Red Sparrow (Francis Lawrence, 2018) คะแนน C
By Form Corleone
"หนังสายลับจิตวิทยาที่พยายามเล่นท่ายากมากเกินไปจนดูไม่สนุก(ไม่รู้เรื่อง)" ถ้าใครพักผ่อนมาเต็มที่ 'Red Sparrow' คงไม่ถึงกับดูยากจนเกินไปหรือจะตามไม่ทันในบริบทที่หนังต้องการเล่น+ยั่วยวนคนดูและพยายามสับขาหลอก ซ้อนปมซ่อนปัญหาสร้างสถานการณ์ต่างๆที่พลิกผันให้คนดูตกตะลึง เพียงแต่ว่างานนี้ขาดมิติของตัวละคร ชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่พยายามบิดไม่เป็นเส้นตรงแต่ไปไม่ถึงและพาให้คนดูวนไปวนมาจนส่งสาสน์ที่ต้องการนำเสนอได้ไม่ดีในตอนท้าย วิธีตัดสลับเหตุการณ์ที่ไม่สร้างให้เราคล้อยตามและไม่ให้อารมณ์ร่วมลุ้นร่วมสนุกมากเท่าที่ควรจะเป็น บางฉากตัดสลับรวดเร็ว บางฉากตัดสลับได้ช้าและยืดเยื้อ จนทำให้ตัวหนังมีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 19 นาที ซึ่งเป็นเวลายาวนานเกินความจำเป็นในเนื้อหาสาระที่หนังมีอยู่ ทำให้โดยรวมแล้วทั้งหมดจึงเป็นความเยิ่นเย้อและไม่ปะติดปะต่อลงรอยเข้ากัน แม้ว่าบทภาพยนตร์ในเรื่องจะไม่ได้แย่มากอะไร แต่การลำดับเหตุการณ์กับวิธีเล่าเรื่องที่จงใจเล่นท่ายากแบบไม่จำเป็นจนทำให้เราหลงประเด็นของหนังไปได้ในช่วงเวลาหนึ่ง หรือถ้าใครหลุดตามประเด็นไม่ทัน 'Red Sparrow' จะส่งมอบความน่าเบื่อได้ในทันที่ เพราะตัวหนังแทบไม่มีฉากแอคชั่นดุเดือดเลย เป็นภาพยนตร์สายลับที่อาศัยจิตวิทยาความเป็นเพศหญิงหลอกล่อเพศชายให้ติดกับหลงกล ประมาณนั้น
สิ่งที่น่าเห็นใจที่สุดและดีที่สุดในเวลาเดียวกัน คือ การแสดงของ 'เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์' ที่แทบจะแบกหนังทั้งเรื่องจนรู้สึกเหนื่อยแทนและเกือบจะเอาตัวไม่รอดเพราะโดนงานกำกับและการตัดต่อเหตุการณ์ที่ชวนพากันลงเหวไปพร้อมกันอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยฝีมือในซีนโชว์อารมณ์และเสน่ห์ความเซ็กซี่ทั้งหมดจึงช่วยให้เธอรอดพ้นไปได้ เราจึงไม่รู้สึกน่ารำคาญในการแสดงมากมายนัก และ 'เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์' ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ (แม้ว่าจะดู งงๆ ว่าต้องแสดงอะไรกันแน่ก็ตาม) อย่างไรก็ดี งานภาพและงานโปรดัชั่นของ 'Red Sparrow' ยังจัดอยู่ในมาตรฐานที่ดูดีผนวกด้วยดนตรีประกอบที่ไม่แย่มากนัก อาจจะทำให้ใครที่ชอบงานสายลับสไตล์จิตวิทยา ไม่เน้นแอคชั่นเมามันส์ น่าจะพอรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สบายๆ แต่ถ้าใครหวังอยากรับชมหนังแอ็คชั่นจัดเต็มคงต้องเลือกดูเรื่องอื่นแทน ท้ายสุด 'Red Sparrow' ถือเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้แย่มากนักในองค์ประกอบต่างๆ เพียงแต่วิธีเล่าเรื่องที่พยายามไม่ธรรมดาจนเป็นปัญหาใหญ่ของความไม่ไหลลื่น ไม่น่าติดตามหรือตามไม่ทัน มันจึงส่งผลให้เราไม่สามารถร่วมสนุกและเอาใจช่วยตัวละครให้รอดพ้นอันตรายไปได้...สุดท้าย การตัดสินใจเข้าไปดูเรื่องนี้คงเป็นเพราะ 'เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์' นี้แหละ ซึ่งก็ไม่ได้น่าผิดหวังอะไร ดูเพลินๆก็ไม่ได้แย่อะไรแต่ก็ไม่ได้ดีมากเหมือนกัน...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: Red Sparrow (Francis Lawrence, 2018) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"หนังสายลับจิตวิทยาที่พยายามเล่นท่ายากมากเกินไปจนดูไม่สนุก(ไม่รู้เรื่อง)" ถ้าใครพักผ่อนมาเต็มที่ 'Red Sparrow' คงไม่ถึงกับดูยากจนเกินไปหรือจะตามไม่ทันในบริบทที่หนังต้องการเล่น+ยั่วยวนคนดูและพยายามสับขาหลอก ซ้อนปมซ่อนปัญหาสร้างสถานการณ์ต่างๆที่พลิกผันให้คนดูตกตะลึง เพียงแต่ว่างานนี้ขาดมิติของตัวละคร ชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่พยายามบิดไม่เป็นเส้นตรงแต่ไปไม่ถึงและพาให้คนดูวนไปวนมาจนส่งสาสน์ที่ต้องการนำเสนอได้ไม่ดีในตอนท้าย วิธีตัดสลับเหตุการณ์ที่ไม่สร้างให้เราคล้อยตามและไม่ให้อารมณ์ร่วมลุ้นร่วมสนุกมากเท่าที่ควรจะเป็น บางฉากตัดสลับรวดเร็ว บางฉากตัดสลับได้ช้าและยืดเยื้อ จนทำให้ตัวหนังมีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 19 นาที ซึ่งเป็นเวลายาวนานเกินความจำเป็นในเนื้อหาสาระที่หนังมีอยู่ ทำให้โดยรวมแล้วทั้งหมดจึงเป็นความเยิ่นเย้อและไม่ปะติดปะต่อลงรอยเข้ากัน แม้ว่าบทภาพยนตร์ในเรื่องจะไม่ได้แย่มากอะไร แต่การลำดับเหตุการณ์กับวิธีเล่าเรื่องที่จงใจเล่นท่ายากแบบไม่จำเป็นจนทำให้เราหลงประเด็นของหนังไปได้ในช่วงเวลาหนึ่ง หรือถ้าใครหลุดตามประเด็นไม่ทัน 'Red Sparrow' จะส่งมอบความน่าเบื่อได้ในทันที่ เพราะตัวหนังแทบไม่มีฉากแอคชั่นดุเดือดเลย เป็นภาพยนตร์สายลับที่อาศัยจิตวิทยาความเป็นเพศหญิงหลอกล่อเพศชายให้ติดกับหลงกล ประมาณนั้น
สิ่งที่น่าเห็นใจที่สุดและดีที่สุดในเวลาเดียวกัน คือ การแสดงของ 'เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์' ที่แทบจะแบกหนังทั้งเรื่องจนรู้สึกเหนื่อยแทนและเกือบจะเอาตัวไม่รอดเพราะโดนงานกำกับและการตัดต่อเหตุการณ์ที่ชวนพากันลงเหวไปพร้อมกันอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยฝีมือในซีนโชว์อารมณ์และเสน่ห์ความเซ็กซี่ทั้งหมดจึงช่วยให้เธอรอดพ้นไปได้ เราจึงไม่รู้สึกน่ารำคาญในการแสดงมากมายนัก และ 'เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์' ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ (แม้ว่าจะดู งงๆ ว่าต้องแสดงอะไรกันแน่ก็ตาม) อย่างไรก็ดี งานภาพและงานโปรดัชั่นของ 'Red Sparrow' ยังจัดอยู่ในมาตรฐานที่ดูดีผนวกด้วยดนตรีประกอบที่ไม่แย่มากนัก อาจจะทำให้ใครที่ชอบงานสายลับสไตล์จิตวิทยา ไม่เน้นแอคชั่นเมามันส์ น่าจะพอรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สบายๆ แต่ถ้าใครหวังอยากรับชมหนังแอ็คชั่นจัดเต็มคงต้องเลือกดูเรื่องอื่นแทน ท้ายสุด 'Red Sparrow' ถือเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้แย่มากนักในองค์ประกอบต่างๆ เพียงแต่วิธีเล่าเรื่องที่พยายามไม่ธรรมดาจนเป็นปัญหาใหญ่ของความไม่ไหลลื่น ไม่น่าติดตามหรือตามไม่ทัน มันจึงส่งผลให้เราไม่สามารถร่วมสนุกและเอาใจช่วยตัวละครให้รอดพ้นอันตรายไปได้...สุดท้าย การตัดสินใจเข้าไปดูเรื่องนี้คงเป็นเพราะ 'เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์' นี้แหละ ซึ่งก็ไม่ได้น่าผิดหวังอะไร ดูเพลินๆก็ไม่ได้แย่อะไรแต่ก็ไม่ได้ดีมากเหมือนกัน...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/