โตโยต้าประกาศเลิกจำหน่ายรถเติมน้ำมันในยุโรป หยุดพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถเติมน้ำมัน พร้อมมุ่งพัฒนารถไฮบริด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 5 มี.ค.บริษัท โตโยต้า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นประกาศที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ว่า ปีนี้จะเลิกจำหน่ายรถเติมน้ำมันในยุโรป และจะไม่พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถเติมน้ำมัน แต่จะมุ่งพัฒนารถไฮบริดต่อไป
มีการเชื่อมโยงกรณีดังกล่าว ไปถึงคดีอื้อฉาวการโกงวัดค่าปล่อยควันไอเสียของค่ายรถโฟล์คสวาเกนเมื่อปี 2558 และนโยบายลดการปล่อยก๊าซตามเมืองหลวงใหญ่ๆ ในยุโรปทั้งกรุงปารีส ในฝรั่งเศสที่เล็งห้ามใช้รถเติมน้ำมัน และศาลสูงสุดของเยอรมนีมีคำสั่งเมื่อเดือน ก.พ. อนุญาตให้เมืองต่างๆ ห้ามให้รถเติมน้ำมันรุ่นเก่าๆ ออกมาวิ่งตามท้องถนนเพื่อคุณภาพอากาศ
อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมา ยอดขายโตโยต้าในยุโรป กลุ่มรถยนต์ดีเซลลดลงจาก 30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกันยอดขายรถยนต์ไฮบริดของญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยโตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ด้านพลังงานเพื่อเพิ่มจำนวนสถานีเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในประเทศแถบเอเชีย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขายรถยนต์ที่ใช้พลังงานใหม่
ที่มา europe.autonews.com, MThai, ไทยรัฐ
โตโยต้าประกาศเลิกขายรถใช้น้ำมันในยุโรปปีนี้ !!
โตโยต้าประกาศเลิกจำหน่ายรถเติมน้ำมันในยุโรป หยุดพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถเติมน้ำมัน พร้อมมุ่งพัฒนารถไฮบริด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 5 มี.ค.บริษัท โตโยต้า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นประกาศที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ว่า ปีนี้จะเลิกจำหน่ายรถเติมน้ำมันในยุโรป และจะไม่พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถเติมน้ำมัน แต่จะมุ่งพัฒนารถไฮบริดต่อไป
มีการเชื่อมโยงกรณีดังกล่าว ไปถึงคดีอื้อฉาวการโกงวัดค่าปล่อยควันไอเสียของค่ายรถโฟล์คสวาเกนเมื่อปี 2558 และนโยบายลดการปล่อยก๊าซตามเมืองหลวงใหญ่ๆ ในยุโรปทั้งกรุงปารีส ในฝรั่งเศสที่เล็งห้ามใช้รถเติมน้ำมัน และศาลสูงสุดของเยอรมนีมีคำสั่งเมื่อเดือน ก.พ. อนุญาตให้เมืองต่างๆ ห้ามให้รถเติมน้ำมันรุ่นเก่าๆ ออกมาวิ่งตามท้องถนนเพื่อคุณภาพอากาศ
อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมา ยอดขายโตโยต้าในยุโรป กลุ่มรถยนต์ดีเซลลดลงจาก 30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกันยอดขายรถยนต์ไฮบริดของญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยโตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ด้านพลังงานเพื่อเพิ่มจำนวนสถานีเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในประเทศแถบเอเชีย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขายรถยนต์ที่ใช้พลังงานใหม่
ที่มา europe.autonews.com, MThai, ไทยรัฐ