รวบเฒ่าแดนกังหันผันตัวเป็นเอเย่นต์ค้ากามเด็ก แฉจ่ายใต้โต๊ะแค่ 3,000 บาทเข้าไทยได้ง่ายๆ ทั้งๆ มีแบล็คลิสต์ติดตัว เผยสังคมสุดเน่าเฟะ หนึ่งในเยาวชนของชาติเปิดใจ…ไม่ได้เรียนหนังสือ อยากได้เงินไปเล่นเกม-แต่งรถมอเตอร์ไซค์ เลยตัดสินใจพลีกาย!
ตำรวจพิทักษ์เด็กฯภาค 2 ตะครุบเฒ่าเนเธอร์แลนด์มีแบล็คลิสต์ติดตัว เอาเงินฟาดหัวเจ้าหน้าที่ด่านชายแดนเขมร แลกกับการให้เข้าไทย ก่อนผันตัวเป็น “พ่อเล้า” ที่เมืองพัทยาจัดหาเด็กชายไปสังเวยกามรายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 4 มี.ค.61 พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวและป้องกันปราปรามการค้ามนุษย์ตำรวจภูธรภาค 2 หรือ ศพดส.ภ.2 สืบทราบว่ามีชาวต่างชาติลักลอบส่งเด็กชายชาวไทย ให้ฝรั่งวิตถารเพื่อสังเวยความใคร่ในเมืองพัทยา จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี หน.ชป.ศพดส.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ และ พ.ต.ท.สุเชาว์ ขมสนิท รอง ผกก.สส.ภ.2 นำกำลังตำรวจออกสืบสวนหาข่าว
เมื่อได้เบาะแสและหลักฐานค่อนข้างแน่ชัด จึงประสาน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ น.ส.พาณี จันทร์ปรุงตน หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาร่วมประชุมวางแผน ก่อนส่งสายลับชาวต่างชาติ 2 คน นำเงินสดจำนวน 7,000 บาท ติดต่อล่อซื้อเด็กชายชาวไทยรวม 4 คน จาก นาย เร็นนาร์ด มาเรีย โจเซฟ (Mr.Reinards Marie Joseph) อายุ 69 ปี ชาวเนเธอร์แลนด์ โดยนัดหมายกันที่ห้องหมายเลข 312 โรงแรมจอมเทียนลองสเตย์ ย่านชายหาดจอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อนายเร็นนาร์ด พาเยาวชนชายรวม 4 คน มาส่งให้กับสายลับที่ห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ที่ซุ่มอยู่ใกล้เคียงเลยแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับตรวจค้นพบของกลางเงินสดที่ใช้ล่อซื้อ หนังสือลามกอนาจาร รวมถึงภาพนิ่งและคลิปวีดีโอที่ถ่ายกับเด็กชายเข้าข่ายอนาจาร จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังจับกุมหนึ่งใน 4 เยาวชน ทราบชื่อนายกุลธร ปัญญา ที่ร่วมกับนายเร็นนาร์ด จัดหาเด็กชาย 3 คน รวมทั้งตัวเอง มาขายประเวณี
แนวทางการสืบสวนทราบว่า นายเร็นนาร์ด เคยถูกจับกุมในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนดที่ได้รับอนุญาต และถูกส่งกลับประเทศเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2559 พร้อมกับขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็คลิสต์ ห้ามเข้าประเทศไทยเป็นเวลา 1 ปี ต่อมาวันที่ 4 พ.ค.2560 นายเร็นนาร์ด ขึ้นเครื่องบินจากประเทศเนเธอร์แลนด์ มาที่ประเทศกัมพูชา แล้วเดินทางมาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองชายแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อติดต่อขอเข้าประเทศ แต่ตำรวจ ตม.อรัญประเทศ ไม่ปฏิเสธอนุญาตให้เข้าเมือง เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดแบล็คลิสต์ และผลักดันกลับไปกัมพูชา กระทั่งวันที่ 18 พ.ค.2560 นายเร็นนาร์ด เดินทางมาที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นจึงมาเช่าโรงแรมพักอาศัยอยู่ในเมืองพัทยาจนถึงปัจจุบัน และมักซื้อบริการทางเพศเด็กไทยอยู่เป็นประจำ ก่อนผันตัวเป็นเอเย่นต์จัดหาเด็กมาให้ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบไม้ป่าเดียวกัน โดยคิดราคาค่าตัวคนละประมาณ 1,500-2,000 บาท เมื่อเสร็จกิจก็จะแบ่งเงินให้เด็กคนละ 1,000 บาท ซึ่งจากการสอบถามหนึ่งในเยาวชนวัย 16 ปี ที่ถูกล่อลวงมา ยอมรับว่าไม่ได้เรียนหนังสือและเป็นเด็กติดเกมส์ ก่อนหน้านี้ตัวเองกับเพื่อนได้รับการติดต่อจากนายกุลธร ปัญญา เพื่อนรุ่นพี่ ให้มาขายบริการทางเพศ จึงมาตามคำชวนเพื่อต้องการเงินไปซื้อของมาแต่งรถจักรยานยนต์
ด้านนายเร็นนาร์ด พ่อเล้าชาวฮอลแลนด์ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นธุระจัดหาเด็กมาค้าประเวณีแต่อย่างใด และไม่ได้มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เพราะปกติตัวเองมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่เข้ามาประเทศไทยได้ทั้งๆ ที่มีแบล็คลิสต์ติดตัว นาย เร็นนาร์ด อ้างว่า หลังบินจากประเทศบ้านเกิดมาที่กัมพูชา ไปติดต่อขอเข้าประเทศไทยที่ด่านชายแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมือง เลยตัดสินใจลักลอบเข้าประเทศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ แต่ก็ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุม สุดท้ายจึงทำใจดีสู้เสือ เจรจาต่อรองกับตำรวจ ตม.คนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้เรียกรับเงินจำนวน 3,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพและยอมให้เข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบใดๆ จากนั้นจึงเดินทางมาพักอาศัยอยู่ที่เมืองพัทยา ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยเข้า-ออกประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง กระทั่งตำรวจสืบทราบว่านายเร็นนาร์ด มีพฤติกรรมค้ามนุษย์ จึงส่งสายลับติดต่อล่อซื้อบริการทางเพศเด็กชายจาก ในเวลาต่อมาเจ้าตัวจึง จนสามารถจับกุมได้แบบคาหนังคาเขาดังกล่าว
ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจจึงแจ้งข้อหานายเร็นนาร์ด กับนายกุลธร จำนวน 6 ข้อหา คือ 1.สมคบกันค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด ซึ่งเด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการค้าประเวณี , 2.ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาบุคคลไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอม , 3.ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหาหรือชักพาเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นทำการค้าประเวณี , 4.ร่วมเป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี อันเป็นสถานการค้าประเวณีที่มีบุคคล , 5.ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และ 6.ร่วมเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก ในส่วนของนายเร็นนาร์ด ยังถูกแจ้งข้อหาอีก 1 ข้อหา คือ เป็นบุคคลต่างด้าว (เนเธอร์แลนด์) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวทั้งสองคนให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่เด็กชาย 3 คนที่ตกเป็นเหยื่อ เบื้องต้นได้ส่งตัวไปอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ก่อนติดต่อผู้ปกครองให้มาพูดคุยเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเยียวยาจิตใจ ให้เด็กกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติต่อไป.
ที่มา :
http://www.pattayanews.com/content/24803
รวบเฒ่าแดนกังหันผันตัวเป็นเอเย่นต์ค้ากามเด็ก แฉจ่ายใต้โต๊ะแค่ 3,000 บาทเข้าไทยได้ง่ายๆ ทั้งๆ มีแบล็คลิสต์ติดตัว
ตำรวจพิทักษ์เด็กฯภาค 2 ตะครุบเฒ่าเนเธอร์แลนด์มีแบล็คลิสต์ติดตัว เอาเงินฟาดหัวเจ้าหน้าที่ด่านชายแดนเขมร แลกกับการให้เข้าไทย ก่อนผันตัวเป็น “พ่อเล้า” ที่เมืองพัทยาจัดหาเด็กชายไปสังเวยกามรายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 4 มี.ค.61 พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวและป้องกันปราปรามการค้ามนุษย์ตำรวจภูธรภาค 2 หรือ ศพดส.ภ.2 สืบทราบว่ามีชาวต่างชาติลักลอบส่งเด็กชายชาวไทย ให้ฝรั่งวิตถารเพื่อสังเวยความใคร่ในเมืองพัทยา จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี หน.ชป.ศพดส.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.ท.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ และ พ.ต.ท.สุเชาว์ ขมสนิท รอง ผกก.สส.ภ.2 นำกำลังตำรวจออกสืบสวนหาข่าว
เมื่อได้เบาะแสและหลักฐานค่อนข้างแน่ชัด จึงประสาน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ น.ส.พาณี จันทร์ปรุงตน หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาร่วมประชุมวางแผน ก่อนส่งสายลับชาวต่างชาติ 2 คน นำเงินสดจำนวน 7,000 บาท ติดต่อล่อซื้อเด็กชายชาวไทยรวม 4 คน จาก นาย เร็นนาร์ด มาเรีย โจเซฟ (Mr.Reinards Marie Joseph) อายุ 69 ปี ชาวเนเธอร์แลนด์ โดยนัดหมายกันที่ห้องหมายเลข 312 โรงแรมจอมเทียนลองสเตย์ ย่านชายหาดจอมเทียน หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อนายเร็นนาร์ด พาเยาวชนชายรวม 4 คน มาส่งให้กับสายลับที่ห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ที่ซุ่มอยู่ใกล้เคียงเลยแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับตรวจค้นพบของกลางเงินสดที่ใช้ล่อซื้อ หนังสือลามกอนาจาร รวมถึงภาพนิ่งและคลิปวีดีโอที่ถ่ายกับเด็กชายเข้าข่ายอนาจาร จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังจับกุมหนึ่งใน 4 เยาวชน ทราบชื่อนายกุลธร ปัญญา ที่ร่วมกับนายเร็นนาร์ด จัดหาเด็กชาย 3 คน รวมทั้งตัวเอง มาขายประเวณี
แนวทางการสืบสวนทราบว่า นายเร็นนาร์ด เคยถูกจับกุมในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนดที่ได้รับอนุญาต และถูกส่งกลับประเทศเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2559 พร้อมกับขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็คลิสต์ ห้ามเข้าประเทศไทยเป็นเวลา 1 ปี ต่อมาวันที่ 4 พ.ค.2560 นายเร็นนาร์ด ขึ้นเครื่องบินจากประเทศเนเธอร์แลนด์ มาที่ประเทศกัมพูชา แล้วเดินทางมาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองชายแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อติดต่อขอเข้าประเทศ แต่ตำรวจ ตม.อรัญประเทศ ไม่ปฏิเสธอนุญาตให้เข้าเมือง เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดแบล็คลิสต์ และผลักดันกลับไปกัมพูชา กระทั่งวันที่ 18 พ.ค.2560 นายเร็นนาร์ด เดินทางมาที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นจึงมาเช่าโรงแรมพักอาศัยอยู่ในเมืองพัทยาจนถึงปัจจุบัน และมักซื้อบริการทางเพศเด็กไทยอยู่เป็นประจำ ก่อนผันตัวเป็นเอเย่นต์จัดหาเด็กมาให้ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบไม้ป่าเดียวกัน โดยคิดราคาค่าตัวคนละประมาณ 1,500-2,000 บาท เมื่อเสร็จกิจก็จะแบ่งเงินให้เด็กคนละ 1,000 บาท ซึ่งจากการสอบถามหนึ่งในเยาวชนวัย 16 ปี ที่ถูกล่อลวงมา ยอมรับว่าไม่ได้เรียนหนังสือและเป็นเด็กติดเกมส์ ก่อนหน้านี้ตัวเองกับเพื่อนได้รับการติดต่อจากนายกุลธร ปัญญา เพื่อนรุ่นพี่ ให้มาขายบริการทางเพศ จึงมาตามคำชวนเพื่อต้องการเงินไปซื้อของมาแต่งรถจักรยานยนต์
ด้านนายเร็นนาร์ด พ่อเล้าชาวฮอลแลนด์ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นธุระจัดหาเด็กมาค้าประเวณีแต่อย่างใด และไม่ได้มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เพราะปกติตัวเองมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่เข้ามาประเทศไทยได้ทั้งๆ ที่มีแบล็คลิสต์ติดตัว นาย เร็นนาร์ด อ้างว่า หลังบินจากประเทศบ้านเกิดมาที่กัมพูชา ไปติดต่อขอเข้าประเทศไทยที่ด่านชายแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมือง เลยตัดสินใจลักลอบเข้าประเทศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ แต่ก็ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุม สุดท้ายจึงทำใจดีสู้เสือ เจรจาต่อรองกับตำรวจ ตม.คนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้เรียกรับเงินจำนวน 3,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพและยอมให้เข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบใดๆ จากนั้นจึงเดินทางมาพักอาศัยอยู่ที่เมืองพัทยา ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยเข้า-ออกประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง กระทั่งตำรวจสืบทราบว่านายเร็นนาร์ด มีพฤติกรรมค้ามนุษย์ จึงส่งสายลับติดต่อล่อซื้อบริการทางเพศเด็กชายจาก ในเวลาต่อมาเจ้าตัวจึง จนสามารถจับกุมได้แบบคาหนังคาเขาดังกล่าว
ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจจึงแจ้งข้อหานายเร็นนาร์ด กับนายกุลธร จำนวน 6 ข้อหา คือ 1.สมคบกันค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด ซึ่งเด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการค้าประเวณี , 2.ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาบุคคลไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอม , 3.ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหาหรือชักพาเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นทำการค้าประเวณี , 4.ร่วมเป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี อันเป็นสถานการค้าประเวณีที่มีบุคคล , 5.ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และ 6.ร่วมเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก ในส่วนของนายเร็นนาร์ด ยังถูกแจ้งข้อหาอีก 1 ข้อหา คือ เป็นบุคคลต่างด้าว (เนเธอร์แลนด์) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวทั้งสองคนให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่เด็กชาย 3 คนที่ตกเป็นเหยื่อ เบื้องต้นได้ส่งตัวไปอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี ก่อนติดต่อผู้ปกครองให้มาพูดคุยเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเยียวยาจิตใจ ให้เด็กกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติต่อไป.
ที่มา : http://www.pattayanews.com/content/24803