สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพันทิปทุกคน เพิ่งได้กลับมาตั้งกระทู้อีกครั้งหลังจากห่างหายจากพันทิปไปนาน (ลืม ID กับรหัสค่ะ อิอิ)
คราวนี้กลับมา เลยอยากขอใช้พื้นที่กระทู้นี้รีวิวการจัดฟันแบบใสกับ Denta-Klick ค่ะ
ต้องบอกก่อนนะคะว่า กระทู้นี้อาจจะร่ายยาว เพราะส่วนตัวอยากเก็บข้อมูลไว้ดูเองด้วย อิอิ
ใครจะรู้ว่าจัดฟันแบบใส ราคาไม่ถึงแสนก็มี และผ่อนได้แบบยาวนานไปอีก ดีค่ะดี ^^
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า เราเคยจัดฟันตอนเด็กๆ ประมาณมัธยมค่ะ
แต่ด้วยความที่ยังเด็ก แล้วก็ใช้เงินพ่อแม่จัดด้วย เลยไม่ค่อยเห็นค่าเท่าไหร่ หรือเรียกง่ายๆว่าก็จัดฟันตามเพื่อนตามความเห็นของพ่อและแม่ที่เห็นสมควร ประมาณนั้นค่ะ ^^ พอถึงช่วงถอดเหล็กแล้วต้องใส่รีเทนเนอร์ แรกๆก็ตั้งใจใส่ดีมาก แต่สักพักก็เริ่มเบื่อจนหลังๆไม่ใส่แล้ว จนกระทั่งฟันล่างล้มเลยค่ะ
นี้เป็นภาพฟันก่อนจัดฟันแบบใส Denta-Klick ค่ะ จะเห็นว่าฟันล่างล้มซ้อนเกค่ะ
พอโตขึ้นก็รู้สึกเสียดายว่าถ้าเรามีฟันสวยๆ แล้วยิ้มได้อย่างมั่นใจคงจะดีไม่น้อย
แต่ติดตรงที่ว่าอายุเราก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว ไม่เหมือนเด็กวัยรุ่นที่ยังจัดฟันเหล็กแล้วยังน่ารักอยู่
ประกอบกับงานที่เราทำต้องเจอผู้คนแทบทุกวันจึงคิดว่าการจัดฟันแบบเหล็กไม่เหมาะกับเราอีกต่อไปค่ะ
เราเลยลองศึกษาเกี่ยวกับการจัดฟันแบบใสค่ะ ลองตระเวนไปถามราคามาหลายคลินิก ก็ได้คำตอบว่าราคาเป็นหลักแสนเพราะฟันล่างเราล้มค่อนข้างเยอะเลยต้องใช้เครื่องมือหลายชุดกว่าจะจัดเสร็จค่ะ
ด้วยความที่อยากจัดฟันมาก เราเลยไม่ท้อค ก็หาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอเข้ากับโฆษณา Denta-Klick ใน Facebook ด้วยราคาจัดฟันแบบใสแค่ 69,000 บาท คือที่นี้มีราคาเดียว 69,000 บาท แถมยังไม่ต้องไปหาหมอทุกเดือนอีก
ซึ่งตรงจุดนี้เป็นจุดที่เหมาะกับวัยทำงานอย่างเรามากค่ะ เพราะแค่งานก็ยุ่งอยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีกิจกรรมไปหาหมอเพิ่มมาอีกก็ค่อนข้างลำบาก สุดท้ายเลยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมกับทาง Denta-Klick
ส่วนขั้นตอนของ Denta-Klick ที่เสนอให้ง่ายกว่าที่เราคิดอีกค่ะ ง่ายแบบง่ายมากๆสะดวกมากๆ
คือเราจะต้องเข้าเว็บไซต์ www.denta-klick.com เพื่อไปทำการประเมินรอยยิ้ม เป็นเหมือนฟอร์มให้เรากรอกรายละเอียดของเรา เกี่ยวสุขภาพภาพช่องปากเล็กน้อย และจุดที่กังวลที่อยากจัดฟัน แล้วเลือกว่าเราจะสแกนฟันเองที่บ้านหรือไปสแกนที่คลินิกค่ะ สำหรับเราเราเลือกสแกนฟันเองที่บ้าน (โฮมสแกน) เมื่อเลือกเสร็จแล้ว ก็ทำตามขั้นตอนการมัดจำอุปกรณ์ทำโฮมสแกน ในระหว่างนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเราแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบค่ะ โดยต้องเสียค่ามัดจำอุปกรณ์ 500 บาทก่อน เมื่อสแกนเรียบร้อยก็นำไปส่งคืนที่ 7-Eleven อันนี้เราก็ยิ่งชอบค่ะ เพราะเขาเตรียมซองเตรียมเอกสารส่งคืนเซเว่นมาให้พร้อม คืนได้ทุกเซเว่น ฟรีด้วยค่ะ ชอบอันนี้มากๆ จากนั้นทาง Denta-Klick จะคืนเงิน 500 บาทกลับมาให้เราค่ะ
ตอนแรกเราคิดว่าจะเอาการคืนเงินมัดจำอุปกรณ์โฮมสแกนมาวัดใจค่ะ ถ้าเขาไม่หลอกเราในเบื้องต้นแสดงว่าไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะ Denta-Klick เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับคนไทยมากๆ เราเองก็แอบกลัวว่าจะโดนหลอกเหมือนกันค่ะ (แอบกลัวเป็นพวกแชร์ลูกโซ่นิดๆ อิอิ) สุดท้ายกลายเป็นว่าทาง Denta-Klick พยายามติดต่อมาตลอดที่จะคืนเงินให้เรา พอดีเราลืมให้เลขบัญชีกับทางพวกเขาไปเอง จุดนี้เลยทำให้เรามั่นใจมากขึ้นที่จะจัดฟันกับ Denta-Klick ค่ะ
แต่ช่วงหลังนี้ ทาง Denta-Klick เขาให้เราทำโฮมสแกนง่ายมากขึ้นนะคะ คือสามารถใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพฟันส่งไปประเมินได้เลย ไม่ต้องมัดจอุปกรณ์ อันนี้ก็ยิ่งดีไปอีก ไม่ต้องเสียเวลาโอนเงินมัดจำค่ะ
มาขั้นตอนต่อไปเลยค่ะ หลังจากที่เราส่งรูปฟันที่ทำทำโฮมสแกนไปเรียบร้อยก็รอรับผลการประเมินทางอีเมล ประมาณแค่ 1-2 วัน ทาง Denta-Klick ก็ส่งเมลมาแจ้งว่า “เราสามารถจัดฟันกับทาง Denta-Klick ได้ค่ะ”
เนื่องจากข้อจำกัดของ Denta-Klick จะสามารถจัดได้ 20 ชุด (40ชิ้น) เครื่องมือจึงมีข้อจำกัดสำหรับคนที่มีปัญหามากกว่านั้นก็จะทำไม่ได้ค่ะ
หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่จาก Denta-Klick ติดต่อมาเพื่อนัดเข้าไปพบคุณหมอที่คลินิกพาร์ทเนอร์ของ Denta-Klick เพื่อเตรียมช่องปากและเริ่มจัดฟันค่ะ คลินิกพาร์ทเนอร์ของ Denta-Klick เป็นคลิกนิกที่ดีมาก สะอาด คุณหมอเก่ง เจ้าหน้าที่ที่คลินิกก็ดูแลดีมากๆ (ตรงจุดนี้แสดงให้เห็นว่า Denta-Klick ไม่ธรรมดา และคลินิกพาร์ทเนอร์เองก็คงไม่ยอมเสียชื่อเพราะ Denta-Klick แน่นอน) ที่สำคัญเราดูแต่ละคลินิกพาร์ทเนอร์คือเป็นจุดที่เดินทางสะดวกทั้งนั้นเลยค่ะ เส้นรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดินทั้งนั้นเลยค่ะ
หลังจากที่ทำคลินิกสแกนพิมพ์ฟันเพื่อเริ่มจัดฟันแบบใสเรียบร้อย ก็รอเวลาที่ทาง Denta-Klick จะส่งแผนการรักษาแบบ 3 มิติมาให้เราทางอีเมลค่ะ ความเจ๋งของแผนการรักษาคือมาเป็นวิดีโอให้เห็นเลยว่าฟันจะถูกจัดให้สวยได้ยังไง เดี๋ยวนี้พัฒนาการทางทันตกรรมล้ำหน้าจริงๆค่ะ
ตัวอย่างนะคะ อันนี้เราแคปภาพจากวีดีโอ 3 มิติของเรามาค่ะ
จะเห็นเลยว่า แก้ปัญหาฟันของเราได้ตรวจุดมาก^^
หลังจากที่ได้รับแผนการรักษาแบบ 3 มิติมาแล้ว รอประมาณ 1 เดือนเพื่อรับอุปกรณ์จัดฟันแบบใส โดยจะต้องไปรับที่คลินิกพาร์ทเนอร์ค่ะ ซึ่งคุณหมอจะแนะนำวิธีการใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใส ระยะเวลาที่ต้องใส่ รวมถึงวิธีการดูแลอุปกรณ์และช่องปากด้านอื่นๆ และทาง Denta-Klick จะมีคู่มือและเทคนิคต่างๆในการใส่อุปกรณ์จัดฟันแบบใสให้เราด้วยค่ะ
ครั้งแรกที่ใส่จะรู้สึกตึงและแน่นค่ะ เนื่องจากเครื่องมือจะเคลื่อนฟันเราให้ตรงกับชุดนั้นๆ พอใส่ครบ 2 อาทิตย์ก็เปลี่ยนเป็นชุดถัดไป ตามเลขหน้าซองเลยค่ะ แต่ถ้ากลัวลืมเปลี่ยนเป็นชุดถัดไปก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะทางเจ้าหน้าที่จากทาง Denta-Klick จะเป็นคนโทรหรือไลน์มาเตือนเราเองค่ะว่าครบกำหนดเปลี่ยนแล้ว จึงไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดเลยค่ะ
ภาพกล่องบรรจุเครื่องมือจัดฟันใสค่ะ
เครื่องมือแต่ละชุดจะบรรจุอยู่ในถุงซิปล็อกมาคู่กัน บนถุงจะมีช่องว่างให้เขียนวันที่ที่เราเปลี่ยนเครื่องมือชุดนั้นๆด้วยค่ะ
สรุปการจัดฟันแบบใส่กับ Denta-Klick ให้อะไรกับเราบ้าง
1.ประหยัดเงินและเวลา เนื่องจากราคาถูกกว่าและไม่จำเป็นต้องไปหาคุณหมอเป็นประจำทุกเดือน
2.มั่นใจเวลายิ้มแม้จะกำลังใส่เครื่องมืออยู่ จนถึงตอนนี้คนรอบข้างก็ยังดูไม่ออกค่ะ ว่าเราจัดฟันใส
3.เจ้าหน้าที่ประจำ Denta-Klick ดูแลดีมาก คอยแนะนำ ตอบปัญหา และคอยเตือนทุกครั้งที่ต้องเปลี่ยนชุดอุปกรณ์
4.สะดวกสบายกว่าติดเหล็กเพราะไม่มีเหล็กแหลมๆ เกี่ยวจิ้มเหงือกหรือกระพุ้งแก้ม
5.ทานอาหารได้อร่อยเหมือนเดิม เพราะถอนออกได้เวลาทาน ไม่ต้องกลัวเศษอาหารติดเหล็ก
6.ดูแลง่าย เนื่องจากเครื่องมือถอดออกได้จึงทำความสะอาดได้ง่าย และตัวเราเองก็ดูแลช่องปากได้ง่ายกว่าตอนติดเหล็ก
ข้อเสียมีแค่เล็กน้อยคือเป็นเครื่องมือที่ผู้จัดต้องมีวินัยในตัวเองสูงมาก เพราะต้องใส่เครื่องมือไว้ถึง 22 ชั่วโมงต่อวัน
ถ้าใส่ไม่ครบตามกำหนดก็ต้องยอมรับถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเองค่ะ อิอิ
ตัวอย่างภาพที่ใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใสค่ะ
จะเห็นว่าใสมากจริงๆค่ะ คือเพื่อนๆเราแถบจะไม่ทราบเลยว่าเรากำลังจัดฟันอยู่
ทั้งหมดที่เรารีวิวมาและอยากให้เพื่อนๆชาวพันทิปรู้จักกับ Denta-Klick เพราะตัวเราเองเห็นว่าสะดวกสบาย เชื่อถือได้
รวมถึงราคาที่ไม่มหาโหดจนเกินไป การจัดฟันแบบใสกับ Denta-Klick จึงตอบโจทย์เราได้ทั้งหมดค่ะ
เหมือนกับว่า เขาทำมาในความหวังดีที่อยากให้เรามีรอยยิ้มสวยในราคาที่จับต้องได้ ^^
เราตั้งใจเขียนรีวิวนี้และเราบอกกับทาง Denta-Klick ค่ะว่า เราอยากเขียนรีวิวให้ เพราะส่วนตัวเรารู้สึกโอเคจริงๆค่ะ
หากเพื่อนๆมีคำถามเพิ่มเติม จะถามหรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ
เราไม่ใช่หน้าม้า แต่เราคือคนไข้จริงๆค่ะ คนไข้ที่อยากบอกว่า ฉันจะมีรอยยิ้มสวยอีกครั้ง
และการจัดฟันแบบใส มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็ทำได้ค่ะ
ปล. เราผ่อน 0% 10เดือน และเขามีแบบผ่อน 20 เดือนด้วยนะคะ
เราทำได้ คุณก็ทำได้ค่ะ
[CR] ฉันจะฟันสวยอีกครั้ง รีวิวการจัดฟันแบบใสกับยี่ห้อ Denta-Klick
คราวนี้กลับมา เลยอยากขอใช้พื้นที่กระทู้นี้รีวิวการจัดฟันแบบใสกับ Denta-Klick ค่ะ
ต้องบอกก่อนนะคะว่า กระทู้นี้อาจจะร่ายยาว เพราะส่วนตัวอยากเก็บข้อมูลไว้ดูเองด้วย อิอิ
ใครจะรู้ว่าจัดฟันแบบใส ราคาไม่ถึงแสนก็มี และผ่อนได้แบบยาวนานไปอีก ดีค่ะดี ^^
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า เราเคยจัดฟันตอนเด็กๆ ประมาณมัธยมค่ะ
แต่ด้วยความที่ยังเด็ก แล้วก็ใช้เงินพ่อแม่จัดด้วย เลยไม่ค่อยเห็นค่าเท่าไหร่ หรือเรียกง่ายๆว่าก็จัดฟันตามเพื่อนตามความเห็นของพ่อและแม่ที่เห็นสมควร ประมาณนั้นค่ะ ^^ พอถึงช่วงถอดเหล็กแล้วต้องใส่รีเทนเนอร์ แรกๆก็ตั้งใจใส่ดีมาก แต่สักพักก็เริ่มเบื่อจนหลังๆไม่ใส่แล้ว จนกระทั่งฟันล่างล้มเลยค่ะ
นี้เป็นภาพฟันก่อนจัดฟันแบบใส Denta-Klick ค่ะ จะเห็นว่าฟันล่างล้มซ้อนเกค่ะ
พอโตขึ้นก็รู้สึกเสียดายว่าถ้าเรามีฟันสวยๆ แล้วยิ้มได้อย่างมั่นใจคงจะดีไม่น้อย
แต่ติดตรงที่ว่าอายุเราก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว ไม่เหมือนเด็กวัยรุ่นที่ยังจัดฟันเหล็กแล้วยังน่ารักอยู่
ประกอบกับงานที่เราทำต้องเจอผู้คนแทบทุกวันจึงคิดว่าการจัดฟันแบบเหล็กไม่เหมาะกับเราอีกต่อไปค่ะ
เราเลยลองศึกษาเกี่ยวกับการจัดฟันแบบใสค่ะ ลองตระเวนไปถามราคามาหลายคลินิก ก็ได้คำตอบว่าราคาเป็นหลักแสนเพราะฟันล่างเราล้มค่อนข้างเยอะเลยต้องใช้เครื่องมือหลายชุดกว่าจะจัดเสร็จค่ะ
ด้วยความที่อยากจัดฟันมาก เราเลยไม่ท้อค ก็หาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอเข้ากับโฆษณา Denta-Klick ใน Facebook ด้วยราคาจัดฟันแบบใสแค่ 69,000 บาท คือที่นี้มีราคาเดียว 69,000 บาท แถมยังไม่ต้องไปหาหมอทุกเดือนอีก
ซึ่งตรงจุดนี้เป็นจุดที่เหมาะกับวัยทำงานอย่างเรามากค่ะ เพราะแค่งานก็ยุ่งอยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีกิจกรรมไปหาหมอเพิ่มมาอีกก็ค่อนข้างลำบาก สุดท้ายเลยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมกับทาง Denta-Klick
ส่วนขั้นตอนของ Denta-Klick ที่เสนอให้ง่ายกว่าที่เราคิดอีกค่ะ ง่ายแบบง่ายมากๆสะดวกมากๆ
คือเราจะต้องเข้าเว็บไซต์ www.denta-klick.com เพื่อไปทำการประเมินรอยยิ้ม เป็นเหมือนฟอร์มให้เรากรอกรายละเอียดของเรา เกี่ยวสุขภาพภาพช่องปากเล็กน้อย และจุดที่กังวลที่อยากจัดฟัน แล้วเลือกว่าเราจะสแกนฟันเองที่บ้านหรือไปสแกนที่คลินิกค่ะ สำหรับเราเราเลือกสแกนฟันเองที่บ้าน (โฮมสแกน) เมื่อเลือกเสร็จแล้ว ก็ทำตามขั้นตอนการมัดจำอุปกรณ์ทำโฮมสแกน ในระหว่างนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเราแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบค่ะ โดยต้องเสียค่ามัดจำอุปกรณ์ 500 บาทก่อน เมื่อสแกนเรียบร้อยก็นำไปส่งคืนที่ 7-Eleven อันนี้เราก็ยิ่งชอบค่ะ เพราะเขาเตรียมซองเตรียมเอกสารส่งคืนเซเว่นมาให้พร้อม คืนได้ทุกเซเว่น ฟรีด้วยค่ะ ชอบอันนี้มากๆ จากนั้นทาง Denta-Klick จะคืนเงิน 500 บาทกลับมาให้เราค่ะ
ตอนแรกเราคิดว่าจะเอาการคืนเงินมัดจำอุปกรณ์โฮมสแกนมาวัดใจค่ะ ถ้าเขาไม่หลอกเราในเบื้องต้นแสดงว่าไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะ Denta-Klick เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับคนไทยมากๆ เราเองก็แอบกลัวว่าจะโดนหลอกเหมือนกันค่ะ (แอบกลัวเป็นพวกแชร์ลูกโซ่นิดๆ อิอิ) สุดท้ายกลายเป็นว่าทาง Denta-Klick พยายามติดต่อมาตลอดที่จะคืนเงินให้เรา พอดีเราลืมให้เลขบัญชีกับทางพวกเขาไปเอง จุดนี้เลยทำให้เรามั่นใจมากขึ้นที่จะจัดฟันกับ Denta-Klick ค่ะ
แต่ช่วงหลังนี้ ทาง Denta-Klick เขาให้เราทำโฮมสแกนง่ายมากขึ้นนะคะ คือสามารถใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพฟันส่งไปประเมินได้เลย ไม่ต้องมัดจอุปกรณ์ อันนี้ก็ยิ่งดีไปอีก ไม่ต้องเสียเวลาโอนเงินมัดจำค่ะ
มาขั้นตอนต่อไปเลยค่ะ หลังจากที่เราส่งรูปฟันที่ทำทำโฮมสแกนไปเรียบร้อยก็รอรับผลการประเมินทางอีเมล ประมาณแค่ 1-2 วัน ทาง Denta-Klick ก็ส่งเมลมาแจ้งว่า “เราสามารถจัดฟันกับทาง Denta-Klick ได้ค่ะ”
เนื่องจากข้อจำกัดของ Denta-Klick จะสามารถจัดได้ 20 ชุด (40ชิ้น) เครื่องมือจึงมีข้อจำกัดสำหรับคนที่มีปัญหามากกว่านั้นก็จะทำไม่ได้ค่ะ
หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่จาก Denta-Klick ติดต่อมาเพื่อนัดเข้าไปพบคุณหมอที่คลินิกพาร์ทเนอร์ของ Denta-Klick เพื่อเตรียมช่องปากและเริ่มจัดฟันค่ะ คลินิกพาร์ทเนอร์ของ Denta-Klick เป็นคลิกนิกที่ดีมาก สะอาด คุณหมอเก่ง เจ้าหน้าที่ที่คลินิกก็ดูแลดีมากๆ (ตรงจุดนี้แสดงให้เห็นว่า Denta-Klick ไม่ธรรมดา และคลินิกพาร์ทเนอร์เองก็คงไม่ยอมเสียชื่อเพราะ Denta-Klick แน่นอน) ที่สำคัญเราดูแต่ละคลินิกพาร์ทเนอร์คือเป็นจุดที่เดินทางสะดวกทั้งนั้นเลยค่ะ เส้นรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดินทั้งนั้นเลยค่ะ
หลังจากที่ทำคลินิกสแกนพิมพ์ฟันเพื่อเริ่มจัดฟันแบบใสเรียบร้อย ก็รอเวลาที่ทาง Denta-Klick จะส่งแผนการรักษาแบบ 3 มิติมาให้เราทางอีเมลค่ะ ความเจ๋งของแผนการรักษาคือมาเป็นวิดีโอให้เห็นเลยว่าฟันจะถูกจัดให้สวยได้ยังไง เดี๋ยวนี้พัฒนาการทางทันตกรรมล้ำหน้าจริงๆค่ะ
ตัวอย่างนะคะ อันนี้เราแคปภาพจากวีดีโอ 3 มิติของเรามาค่ะ
จะเห็นเลยว่า แก้ปัญหาฟันของเราได้ตรวจุดมาก^^
หลังจากที่ได้รับแผนการรักษาแบบ 3 มิติมาแล้ว รอประมาณ 1 เดือนเพื่อรับอุปกรณ์จัดฟันแบบใส โดยจะต้องไปรับที่คลินิกพาร์ทเนอร์ค่ะ ซึ่งคุณหมอจะแนะนำวิธีการใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใส ระยะเวลาที่ต้องใส่ รวมถึงวิธีการดูแลอุปกรณ์และช่องปากด้านอื่นๆ และทาง Denta-Klick จะมีคู่มือและเทคนิคต่างๆในการใส่อุปกรณ์จัดฟันแบบใสให้เราด้วยค่ะ
ครั้งแรกที่ใส่จะรู้สึกตึงและแน่นค่ะ เนื่องจากเครื่องมือจะเคลื่อนฟันเราให้ตรงกับชุดนั้นๆ พอใส่ครบ 2 อาทิตย์ก็เปลี่ยนเป็นชุดถัดไป ตามเลขหน้าซองเลยค่ะ แต่ถ้ากลัวลืมเปลี่ยนเป็นชุดถัดไปก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะทางเจ้าหน้าที่จากทาง Denta-Klick จะเป็นคนโทรหรือไลน์มาเตือนเราเองค่ะว่าครบกำหนดเปลี่ยนแล้ว จึงไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดเลยค่ะ
ภาพกล่องบรรจุเครื่องมือจัดฟันใสค่ะ
เครื่องมือแต่ละชุดจะบรรจุอยู่ในถุงซิปล็อกมาคู่กัน บนถุงจะมีช่องว่างให้เขียนวันที่ที่เราเปลี่ยนเครื่องมือชุดนั้นๆด้วยค่ะ
สรุปการจัดฟันแบบใส่กับ Denta-Klick ให้อะไรกับเราบ้าง
1.ประหยัดเงินและเวลา เนื่องจากราคาถูกกว่าและไม่จำเป็นต้องไปหาคุณหมอเป็นประจำทุกเดือน
2.มั่นใจเวลายิ้มแม้จะกำลังใส่เครื่องมืออยู่ จนถึงตอนนี้คนรอบข้างก็ยังดูไม่ออกค่ะ ว่าเราจัดฟันใส
3.เจ้าหน้าที่ประจำ Denta-Klick ดูแลดีมาก คอยแนะนำ ตอบปัญหา และคอยเตือนทุกครั้งที่ต้องเปลี่ยนชุดอุปกรณ์
4.สะดวกสบายกว่าติดเหล็กเพราะไม่มีเหล็กแหลมๆ เกี่ยวจิ้มเหงือกหรือกระพุ้งแก้ม
5.ทานอาหารได้อร่อยเหมือนเดิม เพราะถอนออกได้เวลาทาน ไม่ต้องกลัวเศษอาหารติดเหล็ก
6.ดูแลง่าย เนื่องจากเครื่องมือถอดออกได้จึงทำความสะอาดได้ง่าย และตัวเราเองก็ดูแลช่องปากได้ง่ายกว่าตอนติดเหล็ก
ข้อเสียมีแค่เล็กน้อยคือเป็นเครื่องมือที่ผู้จัดต้องมีวินัยในตัวเองสูงมาก เพราะต้องใส่เครื่องมือไว้ถึง 22 ชั่วโมงต่อวัน
ถ้าใส่ไม่ครบตามกำหนดก็ต้องยอมรับถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเองค่ะ อิอิ
ตัวอย่างภาพที่ใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใสค่ะ
จะเห็นว่าใสมากจริงๆค่ะ คือเพื่อนๆเราแถบจะไม่ทราบเลยว่าเรากำลังจัดฟันอยู่
ทั้งหมดที่เรารีวิวมาและอยากให้เพื่อนๆชาวพันทิปรู้จักกับ Denta-Klick เพราะตัวเราเองเห็นว่าสะดวกสบาย เชื่อถือได้
รวมถึงราคาที่ไม่มหาโหดจนเกินไป การจัดฟันแบบใสกับ Denta-Klick จึงตอบโจทย์เราได้ทั้งหมดค่ะ
เหมือนกับว่า เขาทำมาในความหวังดีที่อยากให้เรามีรอยยิ้มสวยในราคาที่จับต้องได้ ^^
เราตั้งใจเขียนรีวิวนี้และเราบอกกับทาง Denta-Klick ค่ะว่า เราอยากเขียนรีวิวให้ เพราะส่วนตัวเรารู้สึกโอเคจริงๆค่ะ
หากเพื่อนๆมีคำถามเพิ่มเติม จะถามหรือหลังไมค์มาก็ได้นะคะ
เราไม่ใช่หน้าม้า แต่เราคือคนไข้จริงๆค่ะ คนไข้ที่อยากบอกว่า ฉันจะมีรอยยิ้มสวยอีกครั้ง
และการจัดฟันแบบใส มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็ทำได้ค่ะ
ปล. เราผ่อน 0% 10เดือน และเขามีแบบผ่อน 20 เดือนด้วยนะคะ
เราทำได้ คุณก็ทำได้ค่ะ