สวัสดีครับทุกๆท่าน ห่างหายกันไปนานเลยกับการเขียนรีวิวเที่ยว ทั้งด้วยเรื่องงานเอย ธุระส่วนตัวเอย ทำให้ไม่ค่อยได้มีเวลาออกไปใช้ชีวิตเท่าไร พอเข้าปีใหม่นี้ (2561) ผมตั้งใจจะหาโอกาสเที่ยวแล้วมาเขียนรีวิวให้ได้ ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมได้ดูรายการโทรทัศน์รายการนึง(จำไม่ได้ว่ารายการอะไร) เขาพูดถึง ระนอง-ระยอง-ยะลา ผมเลยเอะใจขึ้นมา "เอ๊ะ ! ระนอง ? น่าสนใจจัง จ.นี้มีอะไรน้ออ ?" เป็นสาเหตุของการแบกเป้ทริปนี้ ผมก็เริ่มหาข้อมูลโดยการถามเพื่อนๆพี่ๆที่ทำงาน ก็ไม่มีใครเคยไป ผมเลยเริ่มต้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต ก็เลยมาเจอ "เกาะพยาม" อืม.....โอเคตัดสินใจเลย ผมจะไปที่นี่แหล่ะ ก็โทรชวนเพื่อนๆ ก็ไม่มีใครไป ฮ่าๆ ง่ายๆเลย เพราะมันค่อนข้างไกลจาก หนองบัวลำภู เหลือเกิน คิดในใจ "..ไปคนเดียวก็ได้วะ.." (แล้วก็ไปจริงๆ) ผมเริ่มค้นหาวิธีการเดินทางไปโดยทันที ผมสรุปกับตัวเองว่า จะไปด้วยวิธีนั่งเครื่องจากสนามบินอุดรฯไปลงที่ดอนเมือง แล้วไปต่อรถ กรุงเทพฯ-ระนอง จากนั้นก็ต่อเรือจากระนองไปเกาะพยาม สำหรับวันที่เดินทางทริปนี้คือ 1-5 มีนาคม 2561 ส่วนค่าใช้จ่ายในทริปนี้ผมจะบอกไว้ท้ายสุดนะครับ พูดมาเยอะละ เริ่มกันเลยครับ
ปล.กระทู้นี้จะยาวมาก ผมอยากบันทึกเป็นความทรงจำตัวเองไว้ เพราะผมมีความประทับใจกับการเดินทางครั้งนี้มากจริงๆ


01/03/2561
ผมได้ทำการจองและจ่ายค่าการเดินทางไป-กลับและค่าที่พักไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยหลักๆคือ ผมบินโดยสายการบิน Airasia ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ รถที่ไป-กลับ ระนอง-กรุงเทพฯ ผมใช้บริการของ บ.สมบัติทัวร์ เรือไป-กลับเกาะพยามใช้บริการของ บ้านลุงเงาะ และที่พักของ Lazy Hut ทั้งหมดนี้ผมจ่ายไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม เพื่อความสะดวกและบังคับให้ตัวเองต้องเดินทางไปให้ได้
วันที่ 1 มีนาคม ผมขึ้นเครื่องที่สนามบิน จ.อุดรธานีเวลา 12.10 น. ถึง ดอนเมือง 13.30 น. โดยประมาณ แล้วผมก็ขอใช้ทางลัดนิดหน่อยคือ ให้เพื่อนมารับที่ดอนเมือง แล้วก็เล่นที่บ้านเพื่อนรอ ก่อนจะไปขึ้นรถที่ สถานีขนส่งสายใต้(ใหม่) เนื่องจากรถออกเวลา 20.30 น. เลยอยู่กับเพื่อนเพื่อฆ่าเวลา ประมาณ 18.30 น. เพื่อนผมมาส่งผมทิ้งไว้ที่ สายใต้(ใหม่) เพื่อรอขึ้นรถทัวร์



ผมก็นั่งๆ เดินๆ รอเวลา ประมาณ 20.00 น. ก็จะมีคนมาเรียกให้ขึ้นรถ ผมไม่ได้นั่งรถ VIP ผมนั่งรถราคาประหยัดครับ


หน้าตารถประมาณนี้ แต่ถึงจะราคาประหยัดก็มีบริการน้ำ ของว่างอยู่ครับ ขึ้นรถเวลานี้ก็นอนยาวๆไปสิ..ZZZzzz


ตื่นมาอีกทีรถมาจอดพักรถที่ "ร้านคุณต้น" น่าจะ จ.ประจวบคีรีขันธ์(ถ้าผิดพลาดขออภัยครับ) ผมเข้าแค่ห้องน้ำครับ แต่เขามีอาหารให้กินนะ แต่ผมไม่หิว ง่วงมากกว่าเลยไม่ได้กินไร ขึ้นมารอยาวๆ

02/03/2561


ถึงแล้วระนอง ถึง บขส. ระนองเวลาประมาณ 05.20 น. ผมงัวเงีย เดินลงมาตั้งสติ จริงๆตอนที่คุยกับบ้านลุงเงาะทางร้านบอกว่าจะมีรถมารับ ผมเลยคิดเอาเองว่า รถน่าจะไปรับที่ บ.สมบัติทัวร์ ที่อยู่ในเมือง ซึ่งผมดันลง บขส.ไปแล้ว ก็ต้องหาทางไปให้ได้แหล่ะ เวลาผ่านไปสัก 30 นาที ก็จะมีคนมารุมถามเลย จะไปไหนๆ ถ้าตกลงราคาได้ก็ไปครับ หรือจะไปกับรถสองแถวประจำทางก็ได้ แต่ผมนั่งไปกับลุงคนนึงที่ไปส่งนักท่องเที่ยวในราคา 50 บาท ผมอยากไปถึงเร็วๆ เพื่อเอากระเป๋าไปฝาก หากินข้าว แล้วเดินเล่นก่อนเรือออก


หน้าตาแบบนี้ จริงๆ ดูจากป้ายข้างรถ ถ้ามีคำว่า สะพานปลา ก็น่าจะมาได้หมดทุกคันนะ(ต้องถามคนขับรถอีกทีนะไม่แน่ใจ)



ถึงแล้วบ้านลุงเงาะเรือไปเกาะ ผมโทรตกลงไว้คือ ขาไปเกาะไปด้วยเรือเมล์ ออก 9.30 น.ของวันที่ 2 มีนาคม และกลับด้วยเรือ สปีดโบ๊ท เวลา 11.00 น. ของวันที่ 4 มีนาคม ผมต้องการลองทั้ง 2 แบบ จะได้รู้สึกถึงบรรยากาศและความแตกต่าง(ความคิดส่วนตัวล้วนๆ) ผมกินข้าวเช้าที่บ้านลุงเงาะ(เป็นมื้อแรกในระนองด้วยแหล่ะ แหะๆ) ตอนนี้เพิ่ง 6 โมงนิดๆ กว่าเรือจะออกมีเวลาเดินเล่นเยอะแยะ ออกไปเดินดูอะไรๆกันดีกว่า





เดินไปเรื่อยๆ สมองมีแต่ความตื่นเต้นกับครั้งแรกของจังหวัดนี้ และเป็นครั้งแรกของทะเลอันดามันของผมเองด้วย



ก่อนเดินออกมา คุณเอ๋ที่บ้านลุงเงาะบอกว่าแถวนี้มีที่ประมูลปลา ผมคิดว่าเป็นที่นี่แหล่ะ เข้ามาในนี้พี่น้องชาวพม่าเยอะน่าดู
กลับดีกว่า ไปนั่งพักเหนื่อยก่อนไปขึ้นเรือกัน


ใกล้ถึงเวลาออกเรือทางบ้านลุงเงาะก็ขับรถมาส่งเราไว้ที่ท่าเรือแล้วก็บอกเรือที่เราจะต้องขึ้น ดูแลนักท่องเที่ยวค่อยข้างดีมากเลย


เราจะได้บัตรทั้งขาไปและขากลับลักษณะนี้ ให้เอาติดตัวไว้



นี่คือเรือที่ผมจะใช้เดินทางไปเกาะพยามครับ เห็นบอกออก 9.30 น. ถึงประมาณ 12.30 น. ชิลไปไหน..หรือมันไกล คงรู้กันวันนี้แหล่ะ





บรรยากาศในท่าเรือ คึกคักกันน่าดู จริงๆแล้วที่ซื้อตั๋วเรือมีเยอะมากนะครับ เลือกได้ตามใจชอบ ที่ผมเลือกของบ้านลุงเงาะ เพราะผมจองที่พักของ Lazy hut ไว้ ทางที่พักเลยแนะนำที่นี่มา ส่วนราคาโดยสารก็ประมาณกันครับ ค่าเรือเมล์ 200 บาท/เที่ยว สปีดโบ๊ท 350 บาท/เที่ยว เวลาการเดินเรือ สปีดโบ๊ทจะมีหลายเที่ยวกว่า
ถึงเวลาเราขึ้นเรือแล้วครับ เดี๋ยวเราไปชิลๆ นั่งๆนอนๆบนเรือกัน



บรรยากาศบนเรือ ลมเย็นสบายๆคนไม่ค่อยเยอะ ผมเดาว่าส่วนใหญ่คงไปสปีดโบ๊ทหมดแหล่ะ เพิ่มเงินนิดหน่อยเร็วกว่าเยอะ แต่ไม่เป็นไรเราสายชิล ถึงตอนไหนก็ตอนนั้นแหล่ะ จะได้ดูอะไรข้างทางไปด้วยสบายๆ



เรือประมงที่จอดเทียบท่าแถวๆทางออกทะเลครับ สำหรับผมนี่คือสิ่งแปลกตา ผมตื่นเต้นแบบนั่งไม่ติดที่นั่งเลยครับ



พอห่างจากตัวเมืองออกมา ทะเลก็เริ่มเปลี่ยนสีเป็นใสขึ้นเรื่อยๆ สวยงามมากครับ




เราผ่านเกาะต่างๆมาประมาณนึงแล้ว ถ้าเห็นเป็นเหมือนกับดอกบัวแล้วมีพระพุทธรูปยืนอยู่กลางน้ำแบบนี้ เป็นสัญญาณว่าเรือกำลังจะเข้าเทียบเกาะพยามแล้ว




และแล้วเรือก็จอดที่ท่าเรือเวลาประมาณ 12.30 น. ผมแบกเป้เดินตามทางมา ถ้าเห็นป้ายแบบนี้แปลว่ามาไม่ผิดที่แน่นอน ระหว่างอยู่บนเรือทางที่พักได้โทรแจ้งผมแล้วว่าตอนนี้ที่ที่พักยังไม่มีรถเช่าว่าง เขาแนะนำให้ผมหาเช่าที่ท่าเรือขับไป ไม่ก็นั่งแท็กซี่(พี่วินบ้านเรา)เข้าไปก่อน ผมเดินหาแถวๆท่าเรือรถเช่าก็โดนเช่าไปหมด ผมคงต้องนั่งแท็กซี่ไปแล้วล่ะงานนี้ ไหนๆก็จะนั่งแท็กซี่ละ เดินดูอะไรนิดๆหน่อยดีกว่า





ให้แท็กซี่ไปส่งแล้วบอกลุงแก "เลซี่ฮัท..ครับลุง" ลุงแกแว้นไปเลย ผมเพลียกับการเดินทาง อยากอาบน้ำ ถ้าอ่านมาเรื่อยๆจะสังเกตุว่าผมเดินทางตลอดยังไม่ได้อาบน้ำเลยตั้งแต่ขึ้นเครื่องตอนเที่ยงของเมื่อวาน ฮ่าๆๆ หมักสุดๆ





ถึงแล้วที่พัก Lazy hut หน้าตาก็ประมาณนี้อากาศข้างนอกร้อนมาก แต่พอเข้าในห้องพักมันเย็นเหลือเชื่อ อาจเพราะหลังคาที่มุงด้วยจากหรือต้นไม้ไม่แน่ใจ แต่ในห้องพักอากาศเย็นสบายมาก ห้องพักติดชายหาดฝั่งอ่าวใหญ่(ทับอวน) ถึงจะไม่ใช่ Sea View แต่เดินแค่ไม่ถึง 3 เมตรก็ทะเลแล้ว เทียบกับราคาผมว่าดีมากๆเลยครับ ขออาบน้ำนอนพักผ่อนสักพัก รอรถเช่าว่าง เราจะออกไปลุยตามอ่าวต่างๆกันครับ