Day1 : เซียะเหมิน – ฉงชิ่ง 厦门 - 重庆
Day2 : ฉงชิ่ง – อู่หลง: อุทยานภูเขานางฟ้า重庆 - 武隆（仙女山）
Day3 : อู่หลง: อุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์, น้ำตกหุบผาสวรรค์武隆（天生三桥，龙水峡地缝）
Day4 : อู่หลง: ถ้ำฝูหรงต้ง武隆（芙蓉洞）- 重庆
Day5 : ฉงชิ่ง: ศาลาประชาคม, หงหยาต้ง重庆（重庆人民大礼堂，洪崖洞）
Day6 : ฉงชิ่ง – ยวึ๋นหยาง重庆 - 云阳
Day7 : อุทยานแห่งชาติยวึ๋นหยางหลงกัง – ฉงชิ่ง云阳（云阳龙缸风景区）- 重庆
Day8 : ฉงชิ่ง – ต้าจู๋ – ฉงชิ่ง重庆 - 大足（大足石刻）- 重庆
Day9 : ฉงชิ่ง – เล่อซัน重庆 - 乐山
Day10 : เล่อซัน – เอ๋อเหม่ยซัน乐山（乐山大佛）- 峨眉山
Day11 : เอ๋อเหม่ยซัน – เฉิงตู峨眉山（金顶）- 成都
Day12 : เฉิงตู : ดูหมีแพนด้า成都（成都大熊猫繁育研究基地）
Day13 : เฉิงตู : เขาชิงเฉิงซัน成都（青城山）
Day14 : เฉิงตู : ถนนคนเดินโบราณจิ๋นหลี่ – ซัวเถา成都（锦里古街）- 汕头
Day15 : ซัวเถา – เซียะเหมิน汕头 - 厦门

วันแรกของการเดินทาง
พวกเราเดินทางกัน 7 คนค่ะ นั่งรถไฟความเร็วสูงจากเซียะเหมินไปฉงชิ่งค่ะ ออกจากเซียะเหมินตั้งแต่ 7 โมงกว่า ไปถึงฉงชิ่งประมาณ 4 ทุ่ม ใช้เวลาทั้งหมด 14 ชั่วโมงค่ะ ถึงฉงชิ่งคืนแรกก็เข้าที่พักเลยค่ะ ที่พักคืนแรกที่จองไว้เป็น Hostel ค่ะ นอนห้องละ 6 คน กะไว้ว่านอนไม่กี่ชั่วโมงก็เดินทางต่อไปอู่หลงแต่เช้าอยู่แล้วค่ะ ค่าที่พักก็คนละ 35 หยวน

วันที่ 2 ของการเดินทาง ฉงชิ่ง – อู่หลง重庆 - 武隆（仙女山国家森林公园）
วันนี้เราจะไปขึ้นรถที่สถานีรสบัสซื่อกงหลี่ (四公里) จะมาด้วย CRT สถานีซื่อกงหลี่ หรือรถเมล์ก็ได้ค่ะ
ค่ารถจากฉงชิ่งไปอู่หลงคนละ 62 หยวน (รวมค่าประกันการเดินทาง 2 หยวนค่ะ ไม่เอาก็ได้นะคะ ต้องบอกพนักงาน) ต้องเดินเลี้ยวซ้ายไปซื้อตั๋วก่อนนะคะ จากนั้นเราถึงจะเดินมาอีกฝั่งนึงเพื่อรอขึ้นรถ ช่องที่ต้องต่อแถวจะเขียนข้างหน้าว่าอู่หลงเลยค่ะ(武隆) ไปถึงตั้งแต่ 7 โมงเช้า ซื้อตั๋วก็คอยจนประมาณ 8 โมงค่ะรถถึงจะเปิดให้ขึ้นไปนั่ง รถจะไม่มีรอบนะคะ คนเต็มแล้วก็ออกค่ะ เวลาในตั๋วจะไม่มีผลแล้วก็เลขที่นั่งเหมือนกันค่ะ จะนั่งตรงไหนก็ได้ค่ะ(นอกจากจะเจอคนจีนมาเหวี่ยงใส่จะเอาที่นั่งตัวเองค่ะ)
นั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงอู่หลงค่ะ หลังจากลงรถเราก็ไปหาที่พักกันค่ะ เราวางแผนจะพักที่ตัวเมืองอู่หลง 2 คืนค่ะ จะได้เดินทางไปอุทยานสะดวกหน่อย เราไม่ได้จองโรงแรมกันมาก่อนนะคะ ในเว็ปมีโรงแรมให้เลือกน้อย เลยมาหาเอาแถวๆนี้ดีกว่า ที่พักมีเยอะมากค่ะ แล้วแต่จะเลือกเลยค่ะ ว่าอยากจะพักแบบไหน เราเลือกที่พักที่ใกล้สถานีรสบัสอู่หลงเลยค่ะ คืนละ 180 หยวนต่อห้อง นอนกัน 3 ห้องค่ะ หลังจากได้ที่พักก็เอาสัมภาระไปเก็บและกินข้าวกันเรียบร้อย

ตอนบ่ายเราจะไปอุทยานเขานางฟ้า（仙女山国家森林公园）กันค่ะ ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติระดับ 5 A ของประเทศจีน เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Transformer 4 อยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำอวู่เจียงในระดับความสูง 1,900 เมตรจากระดับน้ำทะเล มียอดเขาสูงสัดที่ 2,033 เมตร ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู จนได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่ง 4 สิ่งมหัศจรรย์ คือ มีป่าไม้หนาแน่น มียอดเขาประหลาด มีทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ และมีลานหิมะในฤดูหนาว ซึ่งปกติเขานางฟ้าเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์อันดับ 1 ทางภาคใต้ของประเทศจีน
เราไปซื้อตั๋วขึ้นรถที่สถานีรสบัสตัวเมืองอู่หลงค่ะ ค่ารถคนละ 18 หยวน
ทางที่ไปก็ขึ้นเขาตลอดทางค่ะ มีทางโค้งบ้างค่ะ อาทิตย์ที่ไปเป็นช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ คือช่วงปลายฤดูหนาวของที่นี่แล้วค่ะ ไม่มีหิมะค่ะ แต่หมอกลงเยอะมากค่ะ สองข้างทางเลยมองไม่ค่อยเห็นวิวเลย
ระหว่างทางจะมีจุดจอดให้ลงไปซื้อบัตรเข้าอุทยานเขานางฟ้าด้วยค่ะ คนละ 60 หยวนค่ะจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาตรวจบัตรเข้าอุทยานบนรถค่ะ แล้วรถก็วิ่งต่อไปจนถึงอุทยาน นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งค่ะ
ระหว่างทางรถก็จอดรับคนกลางทางขึ้นมา เค้าเป็นคนจีนที่มาเที่ยวคนเดียว พวกเราเลยชวนเค้าคุย คุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง คุยไปคุยมาเลยชวนไปเที่ยวด้วยกันค่ะ เค้าก็ตกลงไปกับพวกเรา กลายเป็นว่าเราได้สมาชิกเที่ยวเพิ่มอีกคนนึงค่ะ
ถึงอุทยานก็ไปซื้อตั๋วนั่งรถไฟเที่ยวต่อค่ะ (หรือจะเดินเที่ยวเองก็ได้ค่ะ มีทางเดินคนเดินให้ค่ะ) ค่าตั๋วรถไฟคนละ 25 หยวน รถไฟจะวิ่งเป็นวงกลม 1 รอบนะคะ มีจุดจอดให้ลงอยู่ 3 สถานี สถานีที่ 1 เป็นลานกว้างๆ สถานีที่ 2 เป็นลานกิจกรรมค่ะ สถานีที่ 3 เป็นสถานีลานจอดรถ
สถานีแรกค่ะ เป็นลานกว้างๆ ถ้ามาช่วงมีต้นหญ้าจะสวยมากๆเลยค่ะ คงจะเขียวไปทั้งลานเลย
นี่คือสมาชิกใหม่ของเราค่ะ หนุ่มฉงชิ่งเค้าดีจริง
เดินเล่นมาซักพักก็ไปขึ้นรถไฟเพื่อไปสถานีต่อไปค่ะ ตั๋วรถไฟต้องเก็บไว้ให้ดีนะคะ ขึ้นรถแต่ละครั้งจะตรวจตั๋วตลอด สถานีที่ 2 เป็นลานกิจกรรมค่ะ หมอกเริ่มลงหนักมากค่ะ เริ่มจะไม่เห็นวิวอะไรแล้วค่ะ กะว่าจะมาดูยอดเขาประหลาด นี่ไม่เห็นเขาซักลูกเลยค่ะ
มาถึงสถานีที่ 2 มีกิจกรรมให้ทำเยอะมากค่ะ ทั้งขี่ม้า ยิงธนู ขับเอทีวี นั่งรถกอล์ฟเที่ยว ฯลฯ พวกเราอยากจะขี่เอทีวีกัน แต่..... ทางข้างหน้านี่มองไม่เห็นเลยค่ะ หมอกลงจัดมากเลยค่ะ ใกล้เวลาอุทยานปิดด้วยค่ะ ได้แต่ยืนดูตาปริบๆ แล้วก็บอกกันว่าไปสถานีหน้ากันเถอะ (ณ ตอนนั้นไม่รู้ว่าสถานีหน้าว่าคือสถานีอะไร)
ถึงสถานีที่ 3 เค้าก็ให้ลงจากรถค่ะ ระหว่างทางก็จะมีของกินขายค่ะ เดินแป๊บนึงก็ถึงลานจอกรถค่ะ จะมีรถมินิบัสที่ขึ้นมาจากตัวเมืองอู่หลงจอดคอยอยู่ค่ะ รถเที่ยวสุดท้าย 6 โมงค่ะ แต่เหมือนเดิมค่ะ ถ้ารถเต็มก็ออกค่ะ ตอนพวกเรามาถึง ที่นั่งบนรถมีไม่พอจำนวนคนค่ะ เหลืออยู่ 4 ที่ พวกเรามีกัน 8 คน (ตอนนั้นเวลาประมาณ 5 โมงครึ่ง) เราถามคนขับว่ายังมีรถอีกไม๊ คนขับก็บอกว่านี่รถคันสุดท้ายแล้ว ให้ไปหารถเหมาเอา เราคิดว่าถ้ารถเหมาก็ต้องโดนเก่งราคาแน่ๆ ต่อกันไปต่อกันมา ไม่ลงตัวซักที พอดีกับมีรถมินิบัสขับเข้ามา เฮกันเลยค่ะ แน่นอนพวกเรารีบวิ่งขึ้นมินิบัสกันทันทีเลย แค่ 8 ก็ครึ่งคันรถแล้วค่ะ ค่ารถก็คนละ 18 หยวนเท่าเดิมค่ะ
รอซักพักรถก็ออกค่ะ นั่งรถกลับทางเดิมก็ประมาณ 1 ชม.ครึ่งก็ถึงตัวเมืองค่ะ ขากลับนี่มองไม่เห็นทางเลย เรียกว่าคนขับอาศัยประสบการณ์ที่ขับจนชินทางถึงรู้ว่าตรงไหนเป็นทางโค้ง ตรงไหนเป็นทางเลี้ยว
กลับมาถึงตัวเมืองอู่หลงเราก็หาข้าวเย็นกินกันก่อนเลยค่ะ มาถึงฉงชิ่งแน่นอนว่าอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ต้องไม่พ้น หม้อไฟฉงชิ่งหรือฉงชิ่งหั่วกัว (重庆火锅) แน่นอนค่ะ มื้อนี้เราเลยตรงเข้าไปร้านหั่วกัวทันทีเลยค่ะ คนที่นี่ส่วนมากเค้ากินเนื้อวัวกับเนื้อแพะนะคะ เพราะฉะนั้นในเมนูจึงมีเมนูหมูกับไก่น้อยมาก และเราก็ไม่กินเนื้อกัน บวกกับอ่านเมนูภาษาจีนไม่ออกกันอีก เราเลยบอกพนักงานว่า มีเมนูอะไรก็เอามาให้หมด เค้าก็จัดการเอามาให้หมด หนึ่งในสิ่งที่เอามาคือสมองหมู พวกเราเห็นทีแรกก็ตกใจเลยค่ะ พออาหารมาเสิร์ฟครบ ที่มานี่ส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องในค่ะ ถ้าใครจะมาเที่ยวต้องทำใจนิดนึงนะคะ เนื้อหมูกับไก่หากินยากจริงๆ แล้วสิ่งที่ต่อมาทำให้กินกันลำบาก คือ ความเผ็ดของหั่วกัว ที่นี่เค้าจะกินเผ็ดหม่าล่ากันค่ะ ทั้งเปรี้ยว ทั้งชา ทั้งเผ็ด ทั้งร้อน มื้อนี้ทำเอาเหงื่อตกกันเป็นแถวเลยค่ะ ตอนที่สั่งไม่รู้ว่าเค้ามีแบบหม้อที่มี 2 น้ำซุป เลยกินแต่ซุปหม่าล่าอย่างเดียวเลยค่ะ กินกันไปปากพองกันไปค่ะ มื้อนี้หมดไป 280 หยวนค่ะ

หลังจากกินกันเรียบร้อยแล้วเราก็ไปเดินเล่นย่อยอาหารกันค่ะ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงวันหยัดเทศกาลปีใหม่ของจีน (春节) ตามถนนจึงประดับไฟไว้มากมายค่ะ พวกเราเดินกันก็ประมาณ 3 ทุ่มเมืองก็เงียบแล้วค่ะ เลยเข้าที่พักพักผ่อนกันค่า





Trip : ถ้าใครไม่อยากต้องตื่นเช้าหรือเสียเวลาเดินทางมากๆนะคะ แถวๆที่ตึกขายตั๋วเข้าอุทยานอาคารสามเหลี่ยม มีที่พักเยอะมากค่ะ ไปพักแถวๆนั้นเลยก็ได้ค่ะ ออกจากโรงแรมก็เดินไปซื้อตั๋วได้เลย