ทริปนี้พี่ขอเกา
อันยองฮาเซโย ค่าทุกโค๊น!!!!!! กลับมาอีกครั้งกับการไปเที่ยวต่างประเทศ คราวนี้ เราไปไหนคงรู้กันแล้วเนอะ จากการทักทายตอนเริ่ม 55555555 ทริปนี้เราไปเกาหลี หลี หลี หลี พอ!!!!!! นั่นเองคร่า คราวนี้ เราไปเที่ยวจริงจริ๊ง ไม่ได้ไปติ่งแต่อย่างใด(หรา) ได้ข่าวว่าไปยืนสั่นหน้า KBS ในอากาศแบบ...รอติดตามในเนื้อหากันล่ะกันเนอะ 55555555
เอาล่ะ ทริปนี้ เราไปกับเพื่อน 4 คนรวมเราด้วย คือแบบวางงแพลนกันตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วเราหนีเพื่อนไปกับทริปผู้โชคดีของ เอสโคล่า 55555 มาคราวนี้เลยได้พาเพื่อนไปซะงั้น งง ไว้ใจกูขนาดนั้นเลยหรอเพื่อนเอ้ย 555555555 นั่นแหละ พอพูดคุยกับเพื่อนกันเสร็จ ก็เริ่มกันค่ะ
พอเราได้คุยกันว่าใครจะไปบ้าง เราก็ได้เริ่มหาตั๋ว หาวันที่เค้าจองแบบลดราคา 55555 สุดท้ายพวกเราก็ได้จับจองของสายการบินหางแดง ในราคาที่แบบพอรับได้ ประมาณ 10XXX และเดินทางวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 กลับวันที่ 5 มีนาคม 2561 และราคานี้ก็รวมทุกอย่างเลย แล้วซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มด้วย เพราะ 20 กก ไม่พอแน่ๆค่ะ 55555 พอได้วันแล้ว พวกเราก็จัดการแพลนเที่ยวกันแบบใครอยากไปไหนบ้าง ให้ลิสไว้ ไรงี้ จนได้แพลนตามที่ต้องการ คิคิ
ตอนจองแรกๆ ก็คิดว่า เฮ้อ อีกตั้งนานกว่าจะได้ไป แต่พอใกล้ถึงวันแล้วแบบทำไมเร็วจังวะ 55555 เริ่มตื่นเต้นล่ะ ก่อนไปนี่ก้พยายามหาตารางงานของวงไอดอลที่เราชอบว่าวงไหนมีงานบ้าง จนได้มาเจอว่า NCT มีงานที่จะไปอัดสเตจที่ KBS กรี๊ดดดดด มาไม่เสียเที่ยวเว้ย หลังจากนั้นก็พยายามหาว่าตึกมันไปยังไง คือแบบงงมากเว่อ จนถึงวันที่เดินทาง ไฟล์ที่เราบินบอร์ดดิ้งพาสตอนประมาณบ่ายสาม นี่ก็เลยตัดสินใจว่า ลางานแค่บ่ายวันที่ 28 ล่ะกัน 5555555 พอถึงวันเลยให้เพื่อนนั่งแท็กซี่จากหอเพื่อนมา เพื่อหารค่าแท็กซี่กัน เพราะทางเรามันทางผ่านพอดี พอถึงเวลาก็ไปสนามบินกันเล้ยยยยยยยยยยยย
พอถึงสนามบิน สิ่งแรกที่เห็นคือ คนจีนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกก มากจนแบบเวียนหัวเลย วุ่นวายสุดๆ คือเข้าใจเลยอ่ะว่าทำไมพอคนเจอแบบนี้ ถึงรู้สึกไม่โอเค ได้เจอกับตัวถึงจะรู้นะ 555555 เราก็เข้าแถวเพื่อ check in และโหลดกระเป๋า พอเสร็จแล้วก็ไปหาที่ใส่ซิม 2fly เพราะมีปัญหาเรื่อง SMS ไม่แจ้งนิดหน่อย หลังจากนั้นเลยหาร้านข้าวเพื่อกินข้าวก่อนขึ้นเครื่อง พอทำอะไรเสร็จแล้ว พวกเราเลยตัดสินใจกันเข้าไปรอที่เกททางขึ้นเครื่องเลย เพราะไม่อยากตกเครื่อง อีกทั้งตอนนั้นตื่นเต้น เลยอยากเข้าเกทเร็วๆ 55555555 นั่งรอหน้าเกทได้ซักพัก ก็มีพนักงานมาบอกว่าไฟล์นี้สามารถขึ้นเครื่องได้แล้วนะคะ พวกเราเลยขึ้นเครื่องกัน เครื่องใหญ่เลยนะ เป็น AIR BUS ที่นั่ง 3-3-3 ถามว่ามันอึดอัดไหม สำหรับเราไม่นะ มันโอเคเลยแหละ เราก็ไปแบบโลว์คอสอ่ะ นั่งแบบไหนก็เหมือนกัน ไม่รู้สิ เพราะครั้งแรกที่ไป เรานั่งแบบฟูลเซอวิส มันก็ไมต่างกันเลย ต่างกันแค่มีจอให้ดูกับไม่มีจอให้ดูแค่นั้นอ่ะ และแล้ว เราก็ได้บินขึ้นสู่ฟากฟ้า ปิ้วๆๆๆๆๆ ตอนนั้นกว่าเครื่องจะออกได้เลทไปประมาณ 30 นาทีเลย ไม่รู้ว่ารออะไร 5555 แต่ไม่เป็นไร แค่ได้ขึ้นเครื่องแล้ว เราก็โอเคเว้ย ถึงอินชอนแน่นอนแล้วออเจ้า
พอไปถึงที่สนามบินอินชอน น่าจะประมาณ ห้าทุ่มกว่าๆแล้วอ่ะ เครื่องของเราจะไปแลนดิ้งที่นึ่งที่ต้องนั่งรถไฟเข้ามาที่เทอมินอล 1 อ่ะ ตอนแรกจากเครื่อง ทุกคนร้อง หูยยยยยยยยยย กันยาวมาก เพราะมันหนาวอ่ะแก เสื้อโค้ดก็ยังไม่เอาออกมาจากกระเป๋า ฮื่อ มันหนาวจนสั่น ขนาดอยู่ในสนามบินไม่ได้สัมผัสลมข้างนอกอ่ะ พอออกมาก้พอจำทางได้ว่าต้องเดินไปทางไหนบ้าง ตม.อยู่ที่ไหน แต่ๆๆ ไม่ต้องห่วงค่ะ ใครไปครั้งแรก ก็แค่เดิมตามคนอื่นไป ก็จะเจอเอง 5555555 ง่านนิสเดียวเองเนอะ พอถึงด่าน ตม. ก็คุยกับเพื่อนอ่ะว่าใครจะเข้าคนแรก ขอคนที่คุยอิ้งได้แบบตอบโต้ได้ เพื่อนนี่ไปเลย อ่ะเคยมา ไม่โดนหรอก นี่ก็เอ้า กูหรอ งงเลย เออกูก็กูวะ แล้วพอเข้าไป ตม.ก็มองหน้า แล้วตอนนั้นคือหน้าสด กูขำมาก ตม.มองแล้วแบบเอียงคอสงสัยนิดหน่อย แล้วบอกว่า ปัดหน้าม้าให้หน่อยซิ นี่ก็เลยปัดหน้าม้าขึ้น เอาแมสที่คางออก เค้าเลยยิ้ม แล้วก็บอกว่าสแกนนิ้วได้เลย เออง่ายว่า ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกูซ๊ากคำ พอเราเข้าไปได้ เพื่อนอีกคนก็ตามออกมา เลยถามว่าโดนถามอะไรไหม เพื่อนบอกแค่ว่าโดนถามว่า มากับใคร เพื่อนก็บอกว่ามากับเพื่อน 3 คน เค้าก็ให้เข้ามาเลย เพื่อนอีกคนก็ตามมาอีกเลยถามว่าโดนถามไหน เพื่อนบอกว่าไม่นะ เค้าถามแค่ว่า มากับคนเมื่อกี๊ใช่ไหม 5555555555555 คือแบบง่ายมาก เค้าคงดูออกแหละว่าใครมาเที่ยว ใครหนีมาทำงาน แล้วเพื่อนคนสุดท้ายก้ไม่โดนถามเพราะเคยมาเที่ยวแล้วครั้งนึ่ง สบายๆ ผ่านกันหมดเลยทั้งสี่คน ไม่มีใครโดนอะไรเลย รัก ตม. 55555555555
พอออกมา เราก็ได้ไปรับกระเป๋านู่นนั่นนี่กันเสร็จ เลยไปหา SPA ON AIR กัน เพื่อหาที่อาบน้ำและนอน พอหาเจอเว้ย พนง แจ้งว่า today full โอ้โหหหหหหหหหห แล้วกูจาอาบน้ำไหนนนนน ฮื่อออ ชีวิตต้องไม่อาบน้ำแบบนี้หรอ แงงงงงงงงงงงงงง รับไม่ได้อย่างแรง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ทำไงได้วะ ก็มันเต็ม ฮึก เลยเดินๆไปหาที่สิงสถิต ได้ตรงชั้นเดียวกับ SPA ON AIR อ่ะ เป็นเก้าอี้ให้นั่ง นี่เลยนอนตรงนั้นเลย ตอนแรกก็ไม่ค่อยหนาวนะ นอนไปได้ถึงประมาณตีสองตีสาม โอ้โห สั่นเป็นเจ้าเข้าเลยอ่ะ หนาวเว่อ ขนาดเอาเสื้อโค้ทมาคลุมนอนแล้วนะ จะทนไม่ไหวอ่ะ เลยตื่นเลย แล้วไปหาที่เช็ดตัวในห้องน้ำ อย่างน้อยขอเช็ดตัวก็ได้ 5555555555 พอทำนู้นนั่นนี่กันเสร็จ ก็ประมาณตีสี่เกือบตีห้า เลยพากันไปที่ A’REX เพื่อนั่งเข้าที่พักที่ Phillstay Ehwa Boutique ซึ่งเป็นหอพักหญิงล้วน ก็งมๆทางกันไป ซึ่งก็รู้ว่าต้องลง A’REX ที่สถานี Hong-ik แล้วต่อสาย 2 หรือสายสีเขียวเพื่อไปลงที่ Ehwa พอรู้เส้นทางก็หาที่เติมเงินเข้าบัตร B Cash ตอนแรกงงมากมาต้องขึ้นทางไหน อะไรยังไง แต่ด้วยความที่นี่ก็พออ่านภาษาเกาหลีออก แต่แปลไม่ออกบ้าง 55555555 ก็เลยอ่านๆกันไป จนไปถึงที่หมายที่สถานี Ehwa พอถึงปุ๊บรีบแบกกระเป๋าขึ้นมาเลยจ้า เจอป้านวันเกิดพี่ซิ่วหมินกับน้องจีซอง นี่ก็ยืนหวีดอยู่พอประมาณ ก็เลยเดินหาทางออก จนออกมาแล้วเจอกับทางไปที่พัก พออกมาเจออากาศเท่านั้นแหละ หน้าสั่นกันเป็นแถบๆเลยจ้า ตอนนั้นอากาศประมาณ -2 องศา เวลาประมาณหกโมงกว่าๆ ฮื่อออ แล้วคือไม่หนาวธรรมดา ลมตีหน้าพั่บๆเลย พอเดินขึ้นเนินเขาไปนิดนึ่ง เอ้า มองเห็นแลนด์มาร์คของมออีฮวาเฉย เหยยย คือแบบที่พักอยู่ใกล้ขนาดนี้เลยหรอ ฟินเว่อออออออออ จนเดินหาที่พักกันได้ แล้วขึ้นไปรอเพื่อฝากกระเป๋า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เค้าก็ติดป้ายว่าเปิด 8.00 am อ่ะ นี่ก็นั่งรอ จะไปไหนได้วะ หนาวขนาดนี้ รอเอาของไว้ แล้วค่อยไปถ่ายรูปที่อีฮวาล่ะกัน รอไปได้ซักพัก ก้เข้าที่พักได้เพราะนี่ยืนรอนานมาก ไม่รู้ว่าเค้าไม่ได้ล๊อคประตู นี่ก็พยายามมองหน้า พนง ทในที่พัก เค้าไม่มองเราเลยเว้ย นี่ก็งง ทำไมเค้าไม่มาเปิดประตูวะ เลยทำภาษามือ เค้าก็แบบเปิดเข้ามาเลย นี่ก็เลยเปิดเข้าไป เอ้า ไอ้สัส ที่กูยืนรอก่อนหน้านั้นคือไร 55555555555555555555555555 แล้วเราก็เลยฝากกระเป๋าไว้ เพราะยังเช็คอินไม่ได้ เค้าก็รับฝาก ก็เลยเดินออกมาเพื่อหาที่กินข้าว แต่ยังไม่มีร้านไหนเปิดเลย นอกจากร้าน CU กับ 7-11 555555555 เลยเดินเข้า CU กันเพราะเซเว่นที่ไทยมีเยอะ ไม่อยากเข้า เนี่ยคือเหตุผล พอเข้าไปเลยเลือกรามยอนกัน เพราะเข้ากับบรรยากาศดี หนาวๆ กินมาม่าร้อนๆ ฮื่อ ฟินนนน แต่สุดท้ายก็กินซัมยัง รสไก่เผ็ด ก็เคยกินแล้วม่ะ เพื่อนก็ซื้อจาจังเมียนกิน แต่แบบ มันแปลกๆอ่ะ ไม่หร่อยเลย แต่ก็พอกินได้ หลังจากที่กินข้าวเสร็จ เลยเดินกลับไปเพื่อถ่ายรูปกันที่อีฮวา มันสวยมากจริงๆนะ แต่คือเข้าไปข้างในไม่ได้ ต้องมีบัตรติ๊ด นี่เลยเดินกันแค่ตรงแลนด์มาร์คพอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แล้วตามแพลนคือพวกเราจะไปเคียงบกกุงกัน แต่เข้าใจผิดว่าต้องลงที่ทงแดมุน เลยนั่งรถไฟไปลงที่ Dongdaemun History & Culture Park station (สายสีฟ้า)ออกมาก็จะเจอฮอล์อ่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พอเดินไปเรื่อยๆ เจอร้าน KTOWN4U วิ่งเข้าไปเลยจ้า เนี่ย ไม่ติ่งจริงๆนะ แต่ได้อัลบั้ม WANNAONE Pink Ver มา 1 บั้ม กับนิตยสารเพื่อนนี่ฝากซื้อ 2 เล่ม และเพื่อนที่ไปด้วยกันได้อัลบั้ม JBJ 2 บั้ม อ่ะ ไม่ติ่งเลยจีจีค่ะ 5555555555 พอได้ของกันแล้วก็เดินออกมา เจอ Kakao กูวิ่งเข้าอีกค่ะ ร้านมันน่ารักมากๆเลย สวยและรวยมากค่ะวันแรก 5555555555 เดินหยิบๆของมา ไม่ถงไม่ถามเลยว่าเงินน่ะจะพอ 5 วันไหม แต่ก็นะ ของมันน่ารักนี่น่า ก็ไม่ได้ซีเรียส กิกิ พอเลือกของนู้นั่นนี่กันเสร็จ ก็เดินออกมาตรงลานกว้างๆ ลมตีหน้าพั่บๆ หน้าไม่สั่น มาตบเราได้เลยคร๊ แล้วก็มองเห้น Lotte Fitin นี่ก็จำได้ว่าปีที่แล้วมา ได้ขึ้นไปดู K-live เลยชวนเพื่อนไปเพราะมันจะมี Goods ของ JYP ขาย ทั้งที่ไม่รู้ว่ามันปิดไปแล้ว พอขึ้นไปคือแบบเหย ทำไมไม่มีไรเลยวะ งง เลยลงกันมาข้างล่างเพื่อเลือกหาของกัน ก็ได้ทั้ง peripera , lilybyred, skinfood, etude และอีกมากมายก่ายกอง หลังจากช๊อปตรงนี้กันเสร็จ เลยพอกันไปที่ Dongdaemun Station (สายสีฟ้า) พออกมาก็จะเจอสิ่งปลูกสร้างแนวเกาหลี นี่คิดว่า เคียงบกกุงมีแค่นี้หรอ เลยไปหาที่กินข้าวกัน คือแบบในร้านก็ไม่มีคนฟังอังกฤษรู้เรื่อง ถามผู้ชายเกาหลีว่า Can you speak English? นางตอบ No แหม่อีสัส อีไม่มีน้ำใจ อีคนใจร้าย ฮื่อ นี่เลยใช้ภาษามือกับทางร้านเอาจนได้ของกินมา อร่อยอยู่นะ แต่เพื่อนไม่กินเนื้อวัว ก็ได้หมูมาเป็นเซตเลย อิอิอิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังจากนั้น เลยจะพากันเดินขึ้นเขา เผื่อเจอเคียงบกกุง ก็เดินขึ้นไป กว่าจะรู้ตัวว่ามันไม่ใช่ก้อตอนที่เดินขึ้นเนนเขาไปประมาณ 1 กม. ได้ แล้วถามผู้ชายเกาหลีคนนึ่งว่าทางที่เราเดินไปเนี่ยมันคืออะไร เค้าก็บอกว่าเป็นสวนสาธารณะ นี่งงเลย แล้วบอกว่า ฉันต้องการไปเคียงบกกุง ต้องไปยังไง เค้าก็หน้าเครียดเลยว่าแล้วเดินขึ้นมานี่ทำไม มันต้องไปทางนู้น 5555555555555555555 คือแบบเค้าพยายามบอกเราทุกอย่างอ่ะ เลยบอกเค้าไปว่าขอบคุณมากนะคะ เออนั่นแหละ ถึงรู้ว่าตัวเองหลงทาง เดินลงเขามาค่ะ เหนื่อยก็เหนื่อย เคียงบกกุงก็ไม่ได้ไป ขำเว่อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอเดินตรงนั้นเสร็จมันยังไม่มืดเลย ก็เลยพากันไปเมียงดง เพราะสายรถไฟมันสายสีฟ้าเหมือนกัน ไปง่าย พอไปถึงเลยหาที่กินข้าวกัน ก็หาตามรีวิวที่มีคนรีวิวไว้ แต่หาร้านไม่เจอ ก็เลยเดินหาเอาได้ ได้ร้านปิ้งย่างร้านนึ่ง อร่อยอยู่นะ แต่แอบแพงไปหน่อย แนบรูป พอกินเสร็จ ก็ได้เดินออกมาเพื่อช๊อปปิ้งกัน ของขายเยอะจริง คนไทยก็เยอะช่นกัน 55555555 เดินไปไหนก็เจอแต่คนไทย จนคิดว่า อยุ่ไทยป่ะวะเนี่ย และแล้วก็ดึกเลยจ้า เลยกลับหอกันไปพักผ่อน เพื่อพรุ่งนี้ไปไฝว้กันต่อที่ KBS
**โปรดติดตามตอนต่อไป**
[CR] ตะลอนเกาหลีใต้ด้วยตัวเอง ใน "ทริปนี้พี่ขอเกา"
อันยองฮาเซโย ค่าทุกโค๊น!!!!!! กลับมาอีกครั้งกับการไปเที่ยวต่างประเทศ คราวนี้ เราไปไหนคงรู้กันแล้วเนอะ จากการทักทายตอนเริ่ม 55555555 ทริปนี้เราไปเกาหลี หลี หลี หลี พอ!!!!!! นั่นเองคร่า คราวนี้ เราไปเที่ยวจริงจริ๊ง ไม่ได้ไปติ่งแต่อย่างใด(หรา) ได้ข่าวว่าไปยืนสั่นหน้า KBS ในอากาศแบบ...รอติดตามในเนื้อหากันล่ะกันเนอะ 55555555
เอาล่ะ ทริปนี้ เราไปกับเพื่อน 4 คนรวมเราด้วย คือแบบวางงแพลนกันตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วเราหนีเพื่อนไปกับทริปผู้โชคดีของ เอสโคล่า 55555 มาคราวนี้เลยได้พาเพื่อนไปซะงั้น งง ไว้ใจกูขนาดนั้นเลยหรอเพื่อนเอ้ย 555555555 นั่นแหละ พอพูดคุยกับเพื่อนกันเสร็จ ก็เริ่มกันค่ะ
พอเราได้คุยกันว่าใครจะไปบ้าง เราก็ได้เริ่มหาตั๋ว หาวันที่เค้าจองแบบลดราคา 55555 สุดท้ายพวกเราก็ได้จับจองของสายการบินหางแดง ในราคาที่แบบพอรับได้ ประมาณ 10XXX และเดินทางวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 กลับวันที่ 5 มีนาคม 2561 และราคานี้ก็รวมทุกอย่างเลย แล้วซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มด้วย เพราะ 20 กก ไม่พอแน่ๆค่ะ 55555 พอได้วันแล้ว พวกเราก็จัดการแพลนเที่ยวกันแบบใครอยากไปไหนบ้าง ให้ลิสไว้ ไรงี้ จนได้แพลนตามที่ต้องการ คิคิ
ตอนจองแรกๆ ก็คิดว่า เฮ้อ อีกตั้งนานกว่าจะได้ไป แต่พอใกล้ถึงวันแล้วแบบทำไมเร็วจังวะ 55555 เริ่มตื่นเต้นล่ะ ก่อนไปนี่ก้พยายามหาตารางงานของวงไอดอลที่เราชอบว่าวงไหนมีงานบ้าง จนได้มาเจอว่า NCT มีงานที่จะไปอัดสเตจที่ KBS กรี๊ดดดดด มาไม่เสียเที่ยวเว้ย หลังจากนั้นก็พยายามหาว่าตึกมันไปยังไง คือแบบงงมากเว่อ จนถึงวันที่เดินทาง ไฟล์ที่เราบินบอร์ดดิ้งพาสตอนประมาณบ่ายสาม นี่ก็เลยตัดสินใจว่า ลางานแค่บ่ายวันที่ 28 ล่ะกัน 5555555 พอถึงวันเลยให้เพื่อนนั่งแท็กซี่จากหอเพื่อนมา เพื่อหารค่าแท็กซี่กัน เพราะทางเรามันทางผ่านพอดี พอถึงเวลาก็ไปสนามบินกันเล้ยยยยยยยยยยยย
พอถึงสนามบิน สิ่งแรกที่เห็นคือ คนจีนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกก มากจนแบบเวียนหัวเลย วุ่นวายสุดๆ คือเข้าใจเลยอ่ะว่าทำไมพอคนเจอแบบนี้ ถึงรู้สึกไม่โอเค ได้เจอกับตัวถึงจะรู้นะ 555555 เราก็เข้าแถวเพื่อ check in และโหลดกระเป๋า พอเสร็จแล้วก็ไปหาที่ใส่ซิม 2fly เพราะมีปัญหาเรื่อง SMS ไม่แจ้งนิดหน่อย หลังจากนั้นเลยหาร้านข้าวเพื่อกินข้าวก่อนขึ้นเครื่อง พอทำอะไรเสร็จแล้ว พวกเราเลยตัดสินใจกันเข้าไปรอที่เกททางขึ้นเครื่องเลย เพราะไม่อยากตกเครื่อง อีกทั้งตอนนั้นตื่นเต้น เลยอยากเข้าเกทเร็วๆ 55555555 นั่งรอหน้าเกทได้ซักพัก ก็มีพนักงานมาบอกว่าไฟล์นี้สามารถขึ้นเครื่องได้แล้วนะคะ พวกเราเลยขึ้นเครื่องกัน เครื่องใหญ่เลยนะ เป็น AIR BUS ที่นั่ง 3-3-3 ถามว่ามันอึดอัดไหม สำหรับเราไม่นะ มันโอเคเลยแหละ เราก็ไปแบบโลว์คอสอ่ะ นั่งแบบไหนก็เหมือนกัน ไม่รู้สิ เพราะครั้งแรกที่ไป เรานั่งแบบฟูลเซอวิส มันก็ไมต่างกันเลย ต่างกันแค่มีจอให้ดูกับไม่มีจอให้ดูแค่นั้นอ่ะ และแล้ว เราก็ได้บินขึ้นสู่ฟากฟ้า ปิ้วๆๆๆๆๆ ตอนนั้นกว่าเครื่องจะออกได้เลทไปประมาณ 30 นาทีเลย ไม่รู้ว่ารออะไร 5555 แต่ไม่เป็นไร แค่ได้ขึ้นเครื่องแล้ว เราก็โอเคเว้ย ถึงอินชอนแน่นอนแล้วออเจ้า
พอไปถึงที่สนามบินอินชอน น่าจะประมาณ ห้าทุ่มกว่าๆแล้วอ่ะ เครื่องของเราจะไปแลนดิ้งที่นึ่งที่ต้องนั่งรถไฟเข้ามาที่เทอมินอล 1 อ่ะ ตอนแรกจากเครื่อง ทุกคนร้อง หูยยยยยยยยยย กันยาวมาก เพราะมันหนาวอ่ะแก เสื้อโค้ดก็ยังไม่เอาออกมาจากกระเป๋า ฮื่อ มันหนาวจนสั่น ขนาดอยู่ในสนามบินไม่ได้สัมผัสลมข้างนอกอ่ะ พอออกมาก้พอจำทางได้ว่าต้องเดินไปทางไหนบ้าง ตม.อยู่ที่ไหน แต่ๆๆ ไม่ต้องห่วงค่ะ ใครไปครั้งแรก ก็แค่เดิมตามคนอื่นไป ก็จะเจอเอง 5555555 ง่านนิสเดียวเองเนอะ พอถึงด่าน ตม. ก็คุยกับเพื่อนอ่ะว่าใครจะเข้าคนแรก ขอคนที่คุยอิ้งได้แบบตอบโต้ได้ เพื่อนนี่ไปเลย อ่ะเคยมา ไม่โดนหรอก นี่ก็เอ้า กูหรอ งงเลย เออกูก็กูวะ แล้วพอเข้าไป ตม.ก็มองหน้า แล้วตอนนั้นคือหน้าสด กูขำมาก ตม.มองแล้วแบบเอียงคอสงสัยนิดหน่อย แล้วบอกว่า ปัดหน้าม้าให้หน่อยซิ นี่ก็เลยปัดหน้าม้าขึ้น เอาแมสที่คางออก เค้าเลยยิ้ม แล้วก็บอกว่าสแกนนิ้วได้เลย เออง่ายว่า ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกูซ๊ากคำ พอเราเข้าไปได้ เพื่อนอีกคนก็ตามออกมา เลยถามว่าโดนถามอะไรไหม เพื่อนบอกแค่ว่าโดนถามว่า มากับใคร เพื่อนก็บอกว่ามากับเพื่อน 3 คน เค้าก็ให้เข้ามาเลย เพื่อนอีกคนก็ตามมาอีกเลยถามว่าโดนถามไหน เพื่อนบอกว่าไม่นะ เค้าถามแค่ว่า มากับคนเมื่อกี๊ใช่ไหม 5555555555555 คือแบบง่ายมาก เค้าคงดูออกแหละว่าใครมาเที่ยว ใครหนีมาทำงาน แล้วเพื่อนคนสุดท้ายก้ไม่โดนถามเพราะเคยมาเที่ยวแล้วครั้งนึ่ง สบายๆ ผ่านกันหมดเลยทั้งสี่คน ไม่มีใครโดนอะไรเลย รัก ตม. 55555555555
พอออกมา เราก็ได้ไปรับกระเป๋านู่นนั่นนี่กันเสร็จ เลยไปหา SPA ON AIR กัน เพื่อหาที่อาบน้ำและนอน พอหาเจอเว้ย พนง แจ้งว่า today full โอ้โหหหหหหหหหห แล้วกูจาอาบน้ำไหนนนนน ฮื่อออ ชีวิตต้องไม่อาบน้ำแบบนี้หรอ แงงงงงงงงงงงงงง รับไม่ได้อย่างแรง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ทำไงได้วะ ก็มันเต็ม ฮึก เลยเดินๆไปหาที่สิงสถิต ได้ตรงชั้นเดียวกับ SPA ON AIR อ่ะ เป็นเก้าอี้ให้นั่ง นี่เลยนอนตรงนั้นเลย ตอนแรกก็ไม่ค่อยหนาวนะ นอนไปได้ถึงประมาณตีสองตีสาม โอ้โห สั่นเป็นเจ้าเข้าเลยอ่ะ หนาวเว่อ ขนาดเอาเสื้อโค้ทมาคลุมนอนแล้วนะ จะทนไม่ไหวอ่ะ เลยตื่นเลย แล้วไปหาที่เช็ดตัวในห้องน้ำ อย่างน้อยขอเช็ดตัวก็ได้ 5555555555 พอทำนู้นนั่นนี่กันเสร็จ ก็ประมาณตีสี่เกือบตีห้า เลยพากันไปที่ A’REX เพื่อนั่งเข้าที่พักที่ Phillstay Ehwa Boutique ซึ่งเป็นหอพักหญิงล้วน ก็งมๆทางกันไป ซึ่งก็รู้ว่าต้องลง A’REX ที่สถานี Hong-ik แล้วต่อสาย 2 หรือสายสีเขียวเพื่อไปลงที่ Ehwa พอรู้เส้นทางก็หาที่เติมเงินเข้าบัตร B Cash ตอนแรกงงมากมาต้องขึ้นทางไหน อะไรยังไง แต่ด้วยความที่นี่ก็พออ่านภาษาเกาหลีออก แต่แปลไม่ออกบ้าง 55555555 ก็เลยอ่านๆกันไป จนไปถึงที่หมายที่สถานี Ehwa พอถึงปุ๊บรีบแบกกระเป๋าขึ้นมาเลยจ้า เจอป้านวันเกิดพี่ซิ่วหมินกับน้องจีซอง นี่ก็ยืนหวีดอยู่พอประมาณ ก็เลยเดินหาทางออก จนออกมาแล้วเจอกับทางไปที่พัก พออกมาเจออากาศเท่านั้นแหละ หน้าสั่นกันเป็นแถบๆเลยจ้า ตอนนั้นอากาศประมาณ -2 องศา เวลาประมาณหกโมงกว่าๆ ฮื่อออ แล้วคือไม่หนาวธรรมดา ลมตีหน้าพั่บๆเลย พอเดินขึ้นเนินเขาไปนิดนึ่ง เอ้า มองเห็นแลนด์มาร์คของมออีฮวาเฉย เหยยย คือแบบที่พักอยู่ใกล้ขนาดนี้เลยหรอ ฟินเว่อออออออออ จนเดินหาที่พักกันได้ แล้วขึ้นไปรอเพื่อฝากกระเป๋า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เค้าก็ติดป้ายว่าเปิด 8.00 am อ่ะ นี่ก็นั่งรอ จะไปไหนได้วะ หนาวขนาดนี้ รอเอาของไว้ แล้วค่อยไปถ่ายรูปที่อีฮวาล่ะกัน รอไปได้ซักพัก ก้เข้าที่พักได้เพราะนี่ยืนรอนานมาก ไม่รู้ว่าเค้าไม่ได้ล๊อคประตู นี่ก็พยายามมองหน้า พนง ทในที่พัก เค้าไม่มองเราเลยเว้ย นี่ก็งง ทำไมเค้าไม่มาเปิดประตูวะ เลยทำภาษามือ เค้าก็แบบเปิดเข้ามาเลย นี่ก็เลยเปิดเข้าไป เอ้า ไอ้สัส ที่กูยืนรอก่อนหน้านั้นคือไร 55555555555555555555555555 แล้วเราก็เลยฝากกระเป๋าไว้ เพราะยังเช็คอินไม่ได้ เค้าก็รับฝาก ก็เลยเดินออกมาเพื่อหาที่กินข้าว แต่ยังไม่มีร้านไหนเปิดเลย นอกจากร้าน CU กับ 7-11 555555555 เลยเดินเข้า CU กันเพราะเซเว่นที่ไทยมีเยอะ ไม่อยากเข้า เนี่ยคือเหตุผล พอเข้าไปเลยเลือกรามยอนกัน เพราะเข้ากับบรรยากาศดี หนาวๆ กินมาม่าร้อนๆ ฮื่อ ฟินนนน แต่สุดท้ายก็กินซัมยัง รสไก่เผ็ด ก็เคยกินแล้วม่ะ เพื่อนก็ซื้อจาจังเมียนกิน แต่แบบ มันแปลกๆอ่ะ ไม่หร่อยเลย แต่ก็พอกินได้ หลังจากที่กินข้าวเสร็จ เลยเดินกลับไปเพื่อถ่ายรูปกันที่อีฮวา มันสวยมากจริงๆนะ แต่คือเข้าไปข้างในไม่ได้ ต้องมีบัตรติ๊ด นี่เลยเดินกันแค่ตรงแลนด์มาร์คพอ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แล้วตามแพลนคือพวกเราจะไปเคียงบกกุงกัน แต่เข้าใจผิดว่าต้องลงที่ทงแดมุน เลยนั่งรถไฟไปลงที่ Dongdaemun History & Culture Park station (สายสีฟ้า)ออกมาก็จะเจอฮอล์อ่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พอเดินไปเรื่อยๆ เจอร้าน KTOWN4U วิ่งเข้าไปเลยจ้า เนี่ย ไม่ติ่งจริงๆนะ แต่ได้อัลบั้ม WANNAONE Pink Ver มา 1 บั้ม กับนิตยสารเพื่อนนี่ฝากซื้อ 2 เล่ม และเพื่อนที่ไปด้วยกันได้อัลบั้ม JBJ 2 บั้ม อ่ะ ไม่ติ่งเลยจีจีค่ะ 5555555555 พอได้ของกันแล้วก็เดินออกมา เจอ Kakao กูวิ่งเข้าอีกค่ะ ร้านมันน่ารักมากๆเลย สวยและรวยมากค่ะวันแรก 5555555555 เดินหยิบๆของมา ไม่ถงไม่ถามเลยว่าเงินน่ะจะพอ 5 วันไหม แต่ก็นะ ของมันน่ารักนี่น่า ก็ไม่ได้ซีเรียส กิกิ พอเลือกของนู้นั่นนี่กันเสร็จ ก็เดินออกมาตรงลานกว้างๆ ลมตีหน้าพั่บๆ หน้าไม่สั่น มาตบเราได้เลยคร๊ แล้วก็มองเห้น Lotte Fitin นี่ก็จำได้ว่าปีที่แล้วมา ได้ขึ้นไปดู K-live เลยชวนเพื่อนไปเพราะมันจะมี Goods ของ JYP ขาย ทั้งที่ไม่รู้ว่ามันปิดไปแล้ว พอขึ้นไปคือแบบเหย ทำไมไม่มีไรเลยวะ งง เลยลงกันมาข้างล่างเพื่อเลือกหาของกัน ก็ได้ทั้ง peripera , lilybyred, skinfood, etude และอีกมากมายก่ายกอง หลังจากช๊อปตรงนี้กันเสร็จ เลยพอกันไปที่ Dongdaemun Station (สายสีฟ้า) พออกมาก็จะเจอสิ่งปลูกสร้างแนวเกาหลี นี่คิดว่า เคียงบกกุงมีแค่นี้หรอ เลยไปหาที่กินข้าวกัน คือแบบในร้านก็ไม่มีคนฟังอังกฤษรู้เรื่อง ถามผู้ชายเกาหลีว่า Can you speak English? นางตอบ No แหม่อีสัส อีไม่มีน้ำใจ อีคนใจร้าย ฮื่อ นี่เลยใช้ภาษามือกับทางร้านเอาจนได้ของกินมา อร่อยอยู่นะ แต่เพื่อนไม่กินเนื้อวัว ก็ได้หมูมาเป็นเซตเลย อิอิอิ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังจากนั้น เลยจะพากันเดินขึ้นเขา เผื่อเจอเคียงบกกุง ก็เดินขึ้นไป กว่าจะรู้ตัวว่ามันไม่ใช่ก้อตอนที่เดินขึ้นเนนเขาไปประมาณ 1 กม. ได้ แล้วถามผู้ชายเกาหลีคนนึ่งว่าทางที่เราเดินไปเนี่ยมันคืออะไร เค้าก็บอกว่าเป็นสวนสาธารณะ นี่งงเลย แล้วบอกว่า ฉันต้องการไปเคียงบกกุง ต้องไปยังไง เค้าก็หน้าเครียดเลยว่าแล้วเดินขึ้นมานี่ทำไม มันต้องไปทางนู้น 5555555555555555555 คือแบบเค้าพยายามบอกเราทุกอย่างอ่ะ เลยบอกเค้าไปว่าขอบคุณมากนะคะ เออนั่นแหละ ถึงรู้ว่าตัวเองหลงทาง เดินลงเขามาค่ะ เหนื่อยก็เหนื่อย เคียงบกกุงก็ไม่ได้ไป ขำเว่อ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอเดินตรงนั้นเสร็จมันยังไม่มืดเลย ก็เลยพากันไปเมียงดง เพราะสายรถไฟมันสายสีฟ้าเหมือนกัน ไปง่าย พอไปถึงเลยหาที่กินข้าวกัน ก็หาตามรีวิวที่มีคนรีวิวไว้ แต่หาร้านไม่เจอ ก็เลยเดินหาเอาได้ ได้ร้านปิ้งย่างร้านนึ่ง อร่อยอยู่นะ แต่แอบแพงไปหน่อย แนบรูป พอกินเสร็จ ก็ได้เดินออกมาเพื่อช๊อปปิ้งกัน ของขายเยอะจริง คนไทยก็เยอะช่นกัน 55555555 เดินไปไหนก็เจอแต่คนไทย จนคิดว่า อยุ่ไทยป่ะวะเนี่ย และแล้วก็ดึกเลยจ้า เลยกลับหอกันไปพักผ่อน เพื่อพรุ่งนี้ไปไฝว้กันต่อที่ KBS
**โปรดติดตามตอนต่อไป**
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น