สวัสดีค่ะขอแนะนำตัวน้องหมาก่อนนะคะ
น้องหมาเราชื่อเป้อ (มาจาก stromtrooper ตั้งชื่อตามสีน้องหมาค่ะ 555) อายุตอนนี้ที่ตั้งกระทู้ จะ 6 เดือนแล้วค่ะ เป็นน้องหมาพันธุ์เฟร๊นซ์บลูด๊อก หน้าก็จะตลกๆย่นๆดั้งแหม่บๆหน่อย อิอิ
ตะหวัดดีคับหนูเป็นหนุ่มภูธร บ้านอยู่โคราชค้าบ
เมื่อเดือนที่แล้ว (ตอนนั้นน้องอายุ 4 เดือนกว่าๆ) อยู่ๆตื่นมา น้องก็มีก้อนเนื้อสีชมพูอยู่ตรงหัวตา จริงๆแล้วน้องเคยเป็นแล้วครั้งนึง แต่ตื่นเล่นซักพักไม่ถึง 10 นาทีมันหายเอง เราเลยคิดว่าเดี๋ยวคงจะหายเหมือนเดิมเลยไม่ได้เอะใจ
รูปตอนที่เป็นครั้งแรก (คนละข้างกับข้างที่ผ่า)
แต่คราวนี้ผ่านไป 1 วัน ก็ยังไม่หาย แถมยิ่งนานยิ่งรู้สึกว่าใหญ่ขึ้น โอ่ยยยย เราเลยพาไปปรึกษาคุณหมอที่คลีนิคใกล้ๆบ้าน คุณหมอบอกว่าใหญ่เหมือนกันนะ ไม่น่าจะเข้าเองได้แล้ว จะต้องผ่าตัด ทรึ่นนนนนนนนนนน!!!! แต่คุณหมอบอกว่าน้องยังเด็กเกินไปยังผ่าไม่ได้ เพราะการผ่าต้องวางยาสลบ มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ฟื้นถ้าโดนวางยาตอนยังเด็กอยู่ คุณหมอบอกว่าจะปลอดภัยอย่างน้อยๆต้องอายุ 6 เดือนขึ้นไปค่ะ
รูปตาที่เป็นครั้งที่สอง (ตาซ้าย)
ระหว่างนั้นเจ้าเป้อซนมากเลยค่ะ วิ่งเก่งมาก ถ้าได้ตื่นวิ่งไม่หยุด เล่นคึกมากๆ กระโดด ชนนู่นนี่นั่นก็ไม่หลับตา เล่นตุ๊กตาก็กัด สะบัดๆๆๆกระโดดกระโจน เล่นแบบอึดถึกมาก เล่นเหมือนพรุ่งนี้จะไม่ได้เล่นแล้ว 5555 มีเลือดไหลออกมาจากเนื้อเชอร์รี่อายทุกวัน เรานี่ร้องไห้สงสารหมา แต่ไอ่ตัวแสบนั่งทำหน้ามึนมองหน้าเรา หนูไม่เจ็บซักหน่อย หนูงงว่าจะร้องไห้ทำไมอ่าค๊าบบบ 555
รูปตอนที่เป็นแผลเลือดออก (ในรูปดูเล็ก แต่จริงแผลใหญ่เหมือนกันค่ะ มีเลือดออกอาบเหนียงเต็มเลยค่ะแต่ในรูปคือเช็ดออกหมดแล้ว)
ระหว่างรอให้ครบ 6 เดือนนี้ เราเครียดมากสงสารหมา เลยหาข้อมูลว่าเชอร์รี่อายคืออะไร อันตรายแค่ไหน รักษายังไงได้บ้าง
เลยได้ข้อมูลมาตามนี้ค่ะ
ดวงตาของน้องหมาจะมีหนังตาที่สาม จริงๆแล้วมันคือชั้นเนื้อเยื่อแผ่นบาง ๆ ที่อยู่ระหว่างชั้นเปลือกตากับกระจกตา จะมีกระดูกอ่อนรูปตัวที (T) เป็นโครงสร้างอยู่ข้างใน ซึ่งปกติมันจะหดอยู่ตรงหัวตา ถ้าสังเกตุดีๆมันคือเนื้อสีชมพูอ่อนๆตรงหัวตา เหมือนตาของมนุษย์ค่ะ
ภายในหนังตาที่สามก็จะประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อน้ำเหลือง และต่อมน้ำตาค่ะ ทั้งหมดรวมกันเรียกว่า ต่อมของหนังตาที่สาม หน้าที่ของหนังตาที่สาม ก็คือปกป้องกระจกตา และ ช่วยสร้างน้ำตา ซึ่งหนังตาที่สามจะช่วยสร้างน้ำตาประมาณราวๆ 40% ของน้ำตาทั้งหมดเลยทีเดียวเชียวแหละ
แต่วันดีคืนดีเจ้าของหนังตาที่สาม อาจเกิดการขยายใหญ่และยื่นโผล่ออกมาจากบริเวณหัวตา รูปร่างอย่างกับผลเชอร์รี่ แบบที่น้องหมาเราเป็น เค๊าเลยเรียกว่า “โรคเชอร์รี่ อาย (Cherry eye)”
เราถามคุณหมอว่ามันเกิดได้ยังไง มีวิธีป้องกันไหม หมอบอกว่า ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด การถ่ายทอดทางพันธุกรรมก็เป็นไปได้ แต่เหตุทางกายภาพหลักๆที่ทำให้เกิดอาการคือ เกิดจากการหย่อนตัวของเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ยึดไอ้เจ้าต่อมของหนังตาที่สาม พอมันหย่อนมันก็ไม่แข็งแรงมากพอ ถ้ามีการอักเสบบริเวณเนื้อเยื่อน้ำเหลืองจากการสัมผัสเชื้อ หรือโดนสารก่อภูมิแพ้ก็จะทำให้ต่อมมันบวมขึ้นมาได้ คุณหมอบอกว่า ถ้าเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ ก็ป้องกันยาก เพราะบางอย่างมันยากที่จะหลีกเลี่ยง เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ หญ้า ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยู่ในชีวิตประจำวันนี่แหละค่ะ
เพื่อความสบายใจหากลูกๆที่บ้านใครกำลังเป็นอยู่ ต้องบอกว่า การเป็นเชอร์รี่อายนั้น น้องหมาไม่ได้เจ็บปวดนะคะ (ถ้าไม่อักเสบ) แต่อาจจะมีรำคาญถ้าไอ้ก้อนนี้ไปบดบังการมองเห็น แต่หมาเราเจ้าทรูปเปอร์ มันซนมากจริงๆ เราเครียดมากเลย รออีกสองเดือนไม่ไหวจริงๆ ถ้าปล่อยไว้มีต้องเช็ดเลือดให้มันทู้กวัน เช็ดไปร้องไห้ไป แถมยังมีแม่ๆในกลุ่มเฟร้นซ์บอกว่าถ้าทิ้งไว้นานก้อนนี้มันจะไปเบียดลูกตามีปัญหาอีกค่ะ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเว็บ dogilike.com ด้วยนะคะ**
ไม่ไหวแล้ววววววว ต่อมาได้อ่านรีวิวจากกระทู้พันทิป เกี่ยวกับคลีนิคที่รักษาตา ก็เจอข้อมูลของ ศูนย์โรคตาสัตว์ คุณหมอปราณีสัตวแพทย์
https://www.facebook.com/praneevet/ จริงๆแล้วเจอหลายคลีนิคที่มีรีวิวดีๆค่ะ แต่ว่าตอนแรกเลยตัดสินใจเลือกให้น้องรักษาที่นี่ เนื่องจากอยู่แถวแจ้งวัฒนะ เราเดินทางจากโคราชไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดเข้าเมือง และพอยิ่งหาข้อมูลมากขึ้นก็ยิ่งเชื่อมั่นในความชำนาญของคุณหมอค่ะ ก่อนจะพาเจ้าเป้อเข้ารับการรักษา เราได้มีการสอบถามคุณหมอทาง inbox แฟนเพจ ว่าอายุน้อง 4 เดือน สามารถผ่าได้ไหม คุณหมอให้ข้อมูลว่า ถ้าตรวจเลือด ร่างกายปกติ แข็งแรงดีผ่าได้ค่ะ คุณหมอแนะนำให้พาน้องไปตรวจร่างกายก่อนค่ะ คุณหมอน่ารักมากค่ะตอบทุกข้อซักถามอย่างดีเลยค่ะ
และแล้วเราก็พาน้องมาตรวจที่ศูนย์ค่ะ พอขับรถมาถึงเห็นสถานที่ ยิ่งตอกย้ำว่าเราเลือกถูกที่ สถานที่สะอาด ใหญ่โตที่จอดรถเยอะ เจ้าหน้าที่น่ารักมากๆค่ะ คุณหมอใจดีมากๆๆๆๆกอไก่ล้านตัว และมืออาชีพมากๆ มั่นใจมากจริงๆเลยค่ะว่าลูกเราตัองหายแน่ๆอิอิ วันแรกคุณหมอตรวจตา ย้อมตาดูแผลที่กระจกตา เจาะเลือด เราหายเครียดทันทีจะหายแล้วเจ้าเป้อ
รูปภายในศูนย์ค่ะ สะอาด โปร่ง โล่งสบายมากๆ***
มาเจอพี่ๆสายพันธุ์เดียวกันที่ศูนย์ น่ารักมาก พี่ซีดานและพี่ว๊อดก้า เจ้าเป้อดีใจมาก ปกติไม่ค่อยมีเพื่อน ยิ่งสายพันธุ์เดียวกันแถวบ้านยิ่งไม่ค่อยมีค่ะ
พี่ว๊อดก้ามารักษาตาเหมือนกันหน้าเหมือนกันไปอี๊ก 55
คุณหมอบอกว่าระหว่างรอผ่า ต้องให้น้องใส่ลำโพง (คอลลาร์)ไว้ จะได้ไม่เกาตาตัวเอง และป้องกันการเอาตาไปถูไถสิ่งของ ไม่ให้กระจกตาเป็นแผลค่ะ วันนั้นมีการตรวจตา ตรวจร่างกาย เจาะเลือด และช่วงเย็นคุณหมอก็โทรมาแจ้งว่า เจ้าเป้อร่างกายแข็งแรงดีผ่าได้ คุณหมอนัดวันผ่าอีกสองสามวันถัดมาค่ะ ดีใจม๊ากกกกกกกก
ได้ลำโพงมาหน้ามันก็จะร่าเริงๆหน่อย ประมาณนี้ค่ะ นอกจากลำโพงก็มียามาหยอดด้วยค่ะ น่าจะเป็นยาแก้อักเสบ
วันผ่าตัดคุณหมอ นัดผ่าเวลาบ่ายโมง แต่ต้องมาถึงก่อนเพื่อเตรียมตัวตอนเที่ยงครึ่ง เจ้าเป้ออดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน อดน้ำตั้งแต่ตีห้า ท่าทางจะหิวมากเลย ฮือๆ แต่ก็อดทนจนได้ (ไม่ได้ก็ต้องได้ อยากหายมั้ยยย) พอถึงคลีนิคเจอคุณหมอเบล น่ารักมากๆ ใจดีมากๆๆๆๆกอ ไก่ สามสิบล้านตัว คุณหมอเบลตรวจตาอีกครั้งแล้วป้อนยาให้เจ้าเป้อกิน คุณหมอบอกเราว่าอีก 10 นาทีน้องจะซึมและหลับ หมอจะมารับเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
ก่อนเข้าห้องผ่า ขอมาหลบภัยบนตักแม่หน่อยย จ๋อยไปเลย ห้อยเอ้ยยย
คุณหมอเบลอุ้มผมเข้าห้องผ่าตัดแล้วค้าบ บบบบบบ (ครอบรูปคุณหมอ เพราะยังไม่ได้ขออนุญาตคุณหมอค้าบ)
และแล้วเจ้าเป้อก็หมดเรี่ยวแรง นางเห็นเราเดินห่างออกไป ปกติยกมือเรียกดิ้นตาม ไม่ยอม แต่วันนี้ขาห้อย ลิ้นห้อย ยกไม่ขึ้น คงอยากร้องหงิงๆเรียกเหมือนเคย แต่ทำไม่ไหว ฮาหนักมากกกกกก
การผ่าเชอร์รี่อายนั้นมีสองแบบ
1.ผ่าแบบเย็บกลับเข้าไปเก็บเหมือนเดิม ต้องอาศัยความชำนาญของคุณหมอมากหน่อย ผ่าแบบนี้ไม่สูญเสียต่อมน้ำตา แต่มีโอกาสที่จะกลัยมาเป็นอีก 10-20%
2.ผ่าเอาออกไปเลย (เป็นวิธีเก่า) วิธีนี้น้องหมาจะสูญเสียต่อมน้ำตาที่อยู่ในหนังตาที่สาม แต่จะไม่กลับมาเป็นอีก แน่หละก็มันไม่มีแล้วนี่นา แต่จะทำให้หลังผ่าดวงตาน้องหมาจะแห้ง เจ้าของจำเป็นจะต้องหยอดตาให้ตลอดชีวิต
เจ้าเป้อเลือกผ่าแบบแรก(ปัจจุบันคลีนิคหรือโรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆ จะผ่าแบบที่แรกทั้งหมด ไม่มีใครใช้เทคนิคเก่าแล้วค่ะ) ถ้ามีอันต้องพาน้องๆไปผ่าควรเลือกแบบนี้นะคะ ไม่ควรตัดทิ้งด้วยประการทั้งปวงค่ะ
ประมาณ 1 ชั่วโมงคุณหมอก็โทรแจ้งเราว่าผ่าเรียบร้อยแล้วน้องตื่นแล้ว แต่เราคิดว่าจะใช้เวลาชั่วโมงครึ่งเลยออกไปทานข้าว ด้วยความบ้านนอกประเมิณรถติดไม่ดีเลยมารับช้าไปหน่อย แต่คุณหมอและเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเลยทุกคนใจดีมากๆเลยค่ะ พาเจ้าเป้อไปนั่งรอกับพี่รีเซฟชั่น ต้องขอขออภัยอย่างสูงที่ทำให้วุ่นวายไปหมดเลยค่ะ ^^”
หนูไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปบ้าง หนูขอโทษด้วยนะค้าบบบ ฮ่าๆๆๆๆ
ไม่มีเชอร์รี่อายแล้วววววว แม่ดีใจม๊ากกกกกกลูกกกกกกกก กรี๊ดๆๆๆ คุณหมอเล่าว่าตอนเจ้าเป้อฟื้นขึ้นมาแล้วไม่เห็นใคร มีหอนด้วย 5555
รูปตอนกลับมาเจอ นั่งหน้ามึนอยู่ที่เคาน์เตอร์ โดนโกนขนรอบตา หนูเจ็บแต่ทำไมทุกคนหัวเราะ ฮ่าๆๆๆ ขอโทษทีก็มันขำอ่ะ
ผ่าเชอร์รี่อายไม่ต้องแอดมิทนะคะ แต่วันรุ่งขึ้นต้องพาน้องมาให้คุณหมอเช็คแผลด้วยว่าแผลยังเรียบร้อยดีหรือไม่ค่ะ หลังผ่าตัดคุณหมอให้ยาหยอดยา+ยาป้ายตา ยากินก็มียาลดบวม ลดอักเสบ ยาฆ่าเชื้อ เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือลำโพงอันใหญ่ และผูกแน่นกว่าเดิม ฮาาาาา
#เห็นบอกหนูจะให้ลำโพงหนูก็นึกว่าเอาไว้ฟังเพลง ม่ะใช่หรอ เซ็งง่ะ 555
ต้องค้าง กทมคืนนึง เราพักโรงแรมใกล้ๆคลีนิคค่ะ ชื่อ Botanic Service Room @ Impact Muang Thong Thani สถานที่ดี สะอาด ร่มรื่น มีบึงน้ำ มีต้นไม้ใหญ่ มีร้านอาหารสวยใกล้ๆ น้องหมาเข้าพักได้ค่ะ จ่ายเพิ่ม 500 บาท มาถึงโรงแรม เจ้าเป้อคึกเหมือนเดิม เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆ ฤิทธิ์ยาสลบขอนานๆ อาทิตย์นึงเลยได้มั้ยคะคุณหมอออออออออออออ
หลังผ่า 1 วัน แผลสวยมากคุณหมอ(ที่รู้จักกัน)ยังชมเลยค่ะฝีมือดีมากๆ ไม่มีรอย ดูไม่ออกเลยค่ะ
1 อาทิตย์ผ่านไป เจ้าเป้อคงคันตามาก เล่นตุ๊กตาก็จะเผลอเอาตาไปถูๆ จนอักเสบขึ้นมาอีก เราเลยกักบริเวณ อดเล่นทุกอย่างเลย มันก็จะหยอยเหงา เซ็งๆ หน่อย พูดกับนางบอกว่าให้อนทนจะได้หายเร็วๆ ไม่รู้เข้าใจไหม มโนเองว่าเข้าใจ ฮ่าๆๆๆๆ
2 อาทิตย์หลังจากอักเสบคุณหมอปรับยาให้ ตาใสเหมือนเดิม แต่แผลยังไม่หายดี ยังต้องใส่ลำโพงต่อไป จนกว่าจะหายดีค่ะ
ปัจจุบัน ใกล้หายมากๆแล้ว เจ้าเป้อหายช้ากว่าคนอื่นหน่อยเพราะซนมากๆ เล่นถึกมากค่ะ ชนนู่นนี่นั่นไม่ยั้งเลย เกือบปกติแล้วค่ะ คุณหมอให้ถอดลำโพงแล้ว และไม่ต้องไปหาหมอแล้วค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายในการผ่า ในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวสุนัขนะคะ คุณหมอประเมิณทางอินบ๊อกซ์แจ้งมาว่า ค่าใช้จ่ายผ่าตัดแก้ไขเชอรี่อาย ร่วมกับกระดูกอ่อนม้วนผิดรูป ประมาณ 5,000-6,000 บาท ค่ะ ส่วนยาสลบแบบทั้งตัว ประมาณ 3,000-3,500 บาท (ตามน้ำหนักของน้องที่หมอคาดคะเนนะคะ)
ส่วนเจ้าเป้อตอนผ่า น้ำหนักประมาณ 6kg ค่าใช้จ่ายในการผ่า และค่ายารวมประมาณ 7,000 กว่าบาทค่ะ (มีค่ายาเพิ่มกรณียาหมดแล้วยังไม่หายนะคะ ขึ้นอยู่กับการดูแล และความซนของน้องหมาค่ะว่ามันจะอักเสบขึ้นมาไหม)
เรื่องใส่คอลลาร์(ลำโพง) นี่สำคัญมากจริงๆนะคะต้องเคร่งครัดตามที่คุณหมอบอกเลย แรกๆสงสาร ทำใจไม่ได้เลย แต่ใส่ไม่กี่วันน้องหมาก็ชิน คนก็ชินค่ะ คิดซะว่ามันคือสร้อยคอ หมวก เข็มขัดรองเท้า 5555
ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะค้าบบบบสวัสดีค้าบบบบบ
[CR] รีวิวพาน้องหมาเฟรนช์บูลด็อกไปผ่าเชอร์รี่ อาย (Cherry eye) ที่ศูนย์โรคตาสัตว์ คุณหมอปราณีสัตวแพทย์ค่ะ
น้องหมาเราชื่อเป้อ (มาจาก stromtrooper ตั้งชื่อตามสีน้องหมาค่ะ 555) อายุตอนนี้ที่ตั้งกระทู้ จะ 6 เดือนแล้วค่ะ เป็นน้องหมาพันธุ์เฟร๊นซ์บลูด๊อก หน้าก็จะตลกๆย่นๆดั้งแหม่บๆหน่อย อิอิ
ตะหวัดดีคับหนูเป็นหนุ่มภูธร บ้านอยู่โคราชค้าบ
เมื่อเดือนที่แล้ว (ตอนนั้นน้องอายุ 4 เดือนกว่าๆ) อยู่ๆตื่นมา น้องก็มีก้อนเนื้อสีชมพูอยู่ตรงหัวตา จริงๆแล้วน้องเคยเป็นแล้วครั้งนึง แต่ตื่นเล่นซักพักไม่ถึง 10 นาทีมันหายเอง เราเลยคิดว่าเดี๋ยวคงจะหายเหมือนเดิมเลยไม่ได้เอะใจ
รูปตอนที่เป็นครั้งแรก (คนละข้างกับข้างที่ผ่า)
แต่คราวนี้ผ่านไป 1 วัน ก็ยังไม่หาย แถมยิ่งนานยิ่งรู้สึกว่าใหญ่ขึ้น โอ่ยยยย เราเลยพาไปปรึกษาคุณหมอที่คลีนิคใกล้ๆบ้าน คุณหมอบอกว่าใหญ่เหมือนกันนะ ไม่น่าจะเข้าเองได้แล้ว จะต้องผ่าตัด ทรึ่นนนนนนนนนนน!!!! แต่คุณหมอบอกว่าน้องยังเด็กเกินไปยังผ่าไม่ได้ เพราะการผ่าต้องวางยาสลบ มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่ฟื้นถ้าโดนวางยาตอนยังเด็กอยู่ คุณหมอบอกว่าจะปลอดภัยอย่างน้อยๆต้องอายุ 6 เดือนขึ้นไปค่ะ
รูปตาที่เป็นครั้งที่สอง (ตาซ้าย)
ระหว่างนั้นเจ้าเป้อซนมากเลยค่ะ วิ่งเก่งมาก ถ้าได้ตื่นวิ่งไม่หยุด เล่นคึกมากๆ กระโดด ชนนู่นนี่นั่นก็ไม่หลับตา เล่นตุ๊กตาก็กัด สะบัดๆๆๆกระโดดกระโจน เล่นแบบอึดถึกมาก เล่นเหมือนพรุ่งนี้จะไม่ได้เล่นแล้ว 5555 มีเลือดไหลออกมาจากเนื้อเชอร์รี่อายทุกวัน เรานี่ร้องไห้สงสารหมา แต่ไอ่ตัวแสบนั่งทำหน้ามึนมองหน้าเรา หนูไม่เจ็บซักหน่อย หนูงงว่าจะร้องไห้ทำไมอ่าค๊าบบบ 555
รูปตอนที่เป็นแผลเลือดออก (ในรูปดูเล็ก แต่จริงแผลใหญ่เหมือนกันค่ะ มีเลือดออกอาบเหนียงเต็มเลยค่ะแต่ในรูปคือเช็ดออกหมดแล้ว)
ระหว่างรอให้ครบ 6 เดือนนี้ เราเครียดมากสงสารหมา เลยหาข้อมูลว่าเชอร์รี่อายคืออะไร อันตรายแค่ไหน รักษายังไงได้บ้าง
เลยได้ข้อมูลมาตามนี้ค่ะ
ดวงตาของน้องหมาจะมีหนังตาที่สาม จริงๆแล้วมันคือชั้นเนื้อเยื่อแผ่นบาง ๆ ที่อยู่ระหว่างชั้นเปลือกตากับกระจกตา จะมีกระดูกอ่อนรูปตัวที (T) เป็นโครงสร้างอยู่ข้างใน ซึ่งปกติมันจะหดอยู่ตรงหัวตา ถ้าสังเกตุดีๆมันคือเนื้อสีชมพูอ่อนๆตรงหัวตา เหมือนตาของมนุษย์ค่ะ
ภายในหนังตาที่สามก็จะประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อน้ำเหลือง และต่อมน้ำตาค่ะ ทั้งหมดรวมกันเรียกว่า ต่อมของหนังตาที่สาม หน้าที่ของหนังตาที่สาม ก็คือปกป้องกระจกตา และ ช่วยสร้างน้ำตา ซึ่งหนังตาที่สามจะช่วยสร้างน้ำตาประมาณราวๆ 40% ของน้ำตาทั้งหมดเลยทีเดียวเชียวแหละ
แต่วันดีคืนดีเจ้าของหนังตาที่สาม อาจเกิดการขยายใหญ่และยื่นโผล่ออกมาจากบริเวณหัวตา รูปร่างอย่างกับผลเชอร์รี่ แบบที่น้องหมาเราเป็น เค๊าเลยเรียกว่า “โรคเชอร์รี่ อาย (Cherry eye)”
เราถามคุณหมอว่ามันเกิดได้ยังไง มีวิธีป้องกันไหม หมอบอกว่า ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด การถ่ายทอดทางพันธุกรรมก็เป็นไปได้ แต่เหตุทางกายภาพหลักๆที่ทำให้เกิดอาการคือ เกิดจากการหย่อนตัวของเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ยึดไอ้เจ้าต่อมของหนังตาที่สาม พอมันหย่อนมันก็ไม่แข็งแรงมากพอ ถ้ามีการอักเสบบริเวณเนื้อเยื่อน้ำเหลืองจากการสัมผัสเชื้อ หรือโดนสารก่อภูมิแพ้ก็จะทำให้ต่อมมันบวมขึ้นมาได้ คุณหมอบอกว่า ถ้าเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ ก็ป้องกันยาก เพราะบางอย่างมันยากที่จะหลีกเลี่ยง เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ หญ้า ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยู่ในชีวิตประจำวันนี่แหละค่ะ
เพื่อความสบายใจหากลูกๆที่บ้านใครกำลังเป็นอยู่ ต้องบอกว่า การเป็นเชอร์รี่อายนั้น น้องหมาไม่ได้เจ็บปวดนะคะ (ถ้าไม่อักเสบ) แต่อาจจะมีรำคาญถ้าไอ้ก้อนนี้ไปบดบังการมองเห็น แต่หมาเราเจ้าทรูปเปอร์ มันซนมากจริงๆ เราเครียดมากเลย รออีกสองเดือนไม่ไหวจริงๆ ถ้าปล่อยไว้มีต้องเช็ดเลือดให้มันทู้กวัน เช็ดไปร้องไห้ไป แถมยังมีแม่ๆในกลุ่มเฟร้นซ์บอกว่าถ้าทิ้งไว้นานก้อนนี้มันจะไปเบียดลูกตามีปัญหาอีกค่ะ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเว็บ dogilike.com ด้วยนะคะ**
ไม่ไหวแล้ววววววว ต่อมาได้อ่านรีวิวจากกระทู้พันทิป เกี่ยวกับคลีนิคที่รักษาตา ก็เจอข้อมูลของ ศูนย์โรคตาสัตว์ คุณหมอปราณีสัตวแพทย์ https://www.facebook.com/praneevet/ จริงๆแล้วเจอหลายคลีนิคที่มีรีวิวดีๆค่ะ แต่ว่าตอนแรกเลยตัดสินใจเลือกให้น้องรักษาที่นี่ เนื่องจากอยู่แถวแจ้งวัฒนะ เราเดินทางจากโคราชไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดเข้าเมือง และพอยิ่งหาข้อมูลมากขึ้นก็ยิ่งเชื่อมั่นในความชำนาญของคุณหมอค่ะ ก่อนจะพาเจ้าเป้อเข้ารับการรักษา เราได้มีการสอบถามคุณหมอทาง inbox แฟนเพจ ว่าอายุน้อง 4 เดือน สามารถผ่าได้ไหม คุณหมอให้ข้อมูลว่า ถ้าตรวจเลือด ร่างกายปกติ แข็งแรงดีผ่าได้ค่ะ คุณหมอแนะนำให้พาน้องไปตรวจร่างกายก่อนค่ะ คุณหมอน่ารักมากค่ะตอบทุกข้อซักถามอย่างดีเลยค่ะ
และแล้วเราก็พาน้องมาตรวจที่ศูนย์ค่ะ พอขับรถมาถึงเห็นสถานที่ ยิ่งตอกย้ำว่าเราเลือกถูกที่ สถานที่สะอาด ใหญ่โตที่จอดรถเยอะ เจ้าหน้าที่น่ารักมากๆค่ะ คุณหมอใจดีมากๆๆๆๆกอไก่ล้านตัว และมืออาชีพมากๆ มั่นใจมากจริงๆเลยค่ะว่าลูกเราตัองหายแน่ๆอิอิ วันแรกคุณหมอตรวจตา ย้อมตาดูแผลที่กระจกตา เจาะเลือด เราหายเครียดทันทีจะหายแล้วเจ้าเป้อ
รูปภายในศูนย์ค่ะ สะอาด โปร่ง โล่งสบายมากๆ***
มาเจอพี่ๆสายพันธุ์เดียวกันที่ศูนย์ น่ารักมาก พี่ซีดานและพี่ว๊อดก้า เจ้าเป้อดีใจมาก ปกติไม่ค่อยมีเพื่อน ยิ่งสายพันธุ์เดียวกันแถวบ้านยิ่งไม่ค่อยมีค่ะ
พี่ว๊อดก้ามารักษาตาเหมือนกันหน้าเหมือนกันไปอี๊ก 55
คุณหมอบอกว่าระหว่างรอผ่า ต้องให้น้องใส่ลำโพง (คอลลาร์)ไว้ จะได้ไม่เกาตาตัวเอง และป้องกันการเอาตาไปถูไถสิ่งของ ไม่ให้กระจกตาเป็นแผลค่ะ วันนั้นมีการตรวจตา ตรวจร่างกาย เจาะเลือด และช่วงเย็นคุณหมอก็โทรมาแจ้งว่า เจ้าเป้อร่างกายแข็งแรงดีผ่าได้ คุณหมอนัดวันผ่าอีกสองสามวันถัดมาค่ะ ดีใจม๊ากกกกกกกก
ได้ลำโพงมาหน้ามันก็จะร่าเริงๆหน่อย ประมาณนี้ค่ะ นอกจากลำโพงก็มียามาหยอดด้วยค่ะ น่าจะเป็นยาแก้อักเสบ
วันผ่าตัดคุณหมอ นัดผ่าเวลาบ่ายโมง แต่ต้องมาถึงก่อนเพื่อเตรียมตัวตอนเที่ยงครึ่ง เจ้าเป้ออดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน อดน้ำตั้งแต่ตีห้า ท่าทางจะหิวมากเลย ฮือๆ แต่ก็อดทนจนได้ (ไม่ได้ก็ต้องได้ อยากหายมั้ยยย) พอถึงคลีนิคเจอคุณหมอเบล น่ารักมากๆ ใจดีมากๆๆๆๆกอ ไก่ สามสิบล้านตัว คุณหมอเบลตรวจตาอีกครั้งแล้วป้อนยาให้เจ้าเป้อกิน คุณหมอบอกเราว่าอีก 10 นาทีน้องจะซึมและหลับ หมอจะมารับเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
ก่อนเข้าห้องผ่า ขอมาหลบภัยบนตักแม่หน่อยย จ๋อยไปเลย ห้อยเอ้ยยย
คุณหมอเบลอุ้มผมเข้าห้องผ่าตัดแล้วค้าบ บบบบบบ (ครอบรูปคุณหมอ เพราะยังไม่ได้ขออนุญาตคุณหมอค้าบ)
และแล้วเจ้าเป้อก็หมดเรี่ยวแรง นางเห็นเราเดินห่างออกไป ปกติยกมือเรียกดิ้นตาม ไม่ยอม แต่วันนี้ขาห้อย ลิ้นห้อย ยกไม่ขึ้น คงอยากร้องหงิงๆเรียกเหมือนเคย แต่ทำไม่ไหว ฮาหนักมากกกกกก
การผ่าเชอร์รี่อายนั้นมีสองแบบ
1.ผ่าแบบเย็บกลับเข้าไปเก็บเหมือนเดิม ต้องอาศัยความชำนาญของคุณหมอมากหน่อย ผ่าแบบนี้ไม่สูญเสียต่อมน้ำตา แต่มีโอกาสที่จะกลัยมาเป็นอีก 10-20%
2.ผ่าเอาออกไปเลย (เป็นวิธีเก่า) วิธีนี้น้องหมาจะสูญเสียต่อมน้ำตาที่อยู่ในหนังตาที่สาม แต่จะไม่กลับมาเป็นอีก แน่หละก็มันไม่มีแล้วนี่นา แต่จะทำให้หลังผ่าดวงตาน้องหมาจะแห้ง เจ้าของจำเป็นจะต้องหยอดตาให้ตลอดชีวิต
เจ้าเป้อเลือกผ่าแบบแรก(ปัจจุบันคลีนิคหรือโรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆ จะผ่าแบบที่แรกทั้งหมด ไม่มีใครใช้เทคนิคเก่าแล้วค่ะ) ถ้ามีอันต้องพาน้องๆไปผ่าควรเลือกแบบนี้นะคะ ไม่ควรตัดทิ้งด้วยประการทั้งปวงค่ะ
ประมาณ 1 ชั่วโมงคุณหมอก็โทรแจ้งเราว่าผ่าเรียบร้อยแล้วน้องตื่นแล้ว แต่เราคิดว่าจะใช้เวลาชั่วโมงครึ่งเลยออกไปทานข้าว ด้วยความบ้านนอกประเมิณรถติดไม่ดีเลยมารับช้าไปหน่อย แต่คุณหมอและเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเลยทุกคนใจดีมากๆเลยค่ะ พาเจ้าเป้อไปนั่งรอกับพี่รีเซฟชั่น ต้องขอขออภัยอย่างสูงที่ทำให้วุ่นวายไปหมดเลยค่ะ ^^”
หนูไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปบ้าง หนูขอโทษด้วยนะค้าบบบ ฮ่าๆๆๆๆ
ไม่มีเชอร์รี่อายแล้วววววว แม่ดีใจม๊ากกกกกกลูกกกกกกกก กรี๊ดๆๆๆ คุณหมอเล่าว่าตอนเจ้าเป้อฟื้นขึ้นมาแล้วไม่เห็นใคร มีหอนด้วย 5555
รูปตอนกลับมาเจอ นั่งหน้ามึนอยู่ที่เคาน์เตอร์ โดนโกนขนรอบตา หนูเจ็บแต่ทำไมทุกคนหัวเราะ ฮ่าๆๆๆ ขอโทษทีก็มันขำอ่ะ
ผ่าเชอร์รี่อายไม่ต้องแอดมิทนะคะ แต่วันรุ่งขึ้นต้องพาน้องมาให้คุณหมอเช็คแผลด้วยว่าแผลยังเรียบร้อยดีหรือไม่ค่ะ หลังผ่าตัดคุณหมอให้ยาหยอดยา+ยาป้ายตา ยากินก็มียาลดบวม ลดอักเสบ ยาฆ่าเชื้อ เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือลำโพงอันใหญ่ และผูกแน่นกว่าเดิม ฮาาาาา
#เห็นบอกหนูจะให้ลำโพงหนูก็นึกว่าเอาไว้ฟังเพลง ม่ะใช่หรอ เซ็งง่ะ 555
ต้องค้าง กทมคืนนึง เราพักโรงแรมใกล้ๆคลีนิคค่ะ ชื่อ Botanic Service Room @ Impact Muang Thong Thani สถานที่ดี สะอาด ร่มรื่น มีบึงน้ำ มีต้นไม้ใหญ่ มีร้านอาหารสวยใกล้ๆ น้องหมาเข้าพักได้ค่ะ จ่ายเพิ่ม 500 บาท มาถึงโรงแรม เจ้าเป้อคึกเหมือนเดิม เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆ ฤิทธิ์ยาสลบขอนานๆ อาทิตย์นึงเลยได้มั้ยคะคุณหมอออออออออออออ
หลังผ่า 1 วัน แผลสวยมากคุณหมอ(ที่รู้จักกัน)ยังชมเลยค่ะฝีมือดีมากๆ ไม่มีรอย ดูไม่ออกเลยค่ะ
1 อาทิตย์ผ่านไป เจ้าเป้อคงคันตามาก เล่นตุ๊กตาก็จะเผลอเอาตาไปถูๆ จนอักเสบขึ้นมาอีก เราเลยกักบริเวณ อดเล่นทุกอย่างเลย มันก็จะหยอยเหงา เซ็งๆ หน่อย พูดกับนางบอกว่าให้อนทนจะได้หายเร็วๆ ไม่รู้เข้าใจไหม มโนเองว่าเข้าใจ ฮ่าๆๆๆๆ
2 อาทิตย์หลังจากอักเสบคุณหมอปรับยาให้ ตาใสเหมือนเดิม แต่แผลยังไม่หายดี ยังต้องใส่ลำโพงต่อไป จนกว่าจะหายดีค่ะ
ปัจจุบัน ใกล้หายมากๆแล้ว เจ้าเป้อหายช้ากว่าคนอื่นหน่อยเพราะซนมากๆ เล่นถึกมากค่ะ ชนนู่นนี่นั่นไม่ยั้งเลย เกือบปกติแล้วค่ะ คุณหมอให้ถอดลำโพงแล้ว และไม่ต้องไปหาหมอแล้วค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายในการผ่า ในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวสุนัขนะคะ คุณหมอประเมิณทางอินบ๊อกซ์แจ้งมาว่า ค่าใช้จ่ายผ่าตัดแก้ไขเชอรี่อาย ร่วมกับกระดูกอ่อนม้วนผิดรูป ประมาณ 5,000-6,000 บาท ค่ะ ส่วนยาสลบแบบทั้งตัว ประมาณ 3,000-3,500 บาท (ตามน้ำหนักของน้องที่หมอคาดคะเนนะคะ)
ส่วนเจ้าเป้อตอนผ่า น้ำหนักประมาณ 6kg ค่าใช้จ่ายในการผ่า และค่ายารวมประมาณ 7,000 กว่าบาทค่ะ (มีค่ายาเพิ่มกรณียาหมดแล้วยังไม่หายนะคะ ขึ้นอยู่กับการดูแล และความซนของน้องหมาค่ะว่ามันจะอักเสบขึ้นมาไหม)
เรื่องใส่คอลลาร์(ลำโพง) นี่สำคัญมากจริงๆนะคะต้องเคร่งครัดตามที่คุณหมอบอกเลย แรกๆสงสาร ทำใจไม่ได้เลย แต่ใส่ไม่กี่วันน้องหมาก็ชิน คนก็ชินค่ะ คิดซะว่ามันคือสร้อยคอ หมวก เข็มขัดรองเท้า 5555
ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะค้าบบบบสวัสดีค้าบบบบบ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น