มาร์คไว้เลย ประมวลประเด็นทางสังคม ข้อคิด และสาระความรู้ที่ได้จากชั่วโมงต้องมนต์

เหลือแค่เพียงอีก 2 ตอนเท่านั้น ละครน้ำดีดูสนุกอย่างชั่วโมงต้องมนต์ก็จะจบแล้ว เรามาทบทวนกันดีกว่าว่าประเด็น ข้อคิด สาระที่สอดแทรกเข้ามาอย่างลงตัวในละครมีเรื่องอะไรบ้าง

ชีวิตนี้มีค่า และไม่แน่นอน
การจากไปอย่างกะทันหันของเจ๊ริชชี่ สอนให้คนดูรู้ว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอน อย่าผัดวันประกันพรุ่ง นาทีความเป็นกับความตายใกล้กันนิดเดียว อย่ามัวแต่เดี๋ยว ๆ ๆ เพราะเราอาจจะไม่มีโอกาสนั้นอีกต่อไป  เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว ต้องไม่ตกอยู่ในความประมาท และไตร่ตรองว่าสิ่งที่สำคัญในชีวิตเราคืออะไร และใช้เวลากับสิ่งนั้นให้มากที่สุด

พ่อมาร์ค ที่ไม่เคยพูดดีกับมาร์คตอนที่มีชีวิต ไม่เคยพูดว่ารักลูก เอาแต่ทะเลาะกัน อยากให้เป็นอย่างงั้นอย่างงี้อย่างที่ตัวเองต้องการ โดยลืมไปว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ต้องการจากลูกจริง ๆ คือการที่ลูกจะมีลมหายใจอยู่บนโลก และมีความสุขด้วยกัน แต่เมื่อคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว

ซินกับเมธ มีเหตุให้ผิดใจกัน เมธไล่ซินออกจากงานแต่พอรู้ความจริงก็ปากหนัก ไม่กล้าขอโทษตัวต่อตัว  ซินบอกว่าชีวิตคนเราสั้นเกินกว่าจะโกรธใคร โดยเฉพาะถ้าคนนั้นเป็นคนสำคัญ เรายิ่งควรรีบปรับความเข้าใจกับเค้า เมธเลยบอกความในใจว่า “คุณเป็นคนสำคัญของผมนะ กลับมาทำงานด้วยกันเถอะนะ”


บางคนคิดฆ่าตัวตาย อย่างดล เจนนี่ นัท เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีทางเลือก ไม่มีทางออก ในขณะที่คนใกล้ตาย อย่างป้าที่เป็นโรคมะเร็งและโทร.เข้าสายด่วนบำบัดทุกข์ หรือไผ่กับลูก อยากยื้อเวลาให้มากที่สุด การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออก ทุกคนมีปัญหาเหมือนกัน กำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้เราตั้งสติและผ่านปัญหาไปได้

นอกจากนั้น คนเราตายไปแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ ไม่ว่าตอนมีชีวิตอยู่รูปร่างหน้าตาเราจะเป็นยังไง มีสมบัติเยอะแยะแค่ไหน สุดท้าย เมื่อตายแล้วก็ไม่เหลืออะไร

ใช้เวลาให้คุ้มค่า
คนเรามีเวลาเท่ากันคนละ 24 ช.ม. ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้มันไปยังไง เราควรจะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด ใช้เวลากับสิ่งที่สำคัญในชีวิต กับคนที่เรารัก


สมบัติ พ่อมาร์คเป็นนักธุรกิจที่ทำงานหนัก ถึงจะรักลูกแต่ไม่มีเวลาดูแล หรือใช้เวลาด้วย ทำให้ไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุขจนสายเกินแก้

ธีมา เพื่อนรุ่นน้องของของพ่อมาร์ค เจ้าของบริษัทนาฬิกาที่ให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลามาก ก็ทำแต่งาน อยากหาเงินให้ลูกเมียสบาย แต่ไม่มีเวลาให้ครอบครัว บางครั้งก็เหมือนเรื่องตลก ที่เราคิดหาของขวัญ หรือวัตถุให้คนที่เรารัก โดยไม่ได้นึกว่าสิ่งที่พวกเค้าต้องการที่สุดก็แค่เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันกับเรา  

พ่อมาร์คให้ข้อคิดกับธีมาไว้อย่างลึกซึ้งว่าเวลาในสามโลกนี้ มีแค่ 3 เวลา เมื่อวาน วันนี้ อนาคต เมื่อวานเราใช้ไปแล้ว และมันก็จะไม่หวนกลับมาอีก วันนี้ เรากำลังใช้อยู่ และใช้ได้แค่ครั้งเดียว ส่วนพรุ่งนี้ เราไม่มีโอกาสรู้เลยว่า เราจะมีโอกาสได้ใช้หรือเปล่า เพราะฉะนั้น อย่าไปคาดหวังอะไรกับอนาคต จงมีความสุขกับปัจจุบันให้มากที่สุด

แม้แต่ตัวประกอบที่สำคัญในละครเรื่องนี้ยังชื่อ “เวลา” ซึ่งให้เวลามาร์คได้เวลาอยู่บนโลกอีก 100 วัน เพื่อใช้เวลาครั้งสุดท้ายไปสะสางเรื่องที่ค้างคาได้อีกครั้ง

เพศทางเลือก
ถึงแม้ว่าสังคมไทยจะเปิดกว้างกับเพศทางเลือก และชาวบ้านอย่างเรา ๆ เห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน  แต่เพศทางเลือกก็ไม่ได้เป็นที่ยอมรับในบางสังคม

เฮียมาร์ค หรืออีกนามหนึ่งว่าเจ๊ริชชี่ นางเอกตัวจริงของเรื่องนี้ ช่างเป็นคนเพอร์เฟค  ไม่ว่ารูปร่างหน้าตา ฐานะทางสังคม ความสามารถในการก่อตั้งบริษัทของตัวเองและบริหารจัดการได้เฉียบขาด แถมยังเป็นคนดี นิสัยน่ารัก  ใคร ๆ รอบตัวก็รู้กันว่า “เป็น” กลับต้องปกปิดตัวตนกับคนในครอบครัวตัวเอง เพราะพ่อของมาร์คตั้งความหวังสูงลิบให้ลูกชายไปหมดทุกอย่าง อยากให้สานต่อกิจการของครอบครัว อยากให้เป็นผู้ชายเต็มตัว และประกาศเลยว่ารับไม่ได้ถ้าลูกชายจะเป็นเกย์ พอพ่อมาเจอความจริงเข้าและทะเลาะกันจนแตกหัก จนเกิดความสูญเสียต่อมา

จัสติน ชีวิตส่วนตัวชอบผู้ชายแต่เปิดเผยกับสังคมไม่ได้เพราะจะกระทบชื่อเสียงการงานในวงการ ต้องปกปิดความลับเอาไว้

อย่างไรก็ตาม คำว่า “เพศ” เป็นเพียงทางเลือกคนของเรา ไม่ว่าจะเพศไหนก็คือมนุษย์เช่นเดียวกัน มีความอยาก ความต้องการ มีทั้งคนดี และคนไม่ดี เจ๊ริชชี่ทำให้คนดูทุกเพศตกหลุมรักได้ ไม่จำกัดว่าต้อง “เป็น” เหมือนเจ๊เท่านั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่