สวัสดีค่ะ วันนี้นำสกู๊ปสุดพิเศษจากช่วง “บรรณาธิการโต๊ะกลม” ของรายการ Section TV มาฝากกันค่ะ
/แฟน ๆ บังทันห้ามพลาดเลยนะ!
***คลิกที่แต่ละภาพ เพื่อชมสกู๊ปข่าวนี้ได้เลยค่ะ
ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางรายการได้นำเสนอประเด็นเรื่อง 'สงครามค่ายเพลง' ในวงการ K-Pop ซึ่งเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ 3 ค่ายยักษ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่าง “SM, YG และ JYP” และคราวนี้ก็ถึงคิวของ “ค่าย Big Hit Entertainment” ตั้นสังกัดของ BTS ที่สร้างความสำเร็จในระดับโลกไว้มากมายในปี 2017 ที่ผ่านมา จนทำให้มูลค่าของบริษัทขึ้นมาอยู่ในระดับบนของอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี และเป็นค่ายที่ถูกนักวิเคราะห์พูดถึงอย่างต่อเนื่อง!
สิ่งที่ทำให้นักวิเคราะห์ถูกใจในค่าย Big Hit เป็นอันดับแรกคือ “1.การตั้งชื่อค่ายโดยไม่ใช้ตัวย่อจากชื่อของผู้ก่อตั้งค่าย” และ “2. คือการเริ่มต้นจากการเปิดบริษัทเล็ก ๆ ที่มีพนักงานเพียง 11 คน” และค่อย ๆ ขยายขึ้น จนในปีที่ผ่านมา Big Hit มีพนักงานมากกว่า 50 คนแล้ว! ซึ่งถ้าเทียบกับค่ายใหญ่อื่น ๆ ในเกาหลีจะมีพนักงานมากถึง 100-300 คน ซึ่งการเริ่มต้นด้วยพนักงานเพียง 11 คนของ Big Hit ถูกเทียบกับการทำธุรกิจฟู้ดทรัค
แต่จากการเริ่มต้นด้วยทีมงานขนาดเล็ก ในปี 2017 ที่ผ่านมา Big Hit มียอดขายสูงถึง 60,000-70,000 ล้านวอน! ซึ่งเติบโตจากปีก่อนหน้านี้กว่าเท่าตัว และในตอนนี้เองก็กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ และได้แต่งตั้ง CFO เข้ามาทำหน้าที่แล้ว
จากความสำเร็จต่าง ๆ ในปี 2017 ที่ผ่านมาของ BTS ทำให้สื่อในเกาหลีระบุว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้เป็นความสำเร็จในระดับที่ไม่เคยมีศิลปินจากเกาหลีทำได้มาก่อน และที่สำคัญคือการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับผู้ชายเกาหลี ซึ่งก่อนหน้านี้ในต่างประเทศมักเปรียบเทียบว่าภาพลักษณ์ของผู้ชายเกาหลีใต้ คือ Psy
/ส่วนเกาหลีเหนือคือ "คิมจองอึน" 55555
เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้ นักวิเคราะห์มองว่าเกิดจาก “บังชีฮยอก” ที่เค้าได้รับประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับ “พัคจินยอง” ตั้งแต่การโปรโมตของ Rain มาจนถึงการทำกิจกรรมของ Wonder Girls ในประเทศอเมริกา ซึ่งความรู้และประสบการณ์เหล่านี้ถูกนำมาใช้กับการจัดการกิจกรรมของ BTS ในปัจจุบัน
และอีกสิ่งที่สำคัญคือ “การใช้ Social Media” ในการสื่อสารกับแฟน ๆ ทั่วโลก ซึ่ง BTS ได้คว้ารางวัล “Top Social Artist” จาก Billboard มาครอง ที่ก่อนหน้ารางวัลนี้เป็นของ “จัสติน บีเบอร์” มาแล้วถึง 6 ครั้ง และอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้พวกเค้าประสบความสำเร็จคือการที่ “สมาชิกทุกคนใช้แอคเคานท์ Twitter เดียวกัน” ซึ่งแฟน ๆ สามารถรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวได้ง่าย เทคนิคนี้ส่งผลดีมาก จนทำให้นิวยอร์คไทม์ เลือก BTS เป็น “1 ใน 25 บุคคลที่มีอิทธิพลในสังคมออนไลน์” เช่นเดียวกับ “ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์”
ติดตามทุกข่าวเด็ด ข่าวแซ่บของวงการเกาหลีได้ในรายการ Section TV ทั้งทางแอป Viu และ www.viu.com นะค้าาาา ส่วนใครที่อยากดูการเจาะลึกค่ายอื่น ๆ ก็ดูได้ตามนี้เลยค่าาาา
Big Hit ค่ายเพลงที่สั่นสะเทือนค่าย Top 3
ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางรายการได้นำเสนอประเด็นเรื่อง 'สงครามค่ายเพลง' ในวงการ K-Pop ซึ่งเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ 3 ค่ายยักษ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่าง “SM, YG และ JYP” และคราวนี้ก็ถึงคิวของ “ค่าย Big Hit Entertainment” ตั้นสังกัดของ BTS ที่สร้างความสำเร็จในระดับโลกไว้มากมายในปี 2017 ที่ผ่านมา จนทำให้มูลค่าของบริษัทขึ้นมาอยู่ในระดับบนของอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี และเป็นค่ายที่ถูกนักวิเคราะห์พูดถึงอย่างต่อเนื่อง!
สิ่งที่ทำให้นักวิเคราะห์ถูกใจในค่าย Big Hit เป็นอันดับแรกคือ “1.การตั้งชื่อค่ายโดยไม่ใช้ตัวย่อจากชื่อของผู้ก่อตั้งค่าย” และ “2. คือการเริ่มต้นจากการเปิดบริษัทเล็ก ๆ ที่มีพนักงานเพียง 11 คน” และค่อย ๆ ขยายขึ้น จนในปีที่ผ่านมา Big Hit มีพนักงานมากกว่า 50 คนแล้ว! ซึ่งถ้าเทียบกับค่ายใหญ่อื่น ๆ ในเกาหลีจะมีพนักงานมากถึง 100-300 คน ซึ่งการเริ่มต้นด้วยพนักงานเพียง 11 คนของ Big Hit ถูกเทียบกับการทำธุรกิจฟู้ดทรัค
แต่จากการเริ่มต้นด้วยทีมงานขนาดเล็ก ในปี 2017 ที่ผ่านมา Big Hit มียอดขายสูงถึง 60,000-70,000 ล้านวอน! ซึ่งเติบโตจากปีก่อนหน้านี้กว่าเท่าตัว และในตอนนี้เองก็กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ และได้แต่งตั้ง CFO เข้ามาทำหน้าที่แล้ว
จากความสำเร็จต่าง ๆ ในปี 2017 ที่ผ่านมาของ BTS ทำให้สื่อในเกาหลีระบุว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้เป็นความสำเร็จในระดับที่ไม่เคยมีศิลปินจากเกาหลีทำได้มาก่อน และที่สำคัญคือการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับผู้ชายเกาหลี ซึ่งก่อนหน้านี้ในต่างประเทศมักเปรียบเทียบว่าภาพลักษณ์ของผู้ชายเกาหลีใต้ คือ Psy /ส่วนเกาหลีเหนือคือ "คิมจองอึน" 55555
เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้ นักวิเคราะห์มองว่าเกิดจาก “บังชีฮยอก” ที่เค้าได้รับประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับ “พัคจินยอง” ตั้งแต่การโปรโมตของ Rain มาจนถึงการทำกิจกรรมของ Wonder Girls ในประเทศอเมริกา ซึ่งความรู้และประสบการณ์เหล่านี้ถูกนำมาใช้กับการจัดการกิจกรรมของ BTS ในปัจจุบัน
และอีกสิ่งที่สำคัญคือ “การใช้ Social Media” ในการสื่อสารกับแฟน ๆ ทั่วโลก ซึ่ง BTS ได้คว้ารางวัล “Top Social Artist” จาก Billboard มาครอง ที่ก่อนหน้ารางวัลนี้เป็นของ “จัสติน บีเบอร์” มาแล้วถึง 6 ครั้ง และอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้พวกเค้าประสบความสำเร็จคือการที่ “สมาชิกทุกคนใช้แอคเคานท์ Twitter เดียวกัน” ซึ่งแฟน ๆ สามารถรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวได้ง่าย เทคนิคนี้ส่งผลดีมาก จนทำให้นิวยอร์คไทม์ เลือก BTS เป็น “1 ใน 25 บุคคลที่มีอิทธิพลในสังคมออนไลน์” เช่นเดียวกับ “ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์”
JYP > https://goo.gl/nkYTr7
YG > https://goo.gl/vBA55j