีกหลายอย่างที่เจอ ไว้ถ้ามีโอกาสเราจะเล่าให้ฟังนะ
---โรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องนี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล---
ปล.ป้าไม่รู้ว่าเราเคยเจออะไรมา
มีเรื่องผีมาเล่าให้ฟัง
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านจนจบ เราเรียงเรื่องไม่ถูก พยายามเล่าให้รู้เรื่อง จริงๆมีอีกหลายอย่างที่เจอ ไว้ถ้ามีโอกาสเราจะเล่าให้ฟังนะ
---โรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องนี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล---
ปล.ป้าไม่รู้ว่าเราเคยเจออะไรมา