ถึงคิวศธ.ฉาวโฉ่ อม11ล้าน ทุนการศึกษานร.
https://www.thairath.co.th/content/1223395
โครงการเสมาพัฒนาชีวิตเด็ก ปปท.สอบโกงคนจนเพิ่ม 5 จว. รมว.พม.รับโยงถึง‘ปลัด-รอง’
โกงเงินฉาวอีก ถึงคิวกระทรวงศึกษาธิการตรวจพบทุจริตโครงการเสมาพัฒนาชีวิต เงินทุนการศึกษาเด็กนักเรียนหญิงเหยื่อตกเขียวช่วง 10 ปีที่ผ่านมารวมกว่า 88 ล้านบาท ถูกยักยอกไปกว่า 11 ล้านบาท แจ้งความดำเนินคดีอาญาพร้อมตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ 2 รายรับสารภาพโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีญาติพี่น้องและคนรู้จัก 19 บัญชี ก่อนโอนต่อหน่วยงานที่รับทุนเพียง 77 ล้านบาท รมว.ศธ.เต้นผางสั่งตรวจสอบกองทุนอื่นๆด้วย ส่วนคดีงาบเงินคนจน ป.ป.ท.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งอีก 5 จังหวัด “
น้องแบม” นิสิตสาวแฉโกงยืนยันยังรักสถาบันและวิชาชีพที่เรียน แจงเหตุไม่ไปรับเกียรติบัตรที่ มมส. เพราะจะรอผลสอบคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่จะแถลงวันจันทร์นี้ ด้านอธิการบดี ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมอ้าแขนรับ “
น้องแบม” เรียนต่อปริญญาโท แถมให้ทำงานที่มหาวิทยาลัยด้วย รมว.พม.ยอมรับผลสอบพาดพิงถึงปลัด-รองปลัด เล็งชงนายกฯใช้ ม.44 จัดการ
เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ยังเดินหน้าตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดต่างๆอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ น.ส.
ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือ มมส. ผู้ออกมาเปิดโปงขบวนการทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ไม่ได้ไปร่วมงานรับมอบใบประกาศเกียรติคุณและรับทุนการศึกษาที่ มมส. เพราะต้องการรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงอาจารย์ที่ไม่ใส่ใจรับฟังข้อมูล หนำซ้ำสั่งให้กราบเท้าขอโทษเจ้าหน้าที่ศูนย์ และยังถูกอาจารย์ทุบหลัง 2 ครั้ง
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 8 มี.ค. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.ขอนแก่น น.ส.
ปณิดา ยศปัญญา หรือน้อง
แบม ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเครื่องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ว่า ที่ไม่ไปรับทุนการศึกษาและเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มมส. เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เป็นการประสานที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน เนื่องจากมีอาจารย์และเจ้าหน้าที่ติดต่อกันมาซ้ำซ้อนกันและรวดเร็วเกินไป เดิมให้มารับทุนการศึกษาในวันดังกล่าว แต่กลับมีอาจารย์อีกท่านแจ้งมาว่าจะขอมอบรางวัลในวันศุกร์นี้ ทำให้เกิดความสับสนว่าเป็นรางวัลเดียวกันหรือแยกกัน อีกทั้งส่วนตัวและครอบครัว ยังไม่ขอรับทุนการศึกษาและเกียรติบัตรที่คณะมอบให้เนื่องจากต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการสภา มมส.ก่อน เพราะขณะนี้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการสอบสวนแล้วใน 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย เรื่องการสั่งกราบเท้า ทำร้ายร่างกาย ไม่ให้การช่วยเหลือนักศึกษาในปกครองของตนเอง และการละเมิดสิทธิ์นักศึกษา
“หนูรักสถาบัน รักคณะ รักในสาขาที่เรียนมา ที่ตัดสินใจไม่รับรางวัลครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย และขอไม่พูดกับคณะครูที่เปรียบเสมือนแม่คนที่ 2 เพราะตั้งแต่เด็ก นอกจากต้องการเป็นทหารแล้วยังต้องการเป็นนักพัฒนาชุมชนเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ คนเร่ร่อน คนยากคนจน จึงตัดสินใจเลือกเรียนสาขาพัฒนาชุมชน มีหัวหน้าภาควิชาและอาจารย์เป็นเสมือนแม่อีกท่านหนึ่งที่คอยสั่งสอนตลอดระยะเวลา 4 ปี แต่พอหนูนำสิ่งที่ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมายมาบอกกล่าวกลับถูกกระทำลักษณะเช่นนี้ จึงต้องออกมาเรียกร้อง สิทธิ์และสิ่งที่ถูกต้องให้ตัวเองและครอบครัว ทราบว่าคณะกรรมการที่มหาวิทยาลัยแต่งตั้งขึ้นจะแถลงการณ์ในวันจันทร์นี้” น้อง
แบมกล่าว
น.ส.
ปณิดาเผยด้วยว่า ถูกสั่งสอนมาตลอดเรื่องการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ครอบครัวเน้นย้ำเสมอเรื่องระเบียบวินัยและการทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยอมรับว่ากลัวและร้องไห้คนเดียวมาตลอดหลังจากตัดสินใจร้องเรียนต่อ คสช. ตนไม่เสียใจที่เรียน มมส. ไม่เสียใจที่เรียนคณะมนุษยศาสตร์ฯ สาขาพัฒนาชุมชน การออกมาร้องเรียนในสิ่งที่ผิดคิดว่าทำดีแล้ว จะตั้งใจเดินหน้าสู้ต่อไป คิดว่าถ้าเราไม่ทำอะไรให้ประเทศไทยก็เหมือนไม่รักชาติ จากนี้ไปเหลือเวลาเพียง 2 เดือนจะต้องสำเร็จการศึกษา ขอลงพื้นที่ทำวิจัยเก็บข้อมูลตามระยะเวลากำหนดเพื่อให้จบทันพร้อมเพื่อนๆ จากนี้ไป ขอมุ่งมั่นเรื่องเรียนอย่างเดียวเพื่อให้สำเร็จการศึกษาและก้าวสู่การเป็นนักพัฒนาชุมชนที่ดีตามที่ตั้งใจไว้
ดร.
เอกอนันต์ สมบัติสกุลกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น เป็นประธานการประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการเนื่องในวันครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขอเป็นส่วนหนึ่งในการยกย่องเชิดชูเกียรติและให้กำลังใจ น.ส.
ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิต มมส. ลูกหลานชาวขอนแก่น โดยยินดีให้การสนับสนุนทุนการศึกษาระดับปริญญาโท ตามที่น้องแบมจะเลือกหลักสูตรที่เปิดการเรียนการสอน ขณะนี้น้องแบมศึกษาชั้นปีที่ 4 เหลือเพียงทำวิจัยก็สำเร็จการศึกษา หากติดปัญหาพร้อมรับการโอนย้ายทันที เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วมหาวิทยาลัย พร้อมรับเข้าทำงานในกลุ่มบุคลากรทางการศึกษา นอกจากนี้ระหว่างทำงานที่มหาวิทยาลัย ยังสามารถศึกษาระดับปริญญาโทควบคู่ไปด้วย หากจบปริญญาโทแล้วน้องแบมต้องการเป็นครูผู้สอน มหาวิทยาลัยจะให้การสนับสนุนงานด้านวิชาการจนได้เป็นครูผู้สอนตามเกณฑ์มาตรฐานที่ สกอ.กำหนดไว้ด้วย
พล.ต.อ.
จรัมพร สุระมณี โฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการ หรือบอร์ด ป.ป.ท.ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มอีก 5 จังหวัด ประกอบด้วย
บึงกาฬ หนองคาย น่าน สุราษฎร์ธานี และ
ตราด ใน 5 จังหวัดมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง 25 ราย เป็นระดับ ผอ.ศูนย์ฯทั้ง 5 จังหวัด และเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ลูกจ้าง พนักงาน คนนอก อีก 20 คน แบ่งเป็น บึงกาฬ 9 คน หนองคาย 3 คน น่าน 5 คน สุราษฎร์ธานี 6 คน และตราด 2 คน มีการปลอมลายมือชื่อเบิกจ่ายเงินไม่ครบตามความจริงและสวมสิทธิผู้ไร้ที่พึ่ง เข้าข่ายความผิดมาตรา 147 มาตรา 157 มาตรา 161 และมาตรา 162 จะเชิญ สตง.มาร่วมตรวจสอบประสานข้อมูลการทำงานร่วมกัน โดยก่อนหน้านี้บอร์ด ป.ป.ท.อนุมัติไต่สวนไปรอบแรก 2 จังหวัด คือขอนแก่น และเชียงใหม่ นอกจากนี้มีอีก 21 จังหวัดที่ตรวจพบความผิดปกติ ประกอบด้วย
พระนครศรีอยุธยา สระบุรี กระบี่ ตรัง สงขลา นราธิวาส ยะลา พัทลุง อุดรธานี ร้อยเอ็ด นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ยโสธร ลำพูน ลำปาง เชียงราย พิษณุโลก สระแก้ว และ
อ่างทอง
สำหรับพฤติการณ์การทุจริตที่พบมี 8 รูปแบบคือ นำชื่อคนเสียชีวิตมาได้รับสิทธิรับเงินนำข้อมูลบุคคลที่ไปร่วมในโครงการอื่น มาเป็นชื่อของผู้มีสิทธิได้รับเงิน นำชื่อคนที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์มาเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงิน ปลอมลายมือชื่อข้อมูล ให้ประชาชนลง ลายมือชื่อในเอกสารขอรับเงิน ให้หน่วยงานของรัฐอื่นส่งรายชื่อผู้เข้าหลักเกณฑ์ให้ศูนย์แต่จ่ายเงินให้ไม่ครบ รายชื่อในแบบสำรวจไม่ปรากฏในทะเบียนราษฎรและคัดสำเนาบัตรประชาชนมาปลอมลายมือชื่อ
พล.อ.
อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ว่า กระทรวงลงพื้นที่ 44 หน่วยตรวจพบ 15 หน่วยทุจริต ที่เหลือกำลังตรวจอยู่ ได้สั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องมาช่วยราชการทำการสอบสวน 30 วัน เมื่อทราบผลจะลงโทษเบื้องต้นก่อน เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นขบวนการเดียวกัน ผลสอบลอตแรกสิ้นเดือน มี.ค.นี้รู้แน่ โยงระดับไหนดำเนินการหมด เมื่อถามว่าจากข้อมูลลอตแรกพาดพิงระดับใดบ้าง พล.อ.อนันตพร ตอบว่า พาดพิงทุกระดับ รวมทั้งปลัดและรองปลัด พม.ที่ถูกคำสั่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลก็มีคนพาดพิงถึง แต่ต้องไปพิสูจน์ก่อน
ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่าตัวเลขผลสอบของ ป.ป.ท.กับกระทรวงไม่ตรงกัน รมว.พม.กล่าวว่า เนื่องจาก ป.ป.ท.ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวง ต่างคนต่างคนสอบ ทำให้ความสัมพันธ์ของเอกสารไปด้วยกันไม่ได้ แต่ขณะนี้พยายามคุยเพื่อทำงานร่วมกัน ขณะนี้ตัวบุคคลเริ่มชัดว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง เมื่อถามว่าเจอตอบ้างหรือยัง พล.อ.อนันตพรตอบว่า “ผมใหญ่กว่าตอ ขุดได้หมดอยู่แล้ว” เมื่อถามว่าจะมีการใช้มาตรา 44 ดำเนินการหรือไม่ พล.อ.อนันตพร ตอบว่า ถ้าจำเป็นจะขอนายกฯใช้เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ตอนนี้ยังไม่ได้ขอ ต้องคุยกับนายกฯก่อนแต่ความจริงแล้วมีช่องทางอื่นๆ ที่ทำได้ก่อนจะไปถึงมาตรา 44
พล.อ.
ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่งทีมเข้าไปตรวจสอบ 2 ทีมคือทีมของ กระทรวง พม. และทีมของ ป.ป.ท. ขณะนี้พบข้อมูลแล้ว 24 หน่วยงาน ไม่พบข้อมูล 11 หน่วยงาน อยู่ระหว่างรอผลสอบอีก 64 หน่วยงาน ที่พบข้อมูลจะสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่ ส่วนศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ ผอ.ศูนย์ฯ เกษียณราชการไปแล้ว รวมถึงศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่ ผอ.ศูนย์ฯลาออกไปแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯสามารถเอาผิดทางวินัยได้และตั้งคณะกรรมการสอบไปแล้ว ได้สั่งการให้ รมว.พม.ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันและรายงานมายังตน ถ้าพบเป็นข้าราชการระดับสูงในพื้นที่เกี่ยวข้องให้สั่งย้ายออกจากพื้นที่ทันที
ขณะที่การตรวจสอบขบวนการโกงเงินช่วยเหลือคนจนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯยังดำเนินการอย่างเข้มข้น ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการตรวจพบการทุจริตเงินทุนการศึกษาเด็กนักเรียนยากไร้อีก โดยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า กลุ่มตรวจสอบภายในสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ตรวจสอบบัญชีงบประมาณประจำปี 2560 ของสำนักงานปลัด ศธ. พบว่ามีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยมีการโอนเงินทุนการศึกษาของนักเรียนในโครงการเข้าบัญชีของบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2551-2561 เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 88 ล้านบาท เรื่องนี้ได้รายงานให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบแล้ว รมว.ศธ.สั่งการให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ทุจริตและให้ตรวจสอบกองทุนอื่นๆให้เข้มข้นด้วย
ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานปลัด ศธ.ไปแจ้งความที่ สน.ดุสิต ในคดีอาญา และส่งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.แล้ว ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและย้ายบุคคลที่ตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง 2 รายพ้นหน้าที่ไปแล้ว จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหายอมรับแล้วว่ากระทำความผิดจริง โดยโอนเงินเข้าบัญชีญาติพี่น้องและคนรู้จักถึง 19 บัญชี ตั้งแต่ปี 2551-2561 รวมกว่า 88 ล้านบาท แต่โอนต่อเข้าบัญชีหน่วยงานที่รับทุนเพียง 77 ล้านบาท ยักยอกไปกว่า 11 ล้านบาท โดยยอดล่าสุดในปี 2561 โอนเข้าบัญชีบุคคลอื่นกว่า 3 ล้านบาท แต่ไม่มีการโอนเข้าบัญชีหน่วยงานหรือผู้ที่ได้รับทุนดังกล่าวเลย เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะ รมว.ศธ. มีนโยบายและให้ความสำคัญในการปราบปรามการทุจริตที่เกิดขึ้นใน ศธ. ตนสั่งการให้กลุ่มตรวจสอบฯดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากขึ้นแล้ว ยืนยันว่าคนที่กระทำผิดต้องได้รับโทษขั้นเด็ดขาด นอกจากจะถูกไล่ออกแล้วยังต้องได้รับโทษตามกฎหมายอาญาด้วย
ดร.
ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า กองทุนนี้เป็นกองทุนแก้ปัญหาตกเขียวเด็กหญิงที่ถูกล่อลวงไปค้าประเวณี โดยเฉพาะภาคเหนือ สมัยนาย
อาทร จันทวิมล เป็นรองปลัด ศธ. เป็นผู้ประสานงานขอเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาช่วยเด็กตกเขียว โดยให้สำนักงานปลัด ศธ.บริหารจัดการ แต่ระยะหลังๆค่อนข้างเงียบไม่มีใครทำอะไรเลยทำให้ไม่มีใครสนใจ นาย
อาทรยังสอบถามเลยว่ากองทุนนี้ยังอยู่หรือไม่ และ ศธ.เอาไปทำอะไรบ้าง ก็ไม่มีคำตอบเพราะไม่มีใครรู้ว่ายังมีอยู่หรือไม่
JJNY : ถึงคิวศธ.ฉาวโฉ่ อม11ล้าน ทุนการศึกษานร./แฉข้อมูลน่าตกใจ เงินช่วยผู้ยากไร้ โกงกระทั่งทุนการศึกษาเด็ก
https://www.thairath.co.th/content/1223395
โครงการเสมาพัฒนาชีวิตเด็ก ปปท.สอบโกงคนจนเพิ่ม 5 จว. รมว.พม.รับโยงถึง‘ปลัด-รอง’
โกงเงินฉาวอีก ถึงคิวกระทรวงศึกษาธิการตรวจพบทุจริตโครงการเสมาพัฒนาชีวิต เงินทุนการศึกษาเด็กนักเรียนหญิงเหยื่อตกเขียวช่วง 10 ปีที่ผ่านมารวมกว่า 88 ล้านบาท ถูกยักยอกไปกว่า 11 ล้านบาท แจ้งความดำเนินคดีอาญาพร้อมตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ 2 รายรับสารภาพโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีญาติพี่น้องและคนรู้จัก 19 บัญชี ก่อนโอนต่อหน่วยงานที่รับทุนเพียง 77 ล้านบาท รมว.ศธ.เต้นผางสั่งตรวจสอบกองทุนอื่นๆด้วย ส่วนคดีงาบเงินคนจน ป.ป.ท.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งอีก 5 จังหวัด “น้องแบม” นิสิตสาวแฉโกงยืนยันยังรักสถาบันและวิชาชีพที่เรียน แจงเหตุไม่ไปรับเกียรติบัตรที่ มมส. เพราะจะรอผลสอบคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่จะแถลงวันจันทร์นี้ ด้านอธิการบดี ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมอ้าแขนรับ “น้องแบม” เรียนต่อปริญญาโท แถมให้ทำงานที่มหาวิทยาลัยด้วย รมว.พม.ยอมรับผลสอบพาดพิงถึงปลัด-รองปลัด เล็งชงนายกฯใช้ ม.44 จัดการ
เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ยังเดินหน้าตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดต่างๆอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือ มมส. ผู้ออกมาเปิดโปงขบวนการทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ไม่ได้ไปร่วมงานรับมอบใบประกาศเกียรติคุณและรับทุนการศึกษาที่ มมส. เพราะต้องการรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงอาจารย์ที่ไม่ใส่ใจรับฟังข้อมูล หนำซ้ำสั่งให้กราบเท้าขอโทษเจ้าหน้าที่ศูนย์ และยังถูกอาจารย์ทุบหลัง 2 ครั้ง
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 8 มี.ค. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.ขอนแก่น น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเครื่องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ว่า ที่ไม่ไปรับทุนการศึกษาและเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มมส. เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เป็นการประสานที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน เนื่องจากมีอาจารย์และเจ้าหน้าที่ติดต่อกันมาซ้ำซ้อนกันและรวดเร็วเกินไป เดิมให้มารับทุนการศึกษาในวันดังกล่าว แต่กลับมีอาจารย์อีกท่านแจ้งมาว่าจะขอมอบรางวัลในวันศุกร์นี้ ทำให้เกิดความสับสนว่าเป็นรางวัลเดียวกันหรือแยกกัน อีกทั้งส่วนตัวและครอบครัว ยังไม่ขอรับทุนการศึกษาและเกียรติบัตรที่คณะมอบให้เนื่องจากต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการสภา มมส.ก่อน เพราะขณะนี้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการสอบสวนแล้วใน 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย เรื่องการสั่งกราบเท้า ทำร้ายร่างกาย ไม่ให้การช่วยเหลือนักศึกษาในปกครองของตนเอง และการละเมิดสิทธิ์นักศึกษา
“หนูรักสถาบัน รักคณะ รักในสาขาที่เรียนมา ที่ตัดสินใจไม่รับรางวัลครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย และขอไม่พูดกับคณะครูที่เปรียบเสมือนแม่คนที่ 2 เพราะตั้งแต่เด็ก นอกจากต้องการเป็นทหารแล้วยังต้องการเป็นนักพัฒนาชุมชนเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ คนเร่ร่อน คนยากคนจน จึงตัดสินใจเลือกเรียนสาขาพัฒนาชุมชน มีหัวหน้าภาควิชาและอาจารย์เป็นเสมือนแม่อีกท่านหนึ่งที่คอยสั่งสอนตลอดระยะเวลา 4 ปี แต่พอหนูนำสิ่งที่ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมายมาบอกกล่าวกลับถูกกระทำลักษณะเช่นนี้ จึงต้องออกมาเรียกร้อง สิทธิ์และสิ่งที่ถูกต้องให้ตัวเองและครอบครัว ทราบว่าคณะกรรมการที่มหาวิทยาลัยแต่งตั้งขึ้นจะแถลงการณ์ในวันจันทร์นี้” น้องแบมกล่าว
น.ส.ปณิดาเผยด้วยว่า ถูกสั่งสอนมาตลอดเรื่องการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน ครอบครัวเน้นย้ำเสมอเรื่องระเบียบวินัยและการทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยอมรับว่ากลัวและร้องไห้คนเดียวมาตลอดหลังจากตัดสินใจร้องเรียนต่อ คสช. ตนไม่เสียใจที่เรียน มมส. ไม่เสียใจที่เรียนคณะมนุษยศาสตร์ฯ สาขาพัฒนาชุมชน การออกมาร้องเรียนในสิ่งที่ผิดคิดว่าทำดีแล้ว จะตั้งใจเดินหน้าสู้ต่อไป คิดว่าถ้าเราไม่ทำอะไรให้ประเทศไทยก็เหมือนไม่รักชาติ จากนี้ไปเหลือเวลาเพียง 2 เดือนจะต้องสำเร็จการศึกษา ขอลงพื้นที่ทำวิจัยเก็บข้อมูลตามระยะเวลากำหนดเพื่อให้จบทันพร้อมเพื่อนๆ จากนี้ไป ขอมุ่งมั่นเรื่องเรียนอย่างเดียวเพื่อให้สำเร็จการศึกษาและก้าวสู่การเป็นนักพัฒนาชุมชนที่ดีตามที่ตั้งใจไว้
ดร.เอกอนันต์ สมบัติสกุลกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น เป็นประธานการประชุมสัมมนาทางวิชาการและนิทรรศการเนื่องในวันครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขอเป็นส่วนหนึ่งในการยกย่องเชิดชูเกียรติและให้กำลังใจ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิต มมส. ลูกหลานชาวขอนแก่น โดยยินดีให้การสนับสนุนทุนการศึกษาระดับปริญญาโท ตามที่น้องแบมจะเลือกหลักสูตรที่เปิดการเรียนการสอน ขณะนี้น้องแบมศึกษาชั้นปีที่ 4 เหลือเพียงทำวิจัยก็สำเร็จการศึกษา หากติดปัญหาพร้อมรับการโอนย้ายทันที เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วมหาวิทยาลัย พร้อมรับเข้าทำงานในกลุ่มบุคลากรทางการศึกษา นอกจากนี้ระหว่างทำงานที่มหาวิทยาลัย ยังสามารถศึกษาระดับปริญญาโทควบคู่ไปด้วย หากจบปริญญาโทแล้วน้องแบมต้องการเป็นครูผู้สอน มหาวิทยาลัยจะให้การสนับสนุนงานด้านวิชาการจนได้เป็นครูผู้สอนตามเกณฑ์มาตรฐานที่ สกอ.กำหนดไว้ด้วย
พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี โฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการ หรือบอร์ด ป.ป.ท.ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มอีก 5 จังหวัด ประกอบด้วย บึงกาฬ หนองคาย น่าน สุราษฎร์ธานี และตราด ใน 5 จังหวัดมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง 25 ราย เป็นระดับ ผอ.ศูนย์ฯทั้ง 5 จังหวัด และเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ลูกจ้าง พนักงาน คนนอก อีก 20 คน แบ่งเป็น บึงกาฬ 9 คน หนองคาย 3 คน น่าน 5 คน สุราษฎร์ธานี 6 คน และตราด 2 คน มีการปลอมลายมือชื่อเบิกจ่ายเงินไม่ครบตามความจริงและสวมสิทธิผู้ไร้ที่พึ่ง เข้าข่ายความผิดมาตรา 147 มาตรา 157 มาตรา 161 และมาตรา 162 จะเชิญ สตง.มาร่วมตรวจสอบประสานข้อมูลการทำงานร่วมกัน โดยก่อนหน้านี้บอร์ด ป.ป.ท.อนุมัติไต่สวนไปรอบแรก 2 จังหวัด คือขอนแก่น และเชียงใหม่ นอกจากนี้มีอีก 21 จังหวัดที่ตรวจพบความผิดปกติ ประกอบด้วย พระนครศรีอยุธยา สระบุรี กระบี่ ตรัง สงขลา นราธิวาส ยะลา พัทลุง อุดรธานี ร้อยเอ็ด นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ยโสธร ลำพูน ลำปาง เชียงราย พิษณุโลก สระแก้ว และอ่างทอง
สำหรับพฤติการณ์การทุจริตที่พบมี 8 รูปแบบคือ นำชื่อคนเสียชีวิตมาได้รับสิทธิรับเงินนำข้อมูลบุคคลที่ไปร่วมในโครงการอื่น มาเป็นชื่อของผู้มีสิทธิได้รับเงิน นำชื่อคนที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์มาเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงิน ปลอมลายมือชื่อข้อมูล ให้ประชาชนลง ลายมือชื่อในเอกสารขอรับเงิน ให้หน่วยงานของรัฐอื่นส่งรายชื่อผู้เข้าหลักเกณฑ์ให้ศูนย์แต่จ่ายเงินให้ไม่ครบ รายชื่อในแบบสำรวจไม่ปรากฏในทะเบียนราษฎรและคัดสำเนาบัตรประชาชนมาปลอมลายมือชื่อ
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ว่า กระทรวงลงพื้นที่ 44 หน่วยตรวจพบ 15 หน่วยทุจริต ที่เหลือกำลังตรวจอยู่ ได้สั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องมาช่วยราชการทำการสอบสวน 30 วัน เมื่อทราบผลจะลงโทษเบื้องต้นก่อน เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นขบวนการเดียวกัน ผลสอบลอตแรกสิ้นเดือน มี.ค.นี้รู้แน่ โยงระดับไหนดำเนินการหมด เมื่อถามว่าจากข้อมูลลอตแรกพาดพิงระดับใดบ้าง พล.อ.อนันตพร ตอบว่า พาดพิงทุกระดับ รวมทั้งปลัดและรองปลัด พม.ที่ถูกคำสั่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลก็มีคนพาดพิงถึง แต่ต้องไปพิสูจน์ก่อน
ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่าตัวเลขผลสอบของ ป.ป.ท.กับกระทรวงไม่ตรงกัน รมว.พม.กล่าวว่า เนื่องจาก ป.ป.ท.ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวง ต่างคนต่างคนสอบ ทำให้ความสัมพันธ์ของเอกสารไปด้วยกันไม่ได้ แต่ขณะนี้พยายามคุยเพื่อทำงานร่วมกัน ขณะนี้ตัวบุคคลเริ่มชัดว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง เมื่อถามว่าเจอตอบ้างหรือยัง พล.อ.อนันตพรตอบว่า “ผมใหญ่กว่าตอ ขุดได้หมดอยู่แล้ว” เมื่อถามว่าจะมีการใช้มาตรา 44 ดำเนินการหรือไม่ พล.อ.อนันตพร ตอบว่า ถ้าจำเป็นจะขอนายกฯใช้เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ตอนนี้ยังไม่ได้ขอ ต้องคุยกับนายกฯก่อนแต่ความจริงแล้วมีช่องทางอื่นๆ ที่ทำได้ก่อนจะไปถึงมาตรา 44
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่งทีมเข้าไปตรวจสอบ 2 ทีมคือทีมของ กระทรวง พม. และทีมของ ป.ป.ท. ขณะนี้พบข้อมูลแล้ว 24 หน่วยงาน ไม่พบข้อมูล 11 หน่วยงาน อยู่ระหว่างรอผลสอบอีก 64 หน่วยงาน ที่พบข้อมูลจะสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่ ส่วนศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ที่ ผอ.ศูนย์ฯ เกษียณราชการไปแล้ว รวมถึงศูนย์ประสานงานโครงการหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่ ผอ.ศูนย์ฯลาออกไปแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯสามารถเอาผิดทางวินัยได้และตั้งคณะกรรมการสอบไปแล้ว ได้สั่งการให้ รมว.พม.ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันและรายงานมายังตน ถ้าพบเป็นข้าราชการระดับสูงในพื้นที่เกี่ยวข้องให้สั่งย้ายออกจากพื้นที่ทันที
ขณะที่การตรวจสอบขบวนการโกงเงินช่วยเหลือคนจนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯยังดำเนินการอย่างเข้มข้น ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการตรวจพบการทุจริตเงินทุนการศึกษาเด็กนักเรียนยากไร้อีก โดยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า กลุ่มตรวจสอบภายในสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ตรวจสอบบัญชีงบประมาณประจำปี 2560 ของสำนักงานปลัด ศธ. พบว่ามีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยมีการโอนเงินทุนการศึกษาของนักเรียนในโครงการเข้าบัญชีของบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2551-2561 เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 88 ล้านบาท เรื่องนี้ได้รายงานให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบแล้ว รมว.ศธ.สั่งการให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้ทุจริตและให้ตรวจสอบกองทุนอื่นๆให้เข้มข้นด้วย
ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานปลัด ศธ.ไปแจ้งความที่ สน.ดุสิต ในคดีอาญา และส่งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.แล้ว ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและย้ายบุคคลที่ตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง 2 รายพ้นหน้าที่ไปแล้ว จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหายอมรับแล้วว่ากระทำความผิดจริง โดยโอนเงินเข้าบัญชีญาติพี่น้องและคนรู้จักถึง 19 บัญชี ตั้งแต่ปี 2551-2561 รวมกว่า 88 ล้านบาท แต่โอนต่อเข้าบัญชีหน่วยงานที่รับทุนเพียง 77 ล้านบาท ยักยอกไปกว่า 11 ล้านบาท โดยยอดล่าสุดในปี 2561 โอนเข้าบัญชีบุคคลอื่นกว่า 3 ล้านบาท แต่ไม่มีการโอนเข้าบัญชีหน่วยงานหรือผู้ที่ได้รับทุนดังกล่าวเลย เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะ รมว.ศธ. มีนโยบายและให้ความสำคัญในการปราบปรามการทุจริตที่เกิดขึ้นใน ศธ. ตนสั่งการให้กลุ่มตรวจสอบฯดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากขึ้นแล้ว ยืนยันว่าคนที่กระทำผิดต้องได้รับโทษขั้นเด็ดขาด นอกจากจะถูกไล่ออกแล้วยังต้องได้รับโทษตามกฎหมายอาญาด้วย
ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า กองทุนนี้เป็นกองทุนแก้ปัญหาตกเขียวเด็กหญิงที่ถูกล่อลวงไปค้าประเวณี โดยเฉพาะภาคเหนือ สมัยนายอาทร จันทวิมล เป็นรองปลัด ศธ. เป็นผู้ประสานงานขอเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาช่วยเด็กตกเขียว โดยให้สำนักงานปลัด ศธ.บริหารจัดการ แต่ระยะหลังๆค่อนข้างเงียบไม่มีใครทำอะไรเลยทำให้ไม่มีใครสนใจ นายอาทรยังสอบถามเลยว่ากองทุนนี้ยังอยู่หรือไม่ และ ศธ.เอาไปทำอะไรบ้าง ก็ไม่มีคำตอบเพราะไม่มีใครรู้ว่ายังมีอยู่หรือไม่